ห่างหายไปประมาณ 2 ปีได้แล้ว กลับมาตอนนี้ลูกชายก็โตใกล้จะ 3 ขวบ
ตลอดระยะทางในการเลี้ยงลูก ช่างสมบุกสมบันยิ่งนัก มีทั้งเรื่องราวดีๆ และเรื่องราวที่ชวนปวดหัว
ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ขอโฟกัสตั้งแต่ช่วง 2 ขวบเป็นต้นมาเลยละกัน
เพื่อนๆหลายคู่ที่แต่งงานกันก็มีมาถามว่า มีลูกแล้วเป็นยังไง? มีความสุขมั้ย? เครียดมั้ย?
คงอยากได้เหตุผลเพื่อประกอบการตัดสินใจ เอาเป็นว่าแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน
สำหรับเรา มันก็คงมีทั้งสุข ทุกข์ สนุก ตื่นเต้น เครียด ปนๆ กัน ตั้งแต่ลูกเกิดมามีพีคทุกช่วงวัย
คงต้องมีสัก 1 คนสละเวลาดูแลให้เวลาลูกอย่างเต็มที่ บ้านเราไม่มีพี่เลี้ยง เพราะกลัวหลายเรื่อง
เราปรึกษากับสามีให้สามีดูลูกเต็มเวลา เราหารายได้เพราะรายได้เราได้มากกว่า และสามีก็เลี้ยงลูกได้ดี
มีปู่กับย่าคอยช่วยดูอยู่ด้วย
ตอนแรกคลอดมีอารมณ์ประหม่า สับสน เครียดกับการเลี้ยง กับการให้นม
ต่อมาลูกเริ่มคลานได้ เดินได้ ก็เริ่มระวังอันตราย เริ่มต้องไล่จับ อย่างฌัลล์ช่วงประมาณ 6 เดือน
ก็ซนและแม่จับไม่ทันไปโดนน้ำร้อนลวก เหตุการณ์นี้ก็สร้างความหดหู่ สะเทือนใจให้แม่ไประยะหนึ่ง
พอเริ่มพูดได้ เริ่มซน เริ่มมีอารมณ์ขว้างปาข้าวของ ก็ต้องศึกษาจิตวิทยาเด็กเพื่อให้อยู่กับเค้า
มีวิธีพูด วิธีกำราบให้สยบอารมณ์ต่างๆ ได้
พอมาช่วงนี้ 2 ขวบ 8 เดือน กำลังรุนแรง อารมณ์เกี้ยวกราด ต่อต้าน เวลาดุก็ไม่พอใจ
กรีดร้อง ต้องเข้าใจเค้าและพูดด้วยเหตุผล ถึงตอนนี้จะยังไม่เข้าใจก็หวังว่าสักวันคงจะเข้าใจได้
พยายามพาออกไปปล่อยพลัง ออกกำลัง เบี่บงเบนความสนใจให้อยู่กับสิ่งที่ชอบ ไม่เน้นเล่นของเล่นในบ้าน
ท้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับสไตล์ของเด็กแต่ละคนด้วย เด็กบางคนก็ชอบเล่นของเล่น แต่สำหรับฌัลล์สายลุย
ชอบออกกำลัง ขี่จักรยาน วิ่งเล่น พลังเยอะจัด เวลาได้ออกนอกบ้านไม่มีอารมณ์เหวี่ยงเลย
อารมณ์ดี แถมกลับบ้านมานอนหลับสนิท ไม่ต้องกล่อมเลยจ้า
รูปนี้สมัย 1 ขวบ 11 เดือนกับจักรยานขาไถคันแรก
เรื่องปีนป่ายก็สนุกไม่แพ้จักรยานนะครับ ปีนเก่ง โหนเก่ง
เล่นบาส ก็ชอบเป็นพิเศษตามคุณพ่อเค้า
สุดท้ายนี้จะบอกว่าการพาลูกออกไปทำกิจกรรมเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึงที่จะลดความเกี้ยวกราดและอารมณ์ช่วงวัยทองไปได้
แต่ช่วงนี้หลายบ้านคงต้องอยู่แต่บ้าน ด้วยสถานการณ์โรคที่ไม่ปลอดภัย ยังไงรออะไรๆดีขึ้น ค่อยพาลูกออกไปลุยกันนะคะ
วิธีจัดการกับเด็กวัยทอง 2 ขวบ