ถ้าไม่ไปร่วมงานศพเพื่อนบ้านจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวและแล้งน้ำใจไหมคะในช่วงโควิด

จขกทเกิดกทม แต่พอทำงานเพิ่งย้ายมาตจว.ได้8ปี
ตอนพ่อจขกท.เสีย เมื่อปีก่อน เพื่อนบ้านที่ ตจวดีมาก มาช่วยงานอย่างดี มีน้ำใจ มาร่วมงานสวดทุกคืน มาวันเผาไม่เคยขาด

แต่มาวันนี้สามีของเพื่อนบ้านเสียชีวิต ด้วยโรคชราทั่วไปไม่ใช่โควิด
จขกทได้ไปเคารพศพ ให้ซองช่วยเหลือ แต่ไม่ได้ไปร่วมงานสวดศพช่วงค่ำ และอาจไม่ได้ไปวันเผา
สามีจขกท.ด่าจขกท.มาก หาว่าเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ 

สาเหตุหลักที่จขกทไม่ไปงานสวดศพ และไม่อยากไปวันเผามีดังนี้
- เหตุผลหลักจริงๆคือขี้เกียจ เหตุผลนี้เป็นเหตุผลเดียวจริงๆเลย  จึงทำให้หาข้ออ้างมาสนับสนุน

ข้ออ้างที่จขกท.หามาสนับสนุนความขี้เกียจของตัวเองมีดังนี้
-กลัวโควิด เพราะแถวบ้านจขกท.เพิ่งมีคนติดโควิดเมื่อ2วันก่อน กลัวงานนี้จะแพร่เชื้อ
-จขกท.เพิ่งเดินทางกลับจากอีกจังหวัด ยังกักตัวได้แค่8วัน จขกท.ไม่อยากไปทำให้ตัวเองหรือคนอื่นๆเสี่ยง แต่จขกท.มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ติดโควิดแน่ๆค่ะ
-จขกท.และแฟนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เลยไม่อยากไปเสี่ยงชีวิตในช่วงโควิด

ซึ่งจริงๆเรื่องนี้จะไม่มีปัญหาเลย ถ้าแฟนจขกท.ไม่ดราม่า หาว่าจขกท.เห็นแก่ตัว แล้งน้ำใจ
เพื่อนๆคิดว่าจขกท.ควรทำยังไงดีคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
..." ตอนพ่อจขกท.เสีย เมื่อปีก่อน เพื่อนบ้านที่ ตจวดีมาก มาช่วยงานอย่างดี มีน้ำใจ มาร่วมงานสวดทุกคืน มาวันเผาไม่เคยขาด "


..." สาเหตุหลักที่จขกทไม่ไปงานสวดศพ และไม่อยากไปวันเผามีดังนี้
         - เหตุผลหลักจริงๆคือขี้เกียจ เหตุผลนี้เป็นเหตุผลเดียวจริงๆเลย "


"ไม่มีน้ำใจ เห็นแก่ตัว"........คำกล่าวหานี้น่าจะจริงครับ
ความคิดเห็นที่ 17
มาตอบในฐานะที่เคยเป็นเจ้าภาพงานศพช่วงโควิดหนักๆ เพราะคุณย่าเสีย

เอาจริง เราเข้าใจนะคนที่ไม่มางานศพอ่ะ ขนาดเพื่อนสนิทที่สุดเรายังไม่มาเลย แต่นางคือ โทรมาและขอโทษตรงๆว่า ช่วงนี้ระบาดหนักมาก นางยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แถมงานคือ ใน กทม. ด้วย นางเลยขอไม่มานะ ก็พูดกับเราตรงๆ แต่เราฟังเสียงออกนะว่า อยากมาจริงๆ แต่มาไม่ได้จริงๆ (น้ำเสียงคือ รู้อ่ะว่า พ่อแม่/ที่บ้านห้ามไม่ให้มา) คนที่มาถ้าจำเป็นต้องรีบกลับจริงๆ ก็บอกเจ้าภาพเขาไปตรงๆว่า ต้องรีบกลับ ไม่งั้นจะติดเคอร์ฟิวอะไรก็ว่าไป เพราะแขกที่มาก็มีเหมือนกันคือ มาเคารพศพ และขอกลับก่อนเพราะกลัวติดเคอร์ฟิว

แต่เคส จขกท. คือ ถ้าเป็นเรา ไปอยู่ถึงตรงนั้นแล้วก็คงรอสวดซักคืนอ่ะ หรือไปวันเผาก็ดี มันอยู่ในที่โล่ง คุณก็ใส่มาร์ก 2 ชั้นได้นิ (ล้างมือบ่อยๆ ไม่กิน/ดื่มอะไรในงาน) เขาเคยช่วยงานพ่อคุณซะขนาดนั้น สวดคืนหนึ่งคงไม่เป็นไรมั้ง แต่คุณใช้เหตุผลว่า ขี้เกียจนี่ก็นะ...

เราว่า ถ้าคุณรู้จักจะกตัญญูผู้อื่นที่เขาเคยช่วยเหลือคุณจริงๆ
คุณจะไม่มีคิดคำว่า "ขี้เกียจ" ออกมาเด็ดขาด

ส่วนเคสนี้ คุณไปคิดเอาเองนะว่า ที่เขาทำให้เราโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนวันนั้น กับวันนี้ที่คุณตอบแทนได้ (ด้วยวิธีการสารพัดที่คนอื่นๆเอ่ยมา)
คุณได้ทำเต็มที่แล้วหรือยัง

ปล. ถ้ายัง คราวหน้าก็อย่าหวังน้ำใจจากเพื่อนบ้านนะคะ บางครั้งเขาจำจนวันตายเลยอ่ะ

ปล.2 มีหลายเคสที่ยอมรับว่า เอาเงินแก้ปัญหาได้ (ซึ่งการแก้ปัญหา ผลลัพธ์ก็ควรออกมาในทางที่ดี) ...แต่เคสนี้...กับคนที่มีบุญคุณขนาดนี้ แล้วเพราะมีเหตุผลว่า "ขี้เกียจ" เราไม่เรียกว่า เอาเงินแก้ปัญหานะ เราขออนุญาตเรียกว่า "เอาเงินฟาดหัว" ดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่