ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่พ่อแท้ๆของเด็ก แต่ผมก็รักและเอ็นดูเด็กทั้งคู่เหมือนลูกเหมือนหลาน พยายามอบรมสั่งสอนแบบที่พ่อแท้ๆเค้าทำกัน ซึ่งพ่อแท้ๆของเด็กไม่เคยสนใจ ไม่เลี้ยงดูไม่ส่งเสียสักบาทสักสตางค์ แฟนผมมีลูกติดมา2คน(คนโต ผู้หญิง อายุ14)(คนเล็ก ผู้ชาย อายุ8ขวบ)
เริ่มจากเด็กคนโต คนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากแต่จะคล้ายๆกับคนเล็กตรงที่ว่า ไม่กลัวแม่ไม่ว่าจะดุยังไงก็ตาม เหมือนรู้ว่าเวลาแม่ดุแม่โมโหเดี๋ยวแม่ก็หายเอง สุดท้ายแม่ต้องมาตามง้อทุกรอบแบบที่เคยๆเป็น ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ของเด็กคนโตที่ทำให้ปวดหัว
1.คือตอนที่โรงเรียนเปิดตามปรกติ เราจะมีกฏว่าห้ามกลับบ้านช้าเลิกเรียนให้กลับเลย เพราะเป็นห่วงอะไรหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง ไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกเรียน โทรหาไม่รับสาย พอกลับมาแม่บ่นก็แค่ทำนิ่งๆไม่ตอบอะไรเหมือนทุกครั้ง
2.ก่อนหน้านี้เด็กคนโตเคยอยู่กับพ่อเด็กแต่ตลอดเวลาที่อยู่กับพ่อเด็ก พ่อเด็กจะโทรมาขอตังทุกอย่าง ทั้งค่ากิน ค่าเทอม เวลาไปหาหมอก็โทรมาขอตัง หรือเวลาหิวเหล้าแล้วตังหมดก็จะให้ลูกโทรมาขอแล้วให้ลูกอ้างว่าอยากกินหมูทะหรืออะไรอื่นๆ เพราะพ่อเด็กเค้าปาร์ตี้เกือบทุกวัน ทั้งๆที่รายได้เยอะกว่าแต่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ความสนุก เลยตัดสินใจกันว่าไปเอาเด็กมาเลี้ยงทั้งคู่เลยก็ได้ ประหยัดๆหน่อยก็น่าจะพอถูไถไปได้ ณ ตอนนั้น ก็เลยต้องมีการถามลูกคนโตว่าจะเอายังไงจะอยู่กับแม่มั้ยเดี๋ยวแม่เลี้ยงดูทุกอย่างเอง หรือหนูจะอยู่กับพ่อ แต่ถ้าหนูเลือกที่จะอยู่กับพ่อต้องเข้าใจด้วยนะว่าแม่จะไม่ได้ส่งเสียเหมือนแต่ก่อนแล้ว ให้พ่อส่งเสียไปถ้าพ่อโทรมาขอก็จะไม่ให้ แต่เราก็ไปมาหาสู่กันได้ตามปรกติ แค่ไม่ได้ส่งเงินให้ใช้ เพราะแม่ก็มีน้องที่ต้องเลี้ยงเหมือนกัน พ่อก็ต้องรับผิดชอบอีกคนไป อีกอย่างพ่อรายได้เยอะกว่าแม่อีก สุดท้ายเด็กก็ทำเหมือนเดิมเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร จนแฟนผมโมโหเพราะถึงตอนนั้นมันต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไง เพราะต้องเริ่มจัดการหลายอย่างทั้งย้ายที่อยู่หรืออาจจะต้องย้ายโรงเรียน เดี๋ยวจะทำอะไรไม่ทัน ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แระมาณนี้ให้เด็กเลือก และเค้าก็บอกว่าทำไมต้องเลือก เป็นแบบนี้ไม่ได้หรอคืออยากอยู่กับพ่อแล้วก็อยากได้ตังจากแม่ ครั้งนี้ที่เงียบเลยคิดว่าเด็กคงคิดแบบเดิม เลยต้องมัดมือชกไม่ให้กลับไปหาพ่อ โดยมีผมเข้ามาตัดสินใจด้วยไม่งั้นเด็กก็ไม่สนใจ จะเอาตามเดิม หลายคนคงสงสัยว่าข้อนี้เด็กผิดอะไร ที่ผิดก็คือเงียบไม่ตอบในสถานการณ์ที่เร่งด่วนเพราะต้องจัดการอะไรหลายๆอย่างหรืออาจจะสมัครเรียนไม่ทัน
3.ก่อนหน้านี้ที่เคยคุยกับแฟนไว้ว่าถ้าคนโตมาอยู่ด้วยก็ต้องหาหน้าที่ให้เค้ารับผิดชอบบ้าง เลยจะให้เป็นคนล้างจาน เพราะตอนอยู่บ้านพ่อเค้า เค้าก็เป็นคนทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ไม่ทำก็ว่าหนักแล้วแต่กินแล้วไม่เก็บด้วยนี่ซิ สุดท้ายอีแม่ก็ตามใจจนต้องหากะละมังมาวางไว้ให้ใส่จาน พอตกเย็นคุณแม่ก็จะมายกไปอ่างล้างจานแล้วไปล้างเอง หรือบางครั้งก็ใช้ผมยกไปให้ ซึ่งผมเองถ้าเป็นแรกๆ6เดือนแรกผมเก็บผมล้างให้นึกว่ายังปรับตัวไม่ได้ แต่มาหลังๆถ้ากินแล้วไม่เก็บมาอ่างล้างจานผมก็ปล่อยไว้ยังงั้นแหละ เพราะผมจะปล่อยให้คุณแม่เค้ามาเก็บเองจะได้รู้สึกเวลาเหนื่อยจะได้คิดได้ สุดท้ายก็คิดไม่ได้ พอเหนื่อยก็จะใช้ผมไปยกออกมาหน่อย แทนที่จะใช้ลูกตัวเอง เพราะลูกเป็นคนกินแล้วเด็กก็โตแล้ว อยู่ ม.4แล้ว อยู่บ้านพ่อเค้ายังทำได้เลย ทำไม่อยู่ที่นี่จะทำไม่ได้
4.ตอนนี้เด็กได้ทุนการศึกษา2000บาท คุณแม่ก็ดีใจจะได้มาแบ่งเบาภาระทุกอย่าง แต่สุดท้ายเด็กขอไว้ใช้จ่ายส่วนตัว500บาท จนทำให้ทะเลาะกันเพราะเนื่องด้วยในตอนนั้นภาระค่าใช้จ่ายเยอะมากชักหน้าไม่ถึงหลัง แถมยังติดหนี้แม่ผมอีก60,000บาท เลยพูดให้เด็กฟังว่า แม่ได้มาแม่ก็เอามาให้หนูกินทุกบาทอยู่ดี ทำไมไม่เห็นใจแม่บ้าง สุดท้ายเด็กก็จะเอาให้ได้ เลยถามไปว่าแล้วทำไมไม่ไปขอพ่อบ้าง ได้คำตอบมาว่า ถ้าขอพ่อแล้วพ่อจะให้มั้ยหล่ะ เพราะตลอดชีวิตไม่เคยขอพ่อได้สักครั้ง ถ้าไปขอพ่อ พ่อก็จะไล่ให้ไปขอแม่ และไม่มีสักครั้งที่จะไม่ได้ เต็มที่ก็พลัดผ่อนไปก่อน แต่สุดท้ายก็ให้อยู่ดี สุดท้ายก็ต้องยอมให้ และก็พูดมาว่าเดี๋ยวแม่ก็ได้จาก กยศ อีก เด็กมันจะคิดได้มั้ยว่าได้มาก็เอามาให้เอ็งใช้นี่แหละ แล้วเห็นเหมือนคุยกับคุณแม่ไว้ด้วยว่า ค่าครองชีพที่ได้จาก กยศ แต่หล่ะเดือนจะขอไว้ส่วนตัว300บาท ผมได้แต่นึกในใจอีกแล้วหรอ
มาที่คนเล็กกันบ้าง คนนี้เยอะหน่อยแต่จริงๆผมว่าไม่เยอะหรอกแค่เหตุการณ์แบบนี้ผมรับไม่ได้อย่างแรง แต่อาจจะมองได้ว่าเค้ายังเด็กอยู่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก
1.เด็กคนนี้เป็นคนที่ด่าเก่งมาก เช่นไอวรนุช ไอหน้าก้นเท้า ไอหน้าหอ คุณดอก จะด่าเก่งที่สุดตอนเล่นเกมส์freefire ผมเคยบอกเค้าว่าไม่เอาแบบนี้ซิ เล่นเกมส์ทำไมต้องด่าเพื่อนด้วยหล่ะ เดี๋ยวเค้าก็ไม่เล่นด้วยหรอก ได้คำพูดกลับมาว่า สอสระเอือก พอผมบอกคุณแม่ เค้าก็จะนั่งนิ่งๆทำหูทวนลม หรือบางครั้งก็หันหน้ามามองแล้วก็อืมแค่นั้น
2.เด็กคนนี้หิวเก่งมาก หิวทุก2ชั่วโมง หรืออาจจะน้อยกว่านั้น บางครั้งเค้าหิวแล้วออกมาบอกผม แต่ผมติดงานอยู่ ยุ่งอยู่ผมจะให้เค้ารอแต่เค้าจะไม่รอ โดยการก่อกวนเรา มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเลยขึ้นเสียงใส่เค้า เค้าก็เงียบ แต่เอฟเฟคที่ได้กลับมาคือ คุณแม่มองค้อนใส่ผมแล้วถามว่ามีอะไร ก็เลยบอกไป สุดท้ายลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วตูงมือลูกเข้าห้องพร้อมทั้งปิดประตูกระแทกใส่ แล้วก็จะมาพูดกับผมประมาณว่าผมไม่ใช่พ่อแท้ๆบ้างเลยทำแบบนี้ ผมไม่มีลูกไม่รู้หรอกก็มีให้ได้ยินบ่อยๆคำนี้
3.เด็กทั้งสองคนนอนดึกมาก และชอบแย่งกันดูโทรทัศน์ผมเลยบอกแฟนผมให้ตั้งกฏกันไปเลยว่าคนโตดูตอนเช้าถึง15.00ส่วนคนเล็ก 15.00-23.00 แต่กลายเป็นว่าวันนั้นผมจะเข้านอน22.00ของทุกวัน ผมก็เข้านอนตามปรกติ นอนเล่นโทรศัพท์ไปๆมาๆเห็นว่าถึง23.00แล้ว เลยบอกให้เด็กๆปิดทีวีได้แล้ว ในขณะนั้นคุณแม่เลยส่วนขึ้นมาว่า เด็กมันดูอยู่
ผมได้แต่นึกในใจว่าเราจะสั่งอะไรเด็กไม่ได้เลยหรอ ทั้งๆที่มันควรจะเป็นงั้น เพราะมันก็ดึกมากแล้ว แต่ก็รู้แหละว่าเด็กๆไม่อยากนอนหรอก แต่เราจะสั่งไม่ได้จริงๆหรอ ที่สำคัญผมและแม่เด็กก็นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ไม่คิดจะเห็นใจกันเลยหรอ เวลาเปิดทีวีก็เปิดเสียงดัง ดังจริงๆไม่พูดเล่น พอจะไปเบาเสียงก็จะชอบบ่นกลับ
4.เด็กคนเล็กชอบเถียง และเถียงทุกคำ ถ้าจะเรียกเถียงคำไม่ตกฝากก็ไม่ผิดหรอก เช่น เด็กอาบน้ำอยู่และเล่นน้ำในห้องน้ำสาดน้ำใส่ฝ้าเพดานสาดใส่หลอดไฟ ผมก็จะไปบอกเค้าเตือนเค้าว่าอย่าทำแบบนี้เดี๋ยวไฟช็อต ก็จะเถียงกลับมาว่าหนูกลัวจิ้งจกเลยสาดมัน ทั้งๆที่ในห้องน้ำไม่มีจิ้งจก
เวลาผมจะเข้านอนคุณแม่เค้าก็นอนเล่นโทรศัพท์บางทีก็จะดูหนังหรืออะไรในโทรศัพท์ ด้วยความที่เด็กเปิดโทรทัศน์เสียงดังมากกกกเพราะต่อลำโพงเหมือนอยู่ในปาร์ตี้ ทำให้จะไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย คุณแม่ก็จะบอกให้เด็กคนเล็กเบาเสียงให้หน่อย แต่ก็จะเถียงอีกตามเคยว่าอ้าวแล้วทำไมหนูต้องเบาเสียงให้แม่ ทำไมแม่ไม่เบาเสียงให้หนู หนูก็ดูอยู่เหมือนกัน สุดท้ายคุณแม่ก็ต้องยอมวางโทรศัพท์แล้วนอน
5.ลูกคนเล็กชอบดูโทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะที่ไหนหรืออยู่กับใครก็ตาม เรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าอะไรถ้าอยู่กันเองหรือถ้าจะขาดไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าไปที่สาธารณะควรจะปิดเสียงหรือใส่หูฟังแต่แฟนผมชอบให้ท้ายว่าเปิดเสียงเบาๆคงไม่เป็นไร คือบางทีเราคิดว่าเบาแต่คนอื่นเค้าหนวกหูรึเปล่า เพราะขนาดเรายังได้ยินเลย แล้วทำไมคนอื่นจะไม่ได้ยิน เคยมีที่ทำงานเหมารถตู้พาไปเที่ยวเด็กๆก็ไปด้วย เด็กคนเล็กก็ตามเคยเปิดโทรศัพท์เสียงดัง คนในรถก็บอกว่าให้เบาเสียงหน่อย ในตอนนั้นแฟนผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับมาย่นให้ฟังว่าเด็กมันเปิดโทรศัพท์ดูนิดเดียวจะอะไรนักหนา ผมได้แต่คิดในใจว่าเด็กมันก็ผิดจริงๆนิแล้วจะอะไรทำไม
6.ลูกคนเล็กไม่เคยเรียนออนไลน์และไม่เคยทำการบ้านเลย (สักครั้งเดียวก็ไม่เคย หมายถึง ณ ตอนที่พิมอยู่)พอผมจะบอกผมจะสอนก็ไม่สนใจ ส่วนคุณแม่ก็ตามใจลูกให้เล่นโทรศัพท์เล่นเกมส์21ชม.
จริงๆมีอีกเยอะแต่ขี้เกียจพิมหล่ะ
คือผมแค่คิดว่าเราไม่ควรให้เด็กทำตามใจขนาดนั้นบางครั้งเราก็ต้องฝืนเด็กบ้างจะได้รู้จักผิดชอบชั่วดี อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อาจจะไม่ถึงขั้นต้องตี แต่ต้องมีบทลงโทษหรือคาดโทษไว้บ้าง ไม่ใช่ผิดก็บ่นๆแล้วปล่อยผ่าน
ถ้าเป็นผมนะ เกมส์ถ้าเล่นแล้วต้องด่าขนาดนั้น ผมจะไม่ให้เล่นเลยไปเล่นเกมส์อื่นแทน
ส่วนเรื่องลูกคนโตเลิกเรียนไม่กลับบ้าน ผมจะไปรับหลังเลิกเรียนและให้มีวันที่ไปเที่ยวกับเพื่อนได้แค่สัปดาห์หล่ะวัน
ปัญหามันมีไว้แก้แต่นี่ไม่เคยแก้ปัญหาปล่อยผ่านตลอด ถ้าแก้แล้วเตือนแล้วไม่ดีขึ้นยังพอว่า อาจจะแก้ผิดวิธี แต่นี่ไม่ทำอะไรเลย โตขึ้นมาถ้าเกิดเหตุรุนแรงแล้วมีคนด่าว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ผมจะไม่เถียงเลย
วันนั้นลูกคนเล็กไปเรียนแล้วไปต่อยกับเพื่อน กลับมาไม่ได้ฟ้องนะแต่เห็นรอยที่หน้า คุณแม่ก็เลยถามใครทำแล้วทำ ทำไม ผมนึกใจว่าก็เป็นเหมือนเคยๆนั้นแหละ ชอบเล่นแรงๆแล้วเพื่อนไม่พอใจ หรือไม่ก็ไปกวนเท้าเค้า เพราะผมเคยเจอกับตา3ครั้งแต่ไม่ถึงขั้นต่อยนะเพราะผมห้ามได้ทัน คือแบบปีนเกลียวรุ่นพี่บ้าง กวนเท้าคนอื่นบ้าง เล่นอะไรแล้วไม่รู้จักแพ้บ้าง
แต่เหตุการณ์ในโรงเรียนวันนั้นผมก็ไม่ได้จะอคตินะ เลยให้คุณแม่ไปถามครู แต่คุณแม่ไม่ได้ถามครูอย่างเดียว แต่ไปถามเด็กด้วยจร้า ผมรู้สไตล์การคุยของแฟนผมดีถ้าเป็นเรื่องขนาดนี้คุยเฉยๆคงไม่ใช่ต้องเรียกว่าขู่ด้วย
มาถึงขนาดนี้หล่ะผมควรต้องบอกแฟนผมยังไงบ้าง เพราะผมเคยพูดเคยบอกสุดท้ายจบไม่สวยตลอด เพราะจะต้องมีคำพูดว่า ม ไม่มีลูกไม่รู้หรอก /รอให้ ม มีลูกก่อนจะรู้/นี่ไม่ใช่ลูก ม เลยคิดแบบนี้ใช่มะ
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าตั้งแต่อยู่กับแฟนและลูกๆทั้ง2คน ผมไม่เคยด่าไม่เคยว่าอะไรได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว อยากทำอะไรอยากได้อะไร หรือเครียดอะไรอยู่แล้วลูกมาชวนเล่นเกมส์ก็ต้องเล่น ห้ามขัดใจ เพราะขนาดขึ้นเสียงทีเดียวยังเอฟเฟคขนาดนั้น ถ้าตีนะนึกภาพไม่ออก ที่ต้องบอกตอนท้ายเพราะเดี๋ยวใครหลายคนจะคิดว่าผมเป็นพ่อเลี้ยงโหด ผมบอกตรงๆ ผมทำงานมา หรือถูกหวย ผมเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ให้แฟนทั้งหมด ผมเอาที่นอนอย่างดีอันเก่าของแม่ผมมาเพื่อจะได้นอนสบายๆ แต่เห็นเด็กๆมันนอนที่นอนแข็งก็เลยเสียสละนอนพื้นเพื่อให้เด็กๆและแฟนผมนอนสบายๆ ผมทำขนาดนี้ถ้าไม่รักไม่เอ็นดูผมจะทำ ทำไม ที่ทำไปทุกอย่างเพราะรักและเป็นห่วงทุกคนนั้นแหละ แค่ไม่อยากให้เด็กทำอะไรแบบผิดไเดี๋ยวจะติดเป็นนิสัยและสายเกินแก้
ทำยังไงดีแฟนหลงลูกเกินไป
เริ่มจากเด็กคนโต คนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากแต่จะคล้ายๆกับคนเล็กตรงที่ว่า ไม่กลัวแม่ไม่ว่าจะดุยังไงก็ตาม เหมือนรู้ว่าเวลาแม่ดุแม่โมโหเดี๋ยวแม่ก็หายเอง สุดท้ายแม่ต้องมาตามง้อทุกรอบแบบที่เคยๆเป็น ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ของเด็กคนโตที่ทำให้ปวดหัว
1.คือตอนที่โรงเรียนเปิดตามปรกติ เราจะมีกฏว่าห้ามกลับบ้านช้าเลิกเรียนให้กลับเลย เพราะเป็นห่วงอะไรหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง ไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกเรียน โทรหาไม่รับสาย พอกลับมาแม่บ่นก็แค่ทำนิ่งๆไม่ตอบอะไรเหมือนทุกครั้ง
2.ก่อนหน้านี้เด็กคนโตเคยอยู่กับพ่อเด็กแต่ตลอดเวลาที่อยู่กับพ่อเด็ก พ่อเด็กจะโทรมาขอตังทุกอย่าง ทั้งค่ากิน ค่าเทอม เวลาไปหาหมอก็โทรมาขอตัง หรือเวลาหิวเหล้าแล้วตังหมดก็จะให้ลูกโทรมาขอแล้วให้ลูกอ้างว่าอยากกินหมูทะหรืออะไรอื่นๆ เพราะพ่อเด็กเค้าปาร์ตี้เกือบทุกวัน ทั้งๆที่รายได้เยอะกว่าแต่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ความสนุก เลยตัดสินใจกันว่าไปเอาเด็กมาเลี้ยงทั้งคู่เลยก็ได้ ประหยัดๆหน่อยก็น่าจะพอถูไถไปได้ ณ ตอนนั้น ก็เลยต้องมีการถามลูกคนโตว่าจะเอายังไงจะอยู่กับแม่มั้ยเดี๋ยวแม่เลี้ยงดูทุกอย่างเอง หรือหนูจะอยู่กับพ่อ แต่ถ้าหนูเลือกที่จะอยู่กับพ่อต้องเข้าใจด้วยนะว่าแม่จะไม่ได้ส่งเสียเหมือนแต่ก่อนแล้ว ให้พ่อส่งเสียไปถ้าพ่อโทรมาขอก็จะไม่ให้ แต่เราก็ไปมาหาสู่กันได้ตามปรกติ แค่ไม่ได้ส่งเงินให้ใช้ เพราะแม่ก็มีน้องที่ต้องเลี้ยงเหมือนกัน พ่อก็ต้องรับผิดชอบอีกคนไป อีกอย่างพ่อรายได้เยอะกว่าแม่อีก สุดท้ายเด็กก็ทำเหมือนเดิมเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร จนแฟนผมโมโหเพราะถึงตอนนั้นมันต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไง เพราะต้องเริ่มจัดการหลายอย่างทั้งย้ายที่อยู่หรืออาจจะต้องย้ายโรงเรียน เดี๋ยวจะทำอะไรไม่ทัน ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์แระมาณนี้ให้เด็กเลือก และเค้าก็บอกว่าทำไมต้องเลือก เป็นแบบนี้ไม่ได้หรอคืออยากอยู่กับพ่อแล้วก็อยากได้ตังจากแม่ ครั้งนี้ที่เงียบเลยคิดว่าเด็กคงคิดแบบเดิม เลยต้องมัดมือชกไม่ให้กลับไปหาพ่อ โดยมีผมเข้ามาตัดสินใจด้วยไม่งั้นเด็กก็ไม่สนใจ จะเอาตามเดิม หลายคนคงสงสัยว่าข้อนี้เด็กผิดอะไร ที่ผิดก็คือเงียบไม่ตอบในสถานการณ์ที่เร่งด่วนเพราะต้องจัดการอะไรหลายๆอย่างหรืออาจจะสมัครเรียนไม่ทัน
3.ก่อนหน้านี้ที่เคยคุยกับแฟนไว้ว่าถ้าคนโตมาอยู่ด้วยก็ต้องหาหน้าที่ให้เค้ารับผิดชอบบ้าง เลยจะให้เป็นคนล้างจาน เพราะตอนอยู่บ้านพ่อเค้า เค้าก็เป็นคนทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ไม่ทำก็ว่าหนักแล้วแต่กินแล้วไม่เก็บด้วยนี่ซิ สุดท้ายอีแม่ก็ตามใจจนต้องหากะละมังมาวางไว้ให้ใส่จาน พอตกเย็นคุณแม่ก็จะมายกไปอ่างล้างจานแล้วไปล้างเอง หรือบางครั้งก็ใช้ผมยกไปให้ ซึ่งผมเองถ้าเป็นแรกๆ6เดือนแรกผมเก็บผมล้างให้นึกว่ายังปรับตัวไม่ได้ แต่มาหลังๆถ้ากินแล้วไม่เก็บมาอ่างล้างจานผมก็ปล่อยไว้ยังงั้นแหละ เพราะผมจะปล่อยให้คุณแม่เค้ามาเก็บเองจะได้รู้สึกเวลาเหนื่อยจะได้คิดได้ สุดท้ายก็คิดไม่ได้ พอเหนื่อยก็จะใช้ผมไปยกออกมาหน่อย แทนที่จะใช้ลูกตัวเอง เพราะลูกเป็นคนกินแล้วเด็กก็โตแล้ว อยู่ ม.4แล้ว อยู่บ้านพ่อเค้ายังทำได้เลย ทำไม่อยู่ที่นี่จะทำไม่ได้
4.ตอนนี้เด็กได้ทุนการศึกษา2000บาท คุณแม่ก็ดีใจจะได้มาแบ่งเบาภาระทุกอย่าง แต่สุดท้ายเด็กขอไว้ใช้จ่ายส่วนตัว500บาท จนทำให้ทะเลาะกันเพราะเนื่องด้วยในตอนนั้นภาระค่าใช้จ่ายเยอะมากชักหน้าไม่ถึงหลัง แถมยังติดหนี้แม่ผมอีก60,000บาท เลยพูดให้เด็กฟังว่า แม่ได้มาแม่ก็เอามาให้หนูกินทุกบาทอยู่ดี ทำไมไม่เห็นใจแม่บ้าง สุดท้ายเด็กก็จะเอาให้ได้ เลยถามไปว่าแล้วทำไมไม่ไปขอพ่อบ้าง ได้คำตอบมาว่า ถ้าขอพ่อแล้วพ่อจะให้มั้ยหล่ะ เพราะตลอดชีวิตไม่เคยขอพ่อได้สักครั้ง ถ้าไปขอพ่อ พ่อก็จะไล่ให้ไปขอแม่ และไม่มีสักครั้งที่จะไม่ได้ เต็มที่ก็พลัดผ่อนไปก่อน แต่สุดท้ายก็ให้อยู่ดี สุดท้ายก็ต้องยอมให้ และก็พูดมาว่าเดี๋ยวแม่ก็ได้จาก กยศ อีก เด็กมันจะคิดได้มั้ยว่าได้มาก็เอามาให้เอ็งใช้นี่แหละ แล้วเห็นเหมือนคุยกับคุณแม่ไว้ด้วยว่า ค่าครองชีพที่ได้จาก กยศ แต่หล่ะเดือนจะขอไว้ส่วนตัว300บาท ผมได้แต่นึกในใจอีกแล้วหรอ
มาที่คนเล็กกันบ้าง คนนี้เยอะหน่อยแต่จริงๆผมว่าไม่เยอะหรอกแค่เหตุการณ์แบบนี้ผมรับไม่ได้อย่างแรง แต่อาจจะมองได้ว่าเค้ายังเด็กอยู่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก
1.เด็กคนนี้เป็นคนที่ด่าเก่งมาก เช่นไอวรนุช ไอหน้าก้นเท้า ไอหน้าหอ คุณดอก จะด่าเก่งที่สุดตอนเล่นเกมส์freefire ผมเคยบอกเค้าว่าไม่เอาแบบนี้ซิ เล่นเกมส์ทำไมต้องด่าเพื่อนด้วยหล่ะ เดี๋ยวเค้าก็ไม่เล่นด้วยหรอก ได้คำพูดกลับมาว่า สอสระเอือก พอผมบอกคุณแม่ เค้าก็จะนั่งนิ่งๆทำหูทวนลม หรือบางครั้งก็หันหน้ามามองแล้วก็อืมแค่นั้น
2.เด็กคนนี้หิวเก่งมาก หิวทุก2ชั่วโมง หรืออาจจะน้อยกว่านั้น บางครั้งเค้าหิวแล้วออกมาบอกผม แต่ผมติดงานอยู่ ยุ่งอยู่ผมจะให้เค้ารอแต่เค้าจะไม่รอ โดยการก่อกวนเรา มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเลยขึ้นเสียงใส่เค้า เค้าก็เงียบ แต่เอฟเฟคที่ได้กลับมาคือ คุณแม่มองค้อนใส่ผมแล้วถามว่ามีอะไร ก็เลยบอกไป สุดท้ายลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วตูงมือลูกเข้าห้องพร้อมทั้งปิดประตูกระแทกใส่ แล้วก็จะมาพูดกับผมประมาณว่าผมไม่ใช่พ่อแท้ๆบ้างเลยทำแบบนี้ ผมไม่มีลูกไม่รู้หรอกก็มีให้ได้ยินบ่อยๆคำนี้
3.เด็กทั้งสองคนนอนดึกมาก และชอบแย่งกันดูโทรทัศน์ผมเลยบอกแฟนผมให้ตั้งกฏกันไปเลยว่าคนโตดูตอนเช้าถึง15.00ส่วนคนเล็ก 15.00-23.00 แต่กลายเป็นว่าวันนั้นผมจะเข้านอน22.00ของทุกวัน ผมก็เข้านอนตามปรกติ นอนเล่นโทรศัพท์ไปๆมาๆเห็นว่าถึง23.00แล้ว เลยบอกให้เด็กๆปิดทีวีได้แล้ว ในขณะนั้นคุณแม่เลยส่วนขึ้นมาว่า เด็กมันดูอยู่
ผมได้แต่นึกในใจว่าเราจะสั่งอะไรเด็กไม่ได้เลยหรอ ทั้งๆที่มันควรจะเป็นงั้น เพราะมันก็ดึกมากแล้ว แต่ก็รู้แหละว่าเด็กๆไม่อยากนอนหรอก แต่เราจะสั่งไม่ได้จริงๆหรอ ที่สำคัญผมและแม่เด็กก็นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ไม่คิดจะเห็นใจกันเลยหรอ เวลาเปิดทีวีก็เปิดเสียงดัง ดังจริงๆไม่พูดเล่น พอจะไปเบาเสียงก็จะชอบบ่นกลับ
4.เด็กคนเล็กชอบเถียง และเถียงทุกคำ ถ้าจะเรียกเถียงคำไม่ตกฝากก็ไม่ผิดหรอก เช่น เด็กอาบน้ำอยู่และเล่นน้ำในห้องน้ำสาดน้ำใส่ฝ้าเพดานสาดใส่หลอดไฟ ผมก็จะไปบอกเค้าเตือนเค้าว่าอย่าทำแบบนี้เดี๋ยวไฟช็อต ก็จะเถียงกลับมาว่าหนูกลัวจิ้งจกเลยสาดมัน ทั้งๆที่ในห้องน้ำไม่มีจิ้งจก
เวลาผมจะเข้านอนคุณแม่เค้าก็นอนเล่นโทรศัพท์บางทีก็จะดูหนังหรืออะไรในโทรศัพท์ ด้วยความที่เด็กเปิดโทรทัศน์เสียงดังมากกกกเพราะต่อลำโพงเหมือนอยู่ในปาร์ตี้ ทำให้จะไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย คุณแม่ก็จะบอกให้เด็กคนเล็กเบาเสียงให้หน่อย แต่ก็จะเถียงอีกตามเคยว่าอ้าวแล้วทำไมหนูต้องเบาเสียงให้แม่ ทำไมแม่ไม่เบาเสียงให้หนู หนูก็ดูอยู่เหมือนกัน สุดท้ายคุณแม่ก็ต้องยอมวางโทรศัพท์แล้วนอน
5.ลูกคนเล็กชอบดูโทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะที่ไหนหรืออยู่กับใครก็ตาม เรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าอะไรถ้าอยู่กันเองหรือถ้าจะขาดไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าไปที่สาธารณะควรจะปิดเสียงหรือใส่หูฟังแต่แฟนผมชอบให้ท้ายว่าเปิดเสียงเบาๆคงไม่เป็นไร คือบางทีเราคิดว่าเบาแต่คนอื่นเค้าหนวกหูรึเปล่า เพราะขนาดเรายังได้ยินเลย แล้วทำไมคนอื่นจะไม่ได้ยิน เคยมีที่ทำงานเหมารถตู้พาไปเที่ยวเด็กๆก็ไปด้วย เด็กคนเล็กก็ตามเคยเปิดโทรศัพท์เสียงดัง คนในรถก็บอกว่าให้เบาเสียงหน่อย ในตอนนั้นแฟนผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับมาย่นให้ฟังว่าเด็กมันเปิดโทรศัพท์ดูนิดเดียวจะอะไรนักหนา ผมได้แต่คิดในใจว่าเด็กมันก็ผิดจริงๆนิแล้วจะอะไรทำไม
6.ลูกคนเล็กไม่เคยเรียนออนไลน์และไม่เคยทำการบ้านเลย (สักครั้งเดียวก็ไม่เคย หมายถึง ณ ตอนที่พิมอยู่)พอผมจะบอกผมจะสอนก็ไม่สนใจ ส่วนคุณแม่ก็ตามใจลูกให้เล่นโทรศัพท์เล่นเกมส์21ชม.
จริงๆมีอีกเยอะแต่ขี้เกียจพิมหล่ะ
คือผมแค่คิดว่าเราไม่ควรให้เด็กทำตามใจขนาดนั้นบางครั้งเราก็ต้องฝืนเด็กบ้างจะได้รู้จักผิดชอบชั่วดี อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อาจจะไม่ถึงขั้นต้องตี แต่ต้องมีบทลงโทษหรือคาดโทษไว้บ้าง ไม่ใช่ผิดก็บ่นๆแล้วปล่อยผ่าน
ถ้าเป็นผมนะ เกมส์ถ้าเล่นแล้วต้องด่าขนาดนั้น ผมจะไม่ให้เล่นเลยไปเล่นเกมส์อื่นแทน
ส่วนเรื่องลูกคนโตเลิกเรียนไม่กลับบ้าน ผมจะไปรับหลังเลิกเรียนและให้มีวันที่ไปเที่ยวกับเพื่อนได้แค่สัปดาห์หล่ะวัน
ปัญหามันมีไว้แก้แต่นี่ไม่เคยแก้ปัญหาปล่อยผ่านตลอด ถ้าแก้แล้วเตือนแล้วไม่ดีขึ้นยังพอว่า อาจจะแก้ผิดวิธี แต่นี่ไม่ทำอะไรเลย โตขึ้นมาถ้าเกิดเหตุรุนแรงแล้วมีคนด่าว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ผมจะไม่เถียงเลย
วันนั้นลูกคนเล็กไปเรียนแล้วไปต่อยกับเพื่อน กลับมาไม่ได้ฟ้องนะแต่เห็นรอยที่หน้า คุณแม่ก็เลยถามใครทำแล้วทำ ทำไม ผมนึกใจว่าก็เป็นเหมือนเคยๆนั้นแหละ ชอบเล่นแรงๆแล้วเพื่อนไม่พอใจ หรือไม่ก็ไปกวนเท้าเค้า เพราะผมเคยเจอกับตา3ครั้งแต่ไม่ถึงขั้นต่อยนะเพราะผมห้ามได้ทัน คือแบบปีนเกลียวรุ่นพี่บ้าง กวนเท้าคนอื่นบ้าง เล่นอะไรแล้วไม่รู้จักแพ้บ้าง
แต่เหตุการณ์ในโรงเรียนวันนั้นผมก็ไม่ได้จะอคตินะ เลยให้คุณแม่ไปถามครู แต่คุณแม่ไม่ได้ถามครูอย่างเดียว แต่ไปถามเด็กด้วยจร้า ผมรู้สไตล์การคุยของแฟนผมดีถ้าเป็นเรื่องขนาดนี้คุยเฉยๆคงไม่ใช่ต้องเรียกว่าขู่ด้วย
มาถึงขนาดนี้หล่ะผมควรต้องบอกแฟนผมยังไงบ้าง เพราะผมเคยพูดเคยบอกสุดท้ายจบไม่สวยตลอด เพราะจะต้องมีคำพูดว่า ม ไม่มีลูกไม่รู้หรอก /รอให้ ม มีลูกก่อนจะรู้/นี่ไม่ใช่ลูก ม เลยคิดแบบนี้ใช่มะ
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าตั้งแต่อยู่กับแฟนและลูกๆทั้ง2คน ผมไม่เคยด่าไม่เคยว่าอะไรได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว อยากทำอะไรอยากได้อะไร หรือเครียดอะไรอยู่แล้วลูกมาชวนเล่นเกมส์ก็ต้องเล่น ห้ามขัดใจ เพราะขนาดขึ้นเสียงทีเดียวยังเอฟเฟคขนาดนั้น ถ้าตีนะนึกภาพไม่ออก ที่ต้องบอกตอนท้ายเพราะเดี๋ยวใครหลายคนจะคิดว่าผมเป็นพ่อเลี้ยงโหด ผมบอกตรงๆ ผมทำงานมา หรือถูกหวย ผมเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ให้แฟนทั้งหมด ผมเอาที่นอนอย่างดีอันเก่าของแม่ผมมาเพื่อจะได้นอนสบายๆ แต่เห็นเด็กๆมันนอนที่นอนแข็งก็เลยเสียสละนอนพื้นเพื่อให้เด็กๆและแฟนผมนอนสบายๆ ผมทำขนาดนี้ถ้าไม่รักไม่เอ็นดูผมจะทำ ทำไม ที่ทำไปทุกอย่างเพราะรักและเป็นห่วงทุกคนนั้นแหละ แค่ไม่อยากให้เด็กทำอะไรแบบผิดไเดี๋ยวจะติดเป็นนิสัยและสายเกินแก้