อย่างแรกเลยค่ะ ผู้ใหญ่ที่กล่าวถึงคือแม่ของหนูเองค่ะแม่เป็นคนพูดตรงๆชอบด่าหนูแรงๆเวลาเราทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเช่น ทำช้า ทำพลาด แล้วก็จะทำเหมือนพูดเรื่องโยงไป เช่นมีผัวก็คงทำให้ผัวไม่ทำให้แม่ แล้วคำที่แม่ด่าก็เป็นพวก
มาเกิดชัดๆ ลูกอกตัญญู แล้วก็จะบอกประมาณว่าจะไม่เลี้ยงหนูให้เป็นภาระแล้วอยู่คนเดียวซะยังดีกว่า
แล้วส่วนตัวเป็นคนชอบฟุ้งซ่านพอโดนด่าจะคิดต่างๆนาๆแล้วก็จะน้ำตาไหลอัตโนมัติต้องหาที่หลบร้องไห้แล้วบอกกับตัวเองว่าให้มีสติแล้วก็กลับไปช่วยแม่ทำงานต่อแล้วแม่ก็ว่าเหมือนเดิมประมาณว่า ไปหาตังใช้เองมั้ยไปทำงานที่ได้เงินเยอะแบบแม่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว(อาชีพสุจริตนะคะ) แต่หนูก็คิดใจว่า เคยจะไปทำงานแต่ก็บอกเป็นห่วงไม่อยากให้ไปก็เลยอยู่ช่วยแม่ทำงานแต่เงินก็ไปอยู่กับการกินมากกว่าการได้เงินที่มาถึงมือ แต่ก็เข้าใจสถานะทางการเงินดีว่าไม่ได้ดีถึงแม่จะเงินเดือนเยอะ พยายามทนกับคำพูดของท่านมาตลอดคิดซะว่าเป็นอารมณ์ของท่านที่เหนื่อยมามาก แต่ก็อยากตายๆไปซะแม่จะได้หมดภาระจะได้เสียงตังแค่งานศพครั้งเดียวจบไปเลย แต่ก็พยายามดึงสติเอาไว้มากๆถึงจะทรมานกับการที่ทนอยู่ร้องไห้ทุกๆวันกับเรื่องไรสาระที่คิดอยู่ในหัว อยากระบายกับใครซักคนอยากถามใครซักคนว่าเราไม่ควรคิดมากๆรึป่าว เราควรจะทนกับความรู้สึกนี้อยู่อีกรึป่าวคะ
เราไม่ควรถือสาคำพูดของผู้ใหญ่รึป่าว
แล้วส่วนตัวเป็นคนชอบฟุ้งซ่านพอโดนด่าจะคิดต่างๆนาๆแล้วก็จะน้ำตาไหลอัตโนมัติต้องหาที่หลบร้องไห้แล้วบอกกับตัวเองว่าให้มีสติแล้วก็กลับไปช่วยแม่ทำงานต่อแล้วแม่ก็ว่าเหมือนเดิมประมาณว่า ไปหาตังใช้เองมั้ยไปทำงานที่ได้เงินเยอะแบบแม่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว(อาชีพสุจริตนะคะ) แต่หนูก็คิดใจว่า เคยจะไปทำงานแต่ก็บอกเป็นห่วงไม่อยากให้ไปก็เลยอยู่ช่วยแม่ทำงานแต่เงินก็ไปอยู่กับการกินมากกว่าการได้เงินที่มาถึงมือ แต่ก็เข้าใจสถานะทางการเงินดีว่าไม่ได้ดีถึงแม่จะเงินเดือนเยอะ พยายามทนกับคำพูดของท่านมาตลอดคิดซะว่าเป็นอารมณ์ของท่านที่เหนื่อยมามาก แต่ก็อยากตายๆไปซะแม่จะได้หมดภาระจะได้เสียงตังแค่งานศพครั้งเดียวจบไปเลย แต่ก็พยายามดึงสติเอาไว้มากๆถึงจะทรมานกับการที่ทนอยู่ร้องไห้ทุกๆวันกับเรื่องไรสาระที่คิดอยู่ในหัว อยากระบายกับใครซักคนอยากถามใครซักคนว่าเราไม่ควรคิดมากๆรึป่าว เราควรจะทนกับความรู้สึกนี้อยู่อีกรึป่าวคะ