สารานุกรมปืนตอนที่ 824 75B โอเมกา คอนเวอร์ติเบิล

ซีแซดประกาศเลิกผลิตปืนรุ่น 75B Omega โดยออกรุ่น Omega Convertible มาแทน พร้อมกับแถมชิ้นส่วนที่จะเปลี่ยนให้เป็นคันนิรภัยมาให้ด้วย



ปี ค.ศ.1908 จอห์น เบรานิงก์ คิดค้นระบบขัดกลอนแบบลำกล้องกระดก ที่โคลท์ใช้ในปืน 1911 ขายให้กองทัพสหรัฐ, ปี 1929 คาร์ล วอลเธอร์ ประดิษฐ์ไกดับเบิล/ซิงเกิล ที่ต่อมาใช้ในปืน P.38, ปี 1931 ดิวดอนเน ซาอีฟ เริ่มทำซองกระสุนสองแถว สำหรับใช้กับปืน ไฮเพาเวอร์, ปี 1935 ชาร์ล เพตเตอร์ ออกแบบห่วงลูกเบี้ยวคุมการขัดกลอน และโครงปืนหุ้มลำเลื่อน ที่ต่อมาใช้ในปืน ซิก P210 สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดนี้ ในที่สุดถูกรวมมาอยู่ในปืนกระบอกเดียว คือ ซีแซด 75 ของเชโกสโลวาเกียยุคสงครามเย็น ก่อนที่จะแยกประเทศออกมาเป็นสาธารณรัฐเช็ก

ซีแซด 75 ไม่เพียงรวบรวมจุดเด่นของปืนระดับคลาสสิกที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม เช่นความจุกระสุนเพิ่มจาก 13 นัดของไฮเพาเวอร์ เป็น 15 นัด และ 16 นัดในปัจจุบัน, ไกดับเบิลเบากว่าวอลเธอร์ พร้อมกับคันนิรภัยที่ปรับให้เข้าห้ามไกแบบนกง้างค้างได้ ตลอดจนทรงด้ามที่จับถนัดมือดีมาก จนได้รับการยกย่องว่าเป็นปืนต่อสู้ดีที่สุดแบบหนึ่งของโลก มีบริษัทอื่นอย่างน้อย 20 ราย ในอีกหลาย ๆ ประเทศ ที่ทำปืนตามแบบ ซีแซด 75 ตัวอย่างที่เข้ามาขายบ้านเราคือ ทานโฟกลิโอ,​ เจริคโค, สฟิงซ์ เป็นต้น



ในปี 1986 ซีแซด เพิ่มอักษร B ต่อท้ายชื่อรุ่น เนื่องจากมีการเพิ่มตัวขวางเข็มแทงชนวน (firing pin block) ที่เรานิยมเรียกกันว่า สมอล็อกเข็ม ลดโอกาสปืนลั่นเมื่อหล่นกระแทก และแตกรุ่นย่อยเป็น 85 ที่มีห้ามไกและคันล็อกลำเลื่อนทั้งซ้ายขวา, รุ่นคอมแพ็กลำกล้องสั้น เป็นต้น ทั้งหมดใช้วัสดุเหล็กล้วน มาเพิ่มโครงอัลลอยด์ในชุด P01 และเปลี่ยนคันนิรภัยเป็นคันลดนก (decocker) ในรุ่นที่ต่อท้ายด้วย D

หลังยุคสงครามเย็น ปืนซีแซดขยายตลาดได้มาก จนมีทุนพอข้ามไปตั้งบริษัท CZ-USA ได้ในปี 1998 แม้ว่าช่วงนี้ปืนโครงโพลิเมอร์ใช้เข็มพุ่งตามแบบกล็อก จะติดตลาดเป็นปืนยอดนิยม แต่ซีแซดยังเหนียวแน่นอยู่กับปืนเหล็กล้วน ไกดับเบิล/ซิงเกิล ใช้นกสับ จนเกือบจะเป็นตัวเลือกยี่ห้อเดียวในตลาด โดยซีแซดเน้นการพัฒนาด้านการยุทธศาสตร์ เช่น ด้ามรับอุ้งมือดีขึ้น และเริ่มใช้ชุดลั่นไกที่ออกแแบบใหม่หมด ตั้งชื่อรุ่นว่า “โอเมกา” (Omega คือ  อักษรกรีกตัวสุดท้าย) โดยนัยว่าถึงระดับสุดยอดแล้ว



ซีแซด ทำรุ่น 75B Omega อยู่เกือบสิบปี จากมุมมองของผู้ใช้งาน แทบไม่เห็นความแตกต่างจากชุดลั่นไกเดิม คำอธิบายจากโรงงานคือ ชิ้นส่วนน้อยลง เพิ่มความแข็งแรง ซึ่งก็เป็นความจริง คือจาก 75 เป็น 75B หน้าเซียร์แคบ รับไม่เต็มแง่นกสับเนื่องจากชิ้นส่วนปลดตัวล็อกเข็มกินที่ไปประมาณ 2 มิลลิเมตร พอปรับเป็น โอเมกา หน้าเซียร์กว้างรับแง่นกสับได้เต็มที่เหมือนเดิม และมีข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานจากคันนิรภัยเป็นคันลดนก หรือจะให้เป็น ดับเบิลล้วน ก็ทำได้ง่าย

เริ่มในปี 2016 ซีแซดประกาศเลิกผลิต 75B Omega โดยออกรุ่น Omega Convertible มาแทน ออกจากโรงงานติดตั้งคันลดนกมาให้ทั้งซ้ายขวา พร้อมกับแถมชิ้นส่วนที่จะเปลี่ยนให้เป็นคันนิรภัยมาให้ด้วย คันลดนกเหมาะสำหรับการพกพาแบบลดนกชิดโครง ยิงนัดแรกดับเบิล น้ำหนักไกประมาณ 12 ปอนด์ หลังจากนั้นเป็นซิงเกิล ส่วนคันนิรภัยสำหรับผู้ที่ต้องการพกซองนอกแบบ “cocked and locked” นกง้างเข้าห้ามไก ใช้งานนัดแรกโดยปลดห้ามไกเหนี่ยวแบบซิงเกิล น้ำหนักไก 4.5 ปอนด์เท่ากันทุกนัด นอกเหนือจากนี้แล้ว ในด้านความแม่นยำ และการทำงานเรียบร้อยไม่ติดขัด ยังรักษามาตรฐานซีแซดไว้ได้อย่างดี.

https://www.dailynews.co.th/article/585309/
....................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช



สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่