บ้านไม้หลังเดิม ใต้ถุนสูง อายุประมาณ 33 ปี
เริ่มจาก จขกท. อยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ เนื่องจากบ้านเดิมที่แม่อยู่ น้องปลวกได้เข้ามาจับจองอยู่อาศัยมานานนับปี จนทำให้บ้านผุพัง หากไม่เร่งรื้อและสร้างใหม่ บ้านคงได้พังลงมาภายในปี สองปีนี้แน่
จขกท จึงได้ตัดสินใจจะรื้อและสร้างบ้านหลังใหม่ โดยการกู้เงินธนาคาร จขกท กู้ร่วมกับน้องสาว เนื่องจากน้องสาวทำงานรัฐวิสาหกิจ ที่ทำ MOU กับ ธอส. จึงได้ดำเนินเรื่องในการกู้กับธนาคารดังกล่าว โดย มีการเตรียมเขียนแบบบ้านไว้นานแล้ว และมีการปรับแก้ไขจนได้แบบบ้านตามต้องการ โชคดีที จขกท มีคนใกล้ตัวเขียนแบบบ้านให้ ทำให้สามารถปรับแก้ไขแบบได้ตามต้องการ ^_^ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเขียนแบบ เสียแค่ค่าใช้จ่ายในการคำนวณแบบโครงสร้าง และ ทำ BOQ ราคาก่อสร้างเพื่อใช้ประกอบในการยื่นกู้เงินกับธนาคาร ให้กับวิศวกรในที่ราคาไม่แพง
เมื่อได้แบบบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำเรื่องยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทาง อบต. ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้ใบอนุญาตก่อสร้างมาเรียบร้อย
ขั้นตอนการยื่นกู้เงินกับธนาคาร เตรียมเอกสารประกอบการกู้ยืมดังนี้
เอกสารส่วนบุคคล
-บัตรประจำตัวประชาชน และ ทะเบียนบ้าน
-ทะเบียนสมรส / ใบหย่า (ถ้ามี)
-บัตรประจำตัวประชาชน และ ทะเบียนบ้าน คุ่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารการเงิน
-หนังสือรับรองเงินเดือน
- เอกสารส่งเงินประกันสังคมย้อนหลัง 1 ปี (ขอได้ที่ สำนักงานประกันสังคม)
-สลิปเงินย้อนหลัง 3 เดือน
-statement ย้อนหลัง 6 เดือน
เอกสารเกี่ยวกับบ้าน
-โฉนดที่ดิน ที่จะสร้าง (โดยที่ดินนั้นต้องเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้)
-แบบแปลน บ้านที่จะสร้าง
-ใบประมาณราคาการก่อสร้าง ( BOQ)
-ใบอนุญาตปลูกสร้าง
เมื่อได้เอกสารครบ ก็ดำเนินเรื่องขอกู้ ซึ่ง จขกท ได้ทำเรื่องยื่นกู้ช่วง เดือนธันวาคม 2563 ผลอนุมัติ เดือน กุมภาพันธ์ 2564 (นัดเซ็นสัญญา 18 กุมภาพันธ์ 2564)
การดำเนินการยื่นกู้ มีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมเอกสารดังกล่าวข้างต้นไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ ธอส สาขาที่ใกล้บ้าน ซึ่งในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ โทรมาขอเอกสารของ จขกท เพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง รายได้อื่น ๆ , การนำส่งเงินประกันสังคม , ถ่ายรูปสถานที่ทำงาน ฯลฯ (เนื่องจาก จขกท ทำงานบริษัทเอกชน และ อยู่ในช่วงสถานะการ์ณโควิด) ทางธนาคารเกรงว่าจะไม่มั่นคง จึงได้ตรวจเข้มหน่อยค่ะ ส่วนของน้องสาว ไม่ตรวจเข้มมาก แค่โทรเช็คยืนยันตัวตนในที่ทำงานก็เรียบร้อย
2. หลังจากธนาคารได้เอกสารเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว ใช้เวลารอประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ จะมีเจ้าหน้าที่มาประเมินที่ดิน และ แบบบ้าน เข้าไปประเมิน ซึ่งในส่วนนี้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประเมิน 2,800 บาท (จ่าย ณ. วันที่ไปประเมินเลย) อ้อ เกือบลืม ในวันประเมิน เราต้องเตรียมเอกสารเกี่ยวกับระวางที่ดินของโฉนดที่ดินแปลงที่เราจะสร้างบ้านไว้ให้เจ้าหน้าที่ด้วย ( ควรไปขอล่วงหน้าที่กรมที่ดินเตรียมไว้)
3. รออีกประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า อนุมัติยอดเงินที่เท่าไร
4. นัดเซ็นสัญญาที่ธนาคาร และ จดจำนองที่กรมที่ดิน (ต้องเตรียมค่าจดจำนอง 1% ของเงินกู้ ) และค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อย พร้อมเปิดบัญชีไว้รอเพื่อโอนเงินค่าก่อสร้างเข้าบัญชี
5. งวดแรกธนาคารจะให้เงิน 10% ของวงเงินกู้ หลังจากที่เราจดจำนองเสร็จ ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีที่เราเปิดบัญชีไว้กับธนาคาร โดยงวดต่อๆ ไป ธนาคาร จะโอนเงินตามงวดงานก่อสร้าง โดยเราต้องโทรหาเจ้าหน้าประเมินให้มาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ในการประเมินแต่ละครั้งจะเสียค่าประเมิน ครั้งละ 800 บาท (หากทำการเบิกเงินงวดบ่อย ก็จะเสียค่าประเมินเยอะ) จขกท ก็เลยรวบยอดเบิกจากธนาคารประมาณ 5 งวด (ธนาคารแบ่งงวดงานมาให้ประมาณ 10 งวด) เมื่อเจ้าหน้าที่มาประเมิน ผ่านไป 3-4 วัน ธนาคารก็จะโอนเงินเข้าบัญชีที่เราไปเปิดไว้กับธนาคาร จนบ้านสร้างได้ครบ 100% ก็จะได้เงินกู้ทั้งหมด
*** เพิ่มเติม*** ในการเบิกเงินงวดสุดท้ายกับธนาคาร เราจะต้องดำเนินการขอทะเบียนบ้าน มิเตอร์น้ำประปา มิเตอร์ไฟฟ้าให้เรียบร้อย แนบเอกสารไปตอนที่ทำเรื่องเบิกเงินงวดสุดท้ายด้วยนะคะ แต่ถ้าหาก เป็นการรื้อบ้านเก่า แล้วใช้บ้านเลขที่เดิม ให้ทำการแก้ไขชื่อเจ้าบ้าน เป็น ชื่อผู้ขอกู้ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
ปล. ธนาคารกำหนดให้เราสร้างบ้านให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 6 เดือน ถ้าไม่เสร็จเราสามารถขยายได้โดยต้องไปเขียนคำร้องขยายระยะเวลา ( ซึ่งในวันที่เซ็นสัญญา เจ้าหน้าที่ให้เราเซ็นคำร้องขอขยายระยะเวลาไว้ล่วงหน้าแล้ว)
เมื่อ กู้ผ่านเรียบร้อยแล้ว มีเงินสร้างบ้านแน่ ๆ แล้ว จขกท จึงได้เร่งหาผู้รับเหมา ที่จะมาก่อสร้าง ติดต่อหาไปประมาณ 3-4 ที่ ทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และ ผู้รับเหมา แต่ละที่ ประเมินราคามาเกินวงเงินก่อสร้าง ทั้งนั้นเลย เนื่องจากสถานที่ก่อสร้างบ้านนั้น อยู่รอบนอกในตัวเมืองมาก ประมาณ 90 กม. ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งและเดินทางสูง จขกท จึงได้ทำการปรับลดวัสดุบางรายการที่ สามารถตัดออกได้เพื่อให้วงเงินก่อสร้างอยู่ในงบประมาณ เมื่อได้ผู้รับเหมาแล้ว ต่อไปก็อยู่ในช่วงเวลาหา ฤกษ์ลงเสาเอก ซึ่งก็ได้วันดี คือวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลา 09.09 น. ในการลงเสาเอก
ทำการรื้อบ้านหลังเก่า พร้อมปรับดิน ใช้เวลา 5 วัน (รื้อ 3 วัน ถมดินพร้อมปรับ 2 วัน )
เมื่อปรับดินเรียบร้อย ทีมช่างก็ได้เข้าเตรียมวางผัง ขุดดิน เพื่อที่จะให้ทันวันลงเสาเอก 22 มีนาคม 2564
วันลงเสาเอก ก็จะพิธีอะไรไม่รู้ของแม่ เยอะแยะไปหมด ตามความเชื่อของคนในชุมชน ซึ่งจะมีพิธี 2 วัน คือ ตอนเย็นก่อนลงเสาเอกจะต้องมีพิธีสู่ถอน ^_^ ซึ่ง จขกท กับ น้อง ก็ทำตามที่แนะนำเพื่อความสบายใจของคนอยู่อาศัย
วันสู่ถอน ก็จะมีการนิมนต์พระมาทำพิธีในช่วงตอนเย็น วันที่ 21 มี.ค 2564
วันลงเสาเอก 22 มีนาคม 2564 เวลา 09.09 น.
ต่อไป จขกท จะลงรูป แบบ ไม่อธิบายนะคะ เนื่องจาก อธิบายไม่ค่อยเก่งค่ะ
ลืมแจ้งไปว่า จขกท และน้องสาว ทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงสามารถเดินทางเข้าไปดูความคืบหน้าในการก่อสร้างได้แค่ เดือนละ 1 ครั้ง หรือ 2 เดือนครั้ง แต่ในระหว่างก่อสร้าง ผู้รับเหมาก็ส่งไลน์ให้ดูการทำงานเป็นระยะ ๆ ซึ่ง การทำงานของผู้รับเหมาชุดนี้ ไม่ได้สร้างความหนักใจ หรือ ความปวดหัวให้กับ จขกท เลย งานก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลน ทุกอย่าง ซึ่งหากผู้รับเหมามีข้อสงสัย เกี่ยวกับแบบแปลน ก็จะโทรมาแจ้งให้ จขกท รับทราบ ทุกครั้ง
ระหว่างนี้ ผู้รับเหมา ก็ได้แจ้งให้ จขกท ไปทำการเลือกกระเบื้องปูพื้น ผนัง และสุขภัณฑ์ เตรียมไว้ ซึ่ง การเลือกกระเบื้อง และ สุขภัณฑ์ เป็นอะไรที่เลือกยากมากจริงๆ เลือกจนตาลาย เมื่อยขา กว่าจะสรุปได้ลงตัว เพราะตอนแรกเลือกแล้วคิดว่าสวยแล้ว แต่พอเดินไปเจอกระเบื้องอีกสี อีกลาย ก็เปลี่ยนใจไปมา ^____^
บ้านหลังนี้เป็นทรงหลังคาเพิงหมาแหงน จขกท เลือกใช้หลังคากระเบื้อง โปรลอน ของ SCG สีเทาศิลา เป็นกระเบื้องหลังคาที่ออกแบบมาสำหรับสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีความลาดชันหลังคาต่ำ
มาดูภายในบ้านกันนะคะ
15 สิงหาคม 2564 ผู้รับเหมาได้ทำการส่งมอบบ้าน ที่แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง ในการสร้างบ้านหลังนี้ บอกตามตรงเลยค่า จขกท ไม่เคยปวดหัวกับผู้รับเหมาเลยค่ะ แจ้งให้ทำอะไร หรือแก้ไขอะไรได้ตามความต้องการแบบไม่ผิดเพี้ยนเลย นับว่าเป็นความโชคดีของ จขกท เลยจริง ๆ
ภาพบ้านที่แล้วเสร็จ 100%
บ้านขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพระ และ 1 ห้องเก็บของค่ะ ครัวไทยหลังบ้าน วงเงินก่อสร้างรวม 2 ล้านบาท ค่ะ
[CR] รีวิว กู้เงินสร้างบ้านให้แม่
บ้านไม้หลังเดิม ใต้ถุนสูง อายุประมาณ 33 ปี
เริ่มจาก จขกท. อยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ เนื่องจากบ้านเดิมที่แม่อยู่ น้องปลวกได้เข้ามาจับจองอยู่อาศัยมานานนับปี จนทำให้บ้านผุพัง หากไม่เร่งรื้อและสร้างใหม่ บ้านคงได้พังลงมาภายในปี สองปีนี้แน่
จขกท จึงได้ตัดสินใจจะรื้อและสร้างบ้านหลังใหม่ โดยการกู้เงินธนาคาร จขกท กู้ร่วมกับน้องสาว เนื่องจากน้องสาวทำงานรัฐวิสาหกิจ ที่ทำ MOU กับ ธอส. จึงได้ดำเนินเรื่องในการกู้กับธนาคารดังกล่าว โดย มีการเตรียมเขียนแบบบ้านไว้นานแล้ว และมีการปรับแก้ไขจนได้แบบบ้านตามต้องการ โชคดีที จขกท มีคนใกล้ตัวเขียนแบบบ้านให้ ทำให้สามารถปรับแก้ไขแบบได้ตามต้องการ ^_^ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเขียนแบบ เสียแค่ค่าใช้จ่ายในการคำนวณแบบโครงสร้าง และ ทำ BOQ ราคาก่อสร้างเพื่อใช้ประกอบในการยื่นกู้เงินกับธนาคาร ให้กับวิศวกรในที่ราคาไม่แพง
เมื่อได้แบบบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำเรื่องยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทาง อบต. ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้ใบอนุญาตก่อสร้างมาเรียบร้อย
ขั้นตอนการยื่นกู้เงินกับธนาคาร เตรียมเอกสารประกอบการกู้ยืมดังนี้
เอกสารส่วนบุคคล
-บัตรประจำตัวประชาชน และ ทะเบียนบ้าน
-ทะเบียนสมรส / ใบหย่า (ถ้ามี)
-บัตรประจำตัวประชาชน และ ทะเบียนบ้าน คุ่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารการเงิน
-หนังสือรับรองเงินเดือน
- เอกสารส่งเงินประกันสังคมย้อนหลัง 1 ปี (ขอได้ที่ สำนักงานประกันสังคม)
-สลิปเงินย้อนหลัง 3 เดือน
-statement ย้อนหลัง 6 เดือน
เอกสารเกี่ยวกับบ้าน
-โฉนดที่ดิน ที่จะสร้าง (โดยที่ดินนั้นต้องเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้)
-แบบแปลน บ้านที่จะสร้าง
-ใบประมาณราคาการก่อสร้าง ( BOQ)
-ใบอนุญาตปลูกสร้าง
เมื่อได้เอกสารครบ ก็ดำเนินเรื่องขอกู้ ซึ่ง จขกท ได้ทำเรื่องยื่นกู้ช่วง เดือนธันวาคม 2563 ผลอนุมัติ เดือน กุมภาพันธ์ 2564 (นัดเซ็นสัญญา 18 กุมภาพันธ์ 2564)
การดำเนินการยื่นกู้ มีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมเอกสารดังกล่าวข้างต้นไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ ธอส สาขาที่ใกล้บ้าน ซึ่งในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ โทรมาขอเอกสารของ จขกท เพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง รายได้อื่น ๆ , การนำส่งเงินประกันสังคม , ถ่ายรูปสถานที่ทำงาน ฯลฯ (เนื่องจาก จขกท ทำงานบริษัทเอกชน และ อยู่ในช่วงสถานะการ์ณโควิด) ทางธนาคารเกรงว่าจะไม่มั่นคง จึงได้ตรวจเข้มหน่อยค่ะ ส่วนของน้องสาว ไม่ตรวจเข้มมาก แค่โทรเช็คยืนยันตัวตนในที่ทำงานก็เรียบร้อย
2. หลังจากธนาคารได้เอกสารเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว ใช้เวลารอประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ จะมีเจ้าหน้าที่มาประเมินที่ดิน และ แบบบ้าน เข้าไปประเมิน ซึ่งในส่วนนี้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประเมิน 2,800 บาท (จ่าย ณ. วันที่ไปประเมินเลย) อ้อ เกือบลืม ในวันประเมิน เราต้องเตรียมเอกสารเกี่ยวกับระวางที่ดินของโฉนดที่ดินแปลงที่เราจะสร้างบ้านไว้ให้เจ้าหน้าที่ด้วย ( ควรไปขอล่วงหน้าที่กรมที่ดินเตรียมไว้)
3. รออีกประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า อนุมัติยอดเงินที่เท่าไร
4. นัดเซ็นสัญญาที่ธนาคาร และ จดจำนองที่กรมที่ดิน (ต้องเตรียมค่าจดจำนอง 1% ของเงินกู้ ) และค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อย พร้อมเปิดบัญชีไว้รอเพื่อโอนเงินค่าก่อสร้างเข้าบัญชี
5. งวดแรกธนาคารจะให้เงิน 10% ของวงเงินกู้ หลังจากที่เราจดจำนองเสร็จ ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีที่เราเปิดบัญชีไว้กับธนาคาร โดยงวดต่อๆ ไป ธนาคาร จะโอนเงินตามงวดงานก่อสร้าง โดยเราต้องโทรหาเจ้าหน้าประเมินให้มาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ในการประเมินแต่ละครั้งจะเสียค่าประเมิน ครั้งละ 800 บาท (หากทำการเบิกเงินงวดบ่อย ก็จะเสียค่าประเมินเยอะ) จขกท ก็เลยรวบยอดเบิกจากธนาคารประมาณ 5 งวด (ธนาคารแบ่งงวดงานมาให้ประมาณ 10 งวด) เมื่อเจ้าหน้าที่มาประเมิน ผ่านไป 3-4 วัน ธนาคารก็จะโอนเงินเข้าบัญชีที่เราไปเปิดไว้กับธนาคาร จนบ้านสร้างได้ครบ 100% ก็จะได้เงินกู้ทั้งหมด
*** เพิ่มเติม*** ในการเบิกเงินงวดสุดท้ายกับธนาคาร เราจะต้องดำเนินการขอทะเบียนบ้าน มิเตอร์น้ำประปา มิเตอร์ไฟฟ้าให้เรียบร้อย แนบเอกสารไปตอนที่ทำเรื่องเบิกเงินงวดสุดท้ายด้วยนะคะ แต่ถ้าหาก เป็นการรื้อบ้านเก่า แล้วใช้บ้านเลขที่เดิม ให้ทำการแก้ไขชื่อเจ้าบ้าน เป็น ชื่อผู้ขอกู้ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
ปล. ธนาคารกำหนดให้เราสร้างบ้านให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 6 เดือน ถ้าไม่เสร็จเราสามารถขยายได้โดยต้องไปเขียนคำร้องขยายระยะเวลา ( ซึ่งในวันที่เซ็นสัญญา เจ้าหน้าที่ให้เราเซ็นคำร้องขอขยายระยะเวลาไว้ล่วงหน้าแล้ว)
เมื่อ กู้ผ่านเรียบร้อยแล้ว มีเงินสร้างบ้านแน่ ๆ แล้ว จขกท จึงได้เร่งหาผู้รับเหมา ที่จะมาก่อสร้าง ติดต่อหาไปประมาณ 3-4 ที่ ทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และ ผู้รับเหมา แต่ละที่ ประเมินราคามาเกินวงเงินก่อสร้าง ทั้งนั้นเลย เนื่องจากสถานที่ก่อสร้างบ้านนั้น อยู่รอบนอกในตัวเมืองมาก ประมาณ 90 กม. ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งและเดินทางสูง จขกท จึงได้ทำการปรับลดวัสดุบางรายการที่ สามารถตัดออกได้เพื่อให้วงเงินก่อสร้างอยู่ในงบประมาณ เมื่อได้ผู้รับเหมาแล้ว ต่อไปก็อยู่ในช่วงเวลาหา ฤกษ์ลงเสาเอก ซึ่งก็ได้วันดี คือวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลา 09.09 น. ในการลงเสาเอก
ทำการรื้อบ้านหลังเก่า พร้อมปรับดิน ใช้เวลา 5 วัน (รื้อ 3 วัน ถมดินพร้อมปรับ 2 วัน )
เมื่อปรับดินเรียบร้อย ทีมช่างก็ได้เข้าเตรียมวางผัง ขุดดิน เพื่อที่จะให้ทันวันลงเสาเอก 22 มีนาคม 2564
วันลงเสาเอก ก็จะพิธีอะไรไม่รู้ของแม่ เยอะแยะไปหมด ตามความเชื่อของคนในชุมชน ซึ่งจะมีพิธี 2 วัน คือ ตอนเย็นก่อนลงเสาเอกจะต้องมีพิธีสู่ถอน ^_^ ซึ่ง จขกท กับ น้อง ก็ทำตามที่แนะนำเพื่อความสบายใจของคนอยู่อาศัย
วันสู่ถอน ก็จะมีการนิมนต์พระมาทำพิธีในช่วงตอนเย็น วันที่ 21 มี.ค 2564
วันลงเสาเอก 22 มีนาคม 2564 เวลา 09.09 น.
ต่อไป จขกท จะลงรูป แบบ ไม่อธิบายนะคะ เนื่องจาก อธิบายไม่ค่อยเก่งค่ะ
ลืมแจ้งไปว่า จขกท และน้องสาว ทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงสามารถเดินทางเข้าไปดูความคืบหน้าในการก่อสร้างได้แค่ เดือนละ 1 ครั้ง หรือ 2 เดือนครั้ง แต่ในระหว่างก่อสร้าง ผู้รับเหมาก็ส่งไลน์ให้ดูการทำงานเป็นระยะ ๆ ซึ่ง การทำงานของผู้รับเหมาชุดนี้ ไม่ได้สร้างความหนักใจ หรือ ความปวดหัวให้กับ จขกท เลย งานก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลน ทุกอย่าง ซึ่งหากผู้รับเหมามีข้อสงสัย เกี่ยวกับแบบแปลน ก็จะโทรมาแจ้งให้ จขกท รับทราบ ทุกครั้ง
ระหว่างนี้ ผู้รับเหมา ก็ได้แจ้งให้ จขกท ไปทำการเลือกกระเบื้องปูพื้น ผนัง และสุขภัณฑ์ เตรียมไว้ ซึ่ง การเลือกกระเบื้อง และ สุขภัณฑ์ เป็นอะไรที่เลือกยากมากจริงๆ เลือกจนตาลาย เมื่อยขา กว่าจะสรุปได้ลงตัว เพราะตอนแรกเลือกแล้วคิดว่าสวยแล้ว แต่พอเดินไปเจอกระเบื้องอีกสี อีกลาย ก็เปลี่ยนใจไปมา ^____^
บ้านหลังนี้เป็นทรงหลังคาเพิงหมาแหงน จขกท เลือกใช้หลังคากระเบื้อง โปรลอน ของ SCG สีเทาศิลา เป็นกระเบื้องหลังคาที่ออกแบบมาสำหรับสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีความลาดชันหลังคาต่ำ
มาดูภายในบ้านกันนะคะ
15 สิงหาคม 2564 ผู้รับเหมาได้ทำการส่งมอบบ้าน ที่แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง ในการสร้างบ้านหลังนี้ บอกตามตรงเลยค่า จขกท ไม่เคยปวดหัวกับผู้รับเหมาเลยค่ะ แจ้งให้ทำอะไร หรือแก้ไขอะไรได้ตามความต้องการแบบไม่ผิดเพี้ยนเลย นับว่าเป็นความโชคดีของ จขกท เลยจริง ๆ
ภาพบ้านที่แล้วเสร็จ 100%
บ้านขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพระ และ 1 ห้องเก็บของค่ะ ครัวไทยหลังบ้าน วงเงินก่อสร้างรวม 2 ล้านบาท ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้