ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ PPS M2 คือปรับแบบเป็นรุ่นสอง การทำงานยังเหมือนเดิม รักษาจุดเด่นคือไกที่มีจุดหยุดชัดเจนก่อนลั่น สิ่งที่เปลี่ยนคือ ไม่ทำรางรับอุปกรณ์จากโครงปืน ซึ่งเมื่อเป็นปืนพกซ่อนน่าจะไม่จำเป็น, ด้ามชิ้นเดียวไม่มีส่วนถอดได้
วอลเธอร์ เป็นยี่ห้อปืนเก่าแก่ของเยอรมนี มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี ผู้ผลิตคือ Carl Walther GmbH ก่อตั้งในปี 1886 มีผลงานรู้จักกันแพร่หลายคือปืนพกคลาสสิก PP/PPK ปืนคู่มือของพระเอกนิยายสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 และปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. คือ P38 ที่เป็นอาวุธประจำตัวทหารเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง โรงงานของวอลเธอร์ ถูกระเบิดทำลายไปในช่วงสงครามโลก มาเปิดใหม่ในปี 1953 และผลิตปืน P38 ให้รัฐบาลเยอรมันอีกครั้งในปี 1957 ระบบการทำงานของไก ดับเบิล/ซิงเกิล และขัดกลอนแบบแท่งกระดกของ P38 ยังมีใช้อยู่จนทุกวันนี้ในปืน เบเร็ตต้า 92
ในช่วงที่ตลาดให้ความนิยมปืน “เก้าลูกดก” วอลเธอร์ผลิตรุ่น P88 ขนาด 9 มม. พาราฯ จุ 15 นัด ออกขายในปี 1988 ใช้ระบบไก ดับเบิล/ซิงเกิล เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนการขัดกลอนเป็นแบบลำกล้องกระดกตามหลักการของเบรานิงก์ ปืน P88 มีชื่อเสียงในแง่สวยงามประณีต ความแม่นยำสูง แต่ราคาแพงกว่าปืนร่วมสมัยส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ กล็อก ปืนโพลิเมอร์ยอดนิยม วอลเธอร์จึงออกแบบ P99 ใช้โครงโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว จุดชนวนด้วยเข็มพุ่ง ออกมาในปี 1997 หลังยกเลิกการผลิต P88
จุดด้อยอย่างหนึ่งของปืนลูกดก คือเมื่อลดมิติให้เป็นปืนตัวเล็กสำหรับพกซ่อน จะลดได้เพียงส่วนยาวส่วนสูง ไม่สามารถลดความหนาได้เพราะติดซองกระสุนแบบสองแถว วอลเธอร์จึงออกแบบ PPS (ย่อจาก Police Pistol Slim) เน้นความแบนบางเพื่อการพกซ่อน ออกขายในปี 2007 ใช้ลำกล้องสั้น 3.2 นิ้ว ตัวปืนหนาเพียง 1 นิ้ว ขนาดตัวโดยรวมใกล้เคียงกับปืน PP คลาสสิก แต่เบากว่า 100 กรัม และ PPS ใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ ที่ให้พลังงานสูงกว่ามาก พร้อมทั้งใส่รางรับอุปกรณ์สมัยใหม่ กับหลังด้ามเปลี่ยนขนาดได้ที่ทำงานเป็นตัวล็อกเพื่อความปลอดภัย คือถอดแล้วปืนไม่ทำงาน
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ PPS M2 คือปรับแบบเป็นรุ่นสอง การทำงานยังเหมือนเดิม รักษาจุดเด่นคือไกที่มีจุดหยุดชัดเจนก่อนลั่น สิ่งที่เปลี่ยนคือ ไม่ทำรางรับอุปกรณ์จากโครงปืน ซึ่งเมื่อเป็นปืนพกซ่อนน่าจะไม่จำเป็น, ด้ามชิ้นเดียวไม่มีส่วนถอดได้ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ใช้ PPS เดิมกังวลว่า ถ้าส่วนหลังด้ามหลุดหรือชำรุดเสียรูปขณะใช้งาน ปืนจะไม่ทำงาน วอลเธอร์จึงตัดจุดนี้ออก พร้อมกับปรับรูปทรงให้เพรียวขึ้นกว่าทรงเหลี่ยมของเดิม
ศูนย์เป็นแบบจุดขาวสามจุด มีซองกระสุนให้เลือกสามตัว สั้น-กลาง-ยาว ตัวสั้นจุ 6 นัด พกได้แนบเนียน แต่ไม่มีที่สำหรับนิ้วก้อย, ตัวกลางที่เห็นในภาพ จุ 7 นัด จับได้ถนัดเต็มมือ หรือถ้าใช้พกซองนอกอาจเลือกตัวยาว จุ 8 นัด
โดยรวม วอลเธอร์ PPS M2 เป็นปืนพกใช้กระสุนแรงสูงมาตรฐานทหาร แต่มิติตัวปืนเล็ก/บาง/เบา เหมาะกับการพกซ่อนในขอบกางเกง โครงโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว น้ำหนักเบา การเคลือบผิวต้านสนิมดีมากดูแลรักษาง่าย จุดเด่นคือไกที่มีจุดหยุดรู้สึกได้ชัด และระยะคืนไกสั้นยิงซ้ำได้เร็ว ปุ่มปลดซองกระสุนเป็นแบบกดเข้าในโครงปืนที่ส่วนใหญ่คุ้นเคย กระสุนหาง่ายมีขายทุกสนาม ศูนย์จุดขาวสามจุดเห็นชัดเล็งง่าย ใช้งานคล่องตัวไม่ว่าจะด้วยมือขวาหรือมือซ้าย ด้ามจับถนัดคุมแรงรีคอยล์ได้ดี ความแม่นยำดีมากสำหรับปืนต่อสู้.
https://www.dailynews.co.th/article/534220/
.........................................
ดร.พณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 923 เข็มพุ่งบางพิเศษ รุ่นสอง Walther PPS M2
วอลเธอร์ เป็นยี่ห้อปืนเก่าแก่ของเยอรมนี มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี ผู้ผลิตคือ Carl Walther GmbH ก่อตั้งในปี 1886 มีผลงานรู้จักกันแพร่หลายคือปืนพกคลาสสิก PP/PPK ปืนคู่มือของพระเอกนิยายสายลับ เจมส์ บอนด์ 007 และปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 9 มม. คือ P38 ที่เป็นอาวุธประจำตัวทหารเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง โรงงานของวอลเธอร์ ถูกระเบิดทำลายไปในช่วงสงครามโลก มาเปิดใหม่ในปี 1953 และผลิตปืน P38 ให้รัฐบาลเยอรมันอีกครั้งในปี 1957 ระบบการทำงานของไก ดับเบิล/ซิงเกิล และขัดกลอนแบบแท่งกระดกของ P38 ยังมีใช้อยู่จนทุกวันนี้ในปืน เบเร็ตต้า 92
ในช่วงที่ตลาดให้ความนิยมปืน “เก้าลูกดก” วอลเธอร์ผลิตรุ่น P88 ขนาด 9 มม. พาราฯ จุ 15 นัด ออกขายในปี 1988 ใช้ระบบไก ดับเบิล/ซิงเกิล เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนการขัดกลอนเป็นแบบลำกล้องกระดกตามหลักการของเบรานิงก์ ปืน P88 มีชื่อเสียงในแง่สวยงามประณีต ความแม่นยำสูง แต่ราคาแพงกว่าปืนร่วมสมัยส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ กล็อก ปืนโพลิเมอร์ยอดนิยม วอลเธอร์จึงออกแบบ P99 ใช้โครงโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว จุดชนวนด้วยเข็มพุ่ง ออกมาในปี 1997 หลังยกเลิกการผลิต P88
จุดด้อยอย่างหนึ่งของปืนลูกดก คือเมื่อลดมิติให้เป็นปืนตัวเล็กสำหรับพกซ่อน จะลดได้เพียงส่วนยาวส่วนสูง ไม่สามารถลดความหนาได้เพราะติดซองกระสุนแบบสองแถว วอลเธอร์จึงออกแบบ PPS (ย่อจาก Police Pistol Slim) เน้นความแบนบางเพื่อการพกซ่อน ออกขายในปี 2007 ใช้ลำกล้องสั้น 3.2 นิ้ว ตัวปืนหนาเพียง 1 นิ้ว ขนาดตัวโดยรวมใกล้เคียงกับปืน PP คลาสสิก แต่เบากว่า 100 กรัม และ PPS ใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ ที่ให้พลังงานสูงกว่ามาก พร้อมทั้งใส่รางรับอุปกรณ์สมัยใหม่ กับหลังด้ามเปลี่ยนขนาดได้ที่ทำงานเป็นตัวล็อกเพื่อความปลอดภัย คือถอดแล้วปืนไม่ทำงาน
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ PPS M2 คือปรับแบบเป็นรุ่นสอง การทำงานยังเหมือนเดิม รักษาจุดเด่นคือไกที่มีจุดหยุดชัดเจนก่อนลั่น สิ่งที่เปลี่ยนคือ ไม่ทำรางรับอุปกรณ์จากโครงปืน ซึ่งเมื่อเป็นปืนพกซ่อนน่าจะไม่จำเป็น, ด้ามชิ้นเดียวไม่มีส่วนถอดได้ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ใช้ PPS เดิมกังวลว่า ถ้าส่วนหลังด้ามหลุดหรือชำรุดเสียรูปขณะใช้งาน ปืนจะไม่ทำงาน วอลเธอร์จึงตัดจุดนี้ออก พร้อมกับปรับรูปทรงให้เพรียวขึ้นกว่าทรงเหลี่ยมของเดิม
ศูนย์เป็นแบบจุดขาวสามจุด มีซองกระสุนให้เลือกสามตัว สั้น-กลาง-ยาว ตัวสั้นจุ 6 นัด พกได้แนบเนียน แต่ไม่มีที่สำหรับนิ้วก้อย, ตัวกลางที่เห็นในภาพ จุ 7 นัด จับได้ถนัดเต็มมือ หรือถ้าใช้พกซองนอกอาจเลือกตัวยาว จุ 8 นัด
โดยรวม วอลเธอร์ PPS M2 เป็นปืนพกใช้กระสุนแรงสูงมาตรฐานทหาร แต่มิติตัวปืนเล็ก/บาง/เบา เหมาะกับการพกซ่อนในขอบกางเกง โครงโพลิเมอร์เสริมใยแก้ว น้ำหนักเบา การเคลือบผิวต้านสนิมดีมากดูแลรักษาง่าย จุดเด่นคือไกที่มีจุดหยุดรู้สึกได้ชัด และระยะคืนไกสั้นยิงซ้ำได้เร็ว ปุ่มปลดซองกระสุนเป็นแบบกดเข้าในโครงปืนที่ส่วนใหญ่คุ้นเคย กระสุนหาง่ายมีขายทุกสนาม ศูนย์จุดขาวสามจุดเห็นชัดเล็งง่าย ใช้งานคล่องตัวไม่ว่าจะด้วยมือขวาหรือมือซ้าย ด้ามจับถนัดคุมแรงรีคอยล์ได้ดี ความแม่นยำดีมากสำหรับปืนต่อสู้.
https://www.dailynews.co.th/article/534220/
.........................................
ดร.พณิศวร ชำนาญเวช