JJNY : อนุสรณ์ชี้ศก.ฟุบว่างงานแฝงกว่า5ล.│น้ำทะลักท่วมวัดบันไดช้าง│จัดจนท.เฝ้าระวังสุพรรณบุรี│ทุนญี่ปุ่นผวาน้ำท่วมใหญ่

‘อนุสรณ์’ ชี้เศรษฐกิจฟุบ ‘ไทย’ เกิดภาวะว่างงานแฝงมากกว่า 5 ล้านคนแนะรัฐแก้ปัญหาด่วน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2959915
 
‘อนุสรณ์’ ชี้เศรษฐกิจฟุบ ‘ไทย’ เกิดภาวะว่างงานแฝงมากกว่า 5 ล้านคนแนะรัฐแก้ปัญหาด่วน
 
วันที่ 26 กันยายน รศ.ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการม.รังสิต กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดสถานการณ์ทยอยเลิกจ้างอย่างต่อเนื่องในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ
 
โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจการต่อเนื่อง ธุสายการบิน สื่อสารมวลชน ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ธุรกิจบันเทิงและจัดงานอีเวนท์ต่างๆ อสังหาริมทรัพย์ การเงิน กิจการอุดมศึกษาเอกชน เป็นต้น
 
“อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่อาจมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปีจากการเปิดประเทศ แต่จะมีคนทำงานไม่เต็มเวลา ทำงานต่ำระดับ ว่างงานแฝงและทำงานต่ำระดับเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านคน ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการเข้าไปมีบทบาทช่วยเหลือ กลุ่มคนที่ถูกเลิกจ้างและดำเนินโครงการพัฒนาทักษะและเพิ่มผลิตภาพของแรงงานไทย”
 
รศ.ดร.อนุสรณ์แนะรัฐบาลต้องรีบดำเนินการเพื่อให้เกิดความหนืดในการเลิกจ้าง ด้วยการแก้กฎหมายให้มีการจ่ายเงินชดเชยเพิ่มขึ้นอีกในกรณีที่มีการเลิกจ้าง และ ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อจูงใจให้บรรษัทข้ามชาติยังคงจ้างงานและขยายกิจการในไทย ไม่โยกย้ายฐานการผล
 
“แม้ว่าปัจจุบันมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมแต่ทำให้สถานการณ์การจ้างงานกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อย และแรงงานบางกลุ่มจะยังไม่สามารถกลับไปมีรายได้เช่นเดิม โดยเฉพาะ แรงงานในภาคการท่องเที่ยว นักศึกษาจบใหม่มากกว่า 40-50% ไม่สามารถหางานได้อย่างน้อยในระยะ 1-2 ปี และ บรรดาลูกจ้างรายวันในภาคท่องเที่ยวและกิจการต่อเนื่องส่วนหนึ่งจะกลับชนบทต่างจังหวัด”
 
ดังนั้นรัฐบาลควรจัดทำโครงการต่างๆเพื่อให้เกิดการจ้างงานในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม เพราะลูกจ้างรายวันและพนักงานโรงงานส่วนใหญ่ที่ถูกเลิกจ้างมักมีอายุมากกว่า 50 ปี กลุ่มนี้จะไปทำเกษตรกรรมแบบคนหนุ่มสาวย่อมไม่สามารถทำได้ รัฐควรส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงสินเชื่อในการซื้อเครื่องจักรการเกษตรต่างๆเพื่อสามารถทำงานในภาคเกษตรกรรม ได้
 


สวดมนต์ทุกวันแต่ไม่รอด น้ำทะลักท่วมวัดบันไดช้างอยุธยา นายกเล็กฯลงพื้นที่
https://www.matichon.co.th/region/news_2960265

สวดมนต์ทุกวันแต่ไม่รอด น้ำทะลักท่วมวัดบันไดช้างอยุธยา นายกเล็กฯลงพื้นที่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังชักธงสีแดง ขึ้นสื่อสารว่าถึงจุดวิกฤติ โดยมีการปรับการระบายท้ายเขื่อน เพิ่มขึ้นตลอดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด เวลา 08.00 น. วันที่ 27 ก.ย.64 แจ้งระบายน้ำอยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นจำนวนสูงเท่าเดิม และเท่ากับเมื่อสานตอนเย็นที่เริ่มปล่อยน้ำที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำและลุ่มต่ำ เป็นแอ่งกระทะของภาคกลางนั้น มีพื้นที่รับผลกระทบถูกน้ำท่วม ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นไปอีก
 
ล่าสุด เช้าวันที่ 27 ก.ย.64 ที่วัดบันไดช้าง ตั้งอยู่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ติดแม่น้ำน้อย ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทางวัดบันไดช้าง มีการถมดินลานวัด โดยรอบศาลา กุฎิพระสงฆ์ มาบ้างแล้ว แต่ถึงตอนนี้ ลานวัดซึ่งได้ยกระดับแล้ว ยังถูกน้ำท่วม
  
ขณะที่มีรายงานว่า น้ำเหนือจากเจ้าพระยา ไหละลักเข้าคลองเมือง จำนวนมาก ทำให้เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในชุมชน “ ฝั่งตรงข้ามเกาะเมือง ” โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองเมืองบ้าง
  
โดยล่าสุดพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และ นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรี ฯ ได้นำเจ้าหน้าที่กองช่างกรอกกระสอบทราย แล้วนำไปอุดปากท่อระบายน้ำ เนื่องจากน้ำไหลย้อนเข้าท่อท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณชุมชนวัดศาลาปูน และบ้านเรือนหลังวัดพนมยงค์ ขณะนี้ได้ดำเนินการอุดท่อเรียบร้อย และกำลังสูบน้ำออกเพื่อช่วยเหลือบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ
  
นอกจากนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่กองช่าง ไปสร้างสะพานไม้ ให้กับชาวชุมชนหัวแหลม ตรงสะพานไม้เก่า ปากคลองเมือง เนื่องจากมีประมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการเดินทางเข้าออกระหว่างบ้านกับถนนใหญ่
 

 
จัดจนท.เฝ้าระวัง 24 ชม. สุพรรณบุรี ทะลักท่วมอีก 3 อำเภอ ชาวบ้านเร่งขนของหนี
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6642786

สุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนทะลักท่วมอีก 3 อำเภอ ศรีประจันต์ เมือง บางปลาม้า ชาวบ้านเร่งขนย้ายหมูกันอุตลุด จัดจนท.เฝ้าระวังน้ำตลอด 24 ชม.
 
วันที่ 27 ก.ย. 64 ผู้สื่อขาวรายงานว่า สถานการณ์ในแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้ปริมาณน้ำสูงขึ้น ในหลายอำเภอ ทั้ง อ.ศรีประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า โดยชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่ง ได้เร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และขนย้ายสัตว์ ออกจากพื้นที่ หลังปริมาณน้ำ ได้เอ่อท่วมอย่างรวดเร็ว ที่ อ.ศรีประจันต์ เทศบาลศรีประจันต์ เตรียมกระสอบทราย พร้อมทั้งตีแนวกระสอบทรายไม่ให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่มีระดับสูงขึ้นเข้าสู่ชุมชนตลาด ประกอบกับมีฝนตกตลอด อีกทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากชุมชนตลาด พร้อมได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังน้ำตลอด 24 ชั่วโมง
 
ส่วนในพื้นที่เทศบาลเมือง สุพรรณบุรี วันนี้น้ำขึ้นอีก 7 เซ็นติเมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 5.99 เมตร สูงกว่าถนนพระพันวษา 0.39 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น เทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 5 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำไม่ให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่วันนี้จะเสริมแนวกระสอบทรายที่กั้นน้ำเพิ่มอีก พร้อมสำรวจจุดที่มีน้ำรั่วไหลเข้ามาในพื้นที่ ส่วนที่ ต.ทับตีเหล็ก อ.เมืองสุพรรณบุรี น้ำท่าจีนได้เอ่อทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ชาวบ้านช่วยกันขนย้ายสัตว์เลี้ยงสุกร จำนวนมากออกจากพื้นที่หลังน้ำทะลักเข้ามาท่วม
 
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง แม่น้ำท่าจีน กว่า 200 หลังคาเรือน ชาวบ้าน ยังได้รับผลกระทบ น้ำเอ่อเข้าท่วม ซึ่งได้เก็บของยกขึ้นที่สูง และเตรียมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ตลอด 24 ชม.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่