แก้ไข
จากกรณีของณเดชที่โดนโจมตี(ซ้ำซาก)เกี่ยวกับโรคหอบหืด โดยประเด็นสำคัญคือ "เป็นหอบหืดไม่ต้องเป็นทหารแต่ทำไมเล่นกีฬาได้" ตอนที่ได้อ่านได้ฟังครั้งแรกก็เข้าใจอยู่ที่จะมีคนสงสัยในประเด็นนี้ แต่หลังจากที่ข่าวออกมา ก็มีทั้งแพทย์ และทางตัวณเดชเองที่ออกมาอธิบายให้ฟังแล้วว่าทำไมหอบหืดถึงสามารถเล่นกีฬา(ที่ดูแล้วจะเห็นว่าเล่นเยอะมากกกก)ได้ แต่สุดท้ายประเด็นนี้ก็ยังไม่จบซักที.....
ยอมรับเลยว่าจขกท.ก็ชื่นชอบณเดชมากกก แต่ที่เขียนกระทู้นี้เพราะหลังจากติดตามข่าว เห็นทั้งคนที่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และคนที่มาcomment เสียๆหายๆโดยที่ไม่รู้ความจริงแล้วมันทำให้รู้สึกว่ามันยิ่งทำให้คนอ่านมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับโรคหอบหืด(Asthma)มากไปทุกที😧😓 (แบบว่าถ้าจขกท. โดนว่าโดนถามซ้ำซากแบบณเดชนี่เพลียสุดๆ)
ก็เลยอยากอธิบายและแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคหอบหืดแบบอ่านง่าย เข้าใจง่าย สำหรับคนที่รู้(ไม่หมด) รู้(ไม่จริง) หรือแม้กระทั่งไม่รู้เลย(แต่อยากcomment)😑😑
ประเด็นสั้นๆง่ายๆภาษาแบบชาวบ้านๆเข้าใจนะ
หอบหืด(Asthama) คือ ภาวะหลอดลม"ตีบ" (หลอดลม ก็คือ ทางสำหรับลมเข้า-ออก สู่ปอด)
สาเหตุ+อาการ: บางคนเป็นแต่กำเนิด แต่สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการถูกกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้บ่อยๆ เช่นพวกที่เป็นภูมิแพ้ (สมมติแพ้ฝุ่น) พอโดนฝุ่นๆบ่อยๆ มันก็จะไปกระตุ้นให้หลอดลมเกิดหดเกร็งบ่อย บางคนถึงขนาดหลอดลมอักเสบ พอเป็นบ่อยเข้า หลอดลมมันหดเกร็งบ่อยๆเข้า มันก็เกิดภาวะที่พอโดนกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้ก็หดมากจนลมเข้าไปปอดไม่ได้ / ได้น้อย ร่างกายเลยเกิดภาวะขาดออกซิเจน แสดงออกมาเป็นอาการเหนื่อยหอบ
ซึ่งเวลาหมอตรวจร่างกายจะพบลักษณะสำคัญคือ ถ้าฟังปอดเวลาคนไข้หายใจมันจะมีเสียงวี๊ดดดดด (คือเสียงลมผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ เหมือนเสียงเวลาผิวปากอะ) ซึ่งในภาวะปกติที่คนไข้ไม่เหนื่อยก็อาจไม่ได้ยินเสียงนี้ก็ได้ แต่ในรายที่เป็นนานๆ เข้ารพ.บ่อยๆที่จขกท.เคยเจอ บางคนถึงไม่เหนื่อยไม่มีอาการแต่เาฟังปอดก็ได้ยินเสียงนี้อยู่
การรักษา: การใช้ยาขยายหลอดลม ทั้งแบบกิน ฉีด ยาพ่นโดยใช้ออกซิเจน(ทางจมูก) และยาพ่นที่ให้คนไข้พกติดตัว(พ่นทางปาก) แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้องทานยา พ่นยาฉีดยาเป็นประจำ ในกรณีคนไข้ที่อาการไม่รุนแรงเบื้องต้นแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีควบคุมอาการโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาก็ได้ การดูแลรักษามันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามคนไข้แต่ละคน (คนไข้หอบหืด100คน บางคนต้องกินยา บางคนต้องพกยาพ่น บางคนนอนรพ.เป็นว่าเล่น บางคนต้องมีออกซิเจนที่บ้าน บางคนแค่หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ และหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติก็พอ ไม่ใช่ต้องรักษาเหมือนกันทุกคน)
การดูแลสุขภาพ ***นี่แหล่ะประเด็นสำคัญ
คือ โรคนี้บอกเลยไม่หายขาด เป็นโรคประจำตัว เหมือนคนที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเก๊าต์ .... โรคประจำตัวก็คือโรคที่อยู่ติดตัวไปตลอด ไม่หาย แต่ไม่ได้หมายความว่าอาการจะแสดง/กำเริบตลอดเวลา เช่น คนเป็นความดันโลหิตสูงไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่วัดความดันจะต้องสูงเสมอ(ถ้าสูงตลอดคงเส้นเลือดในสมองแตกไปละ) คนเป็นเบาหวานไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่เจาะเลือดต้องพบว่าน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติเสมอ(ไม่งั้นคงตายไปแล้ว) และโรคหอบหืดก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเหนื่อยตลอดเวลา
แต่ในประเด็นที่ว่าทำไม"เล่นกีฬาหนักๆ"แล้วไม่เหนื่อย แถมไม่พอเห็นเล่นเทควันโด ว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ "การออกกำลังกาย+การเล่นกีฬา"99.99มันมีประโยชน์อยู่แล้ว อีก 00.01 สำหรับกลุ่มที่หักโหมเกินไป คนที่มีโรคประจำตัวไม่ว่า ความดัน เบาหวาน หัวใจ หอบหืด โดยปกติเค้ายิ่งแนะนำให้ออกกำลังกายนะ(แต่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม) การออกกำลังกายเล่นกีฬาหรือเคลื่อนไหวร่างกายมากๆเช่น เต้น อย่ามองในมุมที่ว่าทำให้เกิดอาการเหนื่อยอย่างเดียว มันคือ"กระบวนการที่ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดในร่างกาย"ด้วย พอเลือดไหลเวียนดี ความต้านทานต่อโรคก็จะยิ่งมีมาก อย่างกรณีณเดช ที่บอกว่าเห็นเล่นกีฬาแต่เด็ก คือถ้าในคนแก่เป็นหอบหืดก็คงไม่แนะนำให้เล่นกีฬาแบบนั้นหรอก แต่ในเด็กวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตสูง โดยปกติควรมีการออกกำลังกายแบบที่ณเดชทำถูกแล้ว (แล้วเค้าก็บอกเป็นสิบๆรอบแลเวว่าอยู่ในความดูแลของครูฝึกและแพทย์)
แล้วอีกอย่างมันก็ถูกแล้วที่เราจะเห็นรูปตอนเค้าออกกำลังกาย ใครจะไปถ่ายรูปตอนเหนื่อยหอบเก็บไว้ 😓😓😓 ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ได้ตั้งใจจะแก้ต่างให้ณเดชหรืออะไรหรอกนะ แต่หลังจากเห็นข่าวและกระทู้ที่เกิดขึ้นนอกจากประเด็นหนีทหาร(ที่ไร้สาระมาก คนเขียนกระทู้และลงข่าวนี่ดูถูกระบบทหารของไทย ดูถูกแพทย์ไทยมากนะ ) อ่านแล้วเกิดความกังวลว่าคนจะเข้าใจผิดๆว่าการมีโรคประจำตัวออกกำลังกายไม่ได้ คำว่ากีฬาหนักๆ คือนิยามแบบไหน????? ขอช่วยตัดสินอย่างไม่มีอคติ รู้จริง ไม่ใช่รู้งูๆปลาๆแล้วเอามาสร้างกระแสใส่ดารา ทำให้คนอื่นๆเข้าใจผิด รวมถึงนักข่าวที่พาดหัวข่าว +เอากระทู้มนพันทิปมาเขียนข่าวแทนที่จะหาข้อมูลโรคมาอ้างอิง หยุดสร้างความเชื่อผิดๆกันซักทีเถอะ แค่ทุกวันนี้คนที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีที่ออกกำลังกายเล่นกีฬาก็มีน้อยมากแล้ว ยิ่งมีข่าวแบบนี้คนที่มีโรคยิ่งกลัวการออกกำลังกายเข้าไปใหญ่.....ในเมื่อเราทำให้โรคที่เป็นอยู่หายขาดไม่ได้ ก็จงเรียนรู้และหาวิธีที่จะอยู่กับมันอย่างเป็นสุข👏👏👏
จากกรณีดราม่าหอบหืดของณเดช สู่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหอบหืดของคนไทย
จากกรณีของณเดชที่โดนโจมตี(ซ้ำซาก)เกี่ยวกับโรคหอบหืด โดยประเด็นสำคัญคือ "เป็นหอบหืดไม่ต้องเป็นทหารแต่ทำไมเล่นกีฬาได้" ตอนที่ได้อ่านได้ฟังครั้งแรกก็เข้าใจอยู่ที่จะมีคนสงสัยในประเด็นนี้ แต่หลังจากที่ข่าวออกมา ก็มีทั้งแพทย์ และทางตัวณเดชเองที่ออกมาอธิบายให้ฟังแล้วว่าทำไมหอบหืดถึงสามารถเล่นกีฬา(ที่ดูแล้วจะเห็นว่าเล่นเยอะมากกกก)ได้ แต่สุดท้ายประเด็นนี้ก็ยังไม่จบซักที.....
ยอมรับเลยว่าจขกท.ก็ชื่นชอบณเดชมากกก แต่ที่เขียนกระทู้นี้เพราะหลังจากติดตามข่าว เห็นทั้งคนที่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และคนที่มาcomment เสียๆหายๆโดยที่ไม่รู้ความจริงแล้วมันทำให้รู้สึกว่ามันยิ่งทำให้คนอ่านมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับโรคหอบหืด(Asthma)มากไปทุกที😧😓 (แบบว่าถ้าจขกท. โดนว่าโดนถามซ้ำซากแบบณเดชนี่เพลียสุดๆ)
ก็เลยอยากอธิบายและแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคหอบหืดแบบอ่านง่าย เข้าใจง่าย สำหรับคนที่รู้(ไม่หมด) รู้(ไม่จริง) หรือแม้กระทั่งไม่รู้เลย(แต่อยากcomment)😑😑
ประเด็นสั้นๆง่ายๆภาษาแบบชาวบ้านๆเข้าใจนะ
หอบหืด(Asthama) คือ ภาวะหลอดลม"ตีบ" (หลอดลม ก็คือ ทางสำหรับลมเข้า-ออก สู่ปอด)
สาเหตุ+อาการ: บางคนเป็นแต่กำเนิด แต่สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการถูกกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้บ่อยๆ เช่นพวกที่เป็นภูมิแพ้ (สมมติแพ้ฝุ่น) พอโดนฝุ่นๆบ่อยๆ มันก็จะไปกระตุ้นให้หลอดลมเกิดหดเกร็งบ่อย บางคนถึงขนาดหลอดลมอักเสบ พอเป็นบ่อยเข้า หลอดลมมันหดเกร็งบ่อยๆเข้า มันก็เกิดภาวะที่พอโดนกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้ก็หดมากจนลมเข้าไปปอดไม่ได้ / ได้น้อย ร่างกายเลยเกิดภาวะขาดออกซิเจน แสดงออกมาเป็นอาการเหนื่อยหอบ
ซึ่งเวลาหมอตรวจร่างกายจะพบลักษณะสำคัญคือ ถ้าฟังปอดเวลาคนไข้หายใจมันจะมีเสียงวี๊ดดดดด (คือเสียงลมผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ เหมือนเสียงเวลาผิวปากอะ) ซึ่งในภาวะปกติที่คนไข้ไม่เหนื่อยก็อาจไม่ได้ยินเสียงนี้ก็ได้ แต่ในรายที่เป็นนานๆ เข้ารพ.บ่อยๆที่จขกท.เคยเจอ บางคนถึงไม่เหนื่อยไม่มีอาการแต่เาฟังปอดก็ได้ยินเสียงนี้อยู่
การรักษา: การใช้ยาขยายหลอดลม ทั้งแบบกิน ฉีด ยาพ่นโดยใช้ออกซิเจน(ทางจมูก) และยาพ่นที่ให้คนไข้พกติดตัว(พ่นทางปาก) แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้องทานยา พ่นยาฉีดยาเป็นประจำ ในกรณีคนไข้ที่อาการไม่รุนแรงเบื้องต้นแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีควบคุมอาการโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาก็ได้ การดูแลรักษามันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามคนไข้แต่ละคน (คนไข้หอบหืด100คน บางคนต้องกินยา บางคนต้องพกยาพ่น บางคนนอนรพ.เป็นว่าเล่น บางคนต้องมีออกซิเจนที่บ้าน บางคนแค่หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ และหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติก็พอ ไม่ใช่ต้องรักษาเหมือนกันทุกคน)
การดูแลสุขภาพ ***นี่แหล่ะประเด็นสำคัญ
คือ โรคนี้บอกเลยไม่หายขาด เป็นโรคประจำตัว เหมือนคนที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเก๊าต์ .... โรคประจำตัวก็คือโรคที่อยู่ติดตัวไปตลอด ไม่หาย แต่ไม่ได้หมายความว่าอาการจะแสดง/กำเริบตลอดเวลา เช่น คนเป็นความดันโลหิตสูงไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่วัดความดันจะต้องสูงเสมอ(ถ้าสูงตลอดคงเส้นเลือดในสมองแตกไปละ) คนเป็นเบาหวานไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่เจาะเลือดต้องพบว่าน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติเสมอ(ไม่งั้นคงตายไปแล้ว) และโรคหอบหืดก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเหนื่อยตลอดเวลา
แต่ในประเด็นที่ว่าทำไม"เล่นกีฬาหนักๆ"แล้วไม่เหนื่อย แถมไม่พอเห็นเล่นเทควันโด ว่ายน้ำมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ "การออกกำลังกาย+การเล่นกีฬา"99.99มันมีประโยชน์อยู่แล้ว อีก 00.01 สำหรับกลุ่มที่หักโหมเกินไป คนที่มีโรคประจำตัวไม่ว่า ความดัน เบาหวาน หัวใจ หอบหืด โดยปกติเค้ายิ่งแนะนำให้ออกกำลังกายนะ(แต่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม) การออกกำลังกายเล่นกีฬาหรือเคลื่อนไหวร่างกายมากๆเช่น เต้น อย่ามองในมุมที่ว่าทำให้เกิดอาการเหนื่อยอย่างเดียว มันคือ"กระบวนการที่ส่งเสริมการไหลเวียนเลือดในร่างกาย"ด้วย พอเลือดไหลเวียนดี ความต้านทานต่อโรคก็จะยิ่งมีมาก อย่างกรณีณเดช ที่บอกว่าเห็นเล่นกีฬาแต่เด็ก คือถ้าในคนแก่เป็นหอบหืดก็คงไม่แนะนำให้เล่นกีฬาแบบนั้นหรอก แต่ในเด็กวัยที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตสูง โดยปกติควรมีการออกกำลังกายแบบที่ณเดชทำถูกแล้ว (แล้วเค้าก็บอกเป็นสิบๆรอบแลเวว่าอยู่ในความดูแลของครูฝึกและแพทย์)
แล้วอีกอย่างมันก็ถูกแล้วที่เราจะเห็นรูปตอนเค้าออกกำลังกาย ใครจะไปถ่ายรูปตอนเหนื่อยหอบเก็บไว้ 😓😓😓 ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ได้ตั้งใจจะแก้ต่างให้ณเดชหรืออะไรหรอกนะ แต่หลังจากเห็นข่าวและกระทู้ที่เกิดขึ้นนอกจากประเด็นหนีทหาร(ที่ไร้สาระมาก คนเขียนกระทู้และลงข่าวนี่ดูถูกระบบทหารของไทย ดูถูกแพทย์ไทยมากนะ ) อ่านแล้วเกิดความกังวลว่าคนจะเข้าใจผิดๆว่าการมีโรคประจำตัวออกกำลังกายไม่ได้ คำว่ากีฬาหนักๆ คือนิยามแบบไหน????? ขอช่วยตัดสินอย่างไม่มีอคติ รู้จริง ไม่ใช่รู้งูๆปลาๆแล้วเอามาสร้างกระแสใส่ดารา ทำให้คนอื่นๆเข้าใจผิด รวมถึงนักข่าวที่พาดหัวข่าว +เอากระทู้มนพันทิปมาเขียนข่าวแทนที่จะหาข้อมูลโรคมาอ้างอิง หยุดสร้างความเชื่อผิดๆกันซักทีเถอะ แค่ทุกวันนี้คนที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีที่ออกกำลังกายเล่นกีฬาก็มีน้อยมากแล้ว ยิ่งมีข่าวแบบนี้คนที่มีโรคยิ่งกลัวการออกกำลังกายเข้าไปใหญ่.....ในเมื่อเราทำให้โรคที่เป็นอยู่หายขาดไม่ได้ ก็จงเรียนรู้และหาวิธีที่จะอยู่กับมันอย่างเป็นสุข👏👏👏