มีคำถามมาถามครับ
เป็นคำถามในห้องศาสนา (พุทธ) กับห้องหว้ากอ (วิทย์+จิตวิทยา) 
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ อาการขณะทำสมาธิ และคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์

โดยส่วนตัว ผมเป็นคนที่นั่งสมาธิเรื่อยๆ ก่อนนอนบ้าง ระหว่างวันบ้าง
บางครั้งก็เข้าสมาธิได้ บางครั้งก็ผลอยหลับไปก่อน (555) บางครั้งก็ปรากฎอาการทางสมาธิ บางครั้งก็ไม่มี
โดยอาการที่เกิดขึ้น จะมีตั้งแต่
รู้สึกตัวเบา เหมือนจะลอยขึ้นจากที่นั่งอยู่
บางครั้ง อาจมีอาการรู้สึกว่า ตัวหดเล็กลง มันรู้สึกว่าตัวจมไปกับเบาะที่นั่งอยู่ (แต่ยังไม่ได้หลับนะ)
บางครั้ง ก็รู้สึกตัวพองโต
บางครั้ง ก็หูดับไปเลย ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น
บางครั้ง ก็เหมือนมีแสงจ้ามากๆ ทั้งๆที่นั่งสมาธิในห้องนอนมืดๆ (แต่ก็ไม่ได้ลืมตามาดูอะไร)
แต่มีครั้งนึง
เหมือนจะได้อาการทางสมาธิ แบบที่ครูบาอาจารย์บอกไว้ คือ "ปีติ"
อาการของ ปีติ ที่ได้รับคือ เหมือนกับโดนคนเอาน้ำเย็นเจี๊ยบๆ มาราดรดตั้งแต่หัวจรดเท้า มันซู่ซ่าสุดๆ
แต่ทุกครั้งที่เกิดอาการเหล่านี้ จะไม่ได้หลุดจากสมาธินะครับ 
จะกำหนดอยู่ที่ลมหายใจไปเรื่อยๆ ไม่ได้กำหนดพุทโธอะไร หรือยุบพองอะไร แค่รู้สึกที่ลมหายใจ
อ้อ แล้วก็แทบทุกครั้ง ลมหายใจจะแผ่วๆ จนมันหายไปเลย
---
ทีนี้ คำถามคือ
อยากรู้ว่า อาการเหล่านี้ เค้ามีคำอธิบายทางหลักวิทยาศาสตร์มั้ยครับ?
หรือว่า จิตของเรา มันแค่คิดไปเอง
หรือว่า ทำไมเราจึงรู้สึกว่า เหมือนโดนเอาน้ำเย็นมารดราดตัว

กระทู้นี้ เปิดโอกาสให้ ถกเถียง อภิปราย นำเสนอข้อมูลกันได้หมดเลยนะครับ 
ทั้งจากฝ่ายวิทยาศาสตร์ และจากฝ่ายพุทธศาสนา 
เพราะเข้าใจว่า แต่ละฝ่าย น่าจะมีข้อมูลมานำเสนอกันพอสมควร

แต่ถ้าคิดว่าไม่เหมาะสมใดๆ ข้าพเจ้าก็ขออภัยไว้ก่อนนะครับ
เป็นคำถามที่อยู่ในหัว และอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่