สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ระยะนี้ คนในสังคมเราส่วนใหญ่ จะมีความเครียดสะสม และอารมณ์รุนแรงขึ้น ค่ะ
บางคนเป็นน้อย บางคนเป็นมาก
สำหรับคนที่หมั่นสำรวจใจตนเองบ่อยๆ จะทราบถึงความผิดปกติในตนได้
ก็จะแก้ไขตนเองทัน ไม่เกิดผลกระทบออกมามากนัก
เมื่อเกิดเรื่องอะไร ที่ทำให้ทุกข์ใจเกิดขึ้น น้อยคนที่จะยอมรับตรงๆได้ ว่าเกิดจากรรมของตน โดยไม่โทษคนอื่นสิ่งอื่น
นิสัยเพ่งโทษผู้อื่น / ยกตนข่มท่าน / เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้ผู้อื่น จึงค่อยๆสั่งสมในจิตโดยไม่รู้ตัว
แฟนคุณได้รับผลกระทบเรื่องงาน ยังหาทางออกให้ตนเองไม่ได้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเร็วๆนี้
เขารู้สึกเกลียดตัวเอง อึดอัดขัดใจตนเองเป็นทุนเดิม แต่ยากที่จะยอมรับ อารมณ์จึงคุกรุ่นอยู่เสมอ
ในชีวิตจริง ก็ไม่มีเรื่องใดน่าภาคภูมิใจ เขาจึงต้องเสาะหา ความน่าภูมิใจให้ตนเอง
ที่ทำง่ายที่สุด เร็วที่สุด คือ สถาปนาตัวเอง ว่าเป็นผู้ทรงธรรม
การทำสมาธิ ทำให้จิตใจเขา คลายความคับข้องใจได้ชั่วคราว ยามที่จิตนิ่งสงบ
แต่พอเลิกทำ อาการเหล่านี้ก็กลับมาอีก ความทุกข์ถาโถมเข้ามา ดูเหมือนจะมากกว่าเดิม ...
แต่จริงๆ คือเท่าเดิมค่ะ
เปรียบเหมือนคนอยู่ข้างกองขยะ อยู่จนชิน ไม่เหม็น ไม่ขยะแขยง
แต่ถ้าคนนี้ไปอาบน้ำ นุ่งห่มเสื้อผ้าสะอาด แล้วให้ไปนอนที่กองขยะกองเดิม เขาจะทนไม่ไหว
พยายามชี้ให้เขาเห็นตัวเขาเองในจุดนี้ค่ะ พูดด้วยความเมตตา ด้วยหัวใจที่ปรารถนาดีที่สุดต่อตัวเขา
หลักธรรมที่แท้จริง จะช่วยปลดเปลื้องทุกข์
จิตใจจะเบาสบาย ปลอดโปร่ง อันเกิดจากการยอมรับความจริงได้
ให้เขาจับหลักให้ถูก อย่าหลงทาง เพียงเพราะ ได้รับผลดีจากพระธรรมนิดๆหน่อยๆ แล้วไปตีความผิดทาง
หัวใจพระศาสนา คือ ละชั่ว / ทำดี / ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์จากกิเลส
ให้เขายึดเป้าหมายตรงนี้
ศีล และ กรรมบถ เขาต้องมีเป็นเบื้องต้น ถ้าพื้นฐานไม่แน่น เขาจะต่อยอดไม่ได้
ต่อไปนี้ ให้เขาสำรวมวาจาเป็นหลัก อย่าด่าใคร ด้วยอำนาจของโทสะ ทั้งในชีวิตจริง และโลกออนไลน์
เพราะขืนยังทำตามอารมณ์ เท่ากับว่า เขายังอยู่ไกลจากการพัฒนาตนในบวรพระศาสนานี้นัก
ถ้ารู้สึกขัดใจ ให้รู้ตรงๆมาที่ใจตนเอง ว่านี่คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในจิต ลักษณะของโทสะเป็นแบบนี้
อารมณ์ทั้งปวงที่ผ่านใจ จะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อนัตตา ยิ่งฝึกยิ่งต้องคลายความยึดถือ
หากยิ่งฝึก ยิ่งยึดทิฐิตนเหนียวแน่น แปลว่ามาผิดทางแล้ว ให้เขาหมั่นสังเกตตัวเองตรงนี้ให้ดี
อาวุธที่สำคัญ ที่จะช่วยประหารโทสะ คือเมตตา ค่ะ
ถ้าเขายังเมตตาตนเอง และผู้อื่นไม่ได้ โอกาสที่จะพบทางพ้นทุกข์จริงๆก็ยาก
เตือนเขาค่ะ ให้ความรักแก่เขาก่อน เตือนให้เขารักตัวเอง ในด้านที่ดีงาม
แล้วเขาจะมีความดีงาม แผ่ออกมาให้ผู้อื่นได้
อภัยให้เขา หากเขาพยายามแล้ว แต่ยังพลาดบ่อยๆ
ให้กำลังใจเขา ว่า ความอดทน เป็นเครื่องเผากิเลสยิ่ง ความเพียรเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
สำคัญแต่เพียงว่า ให้ดูที่กิเลสตน เข้าใจกิเลสตน ละกิเลสตนเท่านั้น
ปฏิบัติขัดเกลาตนเองอย่างเข้มงวด แต่รอมชอม เมตตา และให้อภัยต่อความผิดพลาดของผู้อื่นเสมอ
ทำพื้นฐานใจให้ได้แบบนี้
นั่งสมาธิครั้งต่อๆไป เขาจะพบความผ่องใสเบิกบาน ที่บริสุทธิ์กว่าที่เคยทำค่ะ
บางคนเป็นน้อย บางคนเป็นมาก
สำหรับคนที่หมั่นสำรวจใจตนเองบ่อยๆ จะทราบถึงความผิดปกติในตนได้
ก็จะแก้ไขตนเองทัน ไม่เกิดผลกระทบออกมามากนัก
เมื่อเกิดเรื่องอะไร ที่ทำให้ทุกข์ใจเกิดขึ้น น้อยคนที่จะยอมรับตรงๆได้ ว่าเกิดจากรรมของตน โดยไม่โทษคนอื่นสิ่งอื่น
นิสัยเพ่งโทษผู้อื่น / ยกตนข่มท่าน / เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้ผู้อื่น จึงค่อยๆสั่งสมในจิตโดยไม่รู้ตัว
แฟนคุณได้รับผลกระทบเรื่องงาน ยังหาทางออกให้ตนเองไม่ได้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเร็วๆนี้
เขารู้สึกเกลียดตัวเอง อึดอัดขัดใจตนเองเป็นทุนเดิม แต่ยากที่จะยอมรับ อารมณ์จึงคุกรุ่นอยู่เสมอ
ในชีวิตจริง ก็ไม่มีเรื่องใดน่าภาคภูมิใจ เขาจึงต้องเสาะหา ความน่าภูมิใจให้ตนเอง
ที่ทำง่ายที่สุด เร็วที่สุด คือ สถาปนาตัวเอง ว่าเป็นผู้ทรงธรรม
การทำสมาธิ ทำให้จิตใจเขา คลายความคับข้องใจได้ชั่วคราว ยามที่จิตนิ่งสงบ
แต่พอเลิกทำ อาการเหล่านี้ก็กลับมาอีก ความทุกข์ถาโถมเข้ามา ดูเหมือนจะมากกว่าเดิม ...
แต่จริงๆ คือเท่าเดิมค่ะ
เปรียบเหมือนคนอยู่ข้างกองขยะ อยู่จนชิน ไม่เหม็น ไม่ขยะแขยง
แต่ถ้าคนนี้ไปอาบน้ำ นุ่งห่มเสื้อผ้าสะอาด แล้วให้ไปนอนที่กองขยะกองเดิม เขาจะทนไม่ไหว
พยายามชี้ให้เขาเห็นตัวเขาเองในจุดนี้ค่ะ พูดด้วยความเมตตา ด้วยหัวใจที่ปรารถนาดีที่สุดต่อตัวเขา
หลักธรรมที่แท้จริง จะช่วยปลดเปลื้องทุกข์
จิตใจจะเบาสบาย ปลอดโปร่ง อันเกิดจากการยอมรับความจริงได้
ให้เขาจับหลักให้ถูก อย่าหลงทาง เพียงเพราะ ได้รับผลดีจากพระธรรมนิดๆหน่อยๆ แล้วไปตีความผิดทาง
หัวใจพระศาสนา คือ ละชั่ว / ทำดี / ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์จากกิเลส
ให้เขายึดเป้าหมายตรงนี้
ศีล และ กรรมบถ เขาต้องมีเป็นเบื้องต้น ถ้าพื้นฐานไม่แน่น เขาจะต่อยอดไม่ได้
ต่อไปนี้ ให้เขาสำรวมวาจาเป็นหลัก อย่าด่าใคร ด้วยอำนาจของโทสะ ทั้งในชีวิตจริง และโลกออนไลน์
เพราะขืนยังทำตามอารมณ์ เท่ากับว่า เขายังอยู่ไกลจากการพัฒนาตนในบวรพระศาสนานี้นัก
ถ้ารู้สึกขัดใจ ให้รู้ตรงๆมาที่ใจตนเอง ว่านี่คือ กิเลสที่เกิดขึ้นในจิต ลักษณะของโทสะเป็นแบบนี้
อารมณ์ทั้งปวงที่ผ่านใจ จะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อนัตตา ยิ่งฝึกยิ่งต้องคลายความยึดถือ
หากยิ่งฝึก ยิ่งยึดทิฐิตนเหนียวแน่น แปลว่ามาผิดทางแล้ว ให้เขาหมั่นสังเกตตัวเองตรงนี้ให้ดี
อาวุธที่สำคัญ ที่จะช่วยประหารโทสะ คือเมตตา ค่ะ
ถ้าเขายังเมตตาตนเอง และผู้อื่นไม่ได้ โอกาสที่จะพบทางพ้นทุกข์จริงๆก็ยาก
เตือนเขาค่ะ ให้ความรักแก่เขาก่อน เตือนให้เขารักตัวเอง ในด้านที่ดีงาม
แล้วเขาจะมีความดีงาม แผ่ออกมาให้ผู้อื่นได้
อภัยให้เขา หากเขาพยายามแล้ว แต่ยังพลาดบ่อยๆ
ให้กำลังใจเขา ว่า ความอดทน เป็นเครื่องเผากิเลสยิ่ง ความเพียรเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
สำคัญแต่เพียงว่า ให้ดูที่กิเลสตน เข้าใจกิเลสตน ละกิเลสตนเท่านั้น
ปฏิบัติขัดเกลาตนเองอย่างเข้มงวด แต่รอมชอม เมตตา และให้อภัยต่อความผิดพลาดของผู้อื่นเสมอ
ทำพื้นฐานใจให้ได้แบบนี้
นั่งสมาธิครั้งต่อๆไป เขาจะพบความผ่องใสเบิกบาน ที่บริสุทธิ์กว่าที่เคยทำค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คบกับแฟนที่อารมณ์สองขั้ว อันตรายไหมคะ
มีวิธีใดที่บำบัดได้มั้งคะ เขาไม่ไปพบหมอ ฟังพระท่านเทศนา ศึกษาธรรมะ ไม่ช่วยให้อาการเขาดีขึ้นเลยเหรอ