คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เราถึงกับสมัครสมากชิกเพื่อมาตอบ
เราเคยผ่านจุดเดียวกับเจ้าของกระทู้มาก่อน
-เรามีน้องชายห่างกัน 8 ปี แต่น้องชายไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งเล่นเกมส์ (แต่เราอายุห่างกันมากเราเลยไม่คิดอะไรมาก)
-เราตื่นไปโรงเรียนเอง ทำการบ้านเอง จัดการเรื่องเรียนเอง
-เราช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ช่วยทำขนม(ที่บ้านเราทำขนมปังขาย,โดนัท)
-เสาร์ อาทิตย์ต้องทำงานบ้าน เช้า จนถึงค่ำ
-ปลุกเราแต่เช้าเพื่อให้เราตื่นมาทำงานบ้าน แล้วก็บอกว่าไม่ช่วยอะไรเลย ไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆที่เราทำตั้งเยอะ ทำทั้งวัน แค่แวบๆไปดูทีวีแปปนึงยังไม่ได้เลย เข้าห้องน้ำนานก็โดนด่า
-ไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่เคยได้เรียนพิเศษ เพราะจะให้เราช่วยทำงาน ทำขนม และประหยัด (เราเลยไม่มีสังคม)
-สอบติดมหาลัยก็ไม่ให้มอบตัว จะให้เรียนราชภัฏ สุดท้ายพอคนอื่นบอกว่าคณะที่เราสอบติดอะดี แกเลยให้เราแอดมิชชั่นไปคณะเดิมใหม่อีกรอบ (ตอนนั้นเก็บกดและจบ ม.6 มาด้วยน้ำตา)
จะบอกว่าสำหรับเด็กเราเข้าใจว่ามันท้อ มันกดดันมาก
อดทนหน่อยนะคะ
ปัจจุบันนี้เราทำงานมา 6 ปีแล้วค่ะ
ความคิดเดียวคือ ชั้นต้องเรียนแล้วจบมาต้องไม่ทำขนมขาย
เพราะเหนื่อยมากกกตั้งแต่เด็ก
-เราทำงานอยุ่ปริมณฑล บ้านเราอยู่ ตจว
-เราไม่ค่อยชอบกลับบ้าน นานๆทีกลับ
-พึ่งรู้สึกว่าชีวิตได้พักผ่อนๆไม่มีใครมากดดัน
-เลิกงานอยากนอนก็นอน อยากทำไรก็ทำ เสาร์ อาทิตย์ อยากกลับบ้านก็กลับไม่อยากกลับก็บอกว่าทำโอที มีงาน
-แต่เราส่งเงินให้พ่อแม่ปกตินะ
-กลับบ้านคือ พ่อแม่เราเลิกใช้งานเราเลย คงจะชินแล้วที่อยุ่กัน 2 คน และเราอาจจะโตแล้ว ตอนนี้ท่านเปลี่ยนไปมากเรากลับบ้านแกแทบจะทำให้ทุกอย่าง จนเรางง
สรุป คือ อดทนค่ะ ตอนเรียนเรา คือ เด็ก เหนื่อยค่ะยอมรับ
ขอให้ผ่านมันไปให้ได้ พอคุณทำงานคุณจะเข้าใจเลยว่า
เราอดทนได้เยอะมากก คำพูดแรงๆ ที่พ่อแม่ด่ากว่านี้ก็เจอมาแล้ว
ปล วิธีของเราอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนะคะ แค่เป็นประสบการณ์ชีวิตเราค่ะ
เราเคยผ่านจุดเดียวกับเจ้าของกระทู้มาก่อน
-เรามีน้องชายห่างกัน 8 ปี แต่น้องชายไม่ต้องทำอะไรเลยนั่งเล่นเกมส์ (แต่เราอายุห่างกันมากเราเลยไม่คิดอะไรมาก)
-เราตื่นไปโรงเรียนเอง ทำการบ้านเอง จัดการเรื่องเรียนเอง
-เราช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ช่วยทำขนม(ที่บ้านเราทำขนมปังขาย,โดนัท)
-เสาร์ อาทิตย์ต้องทำงานบ้าน เช้า จนถึงค่ำ
-ปลุกเราแต่เช้าเพื่อให้เราตื่นมาทำงานบ้าน แล้วก็บอกว่าไม่ช่วยอะไรเลย ไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆที่เราทำตั้งเยอะ ทำทั้งวัน แค่แวบๆไปดูทีวีแปปนึงยังไม่ได้เลย เข้าห้องน้ำนานก็โดนด่า
-ไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่เคยได้เรียนพิเศษ เพราะจะให้เราช่วยทำงาน ทำขนม และประหยัด (เราเลยไม่มีสังคม)
-สอบติดมหาลัยก็ไม่ให้มอบตัว จะให้เรียนราชภัฏ สุดท้ายพอคนอื่นบอกว่าคณะที่เราสอบติดอะดี แกเลยให้เราแอดมิชชั่นไปคณะเดิมใหม่อีกรอบ (ตอนนั้นเก็บกดและจบ ม.6 มาด้วยน้ำตา)
จะบอกว่าสำหรับเด็กเราเข้าใจว่ามันท้อ มันกดดันมาก
อดทนหน่อยนะคะ
ปัจจุบันนี้เราทำงานมา 6 ปีแล้วค่ะ
ความคิดเดียวคือ ชั้นต้องเรียนแล้วจบมาต้องไม่ทำขนมขาย
เพราะเหนื่อยมากกกตั้งแต่เด็ก
-เราทำงานอยุ่ปริมณฑล บ้านเราอยู่ ตจว
-เราไม่ค่อยชอบกลับบ้าน นานๆทีกลับ
-พึ่งรู้สึกว่าชีวิตได้พักผ่อนๆไม่มีใครมากดดัน
-เลิกงานอยากนอนก็นอน อยากทำไรก็ทำ เสาร์ อาทิตย์ อยากกลับบ้านก็กลับไม่อยากกลับก็บอกว่าทำโอที มีงาน
-แต่เราส่งเงินให้พ่อแม่ปกตินะ
-กลับบ้านคือ พ่อแม่เราเลิกใช้งานเราเลย คงจะชินแล้วที่อยุ่กัน 2 คน และเราอาจจะโตแล้ว ตอนนี้ท่านเปลี่ยนไปมากเรากลับบ้านแกแทบจะทำให้ทุกอย่าง จนเรางง
สรุป คือ อดทนค่ะ ตอนเรียนเรา คือ เด็ก เหนื่อยค่ะยอมรับ
ขอให้ผ่านมันไปให้ได้ พอคุณทำงานคุณจะเข้าใจเลยว่า
เราอดทนได้เยอะมากก คำพูดแรงๆ ที่พ่อแม่ด่ากว่านี้ก็เจอมาแล้ว
ปล วิธีของเราอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนะคะ แค่เป็นประสบการณ์ชีวิตเราค่ะ
แสดงความคิดเห็น
พ่อเเม่เกิดเรามาเพื่ออะไร ??
เป็นข้อสงสัยที่ผมอยากรู้มากว่าพ่อเเม่เกิดเรามาทำไม ผมจะเล่าเหตุการณ์ชีวิตของผมให้ดูครับ
ผมอยู่ ปวช.1 ช่างก่อสร้าง ในวิทยาลัยเทคนิคเเห่งหนึ่ง เเละสถานการณ์ตอนนี้มีไวรัสโควิด-19 เเพร่กระจายกันเยอะมาก จึงมีการเรียนออนไลน์ขึ้น โดยปกติที่บ้าน มีสมาชิกอยู่ 4 คน พ่อ เเม่ น้อง เเละตัวผมเอง ที่บ้านโดยปกติเเล้วถ้าไม่มีเรียนออนไลน์ ตื่นเช้ามาผมมีหน้าที่ต้องกวาดบ้าน ล้างจาน หุงข้าวเป็นประจำ เเล้วไปอาบน้ำเเต่งตัวไป วิทยาลัย ทุกคนดูว่ามันก็ปกติดี เเต่มันไม่เลย หลังจากที่เรียนออนไลน์ผมมีอาการเครียดเเละเก็บกดเป็นอย่างมากเเต่ผมไม่ได้บอกอะไรกับครอบครัวเพราะที่บ้านพ่อ เเม่ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้กันเท่าไหร่ ทำเมินสะมากกว่าเมื่อผมเล่าเรื่องนี้ ที่บ้านผมผมบอกเลยว่า ผมไม่ค่อยอยากอยู่สักเท่าไร เพราะมันอึดอัดมากทำอะไรก็ไม่ได้ต้องอยู่ในสายตาเค้าตลอด ที่ๆเดียวที่ผมสบายใจเมื่ออยู่บ้านคือในห้อง เเละตอนเรียนออนไลน์นี้เเหละประเด็น พ่อเเม่ชอบบ่นตลอดว่างานบ้านงานสวนอะไรไม่ช่วยทำเลย วันๆอยู่เเต่ในห้องเรียนออนไลน์บ้านั่น พอคาบว่างพักเที่ยงก็เล่นโทรศัพท์ ผมได้ยินเเล้วผมก็ไม่ตอบอะไร เเต่คิดในใจว่า ตอนเข้าตื่นมาบางวันก็ไปเก็บน้ำยาง (ผมเป็นคนภาคใต้ทำไร่ยาง) กวาดบ้าน ล้างจาน หุงข้าว ก่อนจะเข้าโทรศัพท์มาเรียนออนไลน์ เเละไอที่บอกว่าพักเที่ยงจับโทรศัพท์เล่นเกมไม่ช่วยอะไรเลย คือพักเที่ยงมีเวลา1 ชม.กว่า คือผมอยากคลายความตึงเครียดบ้าง บางทีผมได้ยินเเล้วก็หงุดหงิดเป็นบางครั่งนะ เเละเค้าจะพูดว่าเสาร์อาทิตย์ก็ไม่เคยช่วยทำอะไรเลย คือเสาร์ อาทิตย์ ผมไปช่วยงานที่ไร่ทั้งวันงานบ้านที่บ้านไม่ได้ทำ เเต่พอกลับมาบ้านเหนื่อยต้องมาฟังเค้าบ่น ซึ่งที่จริงน้องอีกคนนึงมันก็โต อยู่ชั้น ป.4 ละ เเต่เค้าไม่เคยใช้อะไรสักอย่างงานทุกอย่างต้องมาอยู่ที่ผมคนเดียว ทั้งในไร่ ที่บ้าน บางคืนผมก็ได้นอนตี3 เพราะการบ้านมันเยอะมาก พอเสร็จงานก็นอน เช้ามาเค้าก็ปลุกเเล้วสัก 6 โมงเช้า ปลุกเเล้วไม่ใช่อะไรนะ ปลุกให้ผมไปตากผ้า ถูพื้น หุงข้าว ล้างจาน กวาดบ้าน ทุกอย่างอะ พอถึง8 โมงก็ไปเรียนออนไลน์ ผมท้อมากกับชีวิตอยากรีบเรียนให้จบๆไปซักทีจะได้มีงานทำได้ไปอยู่ข้างนอกเพราะอยู่ที่บ้านไม่เคยมีความสุขเลย เเละก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเค้าเกิดเรามาทำไม เกิดมาเป็นคนรับใช้หรอ หรืออะไร??