(ดาวเคราะห์ Hycean มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 2.5 เท่า โดยมีมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจน)
Cr.ภาพ: Amanda Smith, มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
Hycean worlds ประกอบด้วยมหาสมุทรของเหลวขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ภายใต้ชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจน ด้วยความหนาแน่นระหว่างซุปเปอร์เอิร์ธที่เป็นหินและดาวเนปจูนขนาดเล็กที่ใหญ่กว่า ดาวเคราะห์นอกระบบเหล่านี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ในการค้นหาสิ่งมีชีวิตของดาวเคราะห์นอกระบบในที่อื่น
จากดาวเคราะห์นอกระบบหลายพันดวงที่รู้จักกันในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นดาวเคราะห์มวลต่ำที่มีขนาดเท่ากับ 1 - 4 ของมวลโลก ที่อยู่ระหว่างดาวเคราะห์ภาคพื้นดินกับยักษ์น้ำแข็งของระบบสุริยะของเรา เนื่องจากพวกมันไม่มีระบบสุริยะที่คล้ายคลึงกัน ดาวเคราะห์เหล่านี้จึงถูกจัดประเภทอย่างหลากหลายว่าเป็นทั้ง super-Earths หรือ mini-Neptunes ดาวเนปจูนขนาดเล็ก ขึ้นอยู่กับการอนุมานเกี่ยวกับองค์ประกอบจำนวนมากตามความหนาแน่นของพวกมัน
ตามการศึกษาใหม่ ซึ่งตีพิมพ์ออนไลน์เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2021 ที่ผ่านมาในวารสารวิทยาศาสตร์ The Astrophysical Journal ระบุว่าโลก Hycean มีขนาดใกล้เคียงกับ " super-Earth " และ "mini-Neptunes" ที่มีลักษณะเป็นแก๊ส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสองประเภทที่พบมากที่สุดในกาแลคซี แต่ Hycean มีความแตกต่างกัน โดยมีความหนาแน่นอยู่ระหว่างทั้งสอง
ทั้งนี้ การศึกษาก่อนหน้าของดาวเคราะห์ดังกล่าวพบว่า ความดันและอุณหภูมิภายใต้ชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจนของพวกมัน สูงเกินไปที่จะดำรงชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม Dr. Nikku Madhusudhan นักดาราศาสตร์ในสถาบันดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Cambridge และคณะได้ค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้
ว่าดาวเคราะห์เหล่านี้สามารถช่วยดำรงชีวิตได้ในบางสภาวะ
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ชีวิตอาจเจริญเติบโตได้บนมหาสมุทรโลกที่ใหญ่กว่าโลก
ผลที่ได้นำไปสู่การตรวจสอบโดยละเอียดของเงื่อนไขที่เป็นไปได้ เกี่ยวกับคุณสมบัติของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์เหล่านี้อย่างครบถ้วน รวมทั้งการสังเกตลักษณะทางชีวภาพของพวกมัน ซึ่งดาวเคราะห์นอกระบบที่เรารู้จักอาจตอบสนองเงื่อนไขเหล่านั้น จากการตรวจสอบทำให้นักดาราศาสตร์ระบุให้พวกมันเป็นดาวเคราะห์ประเภทใหม่ เรียกว่า " Hycean planets " ซึ่งมีมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ใต้ชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจน
ดาวเคราะห์เหล่านี้อาจมีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 2.6 เท่า และมีอุณหภูมิชั้นบรรยากาศสูงถึงเกือบ 200 องศาเซลเซียส แต่สภาพมหาสมุทรของพวกมันอาจคล้ายกับจะเอื้อต่อชีวิตจุลินทรีย์แบบในมหาสมุทรของโลก ดาวเคราะห์ดังกล่าวยังรวมถึงโลก Hyceans ที่มีความหลากหลายเช่น “Dark Hycean” บางดวงที่โคจรใกล้กับดาวของพวกมันมากจนถูกปิดกั้นโดยกระแสน้ำ โดยมีด้านหนึ่งที่ร้อนแผดเผาและด้านกลางคืนที่มืดมิดชั่วนิรันดร์
และ “Cold Hycean” บางดวงโคจรไกลออกไป โดยได้รับรังสีดาวน้อยมาก ซึ่งนักวิจัยเน้นย้ำว่าชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้แม้กระทั่งในไฮเซียนสุดขั้ว เช่น ในน่านน้ำยามค่ำคืนของโลกที่ถูกกักขังด้วยกระแสน้ำ
นักวิจัยยังระบุว่า โลกของ Hycean นั้นค่อนข้างธรรมดา หมายความว่า สถานที่ที่มีแนวโน้มมากที่สุดในการค้นหาชีวิตในที่อื่นในกาแลคซีของเรา อาจซ่อนตัวอยู่ในสายตาธรรมดาแแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ขนาดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการยืนยันว่าดาวเคราะห์ดวงหนึ่งเป็นดาว Hycean หรือไม่ จำเป็นต้องมีการยืนยันในด้านอื่นๆอีก เช่น มวล อุณหภูมิ และบรรยากาศ
'Super-Earths' และ 'mini-Neptunes' มีอยู่มากมายนอกระบบสุริยะของเรา
Dr. Madhusudhan กล่าวว่า ดาวเคราะห์ Hycean เปิดเส้นทางใหม่ในการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่อื่น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว การมองหาลักษณะเฉพาะของโมเลกุลต่างๆ จะมุ่งความสนใจไปที่ดาวเคราะห์ที่คล้ายกับโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สมเหตุสมผล แต่เป็นไปได้ว่าดาวเคราะห์ Hycean มีโอกาสที่ดีกว่าในการค้นหาสัญญาณชีวภาพ และเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สภาพที่เอื้ออาศัยได้อาจมีอยู่บนดาวเคราะห์ที่แตกต่างจากโลกมาก
โดยนักวิจัยหวังว่าตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่พบบนพื้นโลกจำนวนหนึ่ง ที่คาดว่าจะมีอยู่ในบรรยากาศ Hycean จะสามารถตรวจพบได้อย่างง่ายดายด้วยการสังเกตการณ์ทาง spectroscopic ในอนาคตอันใกล้ และด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น และชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจนของดาวเคราะห์ Hycean จะทำให้สัญญาณในชั้นบรรยากาศของพวกมันสามารถตรวจจับได้ง่ายกว่าดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลกอื่นมาก
นอกจากนี้ นักวิจัยยังระบุตัวอย่างขนาดใหญ่ของโลก Hycean ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นตัวเลือกหลักสำหรับการศึกษาอย่างละเอียดด้วยกล้องโทรทรรศน์ James Webb Space Telescope รุ่นต่อไปของ NASA ซึ่งมีกำหนดจะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยดาวเคราะห์ตัวเลือกเหล่านี้โคจรรอบดาวแคระแดงที่อยู่ห่างออกไป 35 - 150 ปีแสงจากโลก และจากการสำรวจตามแผน ที่มีแนวโน้มมากที่สุดได้แก่ " K2-18b " ที่ในอนาคตอาจนำไปสู่การตรวจหาโมเลกุลชีวภาพอย่างน้อยหนึ่งโมเลกุล
Dr. Madhusudhan กล่าวเพิ่มเติมว่า " การตรวจจับทางชีวภาพจะเปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับชีวิตในจักรวาล เราต้องเปิดกว้างเกี่ยวกับที่ที่เราคาดหวังว่าจะพบชีวิตและรูปแบบชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้น ในขณะที่ธรรมชาติยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับเราในรูปแบบที่มักคาดไม่ถึง ”
ซุปเปอร์เอิร์ธ K2-18b
K2-18b และเพื่อนบ้าน K2-18c ที่เพิ่งค้นพบใหม่ โคจรรอบดาวแคระแดง k2-18 ซึ่งอยู่ห่างออกไป 111 ปีแสงในกลุ่มดาวลีโอ
Cr.
http://www.sci-news.com/astronomy/hycean-worlds-10004.html / by News Staff
Cr.
https://www.space.com/new-class-habitable-exoplanets-hycean-worlds / By Mike Wall
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ดาวเคราะห์นอกระบบประเภทใหม่ " Hycean Worlds "
จากดาวเคราะห์นอกระบบหลายพันดวงที่รู้จักกันในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นดาวเคราะห์มวลต่ำที่มีขนาดเท่ากับ 1 - 4 ของมวลโลก ที่อยู่ระหว่างดาวเคราะห์ภาคพื้นดินกับยักษ์น้ำแข็งของระบบสุริยะของเรา เนื่องจากพวกมันไม่มีระบบสุริยะที่คล้ายคลึงกัน ดาวเคราะห์เหล่านี้จึงถูกจัดประเภทอย่างหลากหลายว่าเป็นทั้ง super-Earths หรือ mini-Neptunes ดาวเนปจูนขนาดเล็ก ขึ้นอยู่กับการอนุมานเกี่ยวกับองค์ประกอบจำนวนมากตามความหนาแน่นของพวกมัน
ตามการศึกษาใหม่ ซึ่งตีพิมพ์ออนไลน์เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2021 ที่ผ่านมาในวารสารวิทยาศาสตร์ The Astrophysical Journal ระบุว่าโลก Hycean มีขนาดใกล้เคียงกับ " super-Earth " และ "mini-Neptunes" ที่มีลักษณะเป็นแก๊ส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสองประเภทที่พบมากที่สุดในกาแลคซี แต่ Hycean มีความแตกต่างกัน โดยมีความหนาแน่นอยู่ระหว่างทั้งสอง
ทั้งนี้ การศึกษาก่อนหน้าของดาวเคราะห์ดังกล่าวพบว่า ความดันและอุณหภูมิภายใต้ชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจนของพวกมัน สูงเกินไปที่จะดำรงชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม Dr. Nikku Madhusudhan นักดาราศาสตร์ในสถาบันดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Cambridge และคณะได้ค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้
ว่าดาวเคราะห์เหล่านี้สามารถช่วยดำรงชีวิตได้ในบางสภาวะ
ดาวเคราะห์เหล่านี้อาจมีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 2.6 เท่า และมีอุณหภูมิชั้นบรรยากาศสูงถึงเกือบ 200 องศาเซลเซียส แต่สภาพมหาสมุทรของพวกมันอาจคล้ายกับจะเอื้อต่อชีวิตจุลินทรีย์แบบในมหาสมุทรของโลก ดาวเคราะห์ดังกล่าวยังรวมถึงโลก Hyceans ที่มีความหลากหลายเช่น “Dark Hycean” บางดวงที่โคจรใกล้กับดาวของพวกมันมากจนถูกปิดกั้นโดยกระแสน้ำ โดยมีด้านหนึ่งที่ร้อนแผดเผาและด้านกลางคืนที่มืดมิดชั่วนิรันดร์
และ “Cold Hycean” บางดวงโคจรไกลออกไป โดยได้รับรังสีดาวน้อยมาก ซึ่งนักวิจัยเน้นย้ำว่าชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้แม้กระทั่งในไฮเซียนสุดขั้ว เช่น ในน่านน้ำยามค่ำคืนของโลกที่ถูกกักขังด้วยกระแสน้ำ
นักวิจัยยังระบุว่า โลกของ Hycean นั้นค่อนข้างธรรมดา หมายความว่า สถานที่ที่มีแนวโน้มมากที่สุดในการค้นหาชีวิตในที่อื่นในกาแลคซีของเรา อาจซ่อนตัวอยู่ในสายตาธรรมดาแแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ขนาดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการยืนยันว่าดาวเคราะห์ดวงหนึ่งเป็นดาว Hycean หรือไม่ จำเป็นต้องมีการยืนยันในด้านอื่นๆอีก เช่น มวล อุณหภูมิ และบรรยากาศ
โดยนักวิจัยหวังว่าตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่พบบนพื้นโลกจำนวนหนึ่ง ที่คาดว่าจะมีอยู่ในบรรยากาศ Hycean จะสามารถตรวจพบได้อย่างง่ายดายด้วยการสังเกตการณ์ทาง spectroscopic ในอนาคตอันใกล้ และด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น และชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจนของดาวเคราะห์ Hycean จะทำให้สัญญาณในชั้นบรรยากาศของพวกมันสามารถตรวจจับได้ง่ายกว่าดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลกอื่นมาก
นอกจากนี้ นักวิจัยยังระบุตัวอย่างขนาดใหญ่ของโลก Hycean ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นตัวเลือกหลักสำหรับการศึกษาอย่างละเอียดด้วยกล้องโทรทรรศน์ James Webb Space Telescope รุ่นต่อไปของ NASA ซึ่งมีกำหนดจะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยดาวเคราะห์ตัวเลือกเหล่านี้โคจรรอบดาวแคระแดงที่อยู่ห่างออกไป 35 - 150 ปีแสงจากโลก และจากการสำรวจตามแผน ที่มีแนวโน้มมากที่สุดได้แก่ " K2-18b " ที่ในอนาคตอาจนำไปสู่การตรวจหาโมเลกุลชีวภาพอย่างน้อยหนึ่งโมเลกุล
Dr. Madhusudhan กล่าวเพิ่มเติมว่า " การตรวจจับทางชีวภาพจะเปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับชีวิตในจักรวาล เราต้องเปิดกว้างเกี่ยวกับที่ที่เราคาดหวังว่าจะพบชีวิตและรูปแบบชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้น ในขณะที่ธรรมชาติยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับเราในรูปแบบที่มักคาดไม่ถึง ”
Cr.https://www.space.com/new-class-habitable-exoplanets-hycean-worlds / By Mike Wall
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)