กรรมในทางพระพุทธศาสนา
ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว
ก็พอประมวลเป็นหลักใหญ่ๆ ได้เป็น ๓ ข้อ คือ
๑. พระพุทธศาสนาแสดงว่า
ใครทำกรรมดีก็เป็นกุศลกรรมติดตัว
ใครทำกรรมชั่วก็เป็นอกุศลกรรมติดตัว
๒. พระพุทธศาสนาแสดงว่ามีกรรมวิบาก
คือ ผลของกรรม ผลที่ดีเกิดจากกรรมที่ดี
ผลที่ชั่วเกิดจากกรรมที่ชั่ว ไม่สับสนกัน
เหมือนอย่างผลมะม่วงก็ย่อมเกิดจากต้นมะม่วง
ผลขนุนก็ย่อมเกิดจากต้นขนุน
หว่านพืชเช่นไรก็ได้ผลเช่นนั้น
๓. พระพุทธศาสนาแสดงว่า
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง
คือ ตัวเราเองทุก ๆ คน เป็นเจ้าของกรรมที่เราทำ
และเป็นเจ้าของผลกรรมนั้น ๆ ด้วย
เมื่อตัวเราเองทำดีก็มีกรรมดีติดตัว และต้องได้รับผลดี
เมื่อตัวเราเองทำไม่ดีก็มีกรรมชั่วติดตัว ต้องได้รับผลชั่วไม่ดี
จะปัดกรรมที่ตัวเราเองทำ ให้พ้นตัวออกไป
และจะปัดผลของกรรมให้พ้นตัวออกไปด้วย หาได้ไม่
ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อกรรมของตนเอง
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
กรรมในทางพุทธศาสนา
ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว
ก็พอประมวลเป็นหลักใหญ่ๆ ได้เป็น ๓ ข้อ คือ
๑. พระพุทธศาสนาแสดงว่า
ใครทำกรรมดีก็เป็นกุศลกรรมติดตัว
ใครทำกรรมชั่วก็เป็นอกุศลกรรมติดตัว
๒. พระพุทธศาสนาแสดงว่ามีกรรมวิบาก
คือ ผลของกรรม ผลที่ดีเกิดจากกรรมที่ดี
ผลที่ชั่วเกิดจากกรรมที่ชั่ว ไม่สับสนกัน
เหมือนอย่างผลมะม่วงก็ย่อมเกิดจากต้นมะม่วง
ผลขนุนก็ย่อมเกิดจากต้นขนุน
หว่านพืชเช่นไรก็ได้ผลเช่นนั้น
๓. พระพุทธศาสนาแสดงว่า
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง
คือ ตัวเราเองทุก ๆ คน เป็นเจ้าของกรรมที่เราทำ
และเป็นเจ้าของผลกรรมนั้น ๆ ด้วย
เมื่อตัวเราเองทำดีก็มีกรรมดีติดตัว และต้องได้รับผลดี
เมื่อตัวเราเองทำไม่ดีก็มีกรรมชั่วติดตัว ต้องได้รับผลชั่วไม่ดี
จะปัดกรรมที่ตัวเราเองทำ ให้พ้นตัวออกไป
และจะปัดผลของกรรมให้พ้นตัวออกไปด้วย หาได้ไม่
ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อกรรมของตนเอง
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร