อาการแบบนี้เรียกว่าวิตกกังวลหรือซึมเศร้า

ขอเกริ่นเลยว่าตั้งแต่เล็กจนโตจนอายุ 21 ปีอยู่กับครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่มีพ่อแม่มีพี่ 2 คนย่าแล้วก็อา อายุประมาณ 10 ขวบพ่อแม่แยกทางกันตอนแรกเราอยู่กับฝ่ายพ่อไปอยู่ต่างจังหวัด 2 ปีกับย่าแล้วก็ย้ายมาอยู่กับแม่พออายุประมาณ 16-17กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการระแวง พ่อเลี้ยงลวนลามจับขาอ่อนเราแต่แค่ครั้งเดียวเพราะเราตกใจมากแล้วก็ตะหวาดใส่เขาจนเขาเดินออกไป เราบอกคนในบ้าน ตอนแรกคนในบ้านก็ตกใจว่าทำไมพ่อเลี้ยงดูเป็นคนดีแต่ทำไมเขานิสัยแบบนี้พอบอกแม่แม่ก็โมโหโกรธพ่อเลี้ยงมากแม่อาละวาดปาข้าวของแต่ก็นั่นแหละแม่ก็ไม่ได้ไล่พ่อเลี้ยงออกไป ตั้งแต่นั้นมาเราก็อยู่ห่างและระวังพ่อเลี้ยงตลอด เราจะอยู่กับอาที่เป็นน้องสาวของพ่อเพราะพ่อแม่เลิกกันแต่อากับลูกของเขาก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับแม่เรา เราก็ยังดีที่ยังมีครอบครัวอาแล้วก็มีย่ามีพี่ชายพี่สาวที่อยู่กับเราจนถึงอายุ 21 ปีหลังจากมีโควิดอาและย่าเราก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดถาวรแล้วเราก็อยู่กับแม่พ่อเลี้ยงและพี่ชาย แต่จะอยู่คนละห้องแต่เราก็มีแฟนนะ เราเป็นคนที่อยู่กับแฟนเพราะเราเหมือนบูชาความรักเลย เพราะแม่และพี่ชายเป็นคนที่ไม่เคยแสดงความรักให้กันตั้งแต่เด็ก แม่และพี่ชอบใช้คำพูดที่แรงและทำร้ายจิตใจเราอยู่เสมอ แม่เราด่าพี่ชายจนพี่ชายทนไม่ไหว จนต้องย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น แล้วทีนี้ก็จะเหลือแค่แม่พ่อเลี้ยงและเรา แล้วก็มีแฟนของเราที่ไปๆมาๆ แต่จะอยู่บ้านเรามากกว่าเพราะแฟนเรารู้ว่าเราอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้เราเป็นคนขี้กลัว ระแวงไปหมด แต่ก็นะ โชคชะตามันเล่นตลก...อายุ21 แฟนเราต้องเกณฑ์ทหารแน่นอนว่าจับได้ใบแดง... เราร้องไห้แทบตาย เพราะกลัวว่าเขาไม่อยู่ เราจะทำไง แม่อยู่กับเราด่าเราทุกวัน เป็นคนที่อะไรนิดหน่อยจะขี้หงุดหงิด หรือเป็นอะไรมาก็จะมาลงที่เราหรือไม่ก็แฟนของเขา เราตัวอยู่กับแฟนมา2ปี ไม่เคยห่างกันได้นาน ไหนจะอาและพี่ก็ไม่อยู่ ซึ่งอาการแย่ๆก็เริ่มเกิดขึ้น เราอยู่คนเดียวไม่ได้ เพื่อนเราก็ไม่มี เพราะเป็นคนเพื่อนน้อยมากกกเพราะเรียนรร.เล็กในห้องมีเรียนกัน5คน รวมเรา พอเราเจอไรงี้แน่นอนว่าเราไม่เคยได้เจอกันเลย เพราะต่างคนต่างเรียนไกลกันคนละที่ นัดกันก็ยาก หรือเพราะเราก็ไม่ใช่เพื่อนแท้ หรือจะพูดง่ายๆว่าเราไม่มีเพื่อนจริงๆเลยสักคน เริ่มอยู่คนเดียว อาการต่างๆก็เริ่มมา แต่มันพึ่งมาหนักตอนอายุ22 เดือนเมษาปี21 เราเริ่มเจ็บแปล๊บที่น่าอก เจ็บแล้วก็หายๆ เป็นๆหายๆ แล้วทีนี้แฟนเราได้ลากลับบ้านจากทหาร กลับได้ไม่นาน โดนล็อกดาวน์จนกว่าโควิดจะซาลง ซึ่งไม่มีวี่แวว จนตอนนี้5เดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ได้แต่โทรคุย ในระหว่าง5เดือนนี้ อาการเราก็แบบเจ็บน่าอกอีกแล้ว หายใจไม่อิ่ม หายใจแบบเหนื่อย มีช่วงหนึ่งหายใจเข้าแล้วเจ็บ เลยไปหาหมอเพราะกลัวว่าเป็นอะไร พอไปตรวจปอด ตรวจคลื่นหัวใจ หมอบอกเป็นเยื่อหุ้มปอดอักเสบเดียวก็หาย แต่เรากินยามา3อาทิตหมดเกือบหมื่นก็ไม่หาย หมอมาสันนิษฐานให้เรากลัวบอกว่าเราตรวจหาโรคsleไหม (โรคพุ่มพวง) แต่เราก็ยังไม่ได้ตรวจเพราะเราไม่มีเงิน แม่เราก็เป็นคนงกเงินมาก เราป่วยไม่เคยได้ไปหาหมอ มีแต่ซื้อยามากิน แต่ถ้ากับหมาพาไปตลอด อ่ะต่อๆ เราก็เลยจะไปตรวจรพ.รัฐ พอไปซึ่งหมอไม่รับตรวจเลย บอกว่าต้องรอให้เป็นอาการเยอะถึงจะตรวจโอเคนัมเบอร์วันมั้ยล่ะ เราก็เครียด พอมีอาการแบบเจ็บน่าอก ปวดพวกสะบักหลัง เราก็เครียด หายใจไม่อิ่มหายใจถี่หายใจแล้วเหนื่อยอ่ะ พอเรารู้ว่าอาการเราแย่ ครส.เราคือมันท้อ ข้างในมันร้องไห้ตลอดเวลา ตอนนี้เราพิมพ์ไปก็รู้สึกแย่มาก มันไม่มีใครอยู่ข้างเราเลย คนเป็นแม่เราไปบอกว่าเราเป็นแบบนี้นะ อาการแบบนี้บอกให้เราตายๆไปจะได้จบๆ บอกพี่ชาย พี่เราก็พูดเหมือนกับแม่ บ้านเราๆม่ใช่ที่เซฟโซน แล้วอีกอย่าง แม่เป็นคนที่ชอบใช้คำพูดแรงกับเราชอบตะหวาดหงุดหงิด เราเป็นคนอ่อนไหวง่ายมาก แม่ด่าเราหรือไม่สนใจเรากับสิ่งที่เราเป็นอยู่ แล้วเขายิ่งมาบอกว่าเราหาแต่เรื่องเราไร้สาระ แน่นอนว่าเราร้องไห้หนักมาก ไม่มีคนปลอบเราได้เลย ไม่กี่วันก่อน เราหายใจเหนื่อยมาก กลัวว่าเป็นเพราะวัคซีนหรือเปล่า แม่ก็จะไม่โทษอย่างอื่นเลยนะ จะโทษแต่เราว่าเรามันอ่อนแอ เป็นคนผอมเลยป่วย แม่ใส่อารมณ์กับเรา ตะคอกจนเราร้องไห้สุดๆแล้วก็นั่งตบหน้าตัวเองไปมาแรงๆ แต่เราเริ่มดึงสติกลับมาได้ เราโทรหาอา เพราะอาคนเดียวที่รับฟังเรา แต่เราก็ไม่กล้าโทรหาตลอดเพราะไม่อยากรบกวน เราโทรไประบายเพราะเรากลัวว่าตัวเองจะคิดอะไรไม่ดี บางครั้งเราอยู่เฉยๆ เราก็เศร้า เราเศร้าทั้งวัน ดูหนังแต่ข้างในมันไม่สดใส มันหม่นหมองจะร้องไห้อยู่ตลอด.... เราควรไปพบจิตแพทย์ดีมั้ย เรากลัวว่าเราเป็นแบบนี้เพราะเราอยู่ในห้องที่โดดเดี่ยวหรือเปล่า ไม่ได้เจอใคร ตอนที่อาไม่อยู่ คนที่ฮีลเราได้คือแฟนเราเอง นางจะกลับมาบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์แต่พอโควิดยอดไม่ลด เขาก็ไม่ได้กลับมาหาเราเลย เรายิ่งแย่หนักเพราะไม่มีใครฮีลเราได้ ขนาดแม่ตัวเองยังไม่เข้าใจเราเลย เราพยายามที่ฮีลตัวเองตลอด แต่ทุกวันนี้เราเจอกับแรงกดดันของแม่ เราก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว เราอยากไปหาหมอ แต่เราไม่มีเงินเพราะเรายังเรียนอยู่ พอเราจะหาหมอแม่บอกว่าให้ขอแฟนเรา เอ๊ะอ๊ะก็จะบอกว่าอยากมีแฟนก็ให้แฟนเลี้ยง เราเหนื่อยอ่ะ เราแบบพอร่างกายมันแย่ เราจะคิดไปเรื่อย คิดว่าเราจะตาย คิดแบบเรื่องน่ากลัว คิดแบบว่าถ้าเราเป็นอะไรมาใครจะรู้ เพราะห้องเรามันปิดล็อก ซึ่งไม่มีใครสนใจเราอยู่แล้ว ตื่นเช้ามาแม่ก็ไปทำงาน ไม่ได้แวะดูเรา หรือเลิกงานก็เช่นกัน ไม่ได้เรียกเรา ไม่ได้เข้ามาหาเรา แม่จะเดินไปบ้านแม่ตลอด เราลองเงียบดูบ้างว่าแม่จะสนใจหรือเรียกเราตอนไหน แน่นอนว่าแม่เราเลิกงาน5โมง ไม่เคยเรียกเราถ้าไม่มีเรื่องให้บ่นหรือด่า แม่จะเรียกเราจริงไปประมาณ2-4ทุ่ม จนกว่าเขาจะทำอะไรเสร็จของเขาอ่ะค่ะ เขาถึงจะนึกถึงเราแล้วเรียกเรา เอาจริงหลายคนคงสงสัยส่าเราทำอะไรผิดแม่จะด่า อ่ออันนี้เราก็ไม่รู้ เพราะแม่ด่าได้ทุกอย่าง เราแค่จับโทรศัพท์ก็หาเรื่องด่าได้แล้วค่ะ เราเป็นคนแคร์แม่มากนะ เราสนใจทุกคำที่แม่พูด คนอื่นบอกให้เราหูทวนลมบ้างจะได้ไม่เป็นแบบนี้ คือเราอ่ะ บั่นทอนทุกวันร้องไห้ทุกครั้งที่แม่ด่า นิดหน่อยเราก็ร้อง เราก็ไม่รู้ตอนนี้เราจะสื่อถึงอะไรเลย คือเราหายใจเหนื่อยมากตอนนี้ ใจมันท้ออ่ะ ใจมันเศร้า.... เราต้องไปหาหมออะไรดี ไปหาหมอตรวจปอดกับหัวใจอีกรอบไหมไปตรวจหัวใจให้ละเอียด ถ้ามันปกติ เราก็คงไปพบจิตแพทย์เศร้า แต่เรากังวลก็คือกลัวเป็นโรคsleไม่ก็หัวใจ  เราไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อแล้ว เราแค่อยากระบาย...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่