เรื่องหลอนหอพักของเพื่อน

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ มีเรื่องแปลกๆจะมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ แต่ก่อนเล่า ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า จขกท พิมพ์ในโทรศัพท์ เพราะ notebookพัง ก็จะพยายาม พิมพ์ให้ผิดน้อยที่สุด ถ้าพิมพ์ผิด หรือพิมพ์อ่านยาก เว้นวรรคผิด สร้างความหงุดหงิดให้ จขกท ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะค่ะ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ และถ้าใครไม่เชื่อก็ให้คิดซะว่านี่คือนิยายเรื่องนึงนะ ซึ่ง จขกท ก็อยากให้เรื่องทั้งหมดเป็นแค่นิยายจริงๆ เหมือนกัน

เริ่มเรื่องคือ จขกท มีเพื่อนคนนึง ให้ชื่อว่า "เอ" แหละกันง่ายดี เอเนี่ยอยู่หอพักแห่งหนึ่งหลังมหาวิทยาลัย (ไม่ขอเอ่ยชื่อและเขตที่ตั้งนะ เพราะถ้าบอกเขตไปปุ๊บจะรู้เลยว่าม.อะไร) เออยู่หอพักนี้คนเดียว ลักษณะของหอพักคือ ถ้ามองดู ก็เป็นหอพัก 5 ชั้น ธรรมดา แต่จริงๆแล้ว มันมี 6 ชั้น มันมีอีกห้องหนึ่งสร้างเติมไว้บนดาดฟ้า ซึ่งห้องเนี่ย ทางขึ้นก็จะถูกซ่อนไว้ บันไดทางขึ้นจะถูกปิดด้วยผนังสีชมพู มองดูเผินๆ ก้คือกำแพงปิดธรรมดา แต่จริงๆ แอบซ่อนประตูทางขึ้นไว้ คนที่รู้จริงๆ ถึงจะรู้จุดเปิดประตูผนังนั้น พอเปิดประตูผนังออกมา ก็จะเจอบันไดมืดๆ ขึ้นบันไดมาจะเจอห้องอยู่ซ้ายมือ ห้องนี้มีลักษณะกว้างขวาง ไม่มีระเบียง มีเพียงหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ซึ่งถ้าปีนออกจากหน้าต่างไป ก็คือ ดาดฟ้า ของหอพัก ซึ่งทางหอพักก็ได้สร้างกรงเหล็กขนาดประมาณ 3X3 เมตร(เสมือนเป็นระเบียงของห้องนี้เพื่อไว้ตากผ้าแต่เราก็สามารถมองเห็นวิวโดยรอบหอพักได้ โดยผ่านลูกกรงเหล็กนี้) หอพักเขาบอกว่ากันเด็กกระโดดดาดฟ้า ซึ่งมันมีข่าวลือว่า เคยมีเหตุการณ์ที่เด็ก นศ กระโดดตึกหอพักมาแล้ว แต่เราก็ไม่ทราบว่า ใช่หอนี้หรือไม่ ? หรือเขาแค่กันไว้เฉยๆ เราพยายามเล่าสภาพห้องให้ฟัง จะได้นึกภาพตามกันถูก

เราพึ่งได้มาสนิทกับเพื่อนคนนี้ตอนที่ต้องมาทำงานกลุ่มเดียวกัน คืนนั้นเราต้องมาทำ power point เพื่อเตรียม present ในวันรุ่งขึ้น ในช่วงเวลากลางดึกๆ สักตี1-2 เราก็ได้ยินเสียง เหมือนเชือกเสียดสีกับเหล็ก แบบมีของถ่วงอยู่หนักๆ ดัง เอี๊ยดดด !! เราก็ได้ยินอยู่นานเป็นพักๆ ในขณะที่นั่งทำงานอยู่ ก็เลยหันไปถามเพื่อนว่า "เสียงไรว่ะ?" เพื่อนบอกอย่าสนใจ เสียงพวกเครื่องปั้มน้ำนู้นนี่มั้ง เราก็จะเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อดูว่าต้นเสียงมาจากอะไร แต่เอรีบลุกขึ้นและดึงมือเราไว้ บอกเพียงแค่ว่า "อย่าเปิด" ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยนิ่งๆ ทำเอาเราก็ไม่กล้าเปิด เรามานั่งทำงานต่อจนเสร็จแล้วก็อาบน้ำนอน ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ไรหลังจากนั้น จนวันนึงหอพักที่เราพักอยู่กับเมท มันพาน้องสาวมาสอบเข้าที่ม.เราเลยเห็นว่า ประจวบเหมาะกับที่เอมันจะกลับบ้านพอดี เลยขอยืมห้องนอนคืนนึง ตอนไปบอกขอยืมห้อง เอมีสีหน้าลังเลใจ และพูดขึ้นมาว่า "กูว่านอนไม่ได้หรอกว่ะ" เราก็ดึงดันจะขอห้องให้ได้เพราะไม่อยากไปนอนร่วมกับคนไม่รู้จัก เลยบอกเอไปว่า "กูเคยนอนแล้วป่ะว่ะ ก็นอนได้ อย่าขี้หวง " เราก้ก็ยื้อกันไปมา จนสุดท้ายเอก็ให้กุญแจห้อง เราก็รับปากจะดูแลห้องให้ ไม่รื้อของ เพราะตอนนั้นสีหน้าเอดูกังวลใจ เราเลยคิดว่ากลัวเราค้นเจอของอะไรรึเปล่า?

คืนนั้นเราก็ขนของที่จำเป็นมาที่ห้องเอตั้งแต่เย็นๆ เราออกไปนั่งรับลมในกรงนั้น มองวิวไปเรื่อยๆ รู้สึกอิจฉาเอ ที่ได้ห้องดีๆแบบนี้ ไม่มีห้องข้างๆ แถมมีดาดฟ้ารับลม ชิวขนาดนี้ ราคาก็ถูก ทางขึ้นก็โครตเป็นส่วนตัว เหมือนเป็น ฐานลับกองกำลังไรสักอย่าง นั่งได้สักพักพอเริ่มมืดก็ปีนกลับเข้าห้อง กินข้าวอาบน้ำ นอนเปิดทีวีดู เป็นปกติของเราไป และเราเผลอหลับไปสักพักใหญ่ รู้สึกตัวอีกที ก็จะลุกมาปิดทีวี ปิดไฟเพื่อนอน พอปิดไฟ ในห้องมืดมาก เห็นเพียงแสงไฟหน้าห้องที่ลอดผ่านช่องด้านล่างและด้านข้างของขอบประตู แต่มีสิ่งผิดปกติตรงที่เหมือนมีเงาดำๆ อยู่หน้าประตู บังแสงที่ควรจะผ่านมาเข้ามา ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีใครยืนอยู่หน้าประตูข้างนอก ในห้องมีตาแมวก็จริง แต่ถูกไอ้เอเอาปิกกีตาร์ทากาวปิดไว้ ไม่ให้ส่องดูได้ ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ในใจตอนนั้นคิดว่าคงเป็นเงาไรสักอย่าง อาจมาบังไฟ ก็กำลังจะหลับไปอีกรอบด้วยความง่วง อยู่ๆก็ได้เสียง เอี๊ยดดด!! เสียงเดียวกับวันนั้นที่มาทำงาน ตอนแรกไม่ได้สนใจเลย คิดเสมอว่าเป็นปั๊มน้ำ เสียงดังเป็นระยะๆ อยู่นานพอสมควร ด้วยความที่เป็นคนขี้รำคาญ และนึกขึ้นมาได้ด้วยความสงสัย ว่าทำไม ? วันนั้นเอถึงมาห้ามไม่ให้เปิดผ้าม่าน เราเลยลุกขึ้น ค่อยๆเลื่อนตัวลงจากที่นอนเดินตรงไปหยุดที่หน้าต่างนั้น เอื้อมมือแหวกผ้าม่านออก มีเพียงแสงจากดวงจันทร์แสงเดียวที่พอมองเห็นได้ สิ่งที่เราเห็นตรงหน้าคือ ขาคนลอยอยู่กลางอากาศ แกว่งไปมาดังเอี๊ยดดด ตอนนั้นเราใจหาย ตัวชา นิ่งแทบหยุดหายใจ ไม่กล้าพอที่จะมองไล่ขึ้นไปด้วยซ้ำ พอตั้งตัวได้ เรารีบวิ่งมาที่สวิตซ์ไฟ เปิดแมร่งทุกดวงที่มีในห้อง ไม่กล้าขยับตัวไปไหน เราเปิดทีวีเพื่อให้มีเสียงเป็นเพื่อน จะเดินกลับหอ ก็ไม่กล้า ตอนนั้นตี3กว่าแล้วด้วย โทรหาใครก็ไม่มีคนรับ โทรหาเอ เอรับและถามคำแรกว่า "เจอแล้วใช่ไหม!!!? " เอบอกไม่มีอะไรหรอก ให้อยู่แต่ในห้อง และมันจะไม่มีอะไร เดี๋ยวก็เช้าแล้ว เออยู่คุยกับเรายันเช้า ระหว่างรอเช้าเรานั่งอยู่มุมห้องหันหลังให้หน้าต่าง เอามาผ้าห่มพันตัวไว้ รอจนเช้า เรารีบเก็บของกลับหอเลย และไม่เล่าให้ใครฟัง ไม่พูดกับใคร กลัวการอยู่คนเดียว นอนคนเดียวไปอีกพักใหญ่ๆ กลายเป็นคนกลัวผีไปโดยปริยาย

และหลังจากนั้นเราได้คุยกับเอ เอบอกแรกๆที่มาอยู่ เจ้าของหอเขาไม่อยากให้มาอยู่เลย ห้องนี้ไม่ถูกเปิดให้เช่ามานานมาก เอก็ถามว่าไม่มีห้องว่างจริงๆหรอน้า ไม่มีใครจะออกบ้างเลยหรอ ผมหาหอไม่ได้เลย ช่วยผมหน่อยเถอะน้า มีหออื่นที่ว่างๆน้าพอรู้ไหม น้าเขาก้บอกว่าจริงๆมีอยู่ห้องนึงนะ น้องอยากขึ้นไปดูไหม พอเอขึ้นมาดูก็ชอบมาก ก็ขอเช่าห้องนี้ น้าเจ้าของหอดูกังวล  แต่ก็ให้เช่าในราคาที่ถูกกว่าห้องอื่นๆ (มารู้ราคาห้องอื่นที่หลัง) และก่อนหน้านี้เคยมีรุ่นพี่เล่าให้ฟัง ว่าหอนี้มี นศ.หญิง ปีสี่ ผูกคอตายเพราะโดนรีไทร์ แต่รุ่นพี่คนนั้นก็บอกว่าไม่รู้ว่าชั้นไหน ? แต่ก็บอกต่อๆกันว่า เป็นชั้น4 บ้าง ชั้น 3บ้าง

แต่ตอนนี้ รู้ชัดแหละ ว่าชั้นไหน??

ไอ้เอมันยังคงอยู่หอนั้นห้องนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่รู้ว่ามันอยู่ได้อย่างไร? มันแค่บอกว่า ต่างคนต่างอยู่ กูไม่สนใจอะไรหรอก แต่เราไม่เคยคิดจะไปเหยียบห้องนั้นอีกเลย เข็ดจนตาย

(edit คำผิดจ้า)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่