สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์ทุกท่าน
ผมมีเรื่องอยากปรึกษาครับ แต่อยากประหยัดเวลาของทุกท่าน จึงจะขอเล่าแบบสรุปและกระชับที่สุด
ผมเรียนเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ใกล้ๆนิมมาน จบมาปี 62 ปลายปี จบก่อนเพื่อน 1 ปี มีโอกาสไปทำงานกทมทันทีหลังเรียนจบ คิดว่าชีวิตกำลังไปได้สวยทั้งการเรียน+หน้าีท่การงาน แต่ต้องลาออกมาช่วง พฤษภา เพราะปัญหาสุขภาพของคุณตา (ช่วงนั้นโควิดกำลังระบาดพอดี)
คุณตาอายุ 90 แล้วครับอยู่คนเดียว คุณยายพึ่งเสียไปไม่นาน ไม่มีคนดูแลท่านเพราะท่านเป็นคนอารมณ์รุนแรง ปากร้ายมากกกก แต่ผมรู้ว่าแกลึกๆใจดีครับ
สมัยก่อนปกติเวลาปิดเทอมผมจะนั่งรถทัวร์ลงมาจากเชียงใหม่ มาที่กทม ไม่ค่อยได้เจอปู่หรอกครับ เพราะผมไม่ใช่หลานแกจริงๆ ฝั่งบ้านผมแต่งงานเข้าบ้านแกครับและแกจะมีหลานรักอยู่แล้ว2-3คนครับ วัยใกล้เคียงกันกับผม ความรู้สึกผมตอนนั้นคือเหมือนลูกเมียน้อยเลยครับ 555 -พูดเล่นนะครับ
ตัดภาพมาปัจจุบัน ตั้งแต่คุณย่าเสียไป ลูกหลานแกไม่เคยมาเยี่ยมเลยครับ ไม่มาดูแล มีครั้งนึงผมพาแกไปเที่ยวหาถึงบ้านญาติของตา สิ่งที่ผมเห็นคือทุกคนรีบปิดประตูหนีเข้าบ้านหมด จนตาแกบอกว่าอ้าวไม่อยู่บ้านกันหรอกเหรอ ผมเห็นแล้วรู้สึกสงสารมาก ทำไมปล่อยแกอยู่คนเดียว แต่โชคยังดีตาอยู่ในบ้านจัดสรรเลยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยดูแลบ้าง ช่วงลาออกมาดูแลผมก็ยังพอมีรายได้ครับจากการทำงานอิสระ แต่ไม่มาก ดูแลมาจนถึงช่วงสุดท้ายในชีวิตของตา ประมาณเมษายนที่ผ่านมา ผมไม่ได้มรดกหรือผลประโยชน์อะไรทั้งนั้นนะครับ คิดว่าเราทำเต็มที่ในช่วงสุดท้ายของคนๆนึง คิดว่าเรายังอายุไม่มากยังหางานทำต่อได้หลังจากนั้น แต่จนถึงปัจจุบัน ยังหางานประจำไม่ได้ครับ คิดว่าอาจเป็นเพราะตอนทำงานที่กทม ฐานเงินเดือนมากกว่าที่เชียงใหม่ ไปสัมภาษณ์งานหลายที่ บางที่ได้งานแล้วแต่โควิดระบาดใกล้ๆ ด้วยความกลัวตาย เลยขอไม่ไปทำเพราะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยสักเข็ม จนช่วงระบาดหนักทางครอบครัวไม่อยากให้ทำงาน แต่ผมอยู่เฉยๆไม่ได้ วัยกำลังไฟแรง อยากทำงาน อยากหาเงิน เลยพยายามหาเงินหลายๆทางเท่าที่ตนเองจะทำได้
ตัวผมมีความรู้เรื่องการลงทุนอยู่บ้างจากสายที่เรียนมา เลยหาข้อมูลลงทุนทั้งหุ้นและคริปโต แล้วลงทุนครับด้วยเงินออมก้อนสุดท้าย(เงินจากการทำงานของตัวเอง) ผลตอบรับค่อนข้างดี กำไรอาทิตย์ละ 15-30% ต่ออาทิตย์เลย เลยขอเงินจากทางบ้านมาเป็นทุน แต่เขาบอกไม่มีทุนให้เรา ไม่เป็นไรไม่คิดอะไรมากเลยนั่งหาข้อมูลความรู้ไปเรื่อยๆครับ จนกระทั่งผ่านมาอีกสักพักที่บ้านผมซื้อที่ดิน 7 แสน + รถกระบะ มือสอง 1 แสน ทั้งหมดเป็นเงินสด
ความรู้สึกของผมคือ ...เข้าใจมาตลอดว่าที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ตอนเรียนหนังสือผมใช้เงินประหยัดมาก ไม่กินไม่เที่ยว ตั้งใจเรียน รีบเรียนจบก่อนเพราะคิดว่าไม่อยากเสียค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายอื่นแล้ว เหมือนชีวิตผมทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกไปเลย ..
เข้าใจนะครับว่าการซื้อที่ดิน มูลค่าที่ดินมันเพิ่มตามเวลา แต่ที่ดินที่ซื้อเมาป็นที่ตรงข้ามหน้าบ้านแค่ 1 ไร่ ซื้อมาเพราะคุณยายหน้าบ้านแกเป็นหนี้จะโดนแบงค์ยึด เขาร้อนเงินเลยรีบซื้อ ซื้อเสร็จใช่ว่าจะได้ใช้นะครับ ให้คุณยายแกอยู่ต่อ ไม่นานแกก็เสีย สุดท้ายที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโญชน์อะไรเลยครับ เป็นโกดังที่เก็บของ พอผมถามเขากลับบอกว่าที่ทำทั้งหมดนี้เพื่อเราในอนาคต แต่ตัวผมในตอนนี้มองไม่เห็นอะไรเลยครับมืดไปหมด
แทนที่จะซัพพอร์ตเรา ให้เรามีอนาคตมากกว่านี้ ทำไมเขาถึงไม่ทำครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป รบกวนขอคำชี้แนะจากพี่ๆด้วยครับ :'(
พี่ๆช่วยผมด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมมีเรื่องอยากปรึกษาครับ แต่อยากประหยัดเวลาของทุกท่าน จึงจะขอเล่าแบบสรุปและกระชับที่สุด
ผมเรียนเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ใกล้ๆนิมมาน จบมาปี 62 ปลายปี จบก่อนเพื่อน 1 ปี มีโอกาสไปทำงานกทมทันทีหลังเรียนจบ คิดว่าชีวิตกำลังไปได้สวยทั้งการเรียน+หน้าีท่การงาน แต่ต้องลาออกมาช่วง พฤษภา เพราะปัญหาสุขภาพของคุณตา (ช่วงนั้นโควิดกำลังระบาดพอดี)
คุณตาอายุ 90 แล้วครับอยู่คนเดียว คุณยายพึ่งเสียไปไม่นาน ไม่มีคนดูแลท่านเพราะท่านเป็นคนอารมณ์รุนแรง ปากร้ายมากกกก แต่ผมรู้ว่าแกลึกๆใจดีครับ
สมัยก่อนปกติเวลาปิดเทอมผมจะนั่งรถทัวร์ลงมาจากเชียงใหม่ มาที่กทม ไม่ค่อยได้เจอปู่หรอกครับ เพราะผมไม่ใช่หลานแกจริงๆ ฝั่งบ้านผมแต่งงานเข้าบ้านแกครับและแกจะมีหลานรักอยู่แล้ว2-3คนครับ วัยใกล้เคียงกันกับผม ความรู้สึกผมตอนนั้นคือเหมือนลูกเมียน้อยเลยครับ 555 -พูดเล่นนะครับ
ตัดภาพมาปัจจุบัน ตั้งแต่คุณย่าเสียไป ลูกหลานแกไม่เคยมาเยี่ยมเลยครับ ไม่มาดูแล มีครั้งนึงผมพาแกไปเที่ยวหาถึงบ้านญาติของตา สิ่งที่ผมเห็นคือทุกคนรีบปิดประตูหนีเข้าบ้านหมด จนตาแกบอกว่าอ้าวไม่อยู่บ้านกันหรอกเหรอ ผมเห็นแล้วรู้สึกสงสารมาก ทำไมปล่อยแกอยู่คนเดียว แต่โชคยังดีตาอยู่ในบ้านจัดสรรเลยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยดูแลบ้าง ช่วงลาออกมาดูแลผมก็ยังพอมีรายได้ครับจากการทำงานอิสระ แต่ไม่มาก ดูแลมาจนถึงช่วงสุดท้ายในชีวิตของตา ประมาณเมษายนที่ผ่านมา ผมไม่ได้มรดกหรือผลประโยชน์อะไรทั้งนั้นนะครับ คิดว่าเราทำเต็มที่ในช่วงสุดท้ายของคนๆนึง คิดว่าเรายังอายุไม่มากยังหางานทำต่อได้หลังจากนั้น แต่จนถึงปัจจุบัน ยังหางานประจำไม่ได้ครับ คิดว่าอาจเป็นเพราะตอนทำงานที่กทม ฐานเงินเดือนมากกว่าที่เชียงใหม่ ไปสัมภาษณ์งานหลายที่ บางที่ได้งานแล้วแต่โควิดระบาดใกล้ๆ ด้วยความกลัวตาย เลยขอไม่ไปทำเพราะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยสักเข็ม จนช่วงระบาดหนักทางครอบครัวไม่อยากให้ทำงาน แต่ผมอยู่เฉยๆไม่ได้ วัยกำลังไฟแรง อยากทำงาน อยากหาเงิน เลยพยายามหาเงินหลายๆทางเท่าที่ตนเองจะทำได้
ตัวผมมีความรู้เรื่องการลงทุนอยู่บ้างจากสายที่เรียนมา เลยหาข้อมูลลงทุนทั้งหุ้นและคริปโต แล้วลงทุนครับด้วยเงินออมก้อนสุดท้าย(เงินจากการทำงานของตัวเอง) ผลตอบรับค่อนข้างดี กำไรอาทิตย์ละ 15-30% ต่ออาทิตย์เลย เลยขอเงินจากทางบ้านมาเป็นทุน แต่เขาบอกไม่มีทุนให้เรา ไม่เป็นไรไม่คิดอะไรมากเลยนั่งหาข้อมูลความรู้ไปเรื่อยๆครับ จนกระทั่งผ่านมาอีกสักพักที่บ้านผมซื้อที่ดิน 7 แสน + รถกระบะ มือสอง 1 แสน ทั้งหมดเป็นเงินสด
ความรู้สึกของผมคือ ...เข้าใจมาตลอดว่าที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ตอนเรียนหนังสือผมใช้เงินประหยัดมาก ไม่กินไม่เที่ยว ตั้งใจเรียน รีบเรียนจบก่อนเพราะคิดว่าไม่อยากเสียค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายอื่นแล้ว เหมือนชีวิตผมทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกไปเลย ..
เข้าใจนะครับว่าการซื้อที่ดิน มูลค่าที่ดินมันเพิ่มตามเวลา แต่ที่ดินที่ซื้อเมาป็นที่ตรงข้ามหน้าบ้านแค่ 1 ไร่ ซื้อมาเพราะคุณยายหน้าบ้านแกเป็นหนี้จะโดนแบงค์ยึด เขาร้อนเงินเลยรีบซื้อ ซื้อเสร็จใช่ว่าจะได้ใช้นะครับ ให้คุณยายแกอยู่ต่อ ไม่นานแกก็เสีย สุดท้ายที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโญชน์อะไรเลยครับ เป็นโกดังที่เก็บของ พอผมถามเขากลับบอกว่าที่ทำทั้งหมดนี้เพื่อเราในอนาคต แต่ตัวผมในตอนนี้มองไม่เห็นอะไรเลยครับมืดไปหมด
แทนที่จะซัพพอร์ตเรา ให้เรามีอนาคตมากกว่านี้ ทำไมเขาถึงไม่ทำครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป รบกวนขอคำชี้แนะจากพี่ๆด้วยครับ :'(