‘พิธา’ บุกอีสาน รับฟังปัญหา-เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลั่นหากได้เป็นรัฐบาล ปท. ดีกว่านี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_2958360
‘พิธา’ บุกอีสาน รับฟังปัญหา-เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลั่นหากได้เป็นรัฐบาล ปท. ดีกว่านี้
เมื่อวันที่ 25 กันยายน นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนาย
อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและประธาน กมธ.ที่ดินฯ และนาย
ทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมทั้งคณะทำงานพรรค ร่วมเดินทางไปยังพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนมาผลักดันแก้ไขปัญหาให้ต่อไป
โดยในช่วงเช้า หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ร่วมรับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และเลี้ยงปลา ลุ่มน้ำลำปาว ที่บริเวณ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งกุ้งถือเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัด โดยทางผู้ประกอบการสะท้อนปัญหาต้นทุนการผลิตและราคาขาย รวมทั้งปัญหาโควิดระบาดทำให้รวามต้องการบริโภคลดลงเนื่องจากร้านค้าร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้นั่งรับประทานได้ในช่วงก่อนหน้านี้ หรือหากนั่งได้ก็ไม่ได้มีความต้องการบริโภคมากเท่ากับก่อนหน้าที่โควิดระบาด
ในช่วงบ่าย หัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะทำงาน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคก้าวไกล ได้เข้าร่วมวงเสวนา “
Kalasin Wealth & Wellness” ที่ประชาชนและภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ได้ร่วมกันสะท้อนประเด็นปัญหาและความฝันของชาวกาฬสินธุ์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ดิน การเกษตร ผู้สูงอายุ กีฬา การท่องเที่ยว การจัดการขยะ และการศึกษา ฯลฯ
“ใครที่บอกว่า พรรคก้าวไกลไม่เข้าใจคนอีสาน อันนั้นไม่จริงครับ ผมเข้าใจครับว่า การที่ใครจะเป็นนายกฯ จะเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จะต้องชนะใจคนอีสานให้ได้ และนี่คือเหตุผลที่ผมตั้งใจมากาฬสินธุ์เป็นจังหวัดแรกหลังผ่อนคลายมาตรการโควิด แต่เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็ยังจะมาอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปีไหนๆ ก็ตาม นี่คือการเดินทางไกล พวกเราเชื่อว่า แม้ว่าเราอาจจะไม่ชนะในทันที แต่เราจะชนะในที่สุด” นาย
พิธาระบุ
โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวต่อไปว่า แต่ก่อนตนเป็นนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับด้านการซื้อขายผลิตภัณฑ์แปรรูปการเกษตรก็มีการไปมาค้าขายกับที่นี่บ่อยๆ ตนจึงเป็นหนี้บุญคุณคนอีสาน อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เลี้ยงกุ้ง อาหารเลี้ยงสัตว์ ผลผลิตการเกษตรก็เข้าใจทั้งหมด เพราะตนเคยทำมาก่อน และวันนี้ที่มารับฟังปัญหา ก็เพื่อให้ ส.ส.ทีมงาน และว่าที่ผู้สมัครทุกคน นำเรื่องไปขับเคลื่อนแก้ไขต่อ ทั้งในและนอกสภา
หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ในนามพรรคก้าวไกล คือ
ชวลิต กงเพชร เขต 1,
สุพัตตรา วันตุ้ม เขต 2,
สุรักษ์ จุตาทิศ เขต 3 และ
ทองพูล พลพุทธา เขต 4
“สำหรับการคัดเลือกและส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคก้าวไกล เราต้องการผู้สมัครที่รู้เรื่องจริงๆ ตั้งแต่การลงไปดูบ่อกุ้งของประชาชน สามารถแนะนำการแก้ไขปัญหาหน้างานของประชาชนได้ แต่ก็ต้องเป็นคนที่สามารถเข้าไปทำงานในสภา เข้าไปเปิดหนังสืองบประมาณเพื่อดูภาพใหญ่ได้ด้วย นี่คือผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์ ของพรรคก้าวไกลนั้น ประชาชนให้การตอบรับอย่างอบอุ่น มีการขอถ่ายรูปและเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจทีมงานพรรค และว่าที่ผู้สมัครอย่างไม่ขาดสาย พร้อมทั้งให้กำลังใจและขอให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล โดยเชื่อว่าหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ประเทศไทยและภาคอีสานจะดีกว่านี้ได้
ลูกเพิ่งเกิดมา 5 วัน! หนุ่มแปดริ้ว ฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 ดับคาโรงพยาบาล
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6640855
ลูกเพิ่งเกิดมา 5 วัน! หนุ่มแปดริ้ว ฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 ดับคาโรงพยาบาล หลังสลบเป็นเจ้าชายนิทรา 1 เดือน แม่จี้หน่วยงานออกมารับผิดชอบ โอดไร้เสาหลักครอบครัว
25 ก.ย. 2564 – ที่ห้องดับจิต รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของ นาย
อนุรักษ์ กุหลาบศรี อายุ 35 ปี ที่ผู้เสียชีวิตจากการได้รับการฉีดวัคซีนไขว้เข็มจากซิโนแวค มาฉีดซ้ำเข็มที่ 2 ด้วย แอสตร้าเซนเนกา แล้วเสียชีวิต มาขอรับศพ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
นาง
ทองคำ กุหลาบศรี อายุ 59 ปี มารดา เล่าว่า ลูกชายเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ประมาณ 180 ซม. น้ำหนักประมาณ 60 กก. และมีครอบครัวแล้ว มีบุตรกับภรรยา 2 คน คนโตอายุ 11 ขวบ ส่วนคนเล็กเพิ่งคลอดออกมาได้ 5 วัน ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ทั้งที่ลูกคนเล็กยังไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ แต่ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากที่ได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
โดยลูกได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนกา จากทางหน่วยบริการของ รพ.พุทธโสธร ยังที่ภายในจุดบริการฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ วันที่ 19 ส.ค.
หลังได้รับวัคซีนมาช่วง 7 วันแรก ลูกมีอาการปวดหัวมึนงง พูดจาวกไปวนมา 26 ส.ค. และมีอาการเวียนหัวจนถึงขั้นหมดสติ ก่อนถูกนำมาส่งยังที่ รพ.พุทธโสธร และต้องนอนแน่นิ่งเป็นเจ้าชายนิทรามาเป็นเวลานานถึงเกือบ 1 เดือน และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 ก.ย. รวมระยะเวลานอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลนานถึง 30 วัน
ทาง รพ. ได้ทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากทางสำนักงานประกันสังคมไปเป็นเงินจำนวน 511,132.25 บาท แต่ทาง รพ.กลับไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตายที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตรว่า
“สมองอักเสบจากไวรัส”
นาง
ทองคำ กล่าวต่อว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนต่อทางญาติ และมีการช่วยเหลือเยียวยาต่อทางครอบครัวบ้าง เนื่องจากเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว หากขาดเสาหลักของครอบครัวไป หลานๆ อีก 2 คนจะอยู่กันอย่างไร
เตี้ยนหมู่ ซัดลพบุรี น้ำล้นอ่างกุดตาเพชร เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6640858
พายุเตี้ยนหมู่ ซัดต่อเนื่อง ส่งผลให้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ปริมาณน้ำในอ่างกุดตาเพชร เพิ่งสูงขึ้นต้องเร่งระบาย จนเข้าท่วมบ้านเรือน สองฝั่งแม่น้ำลำสนธิ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ลพบุรี อิทธิพลจากพายุ โซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพิ่มมากขึ้นไหลลงจากเทือกเขาพังเหยจ.ชัยภูมิ โดยไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร จ.ลพบุรี ที่รับน้ำได้ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรได้มีประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ทางด้านสองฝั่งแม่น้ำลำสนธิ และคลองลำพญา ซึ่งรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรให้เก็บสิ่งของไว้บนที่สูงและอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากจะต้องเร่งระบายน้ำที่ไหลลงสู่อ่างกุดตาเพชร ลงสู่ท้ายอ่างส่งผลให้ปริมาณน้ำล้นสองฝั่งแม่น้ำลำสนธิและคลองลำพญาได้
ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์พบว่าปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางส่วนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีถนนบางเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
ขณะเดียวกันก็ยังได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนได้เฝ้าฟังประกาศจากทางราชการที่จะได้มีการประสานงานกับทางอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บริเวณ 2 ฝั่งลำน้ำ ได้แก่อ.ลำสนธิ และอ.ชัยบาดาล ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
JJNY : 4in1 ‘พิธา’บุกอีสาน│ลูกเพิ่งเกิด หนุ่มแปดริ้วฉีดไขว้ดับ│เตี้ยนหมู่ซัดลพบุรี│ส.ภัตตาคารเร่งรวมปัญหาเสนอ ศบค.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2958360
‘พิธา’ บุกอีสาน รับฟังปัญหา-เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลั่นหากได้เป็นรัฐบาล ปท. ดีกว่านี้
เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและประธาน กมธ.ที่ดินฯ และนายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมทั้งคณะทำงานพรรค ร่วมเดินทางไปยังพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนมาผลักดันแก้ไขปัญหาให้ต่อไป
โดยในช่วงเช้า หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ร่วมรับฟังปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และเลี้ยงปลา ลุ่มน้ำลำปาว ที่บริเวณ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งกุ้งถือเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัด โดยทางผู้ประกอบการสะท้อนปัญหาต้นทุนการผลิตและราคาขาย รวมทั้งปัญหาโควิดระบาดทำให้รวามต้องการบริโภคลดลงเนื่องจากร้านค้าร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้นั่งรับประทานได้ในช่วงก่อนหน้านี้ หรือหากนั่งได้ก็ไม่ได้มีความต้องการบริโภคมากเท่ากับก่อนหน้าที่โควิดระบาด
ในช่วงบ่าย หัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะทำงาน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคก้าวไกล ได้เข้าร่วมวงเสวนา “Kalasin Wealth & Wellness” ที่ประชาชนและภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ได้ร่วมกันสะท้อนประเด็นปัญหาและความฝันของชาวกาฬสินธุ์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ดิน การเกษตร ผู้สูงอายุ กีฬา การท่องเที่ยว การจัดการขยะ และการศึกษา ฯลฯ
“ใครที่บอกว่า พรรคก้าวไกลไม่เข้าใจคนอีสาน อันนั้นไม่จริงครับ ผมเข้าใจครับว่า การที่ใครจะเป็นนายกฯ จะเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จะต้องชนะใจคนอีสานให้ได้ และนี่คือเหตุผลที่ผมตั้งใจมากาฬสินธุ์เป็นจังหวัดแรกหลังผ่อนคลายมาตรการโควิด แต่เมื่อเลือกตั้งเสร็จก็ยังจะมาอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปีไหนๆ ก็ตาม นี่คือการเดินทางไกล พวกเราเชื่อว่า แม้ว่าเราอาจจะไม่ชนะในทันที แต่เราจะชนะในที่สุด” นายพิธาระบุ
โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวต่อไปว่า แต่ก่อนตนเป็นนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับด้านการซื้อขายผลิตภัณฑ์แปรรูปการเกษตรก็มีการไปมาค้าขายกับที่นี่บ่อยๆ ตนจึงเป็นหนี้บุญคุณคนอีสาน อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เลี้ยงกุ้ง อาหารเลี้ยงสัตว์ ผลผลิตการเกษตรก็เข้าใจทั้งหมด เพราะตนเคยทำมาก่อน และวันนี้ที่มารับฟังปัญหา ก็เพื่อให้ ส.ส.ทีมงาน และว่าที่ผู้สมัครทุกคน นำเรื่องไปขับเคลื่อนแก้ไขต่อ ทั้งในและนอกสภา
หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ในนามพรรคก้าวไกล คือ ชวลิต กงเพชร เขต 1, สุพัตตรา วันตุ้ม เขต 2, สุรักษ์ จุตาทิศ เขต 3 และทองพูล พลพุทธา เขต 4
“สำหรับการคัดเลือกและส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคก้าวไกล เราต้องการผู้สมัครที่รู้เรื่องจริงๆ ตั้งแต่การลงไปดูบ่อกุ้งของประชาชน สามารถแนะนำการแก้ไขปัญหาหน้างานของประชาชนได้ แต่ก็ต้องเป็นคนที่สามารถเข้าไปทำงานในสภา เข้าไปเปิดหนังสืองบประมาณเพื่อดูภาพใหญ่ได้ด้วย นี่คือผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์ ของพรรคก้าวไกลนั้น ประชาชนให้การตอบรับอย่างอบอุ่น มีการขอถ่ายรูปและเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจทีมงานพรรค และว่าที่ผู้สมัครอย่างไม่ขาดสาย พร้อมทั้งให้กำลังใจและขอให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล โดยเชื่อว่าหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ประเทศไทยและภาคอีสานจะดีกว่านี้ได้
ลูกเพิ่งเกิดมา 5 วัน! หนุ่มแปดริ้ว ฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 ดับคาโรงพยาบาล
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6640855
ลูกเพิ่งเกิดมา 5 วัน! หนุ่มแปดริ้ว ฉีดวัคซีนไขว้เข็ม 2 ดับคาโรงพยาบาล หลังสลบเป็นเจ้าชายนิทรา 1 เดือน แม่จี้หน่วยงานออกมารับผิดชอบ โอดไร้เสาหลักครอบครัว
25 ก.ย. 2564 – ที่ห้องดับจิต รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของ นายอนุรักษ์ กุหลาบศรี อายุ 35 ปี ที่ผู้เสียชีวิตจากการได้รับการฉีดวัคซีนไขว้เข็มจากซิโนแวค มาฉีดซ้ำเข็มที่ 2 ด้วย แอสตร้าเซนเนกา แล้วเสียชีวิต มาขอรับศพ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
นางทองคำ กุหลาบศรี อายุ 59 ปี มารดา เล่าว่า ลูกชายเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ประมาณ 180 ซม. น้ำหนักประมาณ 60 กก. และมีครอบครัวแล้ว มีบุตรกับภรรยา 2 คน คนโตอายุ 11 ขวบ ส่วนคนเล็กเพิ่งคลอดออกมาได้ 5 วัน ก่อนที่ลูกจะเสียชีวิต ทั้งที่ลูกคนเล็กยังไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ แต่ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากที่ได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
โดยลูกได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนกา จากทางหน่วยบริการของ รพ.พุทธโสธร ยังที่ภายในจุดบริการฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ วันที่ 19 ส.ค.
หลังได้รับวัคซีนมาช่วง 7 วันแรก ลูกมีอาการปวดหัวมึนงง พูดจาวกไปวนมา 26 ส.ค. และมีอาการเวียนหัวจนถึงขั้นหมดสติ ก่อนถูกนำมาส่งยังที่ รพ.พุทธโสธร และต้องนอนแน่นิ่งเป็นเจ้าชายนิทรามาเป็นเวลานานถึงเกือบ 1 เดือน และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 ก.ย. รวมระยะเวลานอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลนานถึง 30 วัน
ทาง รพ. ได้ทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากทางสำนักงานประกันสังคมไปเป็นเงินจำนวน 511,132.25 บาท แต่ทาง รพ.กลับไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตายที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตรว่า “สมองอักเสบจากไวรัส”
นางทองคำ กล่าวต่อว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนต่อทางญาติ และมีการช่วยเหลือเยียวยาต่อทางครอบครัวบ้าง เนื่องจากเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว หากขาดเสาหลักของครอบครัวไป หลานๆ อีก 2 คนจะอยู่กันอย่างไร
เตี้ยนหมู่ ซัดลพบุรี น้ำล้นอ่างกุดตาเพชร เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6640858
พายุเตี้ยนหมู่ ซัดต่อเนื่อง ส่งผลให้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ปริมาณน้ำในอ่างกุดตาเพชร เพิ่งสูงขึ้นต้องเร่งระบาย จนเข้าท่วมบ้านเรือน สองฝั่งแม่น้ำลำสนธิ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ลพบุรี อิทธิพลจากพายุ โซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพิ่มมากขึ้นไหลลงจากเทือกเขาพังเหยจ.ชัยภูมิ โดยไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร จ.ลพบุรี ที่รับน้ำได้ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรได้มีประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ทางด้านสองฝั่งแม่น้ำลำสนธิ และคลองลำพญา ซึ่งรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรให้เก็บสิ่งของไว้บนที่สูงและอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากจะต้องเร่งระบายน้ำที่ไหลลงสู่อ่างกุดตาเพชร ลงสู่ท้ายอ่างส่งผลให้ปริมาณน้ำล้นสองฝั่งแม่น้ำลำสนธิและคลองลำพญาได้
ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์พบว่าปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางส่วนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีถนนบางเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
ขณะเดียวกันก็ยังได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนได้เฝ้าฟังประกาศจากทางราชการที่จะได้มีการประสานงานกับทางอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บริเวณ 2 ฝั่งลำน้ำ ได้แก่อ.ลำสนธิ และอ.ชัยบาดาล ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด