แม่ชอบบ่นว่าตัวเองเจ็บป่วยมากกว่าที่เป็นจริง ยกตัวอย่าง กินไอติมแล้วบอกปวดหัว มึนหัว ปวดฟันขึ้นไปถึงสมอง,คอเคร็ดเพราะนอนตกหมอน ก็บอกว่าเจ็บปวดไปหมด บางทีก็คาง,เวลาไม่สบายนิดๆหน่อยๆ ก็คร่ำครวญ บอกว่าชีวิตจะเกิดมาทำไมถ้าจะทุกทรมานขนาดนี้ บางทีป่วยจริง ป่วยไม่จริงก็ไม่รู้
แล้วเวลาคนอื่นในบ้านไม่สบาย อย่างเช่น พ่อปวดหัว ก็จะบอกว่าตัวเองก็ปวดเหมือนกัน เวลาที่เราปวดท้องประจำเดือน ก็จะบอกว่าตัวเองปวดท้องเหมือนกัน แล้วก็จะบ่นๆๆ เรื่องเกิดมาแล้วรำบาก คือเป็นแบบนี้ตั้งเรายังเด็กจนตอนนี้ อายุ 25 ปีแล้ว แกก็ยังเป็นแบบนี้อยู่
จนคนรอบข้างมองว่า ชอบพูดให้คนอื่นสงสาร
เราก็เข้าใจคนแก่นะ ว่าอยากไห้ลูกหลานรัก ลูกหลานดูแล
ซึ่งตัวเราก็ดูแลทุกอย่างในบ้าน ทำทุกอย่างที่ทำได้ เราดูแลมาตลอด
วันดีคืนดีก็ด่าอย่างกับหมูกับหมา ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำผิดขนาดนั้น (ทำที่ล้างจานตกพื้นเราไม่เห็นก็เลยไม่ได้เก็บ แล้วแกมาเห็นเอง)
ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ ส่วนตัวก็เป็นคนโรคเครียด เคยหาจิตแพทย์เรื่องโรคซึมเศร้ามาก่อน กลัวมาก กลัวว่าสักวันจะต้องไปก่อนคนอื่น
*นี่เป็นลูกคนเดียวพ่อแม่เลิกกันมาตั้งแต่เกิดได้สามเดือน แล้วก็อยู่กับครอบครัวพ่อมาตั้งแต่นั้น ส่วนที่อยู่ด้วยทุกวันก็คือ ลุงกับป้า แกไม่มีลูก (เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กจึงเรียกเขามา พ่อกับแมา) ส่วนพ่อแท้ๆก็ไม่สนิทกินเหล้า เมา มีกิ๊ก มีเมียน้อย แม่แท้ๆตั้งแต่เกิดจนโตเจอกันแค่สองครั้ง พอหลังจากรู้ว่าเราดูแลตัวเองได้ ก็ติดต่อมา ไม่เคยถามว่าเป็นยังไงบ้างอย่างเป็นห่วง มีแต่พูดเรื่องเงินกับเรา ทั้งไปที่ตั้งแต่เกิดจนโตก็ไม่เคยมาสนใจว่าเราเป็นยังไง
เหนื่อยใจมากค่ะ ทุกวันนี้มองไปทางไหนก็เครียดไปหมด ก่อนโควิดยังได้ออกไปเจอโลกข้างนอกบ้าง ทุกวันนี้ได้อยู่แต่บ้านเพราะไปไหนไม่ได้เพราะคนที่บ้านเป็นแบบนี้
แม่ชอบบ่นเจ็บป่วยมากกว่าเป็นจริง
แล้วเวลาคนอื่นในบ้านไม่สบาย อย่างเช่น พ่อปวดหัว ก็จะบอกว่าตัวเองก็ปวดเหมือนกัน เวลาที่เราปวดท้องประจำเดือน ก็จะบอกว่าตัวเองปวดท้องเหมือนกัน แล้วก็จะบ่นๆๆ เรื่องเกิดมาแล้วรำบาก คือเป็นแบบนี้ตั้งเรายังเด็กจนตอนนี้ อายุ 25 ปีแล้ว แกก็ยังเป็นแบบนี้อยู่
จนคนรอบข้างมองว่า ชอบพูดให้คนอื่นสงสาร
เราก็เข้าใจคนแก่นะ ว่าอยากไห้ลูกหลานรัก ลูกหลานดูแล
ซึ่งตัวเราก็ดูแลทุกอย่างในบ้าน ทำทุกอย่างที่ทำได้ เราดูแลมาตลอด
วันดีคืนดีก็ด่าอย่างกับหมูกับหมา ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำผิดขนาดนั้น (ทำที่ล้างจานตกพื้นเราไม่เห็นก็เลยไม่ได้เก็บ แล้วแกมาเห็นเอง)
ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ ส่วนตัวก็เป็นคนโรคเครียด เคยหาจิตแพทย์เรื่องโรคซึมเศร้ามาก่อน กลัวมาก กลัวว่าสักวันจะต้องไปก่อนคนอื่น
*นี่เป็นลูกคนเดียวพ่อแม่เลิกกันมาตั้งแต่เกิดได้สามเดือน แล้วก็อยู่กับครอบครัวพ่อมาตั้งแต่นั้น ส่วนที่อยู่ด้วยทุกวันก็คือ ลุงกับป้า แกไม่มีลูก (เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กจึงเรียกเขามา พ่อกับแมา) ส่วนพ่อแท้ๆก็ไม่สนิทกินเหล้า เมา มีกิ๊ก มีเมียน้อย แม่แท้ๆตั้งแต่เกิดจนโตเจอกันแค่สองครั้ง พอหลังจากรู้ว่าเราดูแลตัวเองได้ ก็ติดต่อมา ไม่เคยถามว่าเป็นยังไงบ้างอย่างเป็นห่วง มีแต่พูดเรื่องเงินกับเรา ทั้งไปที่ตั้งแต่เกิดจนโตก็ไม่เคยมาสนใจว่าเราเป็นยังไง
เหนื่อยใจมากค่ะ ทุกวันนี้มองไปทางไหนก็เครียดไปหมด ก่อนโควิดยังได้ออกไปเจอโลกข้างนอกบ้าง ทุกวันนี้ได้อยู่แต่บ้านเพราะไปไหนไม่ได้เพราะคนที่บ้านเป็นแบบนี้