**ขอเล่าเรื่องก่อนค่ะ คือบ้านที่เราอยู่ ตายาย พ่อแม่ อยู่กันมาก่อน 30 กว่าปี สร้างบ้านบนที่ดินไว้หลังนึง ที่ดินเงินยายเป็นคนซื้อค่ะ โฉนดที่ดินชื่อยาย ส่วนบ้านที่สร้างพ่อเป็นคนกู้เงินมาสร้างค่ะ ทำกับตาสองคน ตอนนั้นแกยังเดินได้และแข็งแรงดีค่ะ
(ต่อมาช่วงนึงน่าจะตั้งแต่เราเรียนประถมตาได้ผ่าตัดเข่าแล้วเดินไม่ได้ค่ะต้องนั่งรถเข็น แต่ก็ยังช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ เข็นรถพาตัวเองออกไปซื้อของไปคุยกับคนรู้จักเองได้ค่ะ แกออกทุกเช้า) ทุกคนอาศัยอยู่กินกันปกติค่ะ
- จนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วยายเสียชีวิต ตาเป็นคนเก็บโฉนดไว้ค่ะ ไม่ได้ไปทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนอะไรเพราะแกเดินไม่ได้ค่ะเลยอยู่กินกันไป ตากับยายมีลูกด้วยกัน 4 คน ทุกคนมีที่อยู่ของตัวเองค่ะ อาศัยฝากของมาให้ตายาย หรือนานๆจะมาที ยกเว้นแม่ที่เป็นคนเล็กอาศัยอยู่บ้านเดียวกับตายายค่ะ
(ตอนยายเสียแม่ได้เป็นเจ้าบ้านค่ะ เพราะตาเดินไม่ได้เวลาแจ้งคนเข้าออกทะเบียนบ้านกลัวจะทำไม่ได้ค่ะ แม่เลยไปบอกตาว่าจะเป็นเจ้าบ้านนะ แกก็ไม่ติดอะไรค่ะ เพราะแม่ก็อยู่บ้านนี้)
**ต้องบอกก่อนว่าทะเบียนบ้านไม่ได้มีแค่ชื่อตายาย พ่อแม่ค่ะ ยังมีลูกหลานเหลนตายายคนอื่นอยู่ด้วย ที่ไม่ได้อาศัยในบ้านหลังนี้จริงค่ะ ถ้าเรียกก็คือบ้านหลัก**
- ตอนยายเสีย ตาเป็นคนเอาโฉนดมาเก็บไว้เองเพราะแกไม่ไว้ใจใครค่ะ แกเคยมีที่ดินเก่าที่นึงค่ะ ก่อนจะย้ายมาที่ดินปัจจุบัน พี่สาวแม่ 2 คนเคยเอาที่ดินไปเข้าค่ะ แล้วหาเงินไถ่คืนไม่ได้ ตาเลยกลัวจะซ้ำรอยเดิม
- หลังจากยายเสีย 5 ปีต่อมาตาก็เสียตามค่ะ แต่ก่อนหน้าที่ตาจะเสีย พี่สาวแม่คนนึงขอที่ส่วนนึงปลูกบ้านให้ลูกเขา เพราะที่ๆบ้านเขาไม่เพียงพอจะสร้างบ้านอีกหลัง ตอนนั้นไม่ทราบว่าตาจะตัดสินใจยังไง แต่แม่เป็นคนไปพูดกับตาว่าให้สร้างไปเถอะ เพราะก็เห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกัน เขาเลยมาสร้างค่ะ
- ตอนตาเสียจบเรื่องงาน ป้าก็เดินเข้ามาในบ้านและหยิบโฉนดที่ดินไปเลยค่ะ ไม่ได้มาถามหรือปรึกษาใครเลย ตอนนั้นพี่ชายเป็นคนเห็นค่ะ แม่ทราบเรื่องก็ไม่ได้จะไปอะไรเพราะไม่ได้อยากมีปัญหาค่ะ โฉนดก็ชื่อยาย ก็ต่างคนต่างอยู่กันไปค่ะ จนพี่สาวแม่อีกคนขอมาสร้างบ้านอีกหลังหนึ่ง แม่ก็ให้สร้างค่ะ
- ปัจจุบันที่ดินยายมีบ้าน 3 หลัง ก่อนหน้านั้นไม่มีใครมาพูดเรื่องที่ดินกันเลยค่ะ จนมามีปัญหาล่าสุด ทะเลาะกัน ไม่รู้พี่สาวแม้เขาไปโดนเป่าหูอะไรมาค่ะ มาพูดเรื่องแม่เป็นเจ้าบ้านได้ยังไง ใครปลอมแปลงเอกสารเขา เพราะเหมือนต้องใช้เอกสารจากพี่น้องทุกคนค่ะ แต่แม่บอกว่าเขาเป็นคนเอามาให้เอง ตาเดินไม่ได้แล้วตอนนั้นก็มีแค่แม่ที่อยู่บ้านเดียวกับตา ถ้าไม่ใช่แม่แล้วใครจะมาเป็น พี่น้องคนอื่นก็ไม่ได้มาอยู่บ้านนี้ด้วย ก่อนหน้าที่แม่จะมาเป็นเจ้าบ้านก็ได้บอกตาแล้วค่ะ ว่าเดี๋ยวจะเป็นเจ้าบ้านนะ ตาก็ไม่ได้ค้านอะไรค่ะ แม่ถึงมาเป็นเจ้าบ้าน
- และจะเล่าถึงเรื่องโฉนดค่ะ ตอนที่ป้ามาว่าแม่เรื่องเจ้าบ้าน เขาหาว่าโฉนดอยู่กับแม่ค่ะ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาลืมตัวหรืออะไร แม่เลยบอกว่าถ้าโฉนดอยู่กับแม่ขอให้ตายในสามวันเจ็ดวันเลย เพราะไม่ได้อยู่ที่แม่จริงๆค่ะ ป้าหยิบออกไปตั้งแต่จบงานตาแล้วไม่เคยเห็นโฉนดเลยค่ะ เหลือแต่ซอง เรามีหลักฐานด้วยค่ะตอนป้าพูดว่าไม่ได้อยู่กับเขา
***ที่อยากจะถามก็คือ***
- อยากทราบว่าถ้าแบบนี้เราสามารถไปแจ้งหายแล้วขอคัดใหม่ได้มั้ยคะ
- มีขั้นตอนยังไงบ้าง ต้องให้พี่น้องเซ็นอีกมั้ย
- โฉนดไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ได้อยู่จริงแบบนี้จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
**ถ้าพูดในเรื่องของสิทธิ์แน่นอนค่ะ ลูกตายายมีสิทธิ์กันทุกคน แต่เราไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของกฎหมายหรือการครอบครองทรัพย์สิน
**ขอคำแนะนำจากหลายๆคนที่มีความรู้หรือประสบการณ์จากที่ดิน มรดก หรือทรัพย์สินด้วยค่ะ
**อาจจะยาวสักหน่อย แต่ถ้าเรื่องนี้พอจะเป็นแนวทางหรือการแก้ปัญหาของหลายๆคนที่พบเจอปัญหาแบบเดียวกันได้ ก็ถือเป็นประโยชน์ของหลายๆคนค่ะ ขอคำแนะนำดีๆหน่อยนะคะ
***ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ***
เราสามารถไปขอทำใบโฉนดใหม่ได้มั้ย โฉนดเดิมไม่ได้อยู่ที่บ้าน ถูกหยิบออกจากบ้านไป แจ้งหายได้มั้ย??
(ต่อมาช่วงนึงน่าจะตั้งแต่เราเรียนประถมตาได้ผ่าตัดเข่าแล้วเดินไม่ได้ค่ะต้องนั่งรถเข็น แต่ก็ยังช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ เข็นรถพาตัวเองออกไปซื้อของไปคุยกับคนรู้จักเองได้ค่ะ แกออกทุกเช้า) ทุกคนอาศัยอยู่กินกันปกติค่ะ
- จนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วยายเสียชีวิต ตาเป็นคนเก็บโฉนดไว้ค่ะ ไม่ได้ไปทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนอะไรเพราะแกเดินไม่ได้ค่ะเลยอยู่กินกันไป ตากับยายมีลูกด้วยกัน 4 คน ทุกคนมีที่อยู่ของตัวเองค่ะ อาศัยฝากของมาให้ตายาย หรือนานๆจะมาที ยกเว้นแม่ที่เป็นคนเล็กอาศัยอยู่บ้านเดียวกับตายายค่ะ
(ตอนยายเสียแม่ได้เป็นเจ้าบ้านค่ะ เพราะตาเดินไม่ได้เวลาแจ้งคนเข้าออกทะเบียนบ้านกลัวจะทำไม่ได้ค่ะ แม่เลยไปบอกตาว่าจะเป็นเจ้าบ้านนะ แกก็ไม่ติดอะไรค่ะ เพราะแม่ก็อยู่บ้านนี้)
**ต้องบอกก่อนว่าทะเบียนบ้านไม่ได้มีแค่ชื่อตายาย พ่อแม่ค่ะ ยังมีลูกหลานเหลนตายายคนอื่นอยู่ด้วย ที่ไม่ได้อาศัยในบ้านหลังนี้จริงค่ะ ถ้าเรียกก็คือบ้านหลัก**
- ตอนยายเสีย ตาเป็นคนเอาโฉนดมาเก็บไว้เองเพราะแกไม่ไว้ใจใครค่ะ แกเคยมีที่ดินเก่าที่นึงค่ะ ก่อนจะย้ายมาที่ดินปัจจุบัน พี่สาวแม่ 2 คนเคยเอาที่ดินไปเข้าค่ะ แล้วหาเงินไถ่คืนไม่ได้ ตาเลยกลัวจะซ้ำรอยเดิม
- หลังจากยายเสีย 5 ปีต่อมาตาก็เสียตามค่ะ แต่ก่อนหน้าที่ตาจะเสีย พี่สาวแม่คนนึงขอที่ส่วนนึงปลูกบ้านให้ลูกเขา เพราะที่ๆบ้านเขาไม่เพียงพอจะสร้างบ้านอีกหลัง ตอนนั้นไม่ทราบว่าตาจะตัดสินใจยังไง แต่แม่เป็นคนไปพูดกับตาว่าให้สร้างไปเถอะ เพราะก็เห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกัน เขาเลยมาสร้างค่ะ
- ตอนตาเสียจบเรื่องงาน ป้าก็เดินเข้ามาในบ้านและหยิบโฉนดที่ดินไปเลยค่ะ ไม่ได้มาถามหรือปรึกษาใครเลย ตอนนั้นพี่ชายเป็นคนเห็นค่ะ แม่ทราบเรื่องก็ไม่ได้จะไปอะไรเพราะไม่ได้อยากมีปัญหาค่ะ โฉนดก็ชื่อยาย ก็ต่างคนต่างอยู่กันไปค่ะ จนพี่สาวแม่อีกคนขอมาสร้างบ้านอีกหลังหนึ่ง แม่ก็ให้สร้างค่ะ
- ปัจจุบันที่ดินยายมีบ้าน 3 หลัง ก่อนหน้านั้นไม่มีใครมาพูดเรื่องที่ดินกันเลยค่ะ จนมามีปัญหาล่าสุด ทะเลาะกัน ไม่รู้พี่สาวแม้เขาไปโดนเป่าหูอะไรมาค่ะ มาพูดเรื่องแม่เป็นเจ้าบ้านได้ยังไง ใครปลอมแปลงเอกสารเขา เพราะเหมือนต้องใช้เอกสารจากพี่น้องทุกคนค่ะ แต่แม่บอกว่าเขาเป็นคนเอามาให้เอง ตาเดินไม่ได้แล้วตอนนั้นก็มีแค่แม่ที่อยู่บ้านเดียวกับตา ถ้าไม่ใช่แม่แล้วใครจะมาเป็น พี่น้องคนอื่นก็ไม่ได้มาอยู่บ้านนี้ด้วย ก่อนหน้าที่แม่จะมาเป็นเจ้าบ้านก็ได้บอกตาแล้วค่ะ ว่าเดี๋ยวจะเป็นเจ้าบ้านนะ ตาก็ไม่ได้ค้านอะไรค่ะ แม่ถึงมาเป็นเจ้าบ้าน
- และจะเล่าถึงเรื่องโฉนดค่ะ ตอนที่ป้ามาว่าแม่เรื่องเจ้าบ้าน เขาหาว่าโฉนดอยู่กับแม่ค่ะ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาลืมตัวหรืออะไร แม่เลยบอกว่าถ้าโฉนดอยู่กับแม่ขอให้ตายในสามวันเจ็ดวันเลย เพราะไม่ได้อยู่ที่แม่จริงๆค่ะ ป้าหยิบออกไปตั้งแต่จบงานตาแล้วไม่เคยเห็นโฉนดเลยค่ะ เหลือแต่ซอง เรามีหลักฐานด้วยค่ะตอนป้าพูดว่าไม่ได้อยู่กับเขา
***ที่อยากจะถามก็คือ***
- อยากทราบว่าถ้าแบบนี้เราสามารถไปแจ้งหายแล้วขอคัดใหม่ได้มั้ยคะ
- มีขั้นตอนยังไงบ้าง ต้องให้พี่น้องเซ็นอีกมั้ย
- โฉนดไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ได้อยู่จริงแบบนี้จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
**ถ้าพูดในเรื่องของสิทธิ์แน่นอนค่ะ ลูกตายายมีสิทธิ์กันทุกคน แต่เราไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของกฎหมายหรือการครอบครองทรัพย์สิน
**ขอคำแนะนำจากหลายๆคนที่มีความรู้หรือประสบการณ์จากที่ดิน มรดก หรือทรัพย์สินด้วยค่ะ
**อาจจะยาวสักหน่อย แต่ถ้าเรื่องนี้พอจะเป็นแนวทางหรือการแก้ปัญหาของหลายๆคนที่พบเจอปัญหาแบบเดียวกันได้ ก็ถือเป็นประโยชน์ของหลายๆคนค่ะ ขอคำแนะนำดีๆหน่อยนะคะ
***ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าค่ะ***