อยากลองเล่าความรู้สึกของผมไห้ไครสักคนหรือไครๆก็ได้
คือว่าวันเนี้ยอ่ะ มันก็เป็นวันธรรมดาทั่วๆไปแหละ เช้าก็ทำงาน ตอนเย็นเลิกงานมาก็พักผ่อน อาบน้ำ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ทำอะไรไปเรื่อยเปลื่อย ลื้อนั่นเก็บนี่ แล้วเพลงที่ฟังก็จะเเนวอกหักล้วนๆเลยคิดถึงตอนที่ต้องเลิกกับแฟน แต่ก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นนะ เพราะว่าผ่านมาได้ประมาณ5ปีแล้วมั้ง คิดไปเพลินๆ จนดึกละได้เวลานอน ไอ้ตอนที่เก็บอะไรไปเรื่อยเปลื่อยแหละดันไปเจอสมุดบันทึกเล่มเล็กๆเท่าฝ่ามือเรานี่แหละเล่นสีดำหนาประมาหนึ่งเซนได้ เห็นปุ๊บก็จำได้เลยว่าเป็นของเราเพราะคลับคล้ายคลับคลา ว่าจะเคยจดเบอร์โทรกับอีเมล ไว้บ้างล่ะ
เป็นเรื่องปกติของคนก็อยากรู้ว่าจดอะไรไว้พอเริ่มเปิดหน้าเเรกมาก็เจอทันทีเลย เบอร์โทรและอีเมล นั่นแหละหน้าแรกที่มีหมึกปากกาเขียนไว้ บันทัดเเรกคือเบอร์ บันทัดสองคือเมล เเล้วก็ว่างเปล่าทุกครั้งที่เปิดไป จนถึงหน้ากลาง เริ่มมีลอยเข้มๆเป็นตัวเลขแต่เป็นลอยดินสอ เขียนว่า ( ก.ค ) 2559 ลองนับย้อนไปก็5ปี เปิดไปได้อีกเจ็ดแผ่นก็ไม่ได้เขียนอะไรไว้ละ
คือ พอเห็นแบบนั้นก็นึกออก เลยว่า ครั้งนึงประมาน5ปีที่ผ่านมาอ่ะ เราเคยระบายความรู้สึกไว้วันละนิดวันละหน่อย ก็ นานเหมือนกันนะกว่าจะได้เจ็ดแผ่นวันละ สองสาม สี่ห้า บรรทัดก็แล้วแล้วแต่ความรู้สึกช่วงนั้นหล่ะ คือ กรกฏาคม 2559 เป็นวันครบรอบ 1ปี 2เดือน พอดีเลย แล้วมันคือวันสิ้นสุดของเราเลิกลากันไปหลังจากคบกันมา 1ปี2เดือน สมุดก็ปิดได้เลย เพราะเรื่องแบบนี้จะถูกจดจำได้อย่างดีที่สุด คือคนที่โดนทิ้ง อ่ะ จริงปะ ช่วงวันแรกๆเดือนแรกๆนี่แบบว่า มันไม่มีความรู้สึกไหนที่จะมากกว่า คำว่า เสียใจ เสียใจมากเป็นบ้านเป็นบอ ไม่ค่อยจะออกจากห้องอ่ะ เอะอะ ก็ร้องไห้ๆ แล้วยิ่ีงตอนเพื่อนฝูงที่มาหาและส้งแชทมานี่ แค่เห็นก็ร้อง บางคนบางคำก็ว่า อย่าคิดมากเลย นู่นนี่นั่นสารพัด ก็ร้องไห้ บางคนนี่เจอหน้ากันที่ไหนมีเรื่องฮาๆกวนไห้ได้เถียงกันไม่หยุด มันส่งแชทมา ว่า สมน้ำหน้า ความรู้สึกที่ว่าต้องโมโหนี่ไม่รู้ไปไหนหมด แค่อ่านเเชทมันเท่านั้นก็ร้องอีก555 เดี๋ยวนี้มันเรียกผม ไอ้ขี้แง
หลังจากเลิกกันวันเเรก ผมลบเฟสบุ๊ค ไลน์ ซิมก็หักทิ้ง ที่ทำไปไม่ได้เกลียดเธอนะ แค่ทำตามความรู้สึกน่ะ ผมเก็บตัว พยายามเลี้ยงทุกๆที่ ที่เคยไปด้วยกัน ถ้าบังเอินเจอกันไกลๆแล้วไปทางอื่นได้ก่อนก็ไปถ้าต้องสวนทางกันผมก็แค่ทำเป็นไม่เห็น แต่มันก็รู้สึกลึกๆนะ สองสามปีต่อมาก็ได้เจอบ่อยๆและไกล้ๆนานๆ เพราะ เธอเป็น ญาติกับเพื่อนผม ได้เจอกันบ่อยๆช่วงเย็นๆ ผ่านไปหลายปีแล้วใจมันก็เริ่มที่จะชาชินละ ก็ยัง ไม่เคยคิดที่จะเกลียด ทั้งๆที่ครั้งนี้เธอมากันสามคน มีไอ้หนูน้อยน่ารักมาด้วยที่ผัวเธออุ้มมา วันนั้นแหละที่ไกล้กันจริงๆญาติพี่นั้งเค้าล้องวงกินข้าวกันรวมทั้งเธอด้วย แม่ของเพื่อนผมตะโกนผ่าวงข้าวมาเลย ..มากินข้าวก่อนเร็ว ป้าตักข้าวไว้ไห้แล้ว หืมม สตั้นไปพักนึง เลยเดินไปถือจานข้าวไปเก็บไว้ก่อนแล้วบอกป้าไปว่า จะกลับมากินคับ แต่ต้องซื้อน้ำมันรถไปไห้เพื่อนก่อนคับ น้ำมันหมดที่ไหไหนก็ไม่รู้ ผมก็บอกไกลๆไปก่อน555 แต่วันนี้แหละที่ได้มองตาตรงๆครั้งแรก เธอยิ้มไห้นะ ที่หันมองกัน แต่ผมดันยืนมองแค่แว๊ปเดียวแล้วก็ไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรด้วยหันไปจับมอไซได้ก็ออกไปยาวๆ หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยเจอละ เธอไปทำงาน กทม ผมก็อยุ่ของผม นี่ก็ห้าปีแล้ว เลิกฟุ้งซ่าน และไม่เคยคิดถึงเลย แค่นานๆสักครั้งจะถามตัวเองว่า ถ้าวันนึงเธอต้องเป็นม้าย แล้วกลับมาหาผม ผมก็พร้อมที่จะกอดเธอ แล้วจะกอดไห้แน่นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ประมาณเนี้ยอ่ะคับ
ตอนโดนทิ้งอาการเป็นยังไงกันบ้าง มาคุยกัน
คือว่าวันเนี้ยอ่ะ มันก็เป็นวันธรรมดาทั่วๆไปแหละ เช้าก็ทำงาน ตอนเย็นเลิกงานมาก็พักผ่อน อาบน้ำ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ทำอะไรไปเรื่อยเปลื่อย ลื้อนั่นเก็บนี่ แล้วเพลงที่ฟังก็จะเเนวอกหักล้วนๆเลยคิดถึงตอนที่ต้องเลิกกับแฟน แต่ก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นนะ เพราะว่าผ่านมาได้ประมาณ5ปีแล้วมั้ง คิดไปเพลินๆ จนดึกละได้เวลานอน ไอ้ตอนที่เก็บอะไรไปเรื่อยเปลื่อยแหละดันไปเจอสมุดบันทึกเล่มเล็กๆเท่าฝ่ามือเรานี่แหละเล่นสีดำหนาประมาหนึ่งเซนได้ เห็นปุ๊บก็จำได้เลยว่าเป็นของเราเพราะคลับคล้ายคลับคลา ว่าจะเคยจดเบอร์โทรกับอีเมล ไว้บ้างล่ะ
เป็นเรื่องปกติของคนก็อยากรู้ว่าจดอะไรไว้พอเริ่มเปิดหน้าเเรกมาก็เจอทันทีเลย เบอร์โทรและอีเมล นั่นแหละหน้าแรกที่มีหมึกปากกาเขียนไว้ บันทัดเเรกคือเบอร์ บันทัดสองคือเมล เเล้วก็ว่างเปล่าทุกครั้งที่เปิดไป จนถึงหน้ากลาง เริ่มมีลอยเข้มๆเป็นตัวเลขแต่เป็นลอยดินสอ เขียนว่า ( ก.ค ) 2559 ลองนับย้อนไปก็5ปี เปิดไปได้อีกเจ็ดแผ่นก็ไม่ได้เขียนอะไรไว้ละ
คือ พอเห็นแบบนั้นก็นึกออก เลยว่า ครั้งนึงประมาน5ปีที่ผ่านมาอ่ะ เราเคยระบายความรู้สึกไว้วันละนิดวันละหน่อย ก็ นานเหมือนกันนะกว่าจะได้เจ็ดแผ่นวันละ สองสาม สี่ห้า บรรทัดก็แล้วแล้วแต่ความรู้สึกช่วงนั้นหล่ะ คือ กรกฏาคม 2559 เป็นวันครบรอบ 1ปี 2เดือน พอดีเลย แล้วมันคือวันสิ้นสุดของเราเลิกลากันไปหลังจากคบกันมา 1ปี2เดือน สมุดก็ปิดได้เลย เพราะเรื่องแบบนี้จะถูกจดจำได้อย่างดีที่สุด คือคนที่โดนทิ้ง อ่ะ จริงปะ ช่วงวันแรกๆเดือนแรกๆนี่แบบว่า มันไม่มีความรู้สึกไหนที่จะมากกว่า คำว่า เสียใจ เสียใจมากเป็นบ้านเป็นบอ ไม่ค่อยจะออกจากห้องอ่ะ เอะอะ ก็ร้องไห้ๆ แล้วยิ่ีงตอนเพื่อนฝูงที่มาหาและส้งแชทมานี่ แค่เห็นก็ร้อง บางคนบางคำก็ว่า อย่าคิดมากเลย นู่นนี่นั่นสารพัด ก็ร้องไห้ บางคนนี่เจอหน้ากันที่ไหนมีเรื่องฮาๆกวนไห้ได้เถียงกันไม่หยุด มันส่งแชทมา ว่า สมน้ำหน้า ความรู้สึกที่ว่าต้องโมโหนี่ไม่รู้ไปไหนหมด แค่อ่านเเชทมันเท่านั้นก็ร้องอีก555 เดี๋ยวนี้มันเรียกผม ไอ้ขี้แง
หลังจากเลิกกันวันเเรก ผมลบเฟสบุ๊ค ไลน์ ซิมก็หักทิ้ง ที่ทำไปไม่ได้เกลียดเธอนะ แค่ทำตามความรู้สึกน่ะ ผมเก็บตัว พยายามเลี้ยงทุกๆที่ ที่เคยไปด้วยกัน ถ้าบังเอินเจอกันไกลๆแล้วไปทางอื่นได้ก่อนก็ไปถ้าต้องสวนทางกันผมก็แค่ทำเป็นไม่เห็น แต่มันก็รู้สึกลึกๆนะ สองสามปีต่อมาก็ได้เจอบ่อยๆและไกล้ๆนานๆ เพราะ เธอเป็น ญาติกับเพื่อนผม ได้เจอกันบ่อยๆช่วงเย็นๆ ผ่านไปหลายปีแล้วใจมันก็เริ่มที่จะชาชินละ ก็ยัง ไม่เคยคิดที่จะเกลียด ทั้งๆที่ครั้งนี้เธอมากันสามคน มีไอ้หนูน้อยน่ารักมาด้วยที่ผัวเธออุ้มมา วันนั้นแหละที่ไกล้กันจริงๆญาติพี่นั้งเค้าล้องวงกินข้าวกันรวมทั้งเธอด้วย แม่ของเพื่อนผมตะโกนผ่าวงข้าวมาเลย ..มากินข้าวก่อนเร็ว ป้าตักข้าวไว้ไห้แล้ว หืมม สตั้นไปพักนึง เลยเดินไปถือจานข้าวไปเก็บไว้ก่อนแล้วบอกป้าไปว่า จะกลับมากินคับ แต่ต้องซื้อน้ำมันรถไปไห้เพื่อนก่อนคับ น้ำมันหมดที่ไหไหนก็ไม่รู้ ผมก็บอกไกลๆไปก่อน555 แต่วันนี้แหละที่ได้มองตาตรงๆครั้งแรก เธอยิ้มไห้นะ ที่หันมองกัน แต่ผมดันยืนมองแค่แว๊ปเดียวแล้วก็ไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรด้วยหันไปจับมอไซได้ก็ออกไปยาวๆ หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยเจอละ เธอไปทำงาน กทม ผมก็อยุ่ของผม นี่ก็ห้าปีแล้ว เลิกฟุ้งซ่าน และไม่เคยคิดถึงเลย แค่นานๆสักครั้งจะถามตัวเองว่า ถ้าวันนึงเธอต้องเป็นม้าย แล้วกลับมาหาผม ผมก็พร้อมที่จะกอดเธอ แล้วจะกอดไห้แน่นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ประมาณเนี้ยอ่ะคับ