พรและทิพย์ชวนบีโจและซอนมินไปซื้อกุญแจคล้องใจ เพราะพวกเธอกำลังหาหนุ่มเกาหลีมาคล้องหัวใจเขากับพวกเธอ
บีโจถามฉันว่า....
"คุณไม่คล้องกุญแจหัวใจบ้างเหรอครับ" ฉันบอกไปว่า
"ไม่คล้องหละค่ะ เพราะฉันมีหัวใจรักอยู่ดวงเดียว ต้องเลือกคล้องว่าจะคล้องกับใครค่ะ"
ฮ่าๆๆ เอาแล้วไหมหละ บีโจยิ้มหวานเลย....กับคำตอบของฉัน ฉันก็พูดออกไปได้ อารมณ์มันพาไป บีโจคิดอะไรมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
หลังจากเที่ยวกันหมดวัน อาหารมื้อเย็นที่รอคอยหมูย่างเกาหลี อยากกินมานานแล้ว ไกด์บอกร้านนี้อร่อยมาก โต๊ะหนึ่งนั่งได้ 6 คน หมูย่างทางร้านเขาจะย่างเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วจึงตัดเป็นชิ้นเล็กๆกินเอง ฉันทำหน้าที่ตัดหมูชิ้นใหญ่ให้เป็นชิ้นเล็ก น้ำมันกระเด็น ร้อนก็ร้อน
บีโจเดินผ่านโต๊ะอื่นๆมา เขาตรงมาที่โต๊ะที่ฉันนั่งกับเพื่อนๆ เข้าเห็นฉันตัดชิ้นหมู ไม่ถนัดและร้อน
บีโจเข้ามาบริการอย่างสุภาพและนอบน้อม ช่วยตัดหมูให้เป็นชิ้นเล็กๆให้ ชัยกับฤทธิ์มองท่าทางของบีโจ
และก็กระซิบคุยกับพรและทิพย์ ซึ่งพอคุยเสร็จ ชัยก็จ้องมองฉันด้วยแววตาที่มีแต่คำถาม แต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไร เพราะหมูย่างเกาหลีมันอร่อยจนไม่มีเวลาสนใจที่จะตอบใคร พักสดๆกับหมูย่างอร่อย กับน้ำจิ้มที่กำลังพอดี อร่อยจนหยุดไม่ได้
บีโจเห็นฉันชอบกินหมูย่างเกาหลี เขาก็รีบเสริฟเพิ่มเพื่อให้ลูกทัวร์อิ่มกันทั่วหน้า เป็นการเอาใจแบบตั้งใจหรือทำตามหน้าที่นะ ฉันเริ่มสงสัย
“ พรุ่งนี้ทัวร์เราจะไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์กันนะค่ะ รับรองสนุกและเล่นได้เหมือนเด็กอีกครั้งค่ะ” ทุกคนในรถโค้ชดีใจอยากจะเล่นเครื่องเล่นกันมาก เพราะมาเกาหลีต้องมาสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ จึงจะถือว่าคุ้มค่าสุด
ตอนกลางคืนพร ทิพย์และฉันนอนห้องเดียวกัน มีสามเตียง พรกับทิพย์บอกว่าต้องฝึกภาษาเกาหลีเอาไว้พูดกับบีโจ ซอนมินและหนุ่มๆเกาหลี
ในวันพรุ่งนี้
เพราะที่สวนสนุกส่วนใหญ่หนุ่มสาวชาวเกาหลี
..... ชอบที่จะไปสารภาพรักกันที่นั่น เพราะมีของและเครื่องเล่นให้เล่นหลายอย่าง มีสวนดอกไม้ ร้านอาหารที่อร่อยๆ เป็นบรรยากาศที่โรแมนติก
ณ ตอนนั้นใจหนุ่มสาวจะพองโต พร้อมที่จะสารภาพรักกันได้
พวกเธอเอาจริงแฮ่ะ ฉันก็จำภาษาเกาหลีเป็นบางคำที่น่าจะเอาไว้ใช้บ้างเผื่อจำเป็นต้องพูดกับคนเกาหลี
เช้ามาทั้งพรและทิพย์แต่งตัวเทรนด์เกาหลี น่ารักมาก วันนี้แหละพวกเธอต้องได้เจอหนุ่มเกาหลีในสวนสนุก มาสารภาพรักมั้งหละ คอยลุ้นกันต่อไป
“ถึงแล้วค่ะสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ที่ถูกขนานนามว่าดิสนีย์แลนด์เกาหลี เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา จะได้นั่งกระเช้าลิฟท์ ท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ชมไลเกอร์แฝดคู่แรกของโลก
และดินแดนแห่งเทพนิยาย ไปสนุกให้เต็มที่ได้แล้วค่ะทุกคน” ไกด์มาศอินทร์ กระตุ้นให้พวกคณะทัวร์ตื่นเต้นกันสุดๆ อยากเล่นของเล่นจะแย่แล้ว
สวยงามมากจริงๆสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ประทับใจมาก พวกกลุ่มเราไปเที่ยวด้วยกัน
หาเล่นเครื่องเล่นกันอย่างสนุกสนาน พรกับทิพย์มองหาหนุ่มเกาหลีในสวนสนุก เผื่อจะได้มาเป็นเพื่อนบ้าง
เดินและเล่นกันจนแย่ หาของกินร้านอร่อยในสวนสนุก ถ่ายรูปกันจัดเต็ม เดินมากเข่าเริ่มเจ็บอีกหละ
ได้เวลาช่วงเย็นจะมีขบวนพาเหรดเดินโชว์ ว้าว...ชอบจริงๆ ช่วงนี้คนเริ่มเยอะเพราะมารอดูขบวนพาเหรดที่อลังการมาก ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ที่สมัยตอนเป็นเด็กอ่านการ์ตูน จินตนาการไว้เยอะมาก เพลิดเพลินและก็เหนื่อยพอๆกัน
ฉันเหนื่อยและเจ็บเข่า เลยขอนั่งพักอยู่ข้างนอก ให้ห่างจากฝูงชน พรและเพื่อนๆเข้าไปดูกันใกล้ๆ ขณะที่ขบวนพาเหรดเริ่มเดินออกมา เด็กๆตื่นเต้นอยากไปสัมผัสมือนางในเทพนิยาย พวกเขารีบวิ่งไป ฉันไม่ทันระวังตัวเพราะกำลังหาที่นั่งที่หลบแดด
..... เด็กกลุ่มนั้นชนกับฉันเข้าอย่างจัง
ฉันล้มลงไป เข่าที่เจ็บอยู่แล้ว เจ็บซ้ำเข้าไปอีก คราวนี้ฉันนั่งลง ลุกขึ้นไม่ได้เลย
....อายก็อายที่ล้มไปแบบนั้น
..... อยากจะร้องไห้ก็ไม่กล้าร้อง เจ็บก็เจ็บอายก็อาย แง แง ทำไมฉันต้องมาซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ มองหาใครไม่มีเลยที่รู้จัก
และแล้ว......
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม ระวังหน่อยนะครับ” เสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษ ฉันเงยหน้าขึ้นมาดูเสียงคนพูด
“อุ๊ยตาย..บีโจ” พอฉันเห็นบีโจ คราวนี้กลั่นน้ำตาไม่อยู่เลย
.....ร้องไห้ออกมาแบบไม่อาย เพราะเวลาที่ฉันเจ็บ
.....เขาจะมาปรากฏกายเสมอ คือตอนนี้เพื่อนหายกันหมด จะให้ใครช่วยก็ไม่ได้ มีแต่บีโจคนเดียว
“เดินได้ไหมตอนนี้ “ เขาพยุงฉันลุกขึ้นมา เข่าที่เจ็บอยู่แล้ว มันเจ็บจนเดินไม่ไหวในตอนนี้ ความรู้สึกเริ่มดีขึ้นที่ได้เห็นบีโจ คือที่พึ่งสุดท้าย
บีโจเห็นฉันร้องไห้และเจ็บ เขาเข้าใจความรู้สึกของฉัน เขาบอกให้ฉันนั่งพักดูขบวนพาเหรดผ่านไปก่อน ฉันก็จำใจดูขบวนพาเหรดจบและผ่านไป
“คุณเจ็บมากใช่ไหม ผมจะให้คุณขี่หลังผมไปที่จอดรถโค้ชครับ” เขาพูดเสร็จ
..... ก็นั่งลงพร้อมจะให้ฉันขี่หลังเขากลับไปที่จอดรถโค้ช เห็นแบบนี้แล้ว นึกชอบเขามาทันทีเลย ดูแลดีเหรอเกิน
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันพอไหวค่ะ แค่ช่วยพยุงไปก็พอเดินได้ค่ะ”
ฉันรีบพูดบอกเขา เพราะฉันไม่กล้าขี่หลังเขา อายมากถ้าเป็นแบบนั้น เกรงใจกลัวเขาหนัก และไม่รู้ที่จอดรถโค้ชอยู่ไกลหรือเปล่า
“ผมเห็นคุณเจ็บมาก ผมคิดว่าคุณไม่ต้องเกรงใจครับ เป็นหน้าที่ผู้ช่วยไกด์ที่ต้องดูแลลูกทัวร์ครับ ผมยินดีมาก ที่จอดรถโค้ชก็ไม่ไกลมาก ผมพาคุณไปได้ครับ "
"ถ้าคุณเดินอีกตอนนี้คุณจะเดินเที่ยววันพรุ่งนี้ไม่ได้ครับ เชิญครับ ด้วยความยินดีครับ” เขาพูดสุภาพมาก
..... ความมีน้ำใจของเขา ทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมาอีก ในยามที่ทุกข์ยากและเจ็บปวด มีคนมาช่วยเหลือ ซึ้งใจอย่างมาก
หลังจากขบวนพาเหรดผ่านไป พวกเพื่อนๆก็เดินกลับออกมา
....สิ่งที่พวกเพื่อนๆและสาวๆในทัวร์เห็นตอนนี้ก็คือ ฉันกำลังขี่หลังบีโจ ผู้ช่วยไกด์หนุ่มรูปหล่อที่สาวๆแอบปิ๊งเขาอยู่
.....ทุกคนมองตามอย่างตกใจ ฮ่าๆๆ จะให้ฉันหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดีที่ทุกคนเห็นกันหมด อายก็อาย สุดจะทน แต่เพื่อความปลอดภัยต้องไปกับเขา
แผ่นหลังของบีโจกว้างใหญ่ และอบอุ่น เพราะตัวเขาสูงมาก น่าจะ 185 เซนติเมตร ฉันรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของเขา ฉันได้กลิ่นไอจากตัวเขาเพราะจมูกฉันอยู่ใกล้ต้นคอเขามาก
....เพื่อไม่ให้เขินมาก ฉันชวนเขาคุย
"ชื่อบีโจ แปลว่าอะไรค่ะ" เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตอนนี้
"บีโจ แปลว่า นกบินครับ" เขาตอบและชอบในความหมายของชื่อเขา
.... เหมือนในซีรีย์เกาหลีเลย นางเอกมักจะได้ขี่หลังพระเอก ว้าว..เจ็บตัวแล้วได้รับความช่วยเหลือแบบนี้ ก็ยอมละนะ ฮ่าๆๆ
....“คัมซาฮัมนีดา” ฉันกล่าวขอบคุณเขาเป็นภาษาเกาหลี ที่เตรียมมาเมื่อคืน ได้ใช้จริงๆ
บีโจยิ้มหวาน เหงื่อซึมเต็มหน้าเพราะระยะทางที่ขี่หลังมาที่จอดรถโค้ชถึงจะเป็นทางลัดก็น่าจะประมาณ 100 เมตรได้และต้องรับน้ำหนักฉันด้วย
....ฉันส่งผ้าเช็ดหน้าของฉันให้เขาเช็ดเหงื่อ เขารับมาเช็ดเหงื่อ ดูท่าทางจะเหนื่อยเอาการ
....แต่เขากลับพูดเบาๆกับฉันว่า “โซฮาแฮโย”(ฉันชอบคุณ)
....เจอคำพูดนั้นเข้าไปใจฉันเต้นแรงเลยซิ
....แค่ขี่หลังเขา หัวใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แล้ว แต่ฉันก็ยิ้มกลบเกลื่อนทำเป็นไม่ได้ยิน
ก่อนกลับไทย กลุ่มไกด์มาส่งที่สนามบินอินชอน บีโจก็มาส่ง เขาตรงมาที่ฉันและเอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน
.....ฉันรับไว้และกระซิบที่ข้างหูเขาว่า
####“โซฮาแฮโย”(ฉันชอบคุณ)#####
ทุกคนโบกมือบายบ่ายให้กลุ่มไกด์ ก่อนจะเข้าไปเตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง ฉันเห็นบีโจยิ้มมองตามจนลับตา
ฉันรู้สึกใจหายที่จะต้องจากเกาหลี เพื่อกลับไทย
“วาด..เป็นไงมั้งยังเจ็บเข่าอยู่ไหม” พรถามด้วยความเป็นห่วง
"วาดหล่อนเจ็บที่หัวใจแทนหัวเข่าละตอนนี้” ชัยพูดออกมาเบาๆ ชัยคงแอบสังเกตพฤติกรรมของฉัน
กลับถึงบ้าน ตัวกับหัวใจเหมือนแยกกันอยู่ หัวใจฉันยังอยู่เกาหลีไม่ยอมกลับไทย ความรู้สึกแบบนี้คิดถึงตอนขึ่หลังบีโจทีไร หัวใจเจ็บจี๊ดๆๆ
ตอนเย็นออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะข้างบ้าน มองเห็น....นกบิน ทำให้คิดถึง....บีโจ
....บีโจ กำลังทำอะไรอยู่น้าตอนนี้....
ฉันนั่งจัดของเพื่อเก็บซัก แยกให้เป็นระเบียบ ฉันนั่งมองดูผ้าเช็ดหน้าที่บีโจเอามาคืน
“เอ๊ะ..นี่ไม่ใช่ผ้าเช็ดหน้าของฉันนี่” ฉันคลี่ผ้าเช็ดหน้าดู มีกุญแจคล้องใจอันเล็กๆซ่อนอยู่ไว้ในผ้าเช็ดหน้า มันเป็นพวงกุญแจคู่รัก
และมีกระดาษแผ่นเล็กๆเขียนอีเมลล์และไลน์เอาไว้
.....................................////////...................................
..... “สงสัยจะได้ไปเที่ยวเกาหลีอีกสักครั้งละมั้งเนี่ย ฮ่าๆๆ”....
ใบไม้เปลี่ยนสีที่กรุงโซล ตอน 2
บีโจถามฉันว่า....
"คุณไม่คล้องกุญแจหัวใจบ้างเหรอครับ" ฉันบอกไปว่า
"ไม่คล้องหละค่ะ เพราะฉันมีหัวใจรักอยู่ดวงเดียว ต้องเลือกคล้องว่าจะคล้องกับใครค่ะ"
ฮ่าๆๆ เอาแล้วไหมหละ บีโจยิ้มหวานเลย....กับคำตอบของฉัน ฉันก็พูดออกไปได้ อารมณ์มันพาไป บีโจคิดอะไรมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
หลังจากเที่ยวกันหมดวัน อาหารมื้อเย็นที่รอคอยหมูย่างเกาหลี อยากกินมานานแล้ว ไกด์บอกร้านนี้อร่อยมาก โต๊ะหนึ่งนั่งได้ 6 คน หมูย่างทางร้านเขาจะย่างเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วจึงตัดเป็นชิ้นเล็กๆกินเอง ฉันทำหน้าที่ตัดหมูชิ้นใหญ่ให้เป็นชิ้นเล็ก น้ำมันกระเด็น ร้อนก็ร้อน
บีโจเดินผ่านโต๊ะอื่นๆมา เขาตรงมาที่โต๊ะที่ฉันนั่งกับเพื่อนๆ เข้าเห็นฉันตัดชิ้นหมู ไม่ถนัดและร้อน
บีโจเข้ามาบริการอย่างสุภาพและนอบน้อม ช่วยตัดหมูให้เป็นชิ้นเล็กๆให้ ชัยกับฤทธิ์มองท่าทางของบีโจ
และก็กระซิบคุยกับพรและทิพย์ ซึ่งพอคุยเสร็จ ชัยก็จ้องมองฉันด้วยแววตาที่มีแต่คำถาม แต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไร เพราะหมูย่างเกาหลีมันอร่อยจนไม่มีเวลาสนใจที่จะตอบใคร พักสดๆกับหมูย่างอร่อย กับน้ำจิ้มที่กำลังพอดี อร่อยจนหยุดไม่ได้
บีโจเห็นฉันชอบกินหมูย่างเกาหลี เขาก็รีบเสริฟเพิ่มเพื่อให้ลูกทัวร์อิ่มกันทั่วหน้า เป็นการเอาใจแบบตั้งใจหรือทำตามหน้าที่นะ ฉันเริ่มสงสัย
“ พรุ่งนี้ทัวร์เราจะไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์กันนะค่ะ รับรองสนุกและเล่นได้เหมือนเด็กอีกครั้งค่ะ” ทุกคนในรถโค้ชดีใจอยากจะเล่นเครื่องเล่นกันมาก เพราะมาเกาหลีต้องมาสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ จึงจะถือว่าคุ้มค่าสุด
ตอนกลางคืนพร ทิพย์และฉันนอนห้องเดียวกัน มีสามเตียง พรกับทิพย์บอกว่าต้องฝึกภาษาเกาหลีเอาไว้พูดกับบีโจ ซอนมินและหนุ่มๆเกาหลี
ในวันพรุ่งนี้
เพราะที่สวนสนุกส่วนใหญ่หนุ่มสาวชาวเกาหลี
..... ชอบที่จะไปสารภาพรักกันที่นั่น เพราะมีของและเครื่องเล่นให้เล่นหลายอย่าง มีสวนดอกไม้ ร้านอาหารที่อร่อยๆ เป็นบรรยากาศที่โรแมนติก
ณ ตอนนั้นใจหนุ่มสาวจะพองโต พร้อมที่จะสารภาพรักกันได้
พวกเธอเอาจริงแฮ่ะ ฉันก็จำภาษาเกาหลีเป็นบางคำที่น่าจะเอาไว้ใช้บ้างเผื่อจำเป็นต้องพูดกับคนเกาหลี
เช้ามาทั้งพรและทิพย์แต่งตัวเทรนด์เกาหลี น่ารักมาก วันนี้แหละพวกเธอต้องได้เจอหนุ่มเกาหลีในสวนสนุก มาสารภาพรักมั้งหละ คอยลุ้นกันต่อไป
“ถึงแล้วค่ะสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ที่ถูกขนานนามว่าดิสนีย์แลนด์เกาหลี เป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา จะได้นั่งกระเช้าลิฟท์ ท่องไปกับโลกของสัตว์ป่าซาฟารี ชมไลเกอร์แฝดคู่แรกของโลก
และดินแดนแห่งเทพนิยาย ไปสนุกให้เต็มที่ได้แล้วค่ะทุกคน” ไกด์มาศอินทร์ กระตุ้นให้พวกคณะทัวร์ตื่นเต้นกันสุดๆ อยากเล่นของเล่นจะแย่แล้ว
สวยงามมากจริงๆสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ประทับใจมาก พวกกลุ่มเราไปเที่ยวด้วยกัน
หาเล่นเครื่องเล่นกันอย่างสนุกสนาน พรกับทิพย์มองหาหนุ่มเกาหลีในสวนสนุก เผื่อจะได้มาเป็นเพื่อนบ้าง
เดินและเล่นกันจนแย่ หาของกินร้านอร่อยในสวนสนุก ถ่ายรูปกันจัดเต็ม เดินมากเข่าเริ่มเจ็บอีกหละ
ได้เวลาช่วงเย็นจะมีขบวนพาเหรดเดินโชว์ ว้าว...ชอบจริงๆ ช่วงนี้คนเริ่มเยอะเพราะมารอดูขบวนพาเหรดที่อลังการมาก ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ที่สมัยตอนเป็นเด็กอ่านการ์ตูน จินตนาการไว้เยอะมาก เพลิดเพลินและก็เหนื่อยพอๆกัน
ฉันเหนื่อยและเจ็บเข่า เลยขอนั่งพักอยู่ข้างนอก ให้ห่างจากฝูงชน พรและเพื่อนๆเข้าไปดูกันใกล้ๆ ขณะที่ขบวนพาเหรดเริ่มเดินออกมา เด็กๆตื่นเต้นอยากไปสัมผัสมือนางในเทพนิยาย พวกเขารีบวิ่งไป ฉันไม่ทันระวังตัวเพราะกำลังหาที่นั่งที่หลบแดด
..... เด็กกลุ่มนั้นชนกับฉันเข้าอย่างจัง
ฉันล้มลงไป เข่าที่เจ็บอยู่แล้ว เจ็บซ้ำเข้าไปอีก คราวนี้ฉันนั่งลง ลุกขึ้นไม่ได้เลย
....อายก็อายที่ล้มไปแบบนั้น
..... อยากจะร้องไห้ก็ไม่กล้าร้อง เจ็บก็เจ็บอายก็อาย แง แง ทำไมฉันต้องมาซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ มองหาใครไม่มีเลยที่รู้จัก
และแล้ว......
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม ระวังหน่อยนะครับ” เสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษ ฉันเงยหน้าขึ้นมาดูเสียงคนพูด
“อุ๊ยตาย..บีโจ” พอฉันเห็นบีโจ คราวนี้กลั่นน้ำตาไม่อยู่เลย
.....ร้องไห้ออกมาแบบไม่อาย เพราะเวลาที่ฉันเจ็บ
.....เขาจะมาปรากฏกายเสมอ คือตอนนี้เพื่อนหายกันหมด จะให้ใครช่วยก็ไม่ได้ มีแต่บีโจคนเดียว
“เดินได้ไหมตอนนี้ “ เขาพยุงฉันลุกขึ้นมา เข่าที่เจ็บอยู่แล้ว มันเจ็บจนเดินไม่ไหวในตอนนี้ ความรู้สึกเริ่มดีขึ้นที่ได้เห็นบีโจ คือที่พึ่งสุดท้าย
บีโจเห็นฉันร้องไห้และเจ็บ เขาเข้าใจความรู้สึกของฉัน เขาบอกให้ฉันนั่งพักดูขบวนพาเหรดผ่านไปก่อน ฉันก็จำใจดูขบวนพาเหรดจบและผ่านไป
“คุณเจ็บมากใช่ไหม ผมจะให้คุณขี่หลังผมไปที่จอดรถโค้ชครับ” เขาพูดเสร็จ
..... ก็นั่งลงพร้อมจะให้ฉันขี่หลังเขากลับไปที่จอดรถโค้ช เห็นแบบนี้แล้ว นึกชอบเขามาทันทีเลย ดูแลดีเหรอเกิน
“ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันพอไหวค่ะ แค่ช่วยพยุงไปก็พอเดินได้ค่ะ”
ฉันรีบพูดบอกเขา เพราะฉันไม่กล้าขี่หลังเขา อายมากถ้าเป็นแบบนั้น เกรงใจกลัวเขาหนัก และไม่รู้ที่จอดรถโค้ชอยู่ไกลหรือเปล่า
“ผมเห็นคุณเจ็บมาก ผมคิดว่าคุณไม่ต้องเกรงใจครับ เป็นหน้าที่ผู้ช่วยไกด์ที่ต้องดูแลลูกทัวร์ครับ ผมยินดีมาก ที่จอดรถโค้ชก็ไม่ไกลมาก ผมพาคุณไปได้ครับ "
"ถ้าคุณเดินอีกตอนนี้คุณจะเดินเที่ยววันพรุ่งนี้ไม่ได้ครับ เชิญครับ ด้วยความยินดีครับ” เขาพูดสุภาพมาก
..... ความมีน้ำใจของเขา ทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมาอีก ในยามที่ทุกข์ยากและเจ็บปวด มีคนมาช่วยเหลือ ซึ้งใจอย่างมาก
หลังจากขบวนพาเหรดผ่านไป พวกเพื่อนๆก็เดินกลับออกมา
....สิ่งที่พวกเพื่อนๆและสาวๆในทัวร์เห็นตอนนี้ก็คือ ฉันกำลังขี่หลังบีโจ ผู้ช่วยไกด์หนุ่มรูปหล่อที่สาวๆแอบปิ๊งเขาอยู่
.....ทุกคนมองตามอย่างตกใจ ฮ่าๆๆ จะให้ฉันหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดีที่ทุกคนเห็นกันหมด อายก็อาย สุดจะทน แต่เพื่อความปลอดภัยต้องไปกับเขา
แผ่นหลังของบีโจกว้างใหญ่ และอบอุ่น เพราะตัวเขาสูงมาก น่าจะ 185 เซนติเมตร ฉันรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของเขา ฉันได้กลิ่นไอจากตัวเขาเพราะจมูกฉันอยู่ใกล้ต้นคอเขามาก
....เพื่อไม่ให้เขินมาก ฉันชวนเขาคุย
"ชื่อบีโจ แปลว่าอะไรค่ะ" เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตอนนี้
"บีโจ แปลว่า นกบินครับ" เขาตอบและชอบในความหมายของชื่อเขา
.... เหมือนในซีรีย์เกาหลีเลย นางเอกมักจะได้ขี่หลังพระเอก ว้าว..เจ็บตัวแล้วได้รับความช่วยเหลือแบบนี้ ก็ยอมละนะ ฮ่าๆๆ
....“คัมซาฮัมนีดา” ฉันกล่าวขอบคุณเขาเป็นภาษาเกาหลี ที่เตรียมมาเมื่อคืน ได้ใช้จริงๆ
บีโจยิ้มหวาน เหงื่อซึมเต็มหน้าเพราะระยะทางที่ขี่หลังมาที่จอดรถโค้ชถึงจะเป็นทางลัดก็น่าจะประมาณ 100 เมตรได้และต้องรับน้ำหนักฉันด้วย
....ฉันส่งผ้าเช็ดหน้าของฉันให้เขาเช็ดเหงื่อ เขารับมาเช็ดเหงื่อ ดูท่าทางจะเหนื่อยเอาการ
....แต่เขากลับพูดเบาๆกับฉันว่า “โซฮาแฮโย”(ฉันชอบคุณ)
....เจอคำพูดนั้นเข้าไปใจฉันเต้นแรงเลยซิ
....แค่ขี่หลังเขา หัวใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แล้ว แต่ฉันก็ยิ้มกลบเกลื่อนทำเป็นไม่ได้ยิน
ก่อนกลับไทย กลุ่มไกด์มาส่งที่สนามบินอินชอน บีโจก็มาส่ง เขาตรงมาที่ฉันและเอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน
.....ฉันรับไว้และกระซิบที่ข้างหูเขาว่า
####“โซฮาแฮโย”(ฉันชอบคุณ)#####
ทุกคนโบกมือบายบ่ายให้กลุ่มไกด์ ก่อนจะเข้าไปเตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง ฉันเห็นบีโจยิ้มมองตามจนลับตา
ฉันรู้สึกใจหายที่จะต้องจากเกาหลี เพื่อกลับไทย
“วาด..เป็นไงมั้งยังเจ็บเข่าอยู่ไหม” พรถามด้วยความเป็นห่วง
"วาดหล่อนเจ็บที่หัวใจแทนหัวเข่าละตอนนี้” ชัยพูดออกมาเบาๆ ชัยคงแอบสังเกตพฤติกรรมของฉัน
กลับถึงบ้าน ตัวกับหัวใจเหมือนแยกกันอยู่ หัวใจฉันยังอยู่เกาหลีไม่ยอมกลับไทย ความรู้สึกแบบนี้คิดถึงตอนขึ่หลังบีโจทีไร หัวใจเจ็บจี๊ดๆๆ
ตอนเย็นออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะข้างบ้าน มองเห็น....นกบิน ทำให้คิดถึง....บีโจ
....บีโจ กำลังทำอะไรอยู่น้าตอนนี้....
ฉันนั่งจัดของเพื่อเก็บซัก แยกให้เป็นระเบียบ ฉันนั่งมองดูผ้าเช็ดหน้าที่บีโจเอามาคืน
“เอ๊ะ..นี่ไม่ใช่ผ้าเช็ดหน้าของฉันนี่” ฉันคลี่ผ้าเช็ดหน้าดู มีกุญแจคล้องใจอันเล็กๆซ่อนอยู่ไว้ในผ้าเช็ดหน้า มันเป็นพวงกุญแจคู่รัก
และมีกระดาษแผ่นเล็กๆเขียนอีเมลล์และไลน์เอาไว้
.....................................////////...................................
..... “สงสัยจะได้ไปเที่ยวเกาหลีอีกสักครั้งละมั้งเนี่ย ฮ่าๆๆ”....