เรารู้สึกผิดต่อครอบครัวมาก ที่ผ่านมา เราส่งแต่เงิน ไม่ค่อยมีเวลาให้ยายผู้ที่เรารักที่สุดในชีวิตเลย
เราให้ท่านไม่มาก เราตั้งใจจะเก็บเงินปรับปรุงบ้านให้ยายอยู่สบายมากขึ้น เป็นบ้านน่ารักๆ มากขึ้น เราจ่ายทุกอย่างในบ้านยาย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ยายมีกัน 3 ชีวิต
เราเพิ่งมาทราบว่า เมื่อไม่นานมานี้ว่า ยายแท้เราใช้ชีวิตเหมือนอยากตลอดเวลา กินขนม กินเยอะ กินทั้งวัน กินกาเเฟ กินไอติม ไม่ยอมกินยา ซึ่งเเกเป็นโรคหัวใจ ไตเรื้อรังฟอกสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งเราจ่ายหมด 7 ปีที่แล้ว แม่หนีไปแต่งงานใหม่ ทอดทิ้งยาย ไม่เคยกระเด็นสักบาท ตอนนั้นเราอายุ 22 เรารับหน้าที่เเทน จ่ายค่าทำเส้นครั้งเเรก ประมาณ 3 แสนกว่า และค่าอื่นๆ ที่ทางบ้านพ่อ ช่วยเราอีกประมาณเเสนกว่า เราหมอเปลืองกับยายคนนี้ไป 7 ปีแล้ว ส่งฟอกไตด้วยเครื่อง หมดเดือนละ 10,000 ได้ เราลำบากมาก เพื่อชุบชีวิตยายคนนี้ ตอนนั้นเรารักยายเเหละค่ะ เราเลยทำ และเราไม่ได้คลุกคลี ส่งเงินอย่างเดียว เราเลยไม่รู้พฤติกรรม
แต่ยายอีกท่านที่เรารักสุดหัวใจ ซึ่งเป็นน้องสาวยาย ได้เท่าน้องสาวยายอีกคน เดือนละคนละ 1,500-3,000 เอง ซึ่งน้อยมากๆ เราอดทนทำด้วยตัวเราเองจนปี 62 เราไม่มีเวลาให้ยายเลย เพราะเราทำงานต่างจังหวัดสลับกับทำกรุงเทพ ช่วงมากรุงเทพ เราค้างบ้านย่ากับพ่อตลอด แทบไม่ไปค้างบ้านยายเลย แต่โทรหาทุกวันนะคะ ยายคนที่เรารักชอบปวดหู เราเลยคุยกับยายท่านอื่นเเทน
พอปลายปี 62 เหมือนพรจากสวรรค์ ตอนนั้นเราคิดว่า คงเป็นบุญกุศลที่เราทำมา เราได้เเฟนที่ดีมากๆ เป็นคนดีอย่างที่สุด ดีเหมือนคุณตา (ไม่เเท้ซึ่งเสียไปแล้วของเราเลย) เราก็รักกันมาก เราใช้รถขับรับส่งเเฟน (ผู้หญิง) อายุห่าง 14 ปี เพราะงานเราไม่ใช้เวลาทำมาก ซื้อของไปฝากยายบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่นาน
ปี 63 เราไปหายายมากขึ้น นอนเล่น ช่วงโควิด เราไปรับส่งยายเเท้ เราจะเจอยายที่เรารักเเว๊บๆ แล้วซื้ออาหารให้ท่าน แต่ท่านกินน้อยกว่ายายแท้ คือเราตาบอด เราทุ่มเทผิดคน ยายเเท้เป็นคนไม่ดีเลย ยายที่เรารักเสียสละทุกอย่าง และเราไม่รู้เรื่องนี้ เราเสียดายวันเวลาที่เรามีโอกาส พายายไปเที่ยว พายายนั่งรถ พายายไปทะเล ไหว้พระ เที่ยวห้าง เราไปคลุกกับเเฟน เราโทรสั่งอาหารให้ทุกวัน นอกเหนือจากเงินที่เราส่ง เราทำประกันโควิดให้ทั้ง 2 ปี ทำให้ทุกคน เรากังวลเรื่องโควิดมาก เพราะยายๆ มีโรคประจำตัวโหดๆ
ช่วงโควิดเรากังวลมากไป กลัวไปนั่นมานี่จะไปรับเชื้อมา และตัวเราก็ไม่กล้านอนกับยายด้วย เพราะกลัวมีเชื้อแล้วไปเเพร่ยาย 6 เดือนก่อนยายเสีย เราพายายเข้าออก รพ. อยู่เป็นเพื่อนยายตลอด สัปดาห์ละ 3-5 วัน และเราก็ทรมานมากเวลายายนอน รพ.เรากลัวยายเป็นอะไรไป และยายก็จากเราไป โดยที่เรายังทำให้ท่านไม่สมกับความรักที่เรามี เรารู้สึกผิด คิดถึง ทรมาน ตอนนี้เราทำได้แค่ทำบุญให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ
แต่มันไม่สามารถลบความผิดพลาดไปจากใจเราได้ ระหว่างวันเราร้องไห้ ก่อนนอนเราร้องไห้ กลางดึกเราก็ร้องไห้ ตื่นมาเราก็ร้องไห้ ทุกคนพยายามบอกเราว่า เราทำดีที่สุดแล้ว แต่เราไม่คิดแบบนั้น เราทำได้มากกว่านี้มากๆ แต่เราละเลยยายไป เรามันโง่เอง ย่าเรา 85 เราเลยไปทางย่ามากกว่า ยายเราเเค่ 73 เราคิดว่าท่านอยู่อีกนาน เรามันโง่ๆ โง่ที่สุด
สิ่งที่เราผิดพลาดคือ
- เราให้เงินยายน้อยไป น้อยกว่าคนที่เราไม่รักเพื่อรักษาชีวิตเป็น 10 เท่า เรามักจะจินตนาการว่า ถ้าเราให้เงินยายเดือนละ 3,000 มา 7 ปี ยายเราคงมีความสุขมากๆ และเราจะไม่รู้สึกผิดแบบนี้
- ปี 62-63 เรามีเวลาแต่เราเอาเวลาไปอยู่ฟิตเนส ไปทำงาน ไปอยู่กับเเฟนมากกว่าครอบครัว เราเเย่มากๆ เราเห็นเเก่ตัวมาก
- ถ้าเราพายายไปเที่ยวบ่อยๆ อย่างต่ำเดือนละครั้ง ยายคงมีความสุขมาก แล้วเราก็นั่งสร้างภาพในหัว พอนึกได้เราก็ร้องไห้
- ถ้าเราเอายายมาอยู่บ้านเดียวกับย่า เราคงมีความสุขมาก ได้ดูแลเรื่องยา กับเรื่องอาหาร เราเห็นเเก่ตัว ยายเลยเสียเพราะเรา เพราะเราดูแลท่านไม่ดี เราทำให้ท่านจากเราไป แล้วเราก็หยิกๆ ตัวเอง ให้มันเจ็บกว่าใจที่เจ็บอยู่ตอนนี้
- เราทิ้งเวลาที่เราควรจะได้เรา เพราะยายรักเรามาก ยายพูดกับเราตั้งแต่เล็กจนโตว่า ยายรักน้องเล็ก น้องเล็กของยาย ยายคิดถึงน้องเล็ก ยายมีอะไรยายจะให้น้องเล็กหมดเลย
- ยายอยากไหว้พระ เราพาไปแค่หลวงพ่อโสธร ก่อนยายเป็นสโตก เราไม่เคยพายายไปไหว้พระ ไม่เคยพาไปหาหมอ ส่งเงินๆ อย่างเดียว เพราะพาไปทีไร ยายชอบกินขนมที่เบาหวานห้าม ยายก็ไม่ชอบไปกับเรา เราก็ส่งเงินให้ เรียกรถให้ เรามันโง่มากๆ เวลายายนอน รพ.เราไปทุกวัน อยู่ตั้งแต่เที่ยงถึง 6 โมง ห้ามยายกินขนม
- 6 เดือน รักษาทั้งโรคหัวใจ พาทำบอลลูน พาผ่าลำไส้ เราผ่านอะไรด้วยกันมามาก เราสู้ไปด้วยกัน และไม่มีวี่เเววว่ายายจะจากไปเร็วแบบนี้
- เรามันโง่ที่น่าจะพายายเที่ยวทุกที่ ระหว่างยายรักษาหัวใจก่อนผ่าตัด ให้กำลังใจยาย เช็ดอึให้ยายเวลายายท้องเสีย
- เรามันโง่ที่ให้ยายไปอยู่กับพี่สาว 1 เดือนก่อน่า เขาไม่ดูเรื่องยากับอาหาร เราไม่ได้ไปเยี่ยม แต่ถามป้าอีก 2 คนที่ดูแลยายอยู่ บ้านน่ารัก อากาศดีมาก อยู่ต่างจังหวัด ไป 4 ชม.กลับ 4 ชม. น้ำมันเป็นพัน และเเฟนขับคนเดียว แต่เเฟนก็รักยายเรา เท่าๆ เรา เราผิดเองที่ไม่ไปนอนกับยาย ไปเยี่ยมยายที่บ้านพี่สาวยาย เพราะเราต้องข้ามจังหวัดมาส่งยายเเท้ฟอก สัปดาห์ละ 3 วัน พาฉีดวัคซีน พาหาหมอนั่นนี่
- เราอยากย้อนเวลาไป เราควรไปนอนกับยาย 1 เดือนอันมีค่ามันควรเป็นของเรา แต่เรามันโง่ มันเห็นเเก่ตัว โยนโอกาสตรงนั้นทิ้งไป พอยายกลับมา ยายก็อาการไม่ค่อยดี แต่คุยเก่ง พูดว่าคิดถึงเรา รักเรามากๆ เหมือนพยายามโยกย้ามสมบัติยายมาให้เรา แต่เราไม่ชอบมันเหมือนลาง เราไม่ต้องการอะไร นอกจากอยากให้ยายอยู่กับเราไปนานๆ
- วันไปส่งยายนอน รพ. เราไปบริจาคเลือด อุทิศกุศลให้ยาย กอดยาย บอกยายว่า เยี่ยมไม่ได้น้า เดี๋ยวพอยายเเข็งแรงเขาจะโทรให้หนูมารับ บ้ายบาย ยายบอกบ้ายบาย จุ๊บๆๆๆๆ ยายรักน้องเล็ก และนั่นเป็นคำสุดท้ายที่เราได้พูดกับยาย
- เราทรมานมาก ทำไมเราไม่เอามือถือให้พยายามวิดีโอคลอกับยาย ทำไมเราไม่ถามอาการ ยายบอกกับหมอว่า ยายสบายดีย์ ไม่เจ็บเเผลเลยค่ะ เเละเราก็เสียยายไป ยายปลุกไม่ตื่น เหมือนตอนที่เคยปลุกไม่ตื่นครั้งนึง ยายสโตรกดีที่เราพายายส่ง รพ.ทัน แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว
- ความรู้สึกผิดเกาะกินจิตใจมา เกือบ 50 วัน พยายามไม่ร้องไห้ พยายามไม่ให้ใจเป็นอกุศล พยายามไม่ให้ยายห่วง แต่มันไม่ได้ มันไม่ได้เลย มันยากมาก เราเหมือนโรคจิตนั่งคิดว่าถ้าเราทำแบบนั้นแบบนี้ ยายจะมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้
ขอโทษมากๆ ที่ยาวมาก คงไม่มีใครอ่านหรอก ทำให้คนที่ยังอยู่มันก็ทนเเทนยายไม่ได้ เพราะเราอยากทำให้ยาย ผลลัพธ์มันไม่ได้กับยายคนที่เราต้องการทำให้
หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์นะคะ ถ้าศักยภาพจำกัด ให้เลือกคนที่เรารักมาก ชีวิตไม่เเน่นอน เราจากกันได้ทุกเมื่อ ทุกวินาที รักเเละดูแลคนที่เรารักที่สุดให้มากที่สุดนะคะ เรามันเห็นเเก่ตัวเอง สมน้ำหน้าแล้วที่ต้องเสียใจอยู่บ้านนี้
ขอโทษที่เพ้อเจ้อ และพิมพ์ยาว ถ้าไม่ชอบข้ามไปอย่าพิมพ์ว่ากันเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
รู้สึกผิดมากที่ไม่มีเวลาให้คนที่เรารัก ถ้าเราไปพบจิตเเพทย์ เราจะดีขึ้นไหมคะ?
เราให้ท่านไม่มาก เราตั้งใจจะเก็บเงินปรับปรุงบ้านให้ยายอยู่สบายมากขึ้น เป็นบ้านน่ารักๆ มากขึ้น เราจ่ายทุกอย่างในบ้านยาย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ยายมีกัน 3 ชีวิต
เราเพิ่งมาทราบว่า เมื่อไม่นานมานี้ว่า ยายแท้เราใช้ชีวิตเหมือนอยากตลอดเวลา กินขนม กินเยอะ กินทั้งวัน กินกาเเฟ กินไอติม ไม่ยอมกินยา ซึ่งเเกเป็นโรคหัวใจ ไตเรื้อรังฟอกสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งเราจ่ายหมด 7 ปีที่แล้ว แม่หนีไปแต่งงานใหม่ ทอดทิ้งยาย ไม่เคยกระเด็นสักบาท ตอนนั้นเราอายุ 22 เรารับหน้าที่เเทน จ่ายค่าทำเส้นครั้งเเรก ประมาณ 3 แสนกว่า และค่าอื่นๆ ที่ทางบ้านพ่อ ช่วยเราอีกประมาณเเสนกว่า เราหมอเปลืองกับยายคนนี้ไป 7 ปีแล้ว ส่งฟอกไตด้วยเครื่อง หมดเดือนละ 10,000 ได้ เราลำบากมาก เพื่อชุบชีวิตยายคนนี้ ตอนนั้นเรารักยายเเหละค่ะ เราเลยทำ และเราไม่ได้คลุกคลี ส่งเงินอย่างเดียว เราเลยไม่รู้พฤติกรรม
แต่ยายอีกท่านที่เรารักสุดหัวใจ ซึ่งเป็นน้องสาวยาย ได้เท่าน้องสาวยายอีกคน เดือนละคนละ 1,500-3,000 เอง ซึ่งน้อยมากๆ เราอดทนทำด้วยตัวเราเองจนปี 62 เราไม่มีเวลาให้ยายเลย เพราะเราทำงานต่างจังหวัดสลับกับทำกรุงเทพ ช่วงมากรุงเทพ เราค้างบ้านย่ากับพ่อตลอด แทบไม่ไปค้างบ้านยายเลย แต่โทรหาทุกวันนะคะ ยายคนที่เรารักชอบปวดหู เราเลยคุยกับยายท่านอื่นเเทน
พอปลายปี 62 เหมือนพรจากสวรรค์ ตอนนั้นเราคิดว่า คงเป็นบุญกุศลที่เราทำมา เราได้เเฟนที่ดีมากๆ เป็นคนดีอย่างที่สุด ดีเหมือนคุณตา (ไม่เเท้ซึ่งเสียไปแล้วของเราเลย) เราก็รักกันมาก เราใช้รถขับรับส่งเเฟน (ผู้หญิง) อายุห่าง 14 ปี เพราะงานเราไม่ใช้เวลาทำมาก ซื้อของไปฝากยายบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่นาน
ปี 63 เราไปหายายมากขึ้น นอนเล่น ช่วงโควิด เราไปรับส่งยายเเท้ เราจะเจอยายที่เรารักเเว๊บๆ แล้วซื้ออาหารให้ท่าน แต่ท่านกินน้อยกว่ายายแท้ คือเราตาบอด เราทุ่มเทผิดคน ยายเเท้เป็นคนไม่ดีเลย ยายที่เรารักเสียสละทุกอย่าง และเราไม่รู้เรื่องนี้ เราเสียดายวันเวลาที่เรามีโอกาส พายายไปเที่ยว พายายนั่งรถ พายายไปทะเล ไหว้พระ เที่ยวห้าง เราไปคลุกกับเเฟน เราโทรสั่งอาหารให้ทุกวัน นอกเหนือจากเงินที่เราส่ง เราทำประกันโควิดให้ทั้ง 2 ปี ทำให้ทุกคน เรากังวลเรื่องโควิดมาก เพราะยายๆ มีโรคประจำตัวโหดๆ
ช่วงโควิดเรากังวลมากไป กลัวไปนั่นมานี่จะไปรับเชื้อมา และตัวเราก็ไม่กล้านอนกับยายด้วย เพราะกลัวมีเชื้อแล้วไปเเพร่ยาย 6 เดือนก่อนยายเสีย เราพายายเข้าออก รพ. อยู่เป็นเพื่อนยายตลอด สัปดาห์ละ 3-5 วัน และเราก็ทรมานมากเวลายายนอน รพ.เรากลัวยายเป็นอะไรไป และยายก็จากเราไป โดยที่เรายังทำให้ท่านไม่สมกับความรักที่เรามี เรารู้สึกผิด คิดถึง ทรมาน ตอนนี้เราทำได้แค่ทำบุญให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ
แต่มันไม่สามารถลบความผิดพลาดไปจากใจเราได้ ระหว่างวันเราร้องไห้ ก่อนนอนเราร้องไห้ กลางดึกเราก็ร้องไห้ ตื่นมาเราก็ร้องไห้ ทุกคนพยายามบอกเราว่า เราทำดีที่สุดแล้ว แต่เราไม่คิดแบบนั้น เราทำได้มากกว่านี้มากๆ แต่เราละเลยยายไป เรามันโง่เอง ย่าเรา 85 เราเลยไปทางย่ามากกว่า ยายเราเเค่ 73 เราคิดว่าท่านอยู่อีกนาน เรามันโง่ๆ โง่ที่สุด
สิ่งที่เราผิดพลาดคือ
- เราให้เงินยายน้อยไป น้อยกว่าคนที่เราไม่รักเพื่อรักษาชีวิตเป็น 10 เท่า เรามักจะจินตนาการว่า ถ้าเราให้เงินยายเดือนละ 3,000 มา 7 ปี ยายเราคงมีความสุขมากๆ และเราจะไม่รู้สึกผิดแบบนี้
- ปี 62-63 เรามีเวลาแต่เราเอาเวลาไปอยู่ฟิตเนส ไปทำงาน ไปอยู่กับเเฟนมากกว่าครอบครัว เราเเย่มากๆ เราเห็นเเก่ตัวมาก
- ถ้าเราพายายไปเที่ยวบ่อยๆ อย่างต่ำเดือนละครั้ง ยายคงมีความสุขมาก แล้วเราก็นั่งสร้างภาพในหัว พอนึกได้เราก็ร้องไห้
- ถ้าเราเอายายมาอยู่บ้านเดียวกับย่า เราคงมีความสุขมาก ได้ดูแลเรื่องยา กับเรื่องอาหาร เราเห็นเเก่ตัว ยายเลยเสียเพราะเรา เพราะเราดูแลท่านไม่ดี เราทำให้ท่านจากเราไป แล้วเราก็หยิกๆ ตัวเอง ให้มันเจ็บกว่าใจที่เจ็บอยู่ตอนนี้
- เราทิ้งเวลาที่เราควรจะได้เรา เพราะยายรักเรามาก ยายพูดกับเราตั้งแต่เล็กจนโตว่า ยายรักน้องเล็ก น้องเล็กของยาย ยายคิดถึงน้องเล็ก ยายมีอะไรยายจะให้น้องเล็กหมดเลย
- ยายอยากไหว้พระ เราพาไปแค่หลวงพ่อโสธร ก่อนยายเป็นสโตก เราไม่เคยพายายไปไหว้พระ ไม่เคยพาไปหาหมอ ส่งเงินๆ อย่างเดียว เพราะพาไปทีไร ยายชอบกินขนมที่เบาหวานห้าม ยายก็ไม่ชอบไปกับเรา เราก็ส่งเงินให้ เรียกรถให้ เรามันโง่มากๆ เวลายายนอน รพ.เราไปทุกวัน อยู่ตั้งแต่เที่ยงถึง 6 โมง ห้ามยายกินขนม
- 6 เดือน รักษาทั้งโรคหัวใจ พาทำบอลลูน พาผ่าลำไส้ เราผ่านอะไรด้วยกันมามาก เราสู้ไปด้วยกัน และไม่มีวี่เเววว่ายายจะจากไปเร็วแบบนี้
- เรามันโง่ที่น่าจะพายายเที่ยวทุกที่ ระหว่างยายรักษาหัวใจก่อนผ่าตัด ให้กำลังใจยาย เช็ดอึให้ยายเวลายายท้องเสีย
- เรามันโง่ที่ให้ยายไปอยู่กับพี่สาว 1 เดือนก่อน่า เขาไม่ดูเรื่องยากับอาหาร เราไม่ได้ไปเยี่ยม แต่ถามป้าอีก 2 คนที่ดูแลยายอยู่ บ้านน่ารัก อากาศดีมาก อยู่ต่างจังหวัด ไป 4 ชม.กลับ 4 ชม. น้ำมันเป็นพัน และเเฟนขับคนเดียว แต่เเฟนก็รักยายเรา เท่าๆ เรา เราผิดเองที่ไม่ไปนอนกับยาย ไปเยี่ยมยายที่บ้านพี่สาวยาย เพราะเราต้องข้ามจังหวัดมาส่งยายเเท้ฟอก สัปดาห์ละ 3 วัน พาฉีดวัคซีน พาหาหมอนั่นนี่
- เราอยากย้อนเวลาไป เราควรไปนอนกับยาย 1 เดือนอันมีค่ามันควรเป็นของเรา แต่เรามันโง่ มันเห็นเเก่ตัว โยนโอกาสตรงนั้นทิ้งไป พอยายกลับมา ยายก็อาการไม่ค่อยดี แต่คุยเก่ง พูดว่าคิดถึงเรา รักเรามากๆ เหมือนพยายามโยกย้ามสมบัติยายมาให้เรา แต่เราไม่ชอบมันเหมือนลาง เราไม่ต้องการอะไร นอกจากอยากให้ยายอยู่กับเราไปนานๆ
- วันไปส่งยายนอน รพ. เราไปบริจาคเลือด อุทิศกุศลให้ยาย กอดยาย บอกยายว่า เยี่ยมไม่ได้น้า เดี๋ยวพอยายเเข็งแรงเขาจะโทรให้หนูมารับ บ้ายบาย ยายบอกบ้ายบาย จุ๊บๆๆๆๆ ยายรักน้องเล็ก และนั่นเป็นคำสุดท้ายที่เราได้พูดกับยาย
- เราทรมานมาก ทำไมเราไม่เอามือถือให้พยายามวิดีโอคลอกับยาย ทำไมเราไม่ถามอาการ ยายบอกกับหมอว่า ยายสบายดีย์ ไม่เจ็บเเผลเลยค่ะ เเละเราก็เสียยายไป ยายปลุกไม่ตื่น เหมือนตอนที่เคยปลุกไม่ตื่นครั้งนึง ยายสโตรกดีที่เราพายายส่ง รพ.ทัน แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว
- ความรู้สึกผิดเกาะกินจิตใจมา เกือบ 50 วัน พยายามไม่ร้องไห้ พยายามไม่ให้ใจเป็นอกุศล พยายามไม่ให้ยายห่วง แต่มันไม่ได้ มันไม่ได้เลย มันยากมาก เราเหมือนโรคจิตนั่งคิดว่าถ้าเราทำแบบนั้นแบบนี้ ยายจะมีความสุขอย่างนั้นอย่างนี้
ขอโทษมากๆ ที่ยาวมาก คงไม่มีใครอ่านหรอก ทำให้คนที่ยังอยู่มันก็ทนเเทนยายไม่ได้ เพราะเราอยากทำให้ยาย ผลลัพธ์มันไม่ได้กับยายคนที่เราต้องการทำให้
หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์นะคะ ถ้าศักยภาพจำกัด ให้เลือกคนที่เรารักมาก ชีวิตไม่เเน่นอน เราจากกันได้ทุกเมื่อ ทุกวินาที รักเเละดูแลคนที่เรารักที่สุดให้มากที่สุดนะคะ เรามันเห็นเเก่ตัวเอง สมน้ำหน้าแล้วที่ต้องเสียใจอยู่บ้านนี้
ขอโทษที่เพ้อเจ้อ และพิมพ์ยาว ถ้าไม่ชอบข้ามไปอย่าพิมพ์ว่ากันเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ