สวัสดีค่ะ
อยากจะแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนบ้านที่เราประสบพบเจอ เป็นเรื่องราวที่อยากแชร์อยากระบายว่ามีเพื่อนๆคนไหนเคยเจอแบบนี้บ้างหรือเจอในรูปแบบไหน สามารถแชร์เรื่องราวกันได้นะคะ
การแชร์เรื่องราวนี้ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างใด เพียงแต่อยากแชร์เรื่องราวให้เพื่อนๆ ได้แนะนำ หรือเสนอวิธีรับมือกับเพื่อนบ้านแบบนี้ได้อย่างไร หรือเรื่องราวของเพื่อนๆ เป็นแบบไหนค่ะ
เรื่องราวมีอยู่ว่า
เรื่องราวที่หนึ่ง วันหนึ่งเขา (เพื่อนบ้าน) ไลน์มาตอนค่ำๆว่า ให้ไปเอาขนมที่เขาสั่งไว้ ที่แขวนไว้ตรงประตู (พร้อมส่งรูปมาให้ดูเป็นภาพที่ถุงขนมแขวนไว้ตรงประตูหน้าบ้านของเขา) บอกเราว่าฝากไว้ในตู้เย็นบ้านเราหน่อย เขาไม่อยู่บ้าน กลัวมดขึ้น พรุ่งนี้เช้าเขาจะมาเอา
ประเด็นคือ ไอเราก็คิดในใจจะสั่งขนมอะไรทำไมต้องเดือดร้อนคนอื่นด้วย ทำไมไม่สั่งให้มาส่งวันอื่น วันที่ตัวเองอยู่บ้าน และนี่ก็เวลาก็ค่ำแล้วดึกแล้ว จะให้เราออกไปข้างนอกบ้าน เพื่อเอาขนมของเขามาฝากในตู้เย็นเราอะนะ
เอาจริงๆเป็นเรานะ ต่อให้มดขึ้นยังไงเราก็ต้องยอมรับและรับผิดชอบของที่สั่งมามั้ย ไม่ใช่ให้คนข้างบ้านมาเอาไปฝากในตู้เย็นให้ มันใช่เรื่องมั้ย
เรื่องราวที่สอง ไม่ต่างจากเรื่องแรกเท่าไหร่ เขาโทรมาบอกให้ฝากรับพัสดุ (ไปรษณีย์จะมาส่ง) ให้หน่อย เขาจะฝากมาลงที่บ้านเรานะ พอดีไม่อยู่บ้านกลัวฝนตก แล้วเดี๋ยวจะมาเอาที่บ้านเราเอง
ประเด็นคือ ต่อให้คุณไม่อยู่บ้านทำไมไม่บอกคนส่งของหรือไปรษณีย์ให้เอากล่องพัสดุดันไว้ในโรงจอดรถ เท่านี้ก็ไม่เปียกละ เป็นเราไม่เคยต้องมาเดือดร้อนใครให้ฝากพัสดุ ต่อให้คนส่งของจะวางของตรงไหน พัสดุเราเปียก เราก็ไม่คิดจะไปเดือดร้อนเพื่อนบ้านให้เก็บไว้ให้เลยนะ
******* ขออธิบายเพิ่มเติมสักหน่อยว่า ไม่ได้สนิทอะไรกับเพื่อนบ้านคนนี้มาก เพียงแค่ทำงานที่ทำงานเดียวกันและบังเอิญอยู่บ้านใกล้กัน รู้จักกัน ณ ปัจจุบันตอนนี้ก็ 2 ปีได้ แต่ที่ทำงานก็ไม่ค่อยคุยกันแบบสนิทเท่าไหร่ จะคุยแต่เรื่องงานมากกว่า เวลาเขาผ่านหน้าบ้านเรา ช่วงแรกๆเขาจะกดออดมาทักทายบ้าง หลังๆมานี้ก็เดินผ่านไป แต่ชอบทักว่าทำไมต้องปิดประตูบ้านนึกว่าไม่อยู่ เราก็ตอบว่ามันร้อนก็ปิดไว้ เขาชอบออกนอกบ้านออกกำลังกายกับลูกๆของเขา แต่ชอบทักเราว่าไม่เห็นออกมาออกกำลังบ้างเลย ก็นั่นแหละ ชอบอยากรู้อยากเห็นไปหมดสมกับเป็นเพื่อนบ้าน
เรื่องราวที่สาม เวลามีเทศกาล เช่น ปีใหม่ ฯลฯ เพื่อนบ้านคนนี้ก็ชอบเสนอในกลุ่มให้มาจัดปาร์ตี้ที่บ้านเรา เพราะบ้านเราอยู่กันแค่สองคนกับแฟน อีกอย่างบ้านเราเพิ่งย้ายมา เขา (เพื่อนบ้านคนนี้) คงคิดว่าสะดวก แต่ในใจเรา เมิงงงนิไม่ถงไม่ถามตรูเล้ยยยว่าสะดวกหรือเปล่า เราก็ยอมให้มาจัดนะเมื่อปีใหม่ก่อนๆ ที่ยังไม่มีโควิด-19 ที่ยอมเพราะเพื่อนๆคนอื่นๆก็อยากมา และเราคิดว่าก็นานๆที แต่เพียงที่รู้สึกไม่ชอบและอึดอัดคือ เพื่อนบ้านคนนี้ก็ชงซะเหลือเกิน อยากจะมาบ้านตรูไรหนักหนา
เรื่องราวที่สี่ เพื่อนบ้านคนนี้ เขาได้รับหน้าที่ให้จัดหาสถานที่จัดงานเลี้ยงของที่ทำงาน เขาก็เสนอหัวหน้าให้ไปจัดโรงแรมๆหนึ่งแถวบ้าน ซึ่งแถวบ้านก็คือบ้านเราด้วยไง และตัวเองจะไปดูสถานที่ก็ชวนเราไปด้วย อ่ะ เราก็ไปด้วย เห็นว่าช่วยๆกัน เพราะอยู่ส่วนงานเดียวกัน และพอจะมาไปงานจริงๆ แทนที่ตัวเองจะขับรถของตัวเองไป มาพูดกับเราที่ทำงานว่า เดี๋ยววันไปจริงพี่ขอติดรถไปด้วยนะ อ่ะ เราก็ตกลงทั้งที่ใจอึดอัด เฮ้ออออ
ประเด็นคือ เพื่อนบ้านคนนี้จัดแจงเวลาออกบ้านทุกอย่าง บอกเราว่าออกบ้านซัก 7 โมงนะ (งานเริ่ม 13.00 น.) เพื่อจะได้ไปเตรียมงานก่อน และคือแทนที่ตัวเองมาขอติดรถเราไปด้วย จะเดินมาที่บ้านเราเพื่อมาขึ้นรถที่บ้านเรา กลับให้เราต้องย้อนกลับไปรับเพื่อนบ้านคนนี้ที่บ้าน (คำว่าย้อนกลับไปอาจอ่านดูเหมือนไกล ที่ว่าย้อนคือจากปากซอยมาบ้าน บ้านเราจะถึงก่อน และบ้านของเพื่อนบ้านจะอยู่เกือบๆสุดซอย) ก็ทำไมต้องให้เราขับรถไปรับถึงหน้าบ้าน ทำไมไม่เดินมาเองบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน และแฟนเราก็ต้องลงรถมาช่วยเอากระเป๋าของเพื่อนบ้านคนนี้ขึ้นรถด้วย แม่นางไม่ถือเองเลยจ้าาาา และพอถึงเวลามาส่งที่บ้านก็แทนที่จะลงจากบ้านเราและเดินไปบ้านตัวเอง เราก็ต้องขับรถเลยบ้านเราไปส่งนางถึงบ้านจ้า (สรรพนามเริ่มเปลี่ยน ฮาาา เริ่มเรียกว่า"นาง")
และเรื่องขอติดรถก็มีมาเรื่อยๆ
เรื่องราวที่ห้า เรื่องราวนี้คงเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่ไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านคนนี้หลังจากเหตุการณ์นี้ ไม่รู้ว่านางคงโกรธเราละมั้ง คือช่วงนี้ก็ทำงานที่บ้าน (WFH) เวลาเข้างาน-ออกงานของที่ทำงานเรา จะเป็นการถ่ายภาพลงกลุ่มไลน์ ใช้โปรแกรมลงเวลา และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา นางไลน์มาบอกให้ช่วยส่งภาพลงเวลามาให้หน่อย (นี่ไม่ใช่ครั้งแรก นางไลน์มาบอกแบบนี้หลายครั้ง เพราะนางไม่อยู่บ้าน เราก็อึดอัดสุดๆ แต่ก็ส่งภาพไปให้ทุกครั้ง) แต่ครั้งนี้ไม่ได้ส่งไปเพราะเบื่อแล้ว ทำไมไม่รู้จักรับผิดชอบ ก็นั่นแหละหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก
นี่เป็นเหตุการณ์บางส่วนที่นำมาเล่า อาจมียิบย่อยกว่านี้ แต่บางสิ่งมองข้ามได้ก็มองข้ามมันไป ไม่อยากเอามาคิด
อยากให้เพื่อนๆชาวPintip ที่เข้ามาอ่านแล้ว มีคำแนะนำ/ความคิดเห็นอย่างไร บอกมาได้เลยนะคะ หรืออยากแชร์เรื่องราวของตัวเองที่เจอมาก็แชร์มาได้เลยนะคะ สุดท้ายนี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
แชร์เรื่องราวเพื่อนบ้านที่ควรปลูกไว้ให้ห่างจากตัวบ้าน (เป็นเพียงเรื่องราวที่ประสบพบเจอ)
เรื่องราวมีอยู่ว่า เรื่องราวที่หนึ่ง วันหนึ่งเขา (เพื่อนบ้าน) ไลน์มาตอนค่ำๆว่า ให้ไปเอาขนมที่เขาสั่งไว้ ที่แขวนไว้ตรงประตู (พร้อมส่งรูปมาให้ดูเป็นภาพที่ถุงขนมแขวนไว้ตรงประตูหน้าบ้านของเขา) บอกเราว่าฝากไว้ในตู้เย็นบ้านเราหน่อย เขาไม่อยู่บ้าน กลัวมดขึ้น พรุ่งนี้เช้าเขาจะมาเอา
ประเด็นคือ ไอเราก็คิดในใจจะสั่งขนมอะไรทำไมต้องเดือดร้อนคนอื่นด้วย ทำไมไม่สั่งให้มาส่งวันอื่น วันที่ตัวเองอยู่บ้าน และนี่ก็เวลาก็ค่ำแล้วดึกแล้ว จะให้เราออกไปข้างนอกบ้าน เพื่อเอาขนมของเขามาฝากในตู้เย็นเราอะนะ เอาจริงๆเป็นเรานะ ต่อให้มดขึ้นยังไงเราก็ต้องยอมรับและรับผิดชอบของที่สั่งมามั้ย ไม่ใช่ให้คนข้างบ้านมาเอาไปฝากในตู้เย็นให้ มันใช่เรื่องมั้ย
เรื่องราวที่สอง ไม่ต่างจากเรื่องแรกเท่าไหร่ เขาโทรมาบอกให้ฝากรับพัสดุ (ไปรษณีย์จะมาส่ง) ให้หน่อย เขาจะฝากมาลงที่บ้านเรานะ พอดีไม่อยู่บ้านกลัวฝนตก แล้วเดี๋ยวจะมาเอาที่บ้านเราเอง
ประเด็นคือ ต่อให้คุณไม่อยู่บ้านทำไมไม่บอกคนส่งของหรือไปรษณีย์ให้เอากล่องพัสดุดันไว้ในโรงจอดรถ เท่านี้ก็ไม่เปียกละ เป็นเราไม่เคยต้องมาเดือดร้อนใครให้ฝากพัสดุ ต่อให้คนส่งของจะวางของตรงไหน พัสดุเราเปียก เราก็ไม่คิดจะไปเดือดร้อนเพื่อนบ้านให้เก็บไว้ให้เลยนะ
******* ขออธิบายเพิ่มเติมสักหน่อยว่า ไม่ได้สนิทอะไรกับเพื่อนบ้านคนนี้มาก เพียงแค่ทำงานที่ทำงานเดียวกันและบังเอิญอยู่บ้านใกล้กัน รู้จักกัน ณ ปัจจุบันตอนนี้ก็ 2 ปีได้ แต่ที่ทำงานก็ไม่ค่อยคุยกันแบบสนิทเท่าไหร่ จะคุยแต่เรื่องงานมากกว่า เวลาเขาผ่านหน้าบ้านเรา ช่วงแรกๆเขาจะกดออดมาทักทายบ้าง หลังๆมานี้ก็เดินผ่านไป แต่ชอบทักว่าทำไมต้องปิดประตูบ้านนึกว่าไม่อยู่ เราก็ตอบว่ามันร้อนก็ปิดไว้ เขาชอบออกนอกบ้านออกกำลังกายกับลูกๆของเขา แต่ชอบทักเราว่าไม่เห็นออกมาออกกำลังบ้างเลย ก็นั่นแหละ ชอบอยากรู้อยากเห็นไปหมดสมกับเป็นเพื่อนบ้าน
เรื่องราวที่สาม เวลามีเทศกาล เช่น ปีใหม่ ฯลฯ เพื่อนบ้านคนนี้ก็ชอบเสนอในกลุ่มให้มาจัดปาร์ตี้ที่บ้านเรา เพราะบ้านเราอยู่กันแค่สองคนกับแฟน อีกอย่างบ้านเราเพิ่งย้ายมา เขา (เพื่อนบ้านคนนี้) คงคิดว่าสะดวก แต่ในใจเรา เมิงงงนิไม่ถงไม่ถามตรูเล้ยยยว่าสะดวกหรือเปล่า เราก็ยอมให้มาจัดนะเมื่อปีใหม่ก่อนๆ ที่ยังไม่มีโควิด-19 ที่ยอมเพราะเพื่อนๆคนอื่นๆก็อยากมา และเราคิดว่าก็นานๆที แต่เพียงที่รู้สึกไม่ชอบและอึดอัดคือ เพื่อนบ้านคนนี้ก็ชงซะเหลือเกิน อยากจะมาบ้านตรูไรหนักหนา
เรื่องราวที่สี่ เพื่อนบ้านคนนี้ เขาได้รับหน้าที่ให้จัดหาสถานที่จัดงานเลี้ยงของที่ทำงาน เขาก็เสนอหัวหน้าให้ไปจัดโรงแรมๆหนึ่งแถวบ้าน ซึ่งแถวบ้านก็คือบ้านเราด้วยไง และตัวเองจะไปดูสถานที่ก็ชวนเราไปด้วย อ่ะ เราก็ไปด้วย เห็นว่าช่วยๆกัน เพราะอยู่ส่วนงานเดียวกัน และพอจะมาไปงานจริงๆ แทนที่ตัวเองจะขับรถของตัวเองไป มาพูดกับเราที่ทำงานว่า เดี๋ยววันไปจริงพี่ขอติดรถไปด้วยนะ อ่ะ เราก็ตกลงทั้งที่ใจอึดอัด เฮ้ออออ
ประเด็นคือ เพื่อนบ้านคนนี้จัดแจงเวลาออกบ้านทุกอย่าง บอกเราว่าออกบ้านซัก 7 โมงนะ (งานเริ่ม 13.00 น.) เพื่อจะได้ไปเตรียมงานก่อน และคือแทนที่ตัวเองมาขอติดรถเราไปด้วย จะเดินมาที่บ้านเราเพื่อมาขึ้นรถที่บ้านเรา กลับให้เราต้องย้อนกลับไปรับเพื่อนบ้านคนนี้ที่บ้าน (คำว่าย้อนกลับไปอาจอ่านดูเหมือนไกล ที่ว่าย้อนคือจากปากซอยมาบ้าน บ้านเราจะถึงก่อน และบ้านของเพื่อนบ้านจะอยู่เกือบๆสุดซอย) ก็ทำไมต้องให้เราขับรถไปรับถึงหน้าบ้าน ทำไมไม่เดินมาเองบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน และแฟนเราก็ต้องลงรถมาช่วยเอากระเป๋าของเพื่อนบ้านคนนี้ขึ้นรถด้วย แม่นางไม่ถือเองเลยจ้าาาา และพอถึงเวลามาส่งที่บ้านก็แทนที่จะลงจากบ้านเราและเดินไปบ้านตัวเอง เราก็ต้องขับรถเลยบ้านเราไปส่งนางถึงบ้านจ้า (สรรพนามเริ่มเปลี่ยน ฮาาา เริ่มเรียกว่า"นาง")
และเรื่องขอติดรถก็มีมาเรื่อยๆ
เรื่องราวที่ห้า เรื่องราวนี้คงเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่ไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านคนนี้หลังจากเหตุการณ์นี้ ไม่รู้ว่านางคงโกรธเราละมั้ง คือช่วงนี้ก็ทำงานที่บ้าน (WFH) เวลาเข้างาน-ออกงานของที่ทำงานเรา จะเป็นการถ่ายภาพลงกลุ่มไลน์ ใช้โปรแกรมลงเวลา และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา นางไลน์มาบอกให้ช่วยส่งภาพลงเวลามาให้หน่อย (นี่ไม่ใช่ครั้งแรก นางไลน์มาบอกแบบนี้หลายครั้ง เพราะนางไม่อยู่บ้าน เราก็อึดอัดสุดๆ แต่ก็ส่งภาพไปให้ทุกครั้ง) แต่ครั้งนี้ไม่ได้ส่งไปเพราะเบื่อแล้ว ทำไมไม่รู้จักรับผิดชอบ ก็นั่นแหละหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก
นี่เป็นเหตุการณ์บางส่วนที่นำมาเล่า อาจมียิบย่อยกว่านี้ แต่บางสิ่งมองข้ามได้ก็มองข้ามมันไป ไม่อยากเอามาคิด อยากให้เพื่อนๆชาวPintip ที่เข้ามาอ่านแล้ว มีคำแนะนำ/ความคิดเห็นอย่างไร บอกมาได้เลยนะคะ หรืออยากแชร์เรื่องราวของตัวเองที่เจอมาก็แชร์มาได้เลยนะคะ สุดท้ายนี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ