สวัสดีครับก่อนเข้าเรื่องผมขอเล่าเกริ่นๆก่อนว่านี้เป็นการเล่าเรื่องครั้งแรกของผมทุกคำที่พิมพ์ลงไปเกิดขึ้นจากเรื่องจริงที่ผมพบเจอเองไม่ได้มีการปรุงแต่งใดๆ และ ด้วยความที่เป็นครั้งแรกอาจมีข้อผิดพลาดเรื่องการเรียบเรียงคำและการพิมพ์ผิดบ้างกราบขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยแล้วกันครับ
ก่อนจะเล่าผมขอบอกไว้อีกอย่างนึงว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย เรื่องศาสนาก็ไม่เชื่อ ผมเชื่อในอะไรที่สามารถใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เท่านั้น แต่ผมชอบดูหนังหรือฟังเรื่องผีเพราะมันสนุกและน่ากลัวดี แต่ก็ฉุกคิดตลอดว่ามันเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาทั้งนั้น
จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมมีปัญหากับแฟนจนเลิกกัน ทำให้ผมต้องย้ายออกจากคอนโดซึ่งกระทันหันมาก ผมจึงต้องรีบหาที่อยู่ใหม่ทันทีแต่หอพักที่อยู่ไกล้มหาลัยคือแพงมากๆ ไหนจะต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้าไว้อีกซึ่งต้องใช้เงินก้อน ซึ่งจะขอที่บ้านก็ไม่ได้เพราะเค้าคงให้กลับไปอยู่ที่บ้านแน่นอน(ประเด็นคือไม่อยากกลับ555) อีกประเด็นคือผมไม่อยากมัดจำสัญญาไว้ เพราะมัดจำส่วนใหญ่ที่ถามมา จะให้มัดจำ 6-12 เดือนซึ่งผมไม่อยากอยู่นานขนาดนั้น เพราะไม่กี่เดือนจะปิดเทอมและขึ้นเทอมสองแล้ว ถ้าถึงตอนนั้นผมจะจองหอในที่ราคาถูกกว่ามากๆได้และย้ายมาก็คงจะเสียค่ามัดจำฟรีๆ
ด้วยประเด็นต่างๆที่บอกมาผมเลยต้องหาหอที่ราคาถูกและไม่ต้องมัดจำสัญญาไว้ จนผมได้ไปเจอหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่หน้ามอ และราคาถูกมากๆเพราะอยู่ในซอยลึกซึ่งแถบไม่มีอะไรเลยนอกจากป่ากับบ้านคนไม่กี่หลังซึ่งแต่ละหลังก็ไม่ได้อยู่ไกล้กันเรียกว่าเปลี่ยวจัดๆเลยก็ว่าได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเค้ามาเปิดหอตรงนี้จะมีคนมาพักหรอ (ซึ่งผมนี่เเหละที่ไปพัก5555) ตอนคุยกับเจ้าของหอแถบไม่มีปัญหาอะไรเลย ค่าห้องถูกมากกก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกแถบไม่มีเป็นห้องโล่งๆกับเบาะเอาไว้นอน กับ โต๊ะและตู้เสื้อผ้าเก่าๆ แค่นั้น รอบๆหอก็ไม่มีอะไรอย่างที่บอก ตอนจะออกไปหาอะไรกินก็ต้องไปหน้ามอซึ่งไกลจากหอนี้มากๆ ซึ่งมันก็เหมาะสมกับราคาที่ถูกแสนถูกนี่เเล้ว อีกอย่างผมมีรถมอเตอร์ไซค์ เลยไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางเท่าไหร่และอีกอย่างผมอยู่ไม่นาน และหอก็ไม่ได้บังคับทำสัญญาผมก็เลยตกลงอยู่จนกว่าจะขึ้นเทอม 2 นั้นเเหละ และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ช่วงแรกๆการอยู่หอนี้มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพื่อนร่วมหอมีไม่กี่คน เอ่อ ลืมบอกลักษณะของหอพักไป หอนี้เป็นตึกเตี้ยๆ 2 ชั้นมีชั้นละ 5 ห้องซึ่งเล็กมากผมพักอยู่ห้อง 102 ห้องข้างๆผมก็มีวัยรุ่นอายุ พอๆกับผมอยู่กัน 2-3 คน ห้องถัดไปเป็นคู่ผัวเมียทำงานโรงงานอยู่ ที่ผมเจอก็มีอยู่แค่นี้และก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยทักทายอะไร เหมือนต่างคนต่างอยู่มากกว่า ส่วนเจ้าของหอไม่ได้อยู่ตลอดนานๆจะมาทีถ้ามีปัญหาอะไรเค้าก็ให้โทรหา ไม่มีแม้แต่คนเฝ้าหอด้วยซ้ำซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าแอบน่ากลัวนิดๆเพราะรอบๆก็เปรี่ยวอยู่แล้วถ้ามีโจรหรืออะไรมาใครจะรู้ (ก่อนจะเข้ามาอยู่ก็ไม่ได้คิดถึงจุดนี้)
เรื่องแปลกมันเริ่มขึ้นตอนคืนนึงซึ่งผมนอนไม่หลับนอนยังไงก็นอนไม่หลับปกติไม่เกินตี 1 ผมก็น่าจะหลับแล้วแต่นี่ ตี 2 เกือบตี 3 แล้วยังไม่หลับไม่รู้ทำไมจนสุดท้ายก็เหมือนจะเผลอหลับไปและตอนที่หลับนั้นผมฝันว่าผมกำลังเดินไปที่ไหนสักที่ซึ่งรอบๆตัวมองไม่เห็นอะไรเลยเดินไปเรื่อยๆ และเหมือนมีคนอยู่ข้างหลังผมคอยมองผมจากข้างหลังแต่ผมหันไปมองเค้าไม่ได้ทั้งๆที่พยายามหันแล้ว จนตื่นมาปกติก็หลงลืมไปเพราะไม่ได้คิดอะไร และ ผมก็ฝันแบบนี้หลายครั้งในรอบหลายเดือน ประมาณอาทิตย์นึงจะฝันแบบนี้สักทีนึงจนเริ่มตะคิดตะควงใจว่าทำไมฝันแบบเดิมๆหลายครั้งจัง
จนอยู่มาได้เดือนนิดๆ ตอนนั้นผมติดเกมมากเล่นเกมจนดึกกับเพื่อนเล่นยาวไปจนเกือบตี 2 ซึ่งพอผมปิดคอมจะนอนจะมีเหมือนเสียงเด็กวิ่งเล่นกันอยู่หน้าห้องผมเหมือนมีเสียงขำแล้วก็วิ่งผ่านไปซึ่งตอนแรกบอกตรงๆว่าตกใจเปิดบานเกร็ดดูด้านนอกก็ไม่มีใครจนคิดว่าตัวเองหูฟาดไป แต่มันเกิดขึ้นหลายครั้งช่วงตอนตี 2 บางวันเล่นเกมนานๆเราถามเพื่อนว่าได้ยินไหมก็มีบางคนบอกว่าเหมือนจะได้ยิน ส่วนตัวผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วเพราะมันเกิดขึ้นหลายครั้งเวลาเดิมๆ
จนวันนึงผมกลับเข้ามาที่หอหลังจากไปซื้ออะไรกินตอนนั้นเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ พี่ผู้ชายที่เป็นคู่ผัวเมียอยู่ห้องไกล้ๆผมเค้านั่งอยู่หน้าหอพอดี ผนวกกับวัยรุ่นที่อยู่ไกล้ๆก็ออกมาจากห้องพอดีเหมือนกัน ผมเลยถามทั้งคู่เลยบอกว่าตอนดึกๆได้ยินเสียงเด็กมาวิ่งบ้างไหม ทั้งคู่ตอบเลยว่าประจำได้ยินบ่อยมากๆ แต่ไม่กล้ามองออกไปดูว่าเสียงใคร ไอ้ผมก็ตกใจมากเพราะเอาจริงๆไม่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้วแต่ได้ยินแบบนี้มันก็เกิดหลอนขึ้นมาใช้ได้เลย
จนคืนนั้นผมเกิดกล้าๆกลัวทั้งคืน และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมพยายามเปิดม่านตรงบานเกร็ดดูตลอดว่าข้างนอกมีอะไรไหมคืนนั้นเปิดดูหลายครั้งมาก ลุกไปกินน้ำทีก็เปิดที ลุกไปฉี่ก็ไปเปิดดู ระหว่างรอค้นหาห้องในเกมก็ไปเปิด ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองอยากเห็นอะไรจนเวลาล่วงเลยไปก็ไม่มีอะไร จนผมนอนซึ่งก็นอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องเสียงนี่เเหละ ตอนนั้นเวลาตีสามกว่าๆผมลุกไปกินน้ำและผมก็ไม่ลืมที่จะเปิดม่านดูสิ่งที่ผมเห็นทำให้ขนผมลุกไปทั้งตัว ตัวร้อนวาบไปหมด สิ่งที่ผมเห็นคือเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ไกลๆอยู่ใต้เเสงไฟริมทางหน้าหอ ผมไม่รู้ว่าเด็กที่ไหนจะมายืนอยู่ตรงนี้เวลานี้ผมมองเพ่งไปสักพักเด็กสองคนนั้นยืนนิ่งไม่ไปไหนจนผมปิดม่านลงใจผมเต้นรัวมาก ก่อนตั้งสติเปิดดูอีกครั้งชัดๆแต่ก็ไม่เห็นอะไรอีกแล้ว แต่ใจผมยังไม่หยุดเต้นสักนิด
คืนนั้นผมพยายามนอนให้หลับแต่เหงื่อผมแตกไปทั้งตัวหัวก็นึกคิดประติดประต่อเรื่องราวทั้งเสียง ทั้งฝัน ทั้งสิ่งที่เห็นว่ามันคืออะไร จนเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวแต่เหมือนผมหลับในเพราะสิ่งที่ผมเห็นคือเพดานห้องของผม เหมือนจะรู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้ ทั้งๆที่พยายามแล้ว และในขณะนั้นไม่ได้มีแค่ภาพเพดานห้อง แต่มันมีเสียงวิ่งกับเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยอยู่ด้วยแต่ความรู้สึกคือมันไกล้มากๆและดังมากๆ รู้สึกได้เลยว่าเหงื่อผมไหลเยอะมากและร้อนมากๆ อีกทั้งบางจังหวะก็เหมือนมีเงาคนผ่านเพดานไปหลายครั้ง จนผมตื่นมาอีกวันนึง
วันนั้นผมพยายามคิดทั้งวันว่าทั้งหมดมันแค่ฝันไปหรือเปล่า? คิดไปเองไหม? จิตใจตัวผมมันปรุงแต่งจากความกลัวหรือเปล่า? เราเครียดหรือเปล่า? หลังจากนั่งคิดอยู่ทั้งวันจนเย็น อยู่ๆผมก็เผลอหลับไปจนมาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนดึกมากๆแล้ว หลังจากตื่นขึ้นมาสะลึมสะลือได้ไม่กี่นาทีเสียงวิ่งกับเสียงขำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้ผมหายสะลึมสะลือในทันที
ผมพยายามไม่สนใจและเดินไปเสียบปลั๊กคอมเพื่อกะจะเล่นเกมให้ถึงเช้า (ใจคือไม่อยากนอนแล้ว) แต่ยังไม่ทันได้เสียบก็มีเสียงเคาะประตูอย่างแรงดังขึ้นมา ปั้ง!! ปั้ง!! ปั้ง!! ผมตกใจขนลุกซู่รีบวิ่งไปดูแต่ไม่ได้เปิด แต่เปิดม่านดูว่าใครมาปรากฏว่าไม่มีใครทั้งนั้นสันหลังผมเย็นวาบอีกครั้งเมื่อไม่มีใครแล้วมันเสียงใครเคาะวะ สายตาของผมเหลือบไปมองใต้แสงไฟริมทางที่เห็นเด็กสองคนนั้นเมื่อวันก่อน ขนผมลุกอีกครั้งพร้อมกับใจที่เต้นรัวจนรู้สึกได้เลยว่าใจผมเต้นแรงมากๆ เพราะภาพที่ผมเห็นคือภาพเดียวกันกับวันก่อนเลย เด็กสองคนยืนหันหลังใต้เเสงไฟที่เดิม สติผมแตกมากตอนนั้นไม่รู้จะทำไงผมปิดม่านทันที และเดินถอยหลังออกมาผมหยิบโทรศัพท์กับกุญแจมอไซค์ทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้นตูไม่อยู่แล้วแน่นอน(ไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าถ้าจะขับรถหนีไปก็ต้องผ่านจุดที่เด็กสองคนนั้นยืนอยู่) ยังไม่ทันเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋าอยู่ๆไฟก็ดับลงทันที(อย่างกับในหนังเลย) ผมตกใจมากๆว่านี่มัน....อะไรวะ จำได้เลยว่าตอนไฟดับผมร้องตะโกนพูดไม่เป็นภาษาและไม่รอช้าวิ่งออกจากห้องทันทีแต่ประตูเปิดไม่ออกเปิดยังไงก็เปิดไม่ออกอาจเพราะความรนรานหรืออะไรก็ไม่ทราบในความรู้สึกเหมือนพยายามเปิดอยู่นานมาก ในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนจะเปิดออก ผมได้ยินเสียงบางอย่างเคาะพนังห้องผมรัวๆ ดัง ตุ้บๆๆๆๆ รอบห้อง แทรกมากับเสียงขำที่ดังมากอยู่ข้างหลังซึ่งผมไม่คิดจะหันไปมองแน่นอน ก่อนที่ผมจะใช้แรงดึงประตูออกมาและวิ่งสุดตัวไปที่รถและขับออกไปโดยไม่มองจุดที่เด็กสองคนนั้นยืนอยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองขับไปไหน ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนั้นเคอร์ฟิวอยู่ ในทางเปรี่ยวผมพยายามมองกระจกมองหลังตลอดจนเกือบเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งกว่าจะออกมาจากซอยได้
ในคืนนั้นผมไม่รู้จะไปนอนที่ไหนเพราะเพื่อนตอนนั้นก็ติดต่อไม่ได้ จนต้องไปขอแฟนเก่านอนด้วยแต่ก็โดนด่ากลับมาจนต้องไปนั่งหลับใต้คอนโดแฟนเก่า ซึ่งเป็นคืนที่ผมหลับสบายมากๆในรอบหลายวันมานี้
ในตอนเช้าผมพาเพื่อน 3 คนไปขนของออกทันทีในเมื่อไม่มีที่อยู่แล้วก็ต้องจำใจกลับบ้าน(รู้งี้กลับตั้งนานแล้วดีกว่า) โดยหลังจากนั้นผมก็ไม่คิดจะกลับไปที่หอนั้นอีกเลย ทิ้งไว้แต่ความสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไปยังไง และ เพราะอะไร...
ประสบการณ์เจอผีครั้งแรก "หอพักหลอน ห้อง 102"
ก่อนจะเล่าผมขอบอกไว้อีกอย่างนึงว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย เรื่องศาสนาก็ไม่เชื่อ ผมเชื่อในอะไรที่สามารถใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้เท่านั้น แต่ผมชอบดูหนังหรือฟังเรื่องผีเพราะมันสนุกและน่ากลัวดี แต่ก็ฉุกคิดตลอดว่ามันเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาทั้งนั้น
จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมมีปัญหากับแฟนจนเลิกกัน ทำให้ผมต้องย้ายออกจากคอนโดซึ่งกระทันหันมาก ผมจึงต้องรีบหาที่อยู่ใหม่ทันทีแต่หอพักที่อยู่ไกล้มหาลัยคือแพงมากๆ ไหนจะต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้าไว้อีกซึ่งต้องใช้เงินก้อน ซึ่งจะขอที่บ้านก็ไม่ได้เพราะเค้าคงให้กลับไปอยู่ที่บ้านแน่นอน(ประเด็นคือไม่อยากกลับ555) อีกประเด็นคือผมไม่อยากมัดจำสัญญาไว้ เพราะมัดจำส่วนใหญ่ที่ถามมา จะให้มัดจำ 6-12 เดือนซึ่งผมไม่อยากอยู่นานขนาดนั้น เพราะไม่กี่เดือนจะปิดเทอมและขึ้นเทอมสองแล้ว ถ้าถึงตอนนั้นผมจะจองหอในที่ราคาถูกกว่ามากๆได้และย้ายมาก็คงจะเสียค่ามัดจำฟรีๆ
ด้วยประเด็นต่างๆที่บอกมาผมเลยต้องหาหอที่ราคาถูกและไม่ต้องมัดจำสัญญาไว้ จนผมได้ไปเจอหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่หน้ามอ และราคาถูกมากๆเพราะอยู่ในซอยลึกซึ่งแถบไม่มีอะไรเลยนอกจากป่ากับบ้านคนไม่กี่หลังซึ่งแต่ละหลังก็ไม่ได้อยู่ไกล้กันเรียกว่าเปลี่ยวจัดๆเลยก็ว่าได้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเค้ามาเปิดหอตรงนี้จะมีคนมาพักหรอ (ซึ่งผมนี่เเหละที่ไปพัก5555) ตอนคุยกับเจ้าของหอแถบไม่มีปัญหาอะไรเลย ค่าห้องถูกมากกก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกแถบไม่มีเป็นห้องโล่งๆกับเบาะเอาไว้นอน กับ โต๊ะและตู้เสื้อผ้าเก่าๆ แค่นั้น รอบๆหอก็ไม่มีอะไรอย่างที่บอก ตอนจะออกไปหาอะไรกินก็ต้องไปหน้ามอซึ่งไกลจากหอนี้มากๆ ซึ่งมันก็เหมาะสมกับราคาที่ถูกแสนถูกนี่เเล้ว อีกอย่างผมมีรถมอเตอร์ไซค์ เลยไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางเท่าไหร่และอีกอย่างผมอยู่ไม่นาน และหอก็ไม่ได้บังคับทำสัญญาผมก็เลยตกลงอยู่จนกว่าจะขึ้นเทอม 2 นั้นเเหละ และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ช่วงแรกๆการอยู่หอนี้มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพื่อนร่วมหอมีไม่กี่คน เอ่อ ลืมบอกลักษณะของหอพักไป หอนี้เป็นตึกเตี้ยๆ 2 ชั้นมีชั้นละ 5 ห้องซึ่งเล็กมากผมพักอยู่ห้อง 102 ห้องข้างๆผมก็มีวัยรุ่นอายุ พอๆกับผมอยู่กัน 2-3 คน ห้องถัดไปเป็นคู่ผัวเมียทำงานโรงงานอยู่ ที่ผมเจอก็มีอยู่แค่นี้และก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยทักทายอะไร เหมือนต่างคนต่างอยู่มากกว่า ส่วนเจ้าของหอไม่ได้อยู่ตลอดนานๆจะมาทีถ้ามีปัญหาอะไรเค้าก็ให้โทรหา ไม่มีแม้แต่คนเฝ้าหอด้วยซ้ำซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าแอบน่ากลัวนิดๆเพราะรอบๆก็เปรี่ยวอยู่แล้วถ้ามีโจรหรืออะไรมาใครจะรู้ (ก่อนจะเข้ามาอยู่ก็ไม่ได้คิดถึงจุดนี้)
เรื่องแปลกมันเริ่มขึ้นตอนคืนนึงซึ่งผมนอนไม่หลับนอนยังไงก็นอนไม่หลับปกติไม่เกินตี 1 ผมก็น่าจะหลับแล้วแต่นี่ ตี 2 เกือบตี 3 แล้วยังไม่หลับไม่รู้ทำไมจนสุดท้ายก็เหมือนจะเผลอหลับไปและตอนที่หลับนั้นผมฝันว่าผมกำลังเดินไปที่ไหนสักที่ซึ่งรอบๆตัวมองไม่เห็นอะไรเลยเดินไปเรื่อยๆ และเหมือนมีคนอยู่ข้างหลังผมคอยมองผมจากข้างหลังแต่ผมหันไปมองเค้าไม่ได้ทั้งๆที่พยายามหันแล้ว จนตื่นมาปกติก็หลงลืมไปเพราะไม่ได้คิดอะไร และ ผมก็ฝันแบบนี้หลายครั้งในรอบหลายเดือน ประมาณอาทิตย์นึงจะฝันแบบนี้สักทีนึงจนเริ่มตะคิดตะควงใจว่าทำไมฝันแบบเดิมๆหลายครั้งจัง
จนอยู่มาได้เดือนนิดๆ ตอนนั้นผมติดเกมมากเล่นเกมจนดึกกับเพื่อนเล่นยาวไปจนเกือบตี 2 ซึ่งพอผมปิดคอมจะนอนจะมีเหมือนเสียงเด็กวิ่งเล่นกันอยู่หน้าห้องผมเหมือนมีเสียงขำแล้วก็วิ่งผ่านไปซึ่งตอนแรกบอกตรงๆว่าตกใจเปิดบานเกร็ดดูด้านนอกก็ไม่มีใครจนคิดว่าตัวเองหูฟาดไป แต่มันเกิดขึ้นหลายครั้งช่วงตอนตี 2 บางวันเล่นเกมนานๆเราถามเพื่อนว่าได้ยินไหมก็มีบางคนบอกว่าเหมือนจะได้ยิน ส่วนตัวผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วเพราะมันเกิดขึ้นหลายครั้งเวลาเดิมๆ
จนวันนึงผมกลับเข้ามาที่หอหลังจากไปซื้ออะไรกินตอนนั้นเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ พี่ผู้ชายที่เป็นคู่ผัวเมียอยู่ห้องไกล้ๆผมเค้านั่งอยู่หน้าหอพอดี ผนวกกับวัยรุ่นที่อยู่ไกล้ๆก็ออกมาจากห้องพอดีเหมือนกัน ผมเลยถามทั้งคู่เลยบอกว่าตอนดึกๆได้ยินเสียงเด็กมาวิ่งบ้างไหม ทั้งคู่ตอบเลยว่าประจำได้ยินบ่อยมากๆ แต่ไม่กล้ามองออกไปดูว่าเสียงใคร ไอ้ผมก็ตกใจมากเพราะเอาจริงๆไม่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้วแต่ได้ยินแบบนี้มันก็เกิดหลอนขึ้นมาใช้ได้เลย
จนคืนนั้นผมเกิดกล้าๆกลัวทั้งคืน และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมพยายามเปิดม่านตรงบานเกร็ดดูตลอดว่าข้างนอกมีอะไรไหมคืนนั้นเปิดดูหลายครั้งมาก ลุกไปกินน้ำทีก็เปิดที ลุกไปฉี่ก็ไปเปิดดู ระหว่างรอค้นหาห้องในเกมก็ไปเปิด ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองอยากเห็นอะไรจนเวลาล่วงเลยไปก็ไม่มีอะไร จนผมนอนซึ่งก็นอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องเสียงนี่เเหละ ตอนนั้นเวลาตีสามกว่าๆผมลุกไปกินน้ำและผมก็ไม่ลืมที่จะเปิดม่านดูสิ่งที่ผมเห็นทำให้ขนผมลุกไปทั้งตัว ตัวร้อนวาบไปหมด สิ่งที่ผมเห็นคือเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ไกลๆอยู่ใต้เเสงไฟริมทางหน้าหอ ผมไม่รู้ว่าเด็กที่ไหนจะมายืนอยู่ตรงนี้เวลานี้ผมมองเพ่งไปสักพักเด็กสองคนนั้นยืนนิ่งไม่ไปไหนจนผมปิดม่านลงใจผมเต้นรัวมาก ก่อนตั้งสติเปิดดูอีกครั้งชัดๆแต่ก็ไม่เห็นอะไรอีกแล้ว แต่ใจผมยังไม่หยุดเต้นสักนิด
คืนนั้นผมพยายามนอนให้หลับแต่เหงื่อผมแตกไปทั้งตัวหัวก็นึกคิดประติดประต่อเรื่องราวทั้งเสียง ทั้งฝัน ทั้งสิ่งที่เห็นว่ามันคืออะไร จนเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวแต่เหมือนผมหลับในเพราะสิ่งที่ผมเห็นคือเพดานห้องของผม เหมือนจะรู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้ ทั้งๆที่พยายามแล้ว และในขณะนั้นไม่ได้มีแค่ภาพเพดานห้อง แต่มันมีเสียงวิ่งกับเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยอยู่ด้วยแต่ความรู้สึกคือมันไกล้มากๆและดังมากๆ รู้สึกได้เลยว่าเหงื่อผมไหลเยอะมากและร้อนมากๆ อีกทั้งบางจังหวะก็เหมือนมีเงาคนผ่านเพดานไปหลายครั้ง จนผมตื่นมาอีกวันนึง
วันนั้นผมพยายามคิดทั้งวันว่าทั้งหมดมันแค่ฝันไปหรือเปล่า? คิดไปเองไหม? จิตใจตัวผมมันปรุงแต่งจากความกลัวหรือเปล่า? เราเครียดหรือเปล่า? หลังจากนั่งคิดอยู่ทั้งวันจนเย็น อยู่ๆผมก็เผลอหลับไปจนมาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนดึกมากๆแล้ว หลังจากตื่นขึ้นมาสะลึมสะลือได้ไม่กี่นาทีเสียงวิ่งกับเสียงขำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้ผมหายสะลึมสะลือในทันที
ผมพยายามไม่สนใจและเดินไปเสียบปลั๊กคอมเพื่อกะจะเล่นเกมให้ถึงเช้า (ใจคือไม่อยากนอนแล้ว) แต่ยังไม่ทันได้เสียบก็มีเสียงเคาะประตูอย่างแรงดังขึ้นมา ปั้ง!! ปั้ง!! ปั้ง!! ผมตกใจขนลุกซู่รีบวิ่งไปดูแต่ไม่ได้เปิด แต่เปิดม่านดูว่าใครมาปรากฏว่าไม่มีใครทั้งนั้นสันหลังผมเย็นวาบอีกครั้งเมื่อไม่มีใครแล้วมันเสียงใครเคาะวะ สายตาของผมเหลือบไปมองใต้แสงไฟริมทางที่เห็นเด็กสองคนนั้นเมื่อวันก่อน ขนผมลุกอีกครั้งพร้อมกับใจที่เต้นรัวจนรู้สึกได้เลยว่าใจผมเต้นแรงมากๆ เพราะภาพที่ผมเห็นคือภาพเดียวกันกับวันก่อนเลย เด็กสองคนยืนหันหลังใต้เเสงไฟที่เดิม สติผมแตกมากตอนนั้นไม่รู้จะทำไงผมปิดม่านทันที และเดินถอยหลังออกมาผมหยิบโทรศัพท์กับกุญแจมอไซค์ทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้นตูไม่อยู่แล้วแน่นอน(ไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าถ้าจะขับรถหนีไปก็ต้องผ่านจุดที่เด็กสองคนนั้นยืนอยู่) ยังไม่ทันเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋าอยู่ๆไฟก็ดับลงทันที(อย่างกับในหนังเลย) ผมตกใจมากๆว่านี่มัน....อะไรวะ จำได้เลยว่าตอนไฟดับผมร้องตะโกนพูดไม่เป็นภาษาและไม่รอช้าวิ่งออกจากห้องทันทีแต่ประตูเปิดไม่ออกเปิดยังไงก็เปิดไม่ออกอาจเพราะความรนรานหรืออะไรก็ไม่ทราบในความรู้สึกเหมือนพยายามเปิดอยู่นานมาก ในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนจะเปิดออก ผมได้ยินเสียงบางอย่างเคาะพนังห้องผมรัวๆ ดัง ตุ้บๆๆๆๆ รอบห้อง แทรกมากับเสียงขำที่ดังมากอยู่ข้างหลังซึ่งผมไม่คิดจะหันไปมองแน่นอน ก่อนที่ผมจะใช้แรงดึงประตูออกมาและวิ่งสุดตัวไปที่รถและขับออกไปโดยไม่มองจุดที่เด็กสองคนนั้นยืนอยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองขับไปไหน ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนั้นเคอร์ฟิวอยู่ ในทางเปรี่ยวผมพยายามมองกระจกมองหลังตลอดจนเกือบเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งกว่าจะออกมาจากซอยได้
ในคืนนั้นผมไม่รู้จะไปนอนที่ไหนเพราะเพื่อนตอนนั้นก็ติดต่อไม่ได้ จนต้องไปขอแฟนเก่านอนด้วยแต่ก็โดนด่ากลับมาจนต้องไปนั่งหลับใต้คอนโดแฟนเก่า ซึ่งเป็นคืนที่ผมหลับสบายมากๆในรอบหลายวันมานี้
ในตอนเช้าผมพาเพื่อน 3 คนไปขนของออกทันทีในเมื่อไม่มีที่อยู่แล้วก็ต้องจำใจกลับบ้าน(รู้งี้กลับตั้งนานแล้วดีกว่า) โดยหลังจากนั้นผมก็ไม่คิดจะกลับไปที่หอนั้นอีกเลย ทิ้งไว้แต่ความสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไปยังไง และ เพราะอะไร...