สามารถร้องเรียนแพทย์ทางได้ได้บ้างคะ ที่สามารถติดตามผลได้จริง

รายละเอียดที่ต้องการร้องเรียนเพราะกริยา ท่าทาง คำพูด แลดการวินิจฉัยโรคค่ะ

ป่วยโควิคหลังจากกลับจากรพ.สนามได้มีอาการแน่นหน้าอก หายใจลึก เหนื่อยง่าย หอบเหนื่อย ได้ไปหาหมอที่รพ.แห่งนี้ เป็นประจำตลอด (มีใบรับรองแพทย์ วินิฉัยโรคทุกครั้ง) 
 12/09/64 วินิจฉัยหลอดลมอักเสบ (นายแพทย์บุคคลที่ต้องการร้องเรียน ) ให้หยุด 3 วัน
17/09/64 วินิจฉัย หลอดลมอักเสบ (พญ.1) ให้หยุด 3 วัน
21/09/64 วินิจฉัย หอบหืด ( นพ.2 )ให้หยุด 2 วัน
23/09/64 วินัจฉัย หลอดลมอักเสบ ลำไส้อักเสบ (นสยแพทย์ 3
25/09/64 วินิจฉัย ปอดอุดกั้นเรื้อรัง(นายแพทย์2)
และในวันที่ 26/09/64 อาการเหนื่อยหอบมากขึ้น หายใจไม่สะดวก กินยาตามแพทย์สั่งก็ยังหอบเหนื่อย ได้พ่นยาฉุกเฉิน ได้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เริ่มมีเจ็บแน่นหน้าอก ท้องเสีย เลยจึงไปหาหมออีกครั้งที่รพ.เดิม

เมื่อไปถึงได้วัดชีพจร พยาบาลเลยโทรตามหมอ (ไปก็บ่ายโมงแล้วนะคะ เกินบ่ายละ ) สักพักหมอก็มาค่ะ มาฟังปอด แต่น้ำเสียงและท่าทีเหมือนไม่พอใจแต่แรกละ
พูดเสียงดังจนเราตกใจ "คนไข้อย่าหายใจแบบนี้ค่อยๆหายใจซิ" ปอดก็โล่ง .. ชักน้ำเสียงมาก

(แต่เข้าใจอาการคนหายใจลึกหายใจเหนื่อยมั๊ยคะ) มันบังคับเองได้คงไม่มาหาหมอถูกมั๊ย เราไม่ได้พูดตอบกละบไปหรอก ก็ได้แต่พยายามทำตามเพราะหายใจก็จะไม่ทันอยู่แล้ว

หมอเจาะเลือด เช็คคลื่นหัวใจ เอ็กเรย์ปอด และหมอแจ้งว่าปรกติ ไม่เป็นอะไร 

บทสนทนา ตอนคุยกับนายแพทย์ที่ต้องการร้องเรียน

หมอ:ตะกี้ตอนคนไข้นั่งอยุ่ เห็นคนไข้หายใจปรกติ พอหมอเรียกก็หายใจแบบนี้อีกแล้ว 
เรา: ใช่ค่ะ เดินนิดหน่อยมันก็จะเหนื่อย ละหอบ
หมอ: ตอนเช้าก่อนมาพ่นยาไปกี่ครั้ง 
เรา: 3 ครั้งค่ะ และก็กินยาก่อนมา
หมอ: ตอนนี้คนไข้ไมได้เป็นอะไรนะ ปอด หัวใจ เลือด ปรกติ หมอว่าคนไข้คิดไปเอง วิตกัลวลไปเอง เราลองไม่คิดดู เพราะปอดหมอฟังก็ปรกติ
เรา: แต่เมื่อวานมาหมออีกคนบอกเสียงปอดเบานะคะ
หมอ:ฟังผ่านเสื้อก็เบา หูฟังอันนี้มันไม่ดี 
(เราคิดในใจเมื่อวาน วันนี้ หมอก็ฟังผ่านเสื้อทั้ง 2 คนนะ )
หมอ:รึจะพบจิตแพทย์ดี 
เรา:ได้ค่ะ ยังไงก็ได้แล้วแค่หมอ
หมอ:คนไข้ร่างกายปรกติ คนไข้ลองดูว่าเราป่วยจริงรึเปล่า 

ไอคำพูดนี้แหละที่ทำให้เราไม่พอใจมาก 

เรา: ถ้าไม่ป่วยก็คงไม่มาหาหมอหรอกค่ะ
ถ้าปรกติคือเราไม่ต้องกินยา ไม่ต้องพ่นยาแล้วถูกมั๊ยคะ

หมอ:ใช่ คนไข้หยุดยาทุกอย่างเลย เพราะคนไข้ไม่ได้เป็นอะไร

เราเริ่มนั่งเงียบ.. และฟัง เพราะเริ่มหายใจเหนื่อยแล้ว

หมอ:ตอนนี้คนไข้รับยาขยายหลอดลมมากไปเลยทำให้ใจสั่น ให้หยุดยาก่อน ยากินที่ให้ไปไม่ต้องกินเลย 
ถ้ามีอาการให้พ่นยาได้ไม่เกินวันละ 3 ครั้ง

เรา:วันละ 3 ครั้ง คือถ้าหอบไม่หาย ก็ปล่อยให้มันหอบไปหรอคะ 
หมอ:ก็พ่นได้ทุก 15 นาที ต้องเว้นระยะ

อะ อ่านมาถึงตรงนี้ ตอนแรกไหนบอกไม่เป็นอะไร ให้หยุดใช้ยา แล้วตอนนี้บอกให้มาพ่นยา 

หมอ:ตอนนี้ร่างกายคนไข้ปรกติไม่เป็นอะไรเลย
เรา:แปลว่าที่ผ่านมาวินิจฉัยผิดหมดเลยหรอคะ
หมอ:หมอไม่ได้บอกว่าผิด หมอบอกว่า ที่ใจสั่นเพราะรับยาขยายหลอดลมมากไป แปลว่าไม่ได้ฟังหมอ นี่ก็ปรกติไงเถียงหมอฉอดๆ
เรา:ค่ะแล้วหมอเห็นมันคะว่าตอนนี้หายใจลึก ซึ่งและเหนื่อยซึ่งมันไม่ปรกติค่ะ (ระหว่างนั้นเราก็คิดนะ แล้วจะไม่ให้เราตอบกลับหรอ ช่วงที่เราหายใจปรกตอเราก็ตอบ พอเราเริ่มหายใจไม่ทันตอนพูดเราก็พัก)
หมอ:เปลี่ยนหมอมั๊ย
เรา:โอเคค่ะ ดีค่ะ

หมอ:เดี๋ยวให้บัตรนัดมาพรุ่งนี้ (แต่บัตรนัดคือการการใจสั่นซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะยา) เราไปเพราะอาการเหนื่อย เราหายใจลึก หายใจไม่ปรกติ หายใจลำบาก คลื่นไส้ และอาเจียน+อาการท้องเสีย เราพยายามกินยา นอนนิ่งๆ ก็ยังเป็น

หลังจากกลับมาบ้านเราก็มานั่งคิดและให้แฟนช่วยดูอาการว่าเราคิดไปเองแบบที่หมอว่ารึเปล่า แต่พอเรามานั่งคิดดูแล้ว ตอนกลางคืนเราหลับไปแล้วเราจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ปรกติ จนตื่นมาหายใจลึก และเหนื่อย หากเราหลับไปแล้วจะไม่สามารถคิดนึกคิดเองได้ใช่มั๊ยคะ 

คือเราไม่ปรกติเราป่วยแย่แบบนี้หยุดงานจากป่วยโควิคมาก็แย่มากพอแล้ว เจอหมอแบบนี้เรานั่งร้องไห้กะบพยาบาลตรงนั้นเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่