ใครอึดอัดเวลาที่อยู่บ้านกับพ่อแม่บ้าง

รักร้าวเฮ้อ... อย่ามองว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดีนะคะ ที่จริงเราอดทนมากๆมานานแล้ว และไม่เคยพูดเรื่องครอบครัวให้ใครเลย
แต่ครั้งนี้เรารู้สึกอึดอัดจริงๆ ขี้แง (ยาวหน่อยนะคะ เราอยากระบายให้ฟังด้วยค่ะ)

เราจะบอกว่า พ่อแม่เราเป็นคนที่หัวโบราณมากๆ ทัศนคติลบมาก และมองอะไรคือไม่ดีไปหมดทุกอย่าง กลัวไม่หมด และไม่รับอะไรที่ใหม่ๆ
ชอบคิดว่าเทคโนโลยี หรือคนหัวสมัยใหม่ไม่ดี และมักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ
ถ้าใครแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างก็จะไม่ชอบ คือทุกคนต้องคิดแบบเดียวกัน
และที่สำคัญพ่อกับแม่เป็นคนเคร่งครัด เข้มงวดมากๆ วางเส้นทางให้เราทำตามที่เขาต้องการทุกอย่าง
ถ้าเราไม่ทำก็จะโมโห ด่าเรา ขึ้นกู ต้องเป็นแบบที่เขาต้องการ ต้องมีชีวิตแบบที่เขาให้เป็นขี้แง

เขาบงการ และบังคับชีวิตเรามาตั้งแต่เด็ก ยันตอนนี้อายุ 26 แล้ว พ่อกับแม่ก็ยังบงการชีวิตเรา
ไข่ดาว- ห้ามไปเที่ยวนอกสถานที่
แค่ไปร้านกาแฟก็ด่าเราแล้ว แค่เราออกไปเซเว่นแปปเดียวก็โดนด่าหาว่าใช้เงินเปลือง
ทั้งที่เราใช้เงินของเราเอง ตั้งแต่เราเริ่มทำงานเราไม่เคยรบกวนเงินของพ่อแม่เลย หรือไม่เคยเดือดร้อนอะไรแกเลย

ไข่ดาว- ห้ามมีเพื่อนเป็นเพศที่ 3
ซึ่งเรามีเพื่อนในกลุ่มทั้งผช/ผญ/ทอม/กระเทย เรามีเพื่อนเยอะ แต่แกไม่ชอบเพื่อนเราทุกคนเลย
เวลาที่เราจะไปไหนกับเพื่อน แม่ก็จะด่าจะว่าเราตลอด แบบไม่ดีมากๆ เหมือนเราไปฆ่าใครตาย แกไม่ชอบเพศที่ 3 มากๆ
เราเลยไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อน

ไข่ดาว- ห้ามเราคบทอม
ซึ่งเราชอบผู้หญิงด้วยกัน ยิ่งทำให้พ่อแม่ไม่ชอบไปใหญ่ เรื่องนี้มันเป็นความชอบส่วนบุคคลด้วยไงคะ
แล้วเราเคยพูดด้วยเหตุผล และอธิบายให้ฟังว่ามันไม่ได้เสียหาย หรือผิดอะไร แต่พ่อกับแม่ก็พูดว่า
"ไม่ต้องมาพูด กูไม่ชอบคือไม่ชอบ จนกูตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกู จะมีค.สุขได้ก็รอให้กูตายก่อนแล้วกัน ไม่งั้นก็ออกจากบ้านไปเลย"
ซึ่งมันทำให้เราไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้อีก แล้วเราก็ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด แต่เขาก็จะรู้เพราะเขาชอบจ้างสายสืบมาตามสืบเรา
เรากระดิกเท้าไปไหนไม่ได้เลย เขาจะรู้ตลอด แล้วเราก็ไม่อยากออกจากบ้านเพราะเขาเหลือเราแค่คนเดียว
เรายังห่วงพ่อแม่อยู่ เรารู้สึกว่าถ้าเราไปแล้วใครจะดูแลเขาเวลาที่เขาไม่สบาย เรามักแคร์พ่อแม่มากกว่าตัวเราเอง
พยายามทำหน้าที่ลูกให้ดี แต่เราทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาเขาเลยจริงๆ ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง

ไข่ดาว- บังคับให้เราคบกับผช.ที่พ่อแม่เลือก
เขาจะหาผช.ที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเขามาให้ แต่ที่จริงแล้วผช.คนนั้นโคตรโรคจิตเลย
เข้าบ้านออกบ้านโดยไม่ขออนุญาติเลย ทั้งที่ในบ้านมีแค่ลูกสาว แต่กลับไม่ห่วงลูกสาวเลย แอบมาใช้ห้องน้ำส่วนตัวเรา
แอบเอาผ้าขนหนูของเราไปใช้บ้าง แอบมาส่องตรงข้างหน้าต่างห้องนอนเราบ้าง แอบขับรถตามเรา
แล้วชอบทำตัวเหมือนเปแ็นเจ้าข้าวเจ้าของตลอด ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวเรา แล้วขี้ฟ้องมากๆ พ่อแม่เราจะตามใจผช.คนนี้มากๆ
เพราะต่อหน้าพ่อแม่เรานางทำตัวดีมาก เข้าทางพ่อแม่เราประมาณนั้น และเราเคยพูดตรงๆกับเขาแล้ว แต่เขาก็ยังดื้อ ดันทุรัง
เพราะพ่อแม่เราให้ความหวัง บอกว่าตื้อไป เดี๋ยวเราก็ยอม ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะเราไม่ชอบเขา แล้วนางก็ไปบอกพ่อแม่เรา
สุดท้ายมาพ่อแม่เราก็ด่าเราว่ามีคนดีๆทำไมไม่เลือก หามาให้ดีๆแต่กลับไม่สนใจ สนใจพวกทอม แล้วก็ด่าด้วยคำพูดแรงๆมากๆ
จนทำให้เราเครียดมาก ที่สำคัญเราเคยบอกพ่อกับแม่เรื่องที่มันมาแอบดูเราหลายครั้งให้ฟังแล้ว แต่ผลที่ตอบกลับคือ
"อย่าเอาไปพูดกับใคร เพราะเขาชอบแกมากไง รักแกมากไง เขาเลยเป็นแบบนั้น มันไม่ได้ผิด ไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟัง
เดี๋ยวเขาจะเสียหน้า จะเสียหาย เดี๋ยวเขาจะอาย" มันเป็นคำตอบที่เราช็อกมากๆ เพราะเราคือลูกสาวของเขาอ่ะ เขาคือพ่อแม่เรานะ
เขาควรปกป้องเรา ไม่ใช่ปกป้องผช.คนนั้นอ่ะ เรารู้สึกแย่มากๆ เสียใจมาก แล้วเราก็ได้แต่เงียบ

ไข่ดาว- บังคับให้เราต้องมีลูก ต้องแต่งงาน 
กับคนที่เขาเลือก คือผช.คนนั้น แล้วมันมีครั้งนึงที่เราทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องนี้ แล้วเราบอกว่า
"อย่างบังคับน้องได้มั้ย? น้องไม่ได้ชอบเขา จะต้องให้น้องแต่งงาน มีลูกกับเขาใช่มั้ย พ่อกับแม่ถึงจะพอใจ ถึงจะปล่อยให้น้องเป็นอิสระ"
ซึ่งครั้งนั้นพ่อเราตอบว่า "มีหลานให้กู แล้วจะไปไหนก็ไป" มันโคตรสะเทือนใจเลย เหมือนเราเป็นแค่ของที่ใช้แล้วทิ้งเลย
แล้วถ้าเรามีลูก เราก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกต้องโดนเลี้ยงดูกับคนที่มีทัศนคติแบบนี้เลย ลูกเราจะต้องเกิดมาแล้วไม่สามารถเป็นอิสระได้แบบเราเลย

ไข่ดาว-ห้ามแต่งตัวที่ไม่เรียบร้อย
ห้ามใส่สายเดี่ยว เอวลอย กางเกงขาสั้นก้ห้าม กระโปรงสั้นก็ห้าม ต้องใส่กางเกงขายาว เสื้อผ้ารัดรูป ไหมพรมก็ห้าม
แต่งตัวสีฉูดฉาดก็ไม่ได้ ย้อมสีผมก็ไม่ได้ ทาริบสีแดง หรือพวกติ้นที่ผญ.ชอบทาก็ไม่ได้ ทาสีเล็บสีสรรสดใสก็ไม่ได้
ห้ามใส่เสื้อสีดำถ้าไม่ไปงานศพ ห้ามใส่ ห้ามตัดผมหน้าม้า ห้ามซอยผมหรือตัดผมตามเทรน คือทุกอย่างห้ามเราหมดเลย
อึดอัดมากที่สุดเลย

เดือนเพ็ญพ่อกับแม่เราเป็นคนที่พูดหยาบกับเรามากๆในช่วงหลังๆ รุนแรงขึ้นทุกๆวัน เราพูดอะไรนิดหน่อยก็ไม่เข้าหู ก็ด่าว่าเรา
พูดดีได้สัก 2 ประโยค ต่อจากนั้นก็เริ่มพูดไม่ดี เริ่มทะเลาะ เราก็ได้แต่เงียบ เพราะเรารู้สึกยิ่งพูด ยิ่งอธิบายก็ไร้ค่า
เพราะพ่อแม่เราเป็นคนไม่ฟังใครเลย แม้แต่ญาติพี่น้องพูดอะไรแกก็ไม่เคยฟัง ใครพูดไม่เข้าหูก็จะหนี 
แต่พูดดีกับคนอื่นมากกกกก พูดเพราะกับคนอื่นมากกกก ต่อหน้าคนอื่นเหมือนรักลูกมาก เหมือนเข้าใจหมดทุกอย่าง
แต่เวลาอยู่ในบ้านเหมือนนรกเลย บ้านร้อนเป็นไฟ บ้านที่มีครบพร้อมทุกอย่าง ไม่มีหนี้สิน แต่เรากลับไม่มีความสุขเลย
ไม่มีอิสระเป็นของตัวเอง ไม่มีชีวิตของตัวเอง ไม่สามารถออกความคิดเห็นอะไรได้ พ่อแม่ไม่เคยเข้าใจโลกภายนอกเลย
และไม่เคยยอมรับอะไรเลย ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลย คิดว่าตัวเองถูกทุกเรื่อง แล้วต้องเป็นผู้ชนะเสมอ
ชอบพูดอะไรไม่เคยคิดถึงความรู้สึกลูกเลย แล้วเราก็จะเก็บๆๆๆ เรากลายเป็นคนที่เงียบ เก็บกดมาก ได้แต่เงียบ

เริ่มรุนแรงจากคำพูด ก็เริ่มเป็นกิริยา เริ่มเอาเท้ามาเตะกลางอากาศ เริ่มถีบประตูห้องเราเวลาไม่พอใจ เริ่มเอาเท้าถีบรถเรา
หนักกว่านั้นบอกว่า "ถ้ายังเลือกที่จะคบทอม ไม่แต่งงาน กูจะตัดให้หมด จะฆ่าทิ้งให้หมด คิดว่ากูไม่กล้าหรอ 
แม้แต่พี่สาวกูยังตัดขาดมาแล้ว กูไม่มีลูกกูก็อยู่ได้ ทำให้เกิดมาแล้ว ยิ้ม แล้วเลว กูวางเส้นทางไว้อย่างดี แต่ไปเดินถนนรุกรัง
ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณที่กูเลี้ยงมา ไม่สำนึกบุญคุณเลย ลูกอกตัญญู" ขี้แง

บ้านครอบครัวเรามีพี่น้อง 2 คนเป็นผญ.ทั้งสอง เราเป็นน้อง และพี่เราก่อนหน้านี้ก็โดนพ่อแม่บังคับให้เลิกกับแฟนเก่าพี่ แล้วหาคนใหม่ให้พี่
แต่เราไม่เอาคนนั้น แล้วพี่ก็มีแฟนใหม่ แล้วก็รักคนนี้มาก แต่พ่อกับแม่เกลียดคนนี้มาก บังคับให้เลิกอีก
ทั้งที่ผช.คนนี้ก็ดูแลพี่เราดี จนปัจจุบันก็มีลูกกันแล้ว 1 คน แต่พ่อแม่เราก็ตัดพี่สาวเราไปเลย 15 ปีแล้ว
ที่พ่อแม่ทิ้งพี่เราไปเพียงเพราะแกไม่ชอบพี่เขย และคิดว่าตัวเองเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี แล้วก็เกลียดพี่สาวและพี่เขยเรามาก
คือชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลย แม้แต่ตายก็อย่ามาเผาผีกัน พ่อแม่เราพูดแบบนี้กับพี่ แล้วแถมยังแช่งหลานสาวตัวน้อยว่า
"ขอให้ลูกโตมาแล้วเป็นพวกเพศที่ 3 จะได้เข้าใจว่ากูรู้สึกยังไง" ซึ่งพี่เราเป็นคนสมัยใหม่ พี่เราไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย
เป็นยิ่งดี ไม่ต้องห่วงอะไรมากด้วย แถมหลานสาวก็เป็นเด็กดีมากๆด้วย แต่แม่กับพ่อเราก็ไม่เอาหลาน ไม่รับหลาน
ไม่นับญาติไม่นับลูกเลย 

ทุกๆวันนี้เราเหนื่อยมากที่ต้องมานั่งร้องไห้เองคนเดียว แม้แต่อยู่บ้านยังโดนด่า ว่าอยู๋แต่ในห้องไม่ออกมาบ้าง
ซึ่งเราไม่อยากออกจากห้องเพราะเรารู้ว่าถ้าอยู๋ด้วยกันจะต้องมีปากเสียงกันแน่
แล้วคนที่เสียความรู้สึกคือเราเองไง พ่อแม่พูดอะไรก็ได้ไง จะด่าจะว่าไรก็ได้ แต่เราเป้นลูก เราด่าเราว่าแกไม่ได้
เราใช้คำยาบด่าแกกลับได้หรอ ก็ไม่เลย แต่แกชอบพูดอะไรที่ต้องการเอาชนะ ต้องการความสะใจ ต้องการให้เราช้ำใจตลอดเลย
แล้วแกชอบบอกว่า "กูทุกข์ใจมากที่มีลูกเป็นพวกวิปริต ไม่เคยทำในสิ่งที่กูต้องการได้เลย อยากมีความสุขหรอ ฝันไปเถอะ
รอกูตายก่อนแล้วกัน" เรายิ่งเจ็บ เราก็ไม่ได้อยากทำให้แกทุกข์ใจ เราก็ไม่อยากทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจเลย
cry- เรื่องงาน เราก็ทำงานราชการตามที่พวกเขาต้องการ เราก็ทำให้แล้ว
cry- เรื่องอยุ๋บ้าน ห้ามไปเที่ยว เราก็ทำให้แล้ว เราแทบจะไม่ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำ เราได้แต่อยุ่บ้าน แต่บ้านก็ไม่ใช่เซฟโซนของเรา
cry- เรื่องห้ามมีเพื่อน เราก็แทบจะไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว เพราะเราแทบไม่มีสังคม ไม่มีอิสระได้ออกไปไหนเลย
cry- เรื่องการแต่งตัว เราก็พยายามแต่งตัวให้เรียบร้อยเวลาอยู่กับที่บ้าน เพื่อจะได้ไม่ทะเลาะ
cry- เรื่องแต่งงานกับคบผช.ที่เขาเลือก อันนี้เราทำไม่ได้จริงๆ เพราะเราไม่ได้ชอบ และเราชอบผญ.ด้วยกัน มันผิดมากเลยหรอคะขี้แง

เราพยายามคิดทบทวนหลายๆครั้ง เพราะเขาพูดตอกย้ำว่าเราไม่ดีอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นเราชอบโทษตัวเองทุกเรื่องเลย 
เรารู้สึกว่าเราบาปมากๆที่ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ เรารู้สึกเหนื่อยมากๆ และที่สำคัญเรามีอาการซึมเศร้าเพราะเรื่องครอบครัว
พ่อแม่ไล่เราออกบ้านหลายครั้งมาก แต่เราเป็นห่วงเขามาก มากกว่าความรู้สึกตัวเอง เราต้องไปบำบัดที่รพ.เพราะเราเครียด
เราเคยบอกพ่อกับแม่ว่าเรามีอาการนี้นะ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ "สำออย โรคสำออย เป็นเองก็หายเอง เรียกร้องความสนใจหรอ"
เรายิ่งแย่กว่าเดิม เราอยากบอกว่าที่เราเป็นเพราะครอบครัวเลย ครอบครัวเป็นอะไรที่แย่มากๆ เราเหนื่อยมาก
เรารู้สึกแย่มากๆ เราพยายามทนมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราเคยคิดฆ่าตัวตาย และทำร้ายตัวเองมาแล้ว 
เพราะเขาพูดว่า "ไม่น่าเกิดมาเลย ไม่มีชีวิตกูยังดีกว่านี้อีก" เพราะคำพูดพวกนี้มันเลยทำให้เรารู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว
เขาทำให้เราโทษตัวเองตลอด ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ไม่เคยดี ไม่เคยได้รับคำชม ไม่เคยสนับสนุนเราเลยสักครั้งเดียวขี้แง

เราพยายามเลี่ยงที่จะไม่เจอหน้า ไม่อยากนั่งคุย หรือพูดอะไรด้วย เพราะเราไม่อยากทะเลาะ เราไม่อยากได้ยินสิ่งที่พ่อแม่พูด
เราไม่อยากคุยด้วย เพราะคนที่เสียใจคือเรา คำพูดทุกอย่างที่ออกจากปากพ่อแม่ คำสาบแช่งทุกๆอย่าง มันทำให้เรารู้สึกท้อมาก
แล้วเราก็ไม่อยากได้ยิน เราเลยเลี่ยงที่จะคุย แต่ก็โดนด่า โดนว่าทำไมไม่คุย ไม่พูดกับเขา เพราะเรารู้สึกกลัวคำพูดของเขา
เราไม่อยากเสียใจแล้วจริงๆ ขี้แง

questionเราควรทำยังไงดี เราควรรู้สึกยังไงดี
อยู่บ้านก้ไม่มีความสุข จะออกจากบ้านก็ห่วงพ่อแม่ และที่สำคัญ ถ้าออกบ้านแล้วคือไม่สามารถกลับมาได้อีก
และจะเหมือนกับพี่สาวคือตัดขาดพ่อแม่ลูกกันเลย เราไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ขอคำแนะนำทุกๆคนเซฟความรู้สึกเราหน่อยได้มั้ยคะ
เราพยายามคิดบวกหลายๆครั้งมาก แต่สิ่งที่พ่อแม่เราพูดมันตอกย้ำเราทุกวันเลย เราฮีลตัวเองจะไม่ไหวแล้วจริงๆ
เราร้องไห้ตลอดเลย เราแย่มากๆ บ้านเหมือนนรก เหมือนไฟ เราอึดอัด แต่เราก็รักพ่อแม่เรามาก เราพยายามทำทุกอย่างให้ดีๆ
หาข้าวอะไรให้เขากิน แต่เขาก็จะทิ้งกับข้าวที่เราซื้อมา บอก"ไม่กินไม่อร่อย ไม่ต้องซื้อมาให้กู" คือบางทีเราซื้อเพราะเราห่วง
แต่เขาชอบพูดบั่นทอนความรู้สึกเราทุกครั้งเลย แม้แต่อาหารแพงๆที่เราคิดว่าอร่อย เขาก็เอาทิ้ง แถมด่าเราอีก 
เราทำอะไรไม่เคยดีในสายตาเขาเลยจริงๆ

loveเราขอกำลังใจ ความคิดเห็น และพลังบวกได้มั้ยคะ
-เราเป็นลูกที่ดีมั้ย เราทำหน้าที่ได้ดีรึป่าว เราแย่มากเลยหรอ เราไม่ดีมากเลยหรอทุกคน มันมีแต่คำถามพวกนี้อยู่ในหัวตลอดเลย
เราเป็นลูกที่ไม่ดีมากๆเลยใช่มั้ย ขี้แง

อมยิ้ม08อมยิ้ม08อมยิ้ม08
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ลองชวนพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรหรือทำสังฆทานหรือฟังเทศน์ที่วัดหน่อยไหม เผื่อท่านจะสงบลงบ้างหลังจากฟังธรรม
พาท่านไปออกกำลังตามสวนสาธารณะ ช่วยท่านทำงานบ้าน ทำอาหารให้ท่านกินเผื่อท่านจะได้ไม่เหนื่อย หรือบอกท่านว่าขออนุญาตพาเพื่อนสนิทมาที่บ้านจะได้ทำความคุ้นเคยกับท่าน เผื่อท่านจะไว้ใจ

ถ้าเป็นห่วงก็หาที่พักใกล้บ้านพ่อแม่ก็ได้เผื่อจะไปเยี่ยมท่าน ในกรณืที่ทนไม่ไหว คุณต้องห่วงตัวเองบ้างเดี๋ยวจะเป็นซึมเศร้าและไม่สบาย อีกอย่างท่านทั้งสองน่าจะอายุสัก 50 ขึ้นไปน่าจะยังแข็งแรงอยู่

แต่เท่าที่เราอ่าน เราไม่ชอบท่านตรงที่ไปสาปแช่งหลานสาวที่เป็นลูกพี่สาวคุณเลย เด็กไร้เดียงสาแท้ๆ ไปรังเกียจซะแล้ว แสดงว่าท่านไม่ได้รักเด็กหรือผูกพันอะไรกับใครเลย และเราเดาว่าต่อให้คุณกับพี่สาวแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้ ท่านก็คงให้ย้ายเข้าบ้านและบงการทั้งครอบครัวอีกอยู่ดี คุณโตแล้วตัดสินใจเองดีกว่า แม้เราจะไม่ค่อยชอบเพศเดียวกันแต่เราก็เคารพกับการตัดสินใจนะ เพราะเรามีเพื่อนที่ชอบเพศเดียวกันหลายคน ขอให้เค้าเป็นคนดีก็พอแล้ว ขอให้แก้ปัญหาได้ด้วยดรยะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่