.
เมื่อกลับถึงบ้าน เขาทำหน้าที่เป็นคนลงไปเปิดประตูรั้ว รถพ่อก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถ เมื่อรถจอดสนิทเขาเดินไปหยิบของฝากที่ย่าเตรียมมาให้ เดินถือเอาไปให้แม่ทำกับข้าวเย็นนี้ ระหว่างนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ไลน์ส่งให้อาร์ บอกว่าตนเองถึงบ้านแล้ว พอส่งเรียบร้อยก็กดเบอร์โทรหาย่าต่อเพื่อจะบอกว่าตนเองถึงบ้านแล้วเช่นกัน
คนที่รับสายเป็นน้องเบส บูมเดินคุยโทรศัพท์ไปด้วย ส่วนมืออีกข้างก็ถือของเข้าไปไว้ในครัวให้แม่ กว่าบูมจะถึงบ้านก็เกือบทุ่ม แม่ทำกับข้าวไว้รอเสร็จเรียบร้อย เพราะเห็นฝาชีครอบไว้ที่โต๊ะทานข้าว รอแค่ตนเองกับพ่อกลับมาถึงเท่านั้น
บูมเดินตรงไปที่ตู้เย็นเอาพริกผักต่าง ๆ ที่ย่าฝากมาให้แม่เข้าตู้เอาไว้ ปากก็คุยโทรศัพท์กับน้องเบสไป "แค่นี้นะน้องเบส อย่าลืมบอกยายล่ะว่าพี่บูมถึงบ้านแล้ว" กำชับอีกรอบ
"อือ ๆ..." เด็กหญิงตอบ
เขาวางสายจากน้องสาว ทันใดนั้นแม่ก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมพ่อตามมาติด ๆ เพื่อทานข้าวเย็น เขานั่งลงที่เก้าอี้ประจำที่ หัวโต๊ะเป็นตำแหน่งของพ่อส่วนฝั่งตรงข้ามคือแม่ กับข้าวมื้อนี้ฝีมือแม่ก็อร่อยไม่แพ้ฝีมือย่าเลย
"ได้อะไรมาเยอะแยะ" ถามลูกชาย ทราบว่าเป็นของฝากจากแม่สามี ทว่าก็อยากรู้ว่าได้อะไรมาบ้าง ไปบ้านทุกสัปดาห์ได้กลับมาตลอด เคยห้ามว่าไม่ต้องให้มาก็ไม่ยอมฟัง จึงปล่อยเลยตามเลย ดีเหมือนกันจะได้ประหยัดไปอีกหลายวัน
"เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปลาช่อน ปู่ไปเอามาจากนา ฝนตกเมื่อคืนนี้" เขาตอบ พลางเคี้ยวข้าวไปด้วย
"ขังไว้ยังเดี๋ยวดิ้นหนีหมด"
"ขังแล้วครับ" พูดจบบูมทานข้าวต่อเงียบ ๆ ฟังพ่อกับแม่สนทนากัน หลังทานข้าวเสร็จบูมรับหน้าที่เก็บสำรับแทนแม่ แถมล้างจานให้ด้วย ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำและเข้าห้องของตนเองไป
คิดถึงอาร์ป่านนี้ทำอะไรอยู่ ทานข้าวเย็นหรือยัง นี่ก็พึ่งจะทุ่มเอง กว่าจะถึงเวลาคุยกันอีกนานมันคิดถึงมันอยากคุยมาก ปกติก็คุยกันทุกวันไม่เคยเบื่อ จันทร์ถึงศุกร์ก็เจอกัน ก็คนมันคิดถึง ในใจอยากคุยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าเป็นไปได้
……………………………………
ฉับ ฉับ ฉับ ! ที่บ้านของอาร์กำลังช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้น อาร์ไม่บ่นสักคำเพราะถูกฝึกให้ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตกเกิดมาก็เห็นพ่อกับแม่ทำอาชีพชาวไร่ชาวนาแล้ว
เสียงมีดกระทบกับท่อนมันสำประหลัง ที่ถูกตัดเป็นท่อน ๆ พ่อกับแม่เป็นคนตัดส่วนเธอเป็นคนเก็บท่อนมันที่ถูกตัดแล้วไปแช่น้ำในโอ่ง ทำการผสมฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตด้วย
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน บ้านของอาร์มีอาชีพทำไร่ทำนาและทำสวนตามฤดูการ ฐานะปานกลาง อาร์จึงเป็นความหวังของพ่อแม่ ถึงไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่ามีแฟนแล้ว
เธอก้มหน้าก้มตาทำงานช่วยพ่อแม่แบบไม่เหน็ดเหนื่อย เงินทุกบาทที่อาร์ใช้จ่ายก็มาจากของพวกนี้ ระหว่างนั้นมือก็หยิบท่อนมันที่พ่อแม่ตัดไว้ มาแช่น้ำฮอร์โมน แล้วหยิบใส่ถุงอยู่แบบนี้จนตอนนี้ได้เกือบสิบกว่าถุงแล้ว
ทำงานไปตาก็มองดูทีวีไปด้วย ตอนนี้ละครหลังข่าวกำลังเล่น พอละครหลังข่าวจบพ่อแม่ถึงจะพาเลิกทำ เพราะถึงเวลาต้องเข้านอน และ มันคือเวลาที่เธอกับบูมโทรศัพท์คุยกัน ทุก ๆ วันก็ไม่ได้ทำดึกขนาดนี้ ละครเล่นก็เลิกทำแล้ว แต่ วันนี้ทำงานหนักกว่าทุกวันเพราะพ่อกับแม่อยากให้ทำในส่วนนี้เสร็จเร็ว ๆ นี่ก็จวนจะเสร็จหมดแล้วด้วย พรุ่งนี้จะได้นำไปปลูกเลย
"อาร์ละครจบไปอาบน้ำนอนไป พรุ่งนี้วันจันทร์เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน" แม่บอก ดูท่าละครจบก็ยังจะไม่เสร็จดีเลย เหลือนิดเดี๋ยว จึงบอกให้ลูกสาวเข้าไปนอนก่อน ที่เหลือตนเองกับพ่อจะจัดการเอง "พ่อกับแม่ขอต่ออีกสักหน่อย นี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว จะได้เอาไปปลูกสักที เดี๋ยวฝนเร่งมาจะปลูกไม่ทัน"
"อาร์ขอช่วยพ่อสักหน่อยก่อน จะถึงสิบถุงแล้ว ขอเอาให้ได้สักสิบถุงก่อนแล้วกัน อาร์ค่อยไปอาบน้ำนอน" เธอตอบ ขอช่วยพ่อกับแม่ต่อสักหน่อยแล้วกัน บูมเอาไว้ทีหลัง
สามคนพ่อแม่ลูกยิ้มให้กัน ภูมิใจที่อาร์เป็นคนขยัน พ่อแม่พาทำอะไรทำหมด ไม่บ่นว่าเหนื่อยสักคำ เด็กรุ่นเดียวกันมีเหรอจะทำแบบนี้ พอเวลาปลูกอาร์ก็ไปช่วยพ่อกับแม่ปลูก ตากแดดตากลมไม่เคยบ่น
เมื่อถึงเวลาละครหลังข่าวจบ อาร์ขอตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเข้านอน ทั้งเหงื่อ ทั้งสารเคมีจากน้ำยาฮอร์โมนเปื้อนเต็มตัวไปหมด
อาร์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเข้ามาแต่งตัวในห้องนอนของตนเอง ทาครีมบำรุผิวหน้าก่อนนอน ทาแป้งให้เรียบร้อย แล้วหยิบโทรศัพท์ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์หาบูมด้วยรูปภาพเคลื่อนไหวได้
"เฮลโลอาร์มาแล้ว" กดส่งเป็นสติกเกอร์แบบมีเสียงและดิ้นได้
ทางด้านบูมนอนฟังเพลงในยูทูปรอเวลาอาร์ไลน์มา
อื๊ด ! เสียงโทรศัพท์สั่นเพราะมีข้อความจากใครบางคนแทรกเข้ามา บูมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นอาร์ส่งไลน์มาก็ปิดยูทูปแล้วตอบแชททันที รอเวลานี้มานานแล้ว
"ว่าไงจ๊ะคนสวย" เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างด่วนจี๋
"ปากหวานอีกแล้ว ไปนอนบ้านย่าเป็นไงบ้าง มีสาว ๆ มาอ่อยมั้ยละ" ถามปนประชดไป ถามเล่น ๆ ทว่าคิดจริงจัง
"สาวไหนจะมี มีแต่สาวอาร์คนเดียวนี้แหละครับ" พิมพ์ตอบไปพร้อมหัวเราะอยู่คนเดียว พิมพ์เองเขินเองอยู่บนเตียงนอน "พรุ่งนี้เจอกันน๊า ไม่ได้เจอสองวันคิดถึงมาก บูมจะรักอาร์ตลอดไป" ก่อนจะจบการสนทนา ไม่ลืมที่จะส่งสโลแกนประจำของตนเองให้อาร์เสมอ ค่ำคืนนี้จบด้วยคำว่าบูมจะรักอาร์ตลอดไปเช่นเคย
คืนนี้ไม่มีดาว อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตก สักพักลมเริ่มพัดใบไม้ปลิวใส่หลังคาบ้าน ทันไดนั้นฝนก็เริ่มลงเม็ดโปรยปรายลงมา บูมนึกถึงวันพรุ่งนี้ของเนส ว่าเนสจะไปสมัครเรียนโรงเรียนไหน ยายจันทร์จะพาหลานไปสมัครที่ไหน แต่บูมคิดว่าอย่างไรยายจันทร์ก็ไม่พาเนสเข้ามาสมัครเรียนในตัวเมืองหรอก ก็คงจะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอนั้นแหละ
อยากถามแต่ไม่มีช่องทางใดให้ติดต่อเลย เดี๋ยวเจอกันสัปดาห์หน้าจะขอแลกเฟซบุ๊กไว้ ในเวลาดี ๆ อากาศดี ๆ แบบนี้ขอนอนคิดถึงอาร์ดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นสายเดี๋ยวโดนฝ่ามือพิฆาตของแม่อีก
………………………………….
เช้านี่เนสตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะยายจะพาไปสมัครเรียน โรงเรียนที่ยายเลือกให้เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ เนสแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนของโรงเรียนเดิมที่กรุงเทพก่อน พอได้ที่เรียนแล้วค่อยเปลี่ยน
ตอนนี้พึ่งจะหกโมงเช้า เนสทานข้าวเช้าด้วยน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ที่ยายซื้อมาให้จากตลาด นั่งทานที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เนสมองลอดผ่านต้นชะอมกับต้นกระถินไปยังบ้านย่าของบูม มองเห็นน้องเบสแต่งตัวใส่ชุดนักเรียนเตรียมตัวไปโรงเรียนเหมือนกัน เผยยิ้มให้เด็กหญิง “น้องเบสก็ตื่นเช้าเหมือนกันแฮะ” พูดเบา ๆ คนเดียว
ย่าของบูมมองเห็นเธอกำลังค่อย ๆ ซดน้ำเต้าหู้ ปากก็เป่าไปด้วยเบา ๆ ยิ้มให้และตะโกนทักทายเล็ดลอดผ่านรั้วบ้านมา "วันนี้ไปสมัครเรียนเหรอเนส ไปโรงเรียนไหนละ"
"ไปโรงเรียนใกล้ ๆ บ้านนี่แหละยาย โรงเรียนประจำอำเภอเรานี่แหละ" เธอตะโกนตอบกลับไปเช่นกัน ไม่ได้เสียงดังมากเพราะบ้านอยู่ติดกันอยู่แล้ว
"ดีแล้วลูกไปเรียนไกล ๆ ตื่นเช้าอีก” ย่าของบูมตอบ พาน้องเบสออกมารอรถรับส่งนักเรียนที่หน้าบ้าน รถรับส่งมาพอดีคนขับรถเดินลงมาเปิดประตูให้น้องเบสขึ้นไปนั่งประจำที่ จากนั้นคนขับรถก็เลื่อนประตูปิดอย่างมิดชิด
"ขับรถดี ๆ ละ" ย่าของบูมกำชับคนขับ
"ครับยาย ไปแล้วนะครับ" คนขับตอบพร้อมโค้งหัวให้เล็กน้อย ก่อนจะสตาร์ทออกรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของนักเรียนคนอื่น
เมื่อยายแต่งตัวเสร็จก็พาเนสออกมานั่งรอรถสองแถวเข้าในตัวอำเภอ สองยายหลานมาถึงโรงเรียนพร้อม ๆ กับนักเรียนหลายคน และ หลาย ๆ คนมองสองยายหลานอย่างสงสัย
ยายจันทร์มองหาคนที่จะช่วยเป็นธุระได้ขณะนั้นก็มองเห็นภารโรงกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงจูงมือเนสเดินเข้าไปหาเพื่อสอบถามว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง จะมาติดต่อให้หลานเข้าเรียนที่นี่
ระหว่างนั้นเนสก็คอยสังเกตสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน มันช่างร่มรื่นดีจริง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชั้นนำของอำเภอ ก็ยังดูด้อยกว่าโรงเรียนวัดที่ตนย้ายมา ยกเว้นความร่มรื่นของต้นไม้ต้องยกให้ที่นี่
ความเย็นสบาย ร่มเงาต้นไม้ทำให้หายใจได้ปลอดโปร่ง ไม่เหมือนโรงเรียนที่กรุงเทพ ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต หาความร่มรื่นร่มเงาแบบโรงเรียนนี้ไม่ได้เลย เนสชักเริ่มจะชอบที่นี้แล้วสิ
ยายจันทร์จูงมือเธอเดินตรงไปหาภารโรงวัยกลางคน ๆ นั้น เขากำลังลากสายยางรถน้ำต้นชาดัดอยู่ มันถูกตัดตกแต่งให้เป็นรูปสวยงาม
ภารโรงก็มองเห็นสองยายหลานที่กำลังเดินตรงมายังตนเองแล้วเหมือนกัน จึงวางสายยางไว้แล้วเดินไปปิดก๊อกน้ำ และ ดินวนกลับมาหาสองยายหลานอีก
"ยายมีอะไรให้ช่วยหรือครับ" เขาถาม เมื่อยายจันทร์กับเนสเดินมาถึงตนเองพอดี
"ยายจะพาหลานมาสมัครเรียนต่อ ม.2 น่ะพ่อหนุ่มรู้มั้ยต้องไปติดต่อใครอะไรยังไงบ้าง พอดีหลานยายมันย้ายมาจากกรุงเทพ" ยายจันทร์เล่าให้ภารโรงฟังคร่าว ๆ เผื่อช่วยอะไรได้บ้าง
"คุณยายเชิญห้องธุรการเลยครับ เดี๋ยวตามผมมาเลย" เขาแนะนำพร้อมผายมือไปทางห้องธุรการ อาคารนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอล ตรงข้ามกับเสาธง ซึ่งเป็นอาคารที่ยายกับหลานเดินผ่านมาเมื่อสักครู่
เขาก็นำสองยายหลานไปยังห้องธุรการ แต่ ครูเวรยังไม่มาตอนนี้ยังเช้าอยู่ นักเรียนก็มาไม่กี่คน ยังไม่ถึงเจ็ดโมงด้วยซ้ำ
"ห้องธุรการยังไม่เปิด ยายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ" เขาแนะนำต่อ พร้อมเอาผ้ามาเช็ดฝุ่นออกให้ ก่อนจะขอตัวไปทำงานของตนที่ทำค้างเอาไว้ต่อ
"ขอบคุณมาก ๆ หนุ่ม" ยายจันทร์ไม่ลืมที่จะขอบคุณเขา ไม่นานคุณครูก็มาถึงพร้อมจัดการธุระของยายจันทร์กับเนส
……………………………………….
เช้าวันจันทร์ที่โรงเรียนของบูมวุ่นวายมาก เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีจำนวนนักเรียนเยอะในชั่วโมงกิจกรรมหน้าเสาธง นักเรียนบางคนยกกระเป๋ายกสมุดและกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาบังแดดเอาไว้ แล้วแต่ใครมีอะไรที่พอจะบังแดดได้ก็ยกขึ้นมาบังหมด
ถ้าเป็นวันจันทร์นักเรียนทุกคนจะรู้ว่าต้องพกกระดาษสักแผ่นมาไว้บังแดด ครูต้องพบปะนานแน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่เคยผิดคาด
ชั่วโมงแรกของวันจันทร์ อาจารย์ก็ดันลาซะอย่างงั้น แต่ก็ยังมีครูวิชาอื่นมาดูแลแทน เดินมาบอกแค่ชั่วโมงนี้ให้นักเรียนอยู่กันเงียบ ๆ ครูรายวิชาลาป่วยมาสอนไม่ได้ อยู่กันเงียบ ๆ อย่าเสียงดัง ไม่อย่างนั้นผู้อำนวยการจะลงมาสอนเอง แล้วครูก็เดินจากไป ทิ้งให้นักเรียนทั้งห้องดีใจกระโดดโลดเต้นกันใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนทุกคนจะได้ทำอะไรเป็นการส่วนตัวบ้าง
หลายคนจับกลุ่มกันเม้าท์เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้บูมเดินไปนั่งใกล้ ๆ กับอาร์ เป็นภาพที่เพื่อน ๆ ในห้องเรียนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ครั้งนี้มีคู่รักเกิดใหม่หนึ่งคู่ เพื่อนจึงเทความสนใจไปให้คู่รักคู่นั้นมากกว่าที่จะมาสนใจพวกเขาสองคน
รักสามเศร้า…บทที่ 3 (รีไรท์)
.
เมื่อกลับถึงบ้าน เขาทำหน้าที่เป็นคนลงไปเปิดประตูรั้ว รถพ่อก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถ เมื่อรถจอดสนิทเขาเดินไปหยิบของฝากที่ย่าเตรียมมาให้ เดินถือเอาไปให้แม่ทำกับข้าวเย็นนี้ ระหว่างนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ไลน์ส่งให้อาร์ บอกว่าตนเองถึงบ้านแล้ว พอส่งเรียบร้อยก็กดเบอร์โทรหาย่าต่อเพื่อจะบอกว่าตนเองถึงบ้านแล้วเช่นกัน
คนที่รับสายเป็นน้องเบส บูมเดินคุยโทรศัพท์ไปด้วย ส่วนมืออีกข้างก็ถือของเข้าไปไว้ในครัวให้แม่ กว่าบูมจะถึงบ้านก็เกือบทุ่ม แม่ทำกับข้าวไว้รอเสร็จเรียบร้อย เพราะเห็นฝาชีครอบไว้ที่โต๊ะทานข้าว รอแค่ตนเองกับพ่อกลับมาถึงเท่านั้น
บูมเดินตรงไปที่ตู้เย็นเอาพริกผักต่าง ๆ ที่ย่าฝากมาให้แม่เข้าตู้เอาไว้ ปากก็คุยโทรศัพท์กับน้องเบสไป "แค่นี้นะน้องเบส อย่าลืมบอกยายล่ะว่าพี่บูมถึงบ้านแล้ว" กำชับอีกรอบ
"อือ ๆ..." เด็กหญิงตอบ
เขาวางสายจากน้องสาว ทันใดนั้นแม่ก็เดินเข้ามาพอดีพร้อมพ่อตามมาติด ๆ เพื่อทานข้าวเย็น เขานั่งลงที่เก้าอี้ประจำที่ หัวโต๊ะเป็นตำแหน่งของพ่อส่วนฝั่งตรงข้ามคือแม่ กับข้าวมื้อนี้ฝีมือแม่ก็อร่อยไม่แพ้ฝีมือย่าเลย
"ได้อะไรมาเยอะแยะ" ถามลูกชาย ทราบว่าเป็นของฝากจากแม่สามี ทว่าก็อยากรู้ว่าได้อะไรมาบ้าง ไปบ้านทุกสัปดาห์ได้กลับมาตลอด เคยห้ามว่าไม่ต้องให้มาก็ไม่ยอมฟัง จึงปล่อยเลยตามเลย ดีเหมือนกันจะได้ประหยัดไปอีกหลายวัน
"เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปลาช่อน ปู่ไปเอามาจากนา ฝนตกเมื่อคืนนี้" เขาตอบ พลางเคี้ยวข้าวไปด้วย
"ขังไว้ยังเดี๋ยวดิ้นหนีหมด"
"ขังแล้วครับ" พูดจบบูมทานข้าวต่อเงียบ ๆ ฟังพ่อกับแม่สนทนากัน หลังทานข้าวเสร็จบูมรับหน้าที่เก็บสำรับแทนแม่ แถมล้างจานให้ด้วย ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำและเข้าห้องของตนเองไป
คิดถึงอาร์ป่านนี้ทำอะไรอยู่ ทานข้าวเย็นหรือยัง นี่ก็พึ่งจะทุ่มเอง กว่าจะถึงเวลาคุยกันอีกนานมันคิดถึงมันอยากคุยมาก ปกติก็คุยกันทุกวันไม่เคยเบื่อ จันทร์ถึงศุกร์ก็เจอกัน ก็คนมันคิดถึง ในใจอยากคุยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้าเป็นไปได้
……………………………………
ฉับ ฉับ ฉับ ! ที่บ้านของอาร์กำลังช่วยกันทำงานอย่างขะมักเขม้น อาร์ไม่บ่นสักคำเพราะถูกฝึกให้ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตกเกิดมาก็เห็นพ่อกับแม่ทำอาชีพชาวไร่ชาวนาแล้ว
เสียงมีดกระทบกับท่อนมันสำประหลัง ที่ถูกตัดเป็นท่อน ๆ พ่อกับแม่เป็นคนตัดส่วนเธอเป็นคนเก็บท่อนมันที่ถูกตัดแล้วไปแช่น้ำในโอ่ง ทำการผสมฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตด้วย
สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน บ้านของอาร์มีอาชีพทำไร่ทำนาและทำสวนตามฤดูการ ฐานะปานกลาง อาร์จึงเป็นความหวังของพ่อแม่ ถึงไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่ามีแฟนแล้ว
เธอก้มหน้าก้มตาทำงานช่วยพ่อแม่แบบไม่เหน็ดเหนื่อย เงินทุกบาทที่อาร์ใช้จ่ายก็มาจากของพวกนี้ ระหว่างนั้นมือก็หยิบท่อนมันที่พ่อแม่ตัดไว้ มาแช่น้ำฮอร์โมน แล้วหยิบใส่ถุงอยู่แบบนี้จนตอนนี้ได้เกือบสิบกว่าถุงแล้ว
ทำงานไปตาก็มองดูทีวีไปด้วย ตอนนี้ละครหลังข่าวกำลังเล่น พอละครหลังข่าวจบพ่อแม่ถึงจะพาเลิกทำ เพราะถึงเวลาต้องเข้านอน และ มันคือเวลาที่เธอกับบูมโทรศัพท์คุยกัน ทุก ๆ วันก็ไม่ได้ทำดึกขนาดนี้ ละครเล่นก็เลิกทำแล้ว แต่ วันนี้ทำงานหนักกว่าทุกวันเพราะพ่อกับแม่อยากให้ทำในส่วนนี้เสร็จเร็ว ๆ นี่ก็จวนจะเสร็จหมดแล้วด้วย พรุ่งนี้จะได้นำไปปลูกเลย
"อาร์ละครจบไปอาบน้ำนอนไป พรุ่งนี้วันจันทร์เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนไม่ทัน" แม่บอก ดูท่าละครจบก็ยังจะไม่เสร็จดีเลย เหลือนิดเดี๋ยว จึงบอกให้ลูกสาวเข้าไปนอนก่อน ที่เหลือตนเองกับพ่อจะจัดการเอง "พ่อกับแม่ขอต่ออีกสักหน่อย นี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว จะได้เอาไปปลูกสักที เดี๋ยวฝนเร่งมาจะปลูกไม่ทัน"
"อาร์ขอช่วยพ่อสักหน่อยก่อน จะถึงสิบถุงแล้ว ขอเอาให้ได้สักสิบถุงก่อนแล้วกัน อาร์ค่อยไปอาบน้ำนอน" เธอตอบ ขอช่วยพ่อกับแม่ต่อสักหน่อยแล้วกัน บูมเอาไว้ทีหลัง
สามคนพ่อแม่ลูกยิ้มให้กัน ภูมิใจที่อาร์เป็นคนขยัน พ่อแม่พาทำอะไรทำหมด ไม่บ่นว่าเหนื่อยสักคำ เด็กรุ่นเดียวกันมีเหรอจะทำแบบนี้ พอเวลาปลูกอาร์ก็ไปช่วยพ่อกับแม่ปลูก ตากแดดตากลมไม่เคยบ่น
เมื่อถึงเวลาละครหลังข่าวจบ อาร์ขอตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเข้านอน ทั้งเหงื่อ ทั้งสารเคมีจากน้ำยาฮอร์โมนเปื้อนเต็มตัวไปหมด
อาร์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเข้ามาแต่งตัวในห้องนอนของตนเอง ทาครีมบำรุผิวหน้าก่อนนอน ทาแป้งให้เรียบร้อย แล้วหยิบโทรศัพท์ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์หาบูมด้วยรูปภาพเคลื่อนไหวได้
"เฮลโลอาร์มาแล้ว" กดส่งเป็นสติกเกอร์แบบมีเสียงและดิ้นได้
ทางด้านบูมนอนฟังเพลงในยูทูปรอเวลาอาร์ไลน์มา อื๊ด ! เสียงโทรศัพท์สั่นเพราะมีข้อความจากใครบางคนแทรกเข้ามา บูมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นอาร์ส่งไลน์มาก็ปิดยูทูปแล้วตอบแชททันที รอเวลานี้มานานแล้ว
"ว่าไงจ๊ะคนสวย" เขาพิมพ์ตอบกลับไปอย่างด่วนจี๋
"ปากหวานอีกแล้ว ไปนอนบ้านย่าเป็นไงบ้าง มีสาว ๆ มาอ่อยมั้ยละ" ถามปนประชดไป ถามเล่น ๆ ทว่าคิดจริงจัง
"สาวไหนจะมี มีแต่สาวอาร์คนเดียวนี้แหละครับ" พิมพ์ตอบไปพร้อมหัวเราะอยู่คนเดียว พิมพ์เองเขินเองอยู่บนเตียงนอน "พรุ่งนี้เจอกันน๊า ไม่ได้เจอสองวันคิดถึงมาก บูมจะรักอาร์ตลอดไป" ก่อนจะจบการสนทนา ไม่ลืมที่จะส่งสโลแกนประจำของตนเองให้อาร์เสมอ ค่ำคืนนี้จบด้วยคำว่าบูมจะรักอาร์ตลอดไปเช่นเคย
คืนนี้ไม่มีดาว อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตก สักพักลมเริ่มพัดใบไม้ปลิวใส่หลังคาบ้าน ทันไดนั้นฝนก็เริ่มลงเม็ดโปรยปรายลงมา บูมนึกถึงวันพรุ่งนี้ของเนส ว่าเนสจะไปสมัครเรียนโรงเรียนไหน ยายจันทร์จะพาหลานไปสมัครที่ไหน แต่บูมคิดว่าอย่างไรยายจันทร์ก็ไม่พาเนสเข้ามาสมัครเรียนในตัวเมืองหรอก ก็คงจะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอนั้นแหละ
อยากถามแต่ไม่มีช่องทางใดให้ติดต่อเลย เดี๋ยวเจอกันสัปดาห์หน้าจะขอแลกเฟซบุ๊กไว้ ในเวลาดี ๆ อากาศดี ๆ แบบนี้ขอนอนคิดถึงอาร์ดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นสายเดี๋ยวโดนฝ่ามือพิฆาตของแม่อีก
………………………………….
เช้านี่เนสตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะยายจะพาไปสมัครเรียน โรงเรียนที่ยายเลือกให้เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ เนสแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนของโรงเรียนเดิมที่กรุงเทพก่อน พอได้ที่เรียนแล้วค่อยเปลี่ยน
ตอนนี้พึ่งจะหกโมงเช้า เนสทานข้าวเช้าด้วยน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ที่ยายซื้อมาให้จากตลาด นั่งทานที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เนสมองลอดผ่านต้นชะอมกับต้นกระถินไปยังบ้านย่าของบูม มองเห็นน้องเบสแต่งตัวใส่ชุดนักเรียนเตรียมตัวไปโรงเรียนเหมือนกัน เผยยิ้มให้เด็กหญิง “น้องเบสก็ตื่นเช้าเหมือนกันแฮะ” พูดเบา ๆ คนเดียว
ย่าของบูมมองเห็นเธอกำลังค่อย ๆ ซดน้ำเต้าหู้ ปากก็เป่าไปด้วยเบา ๆ ยิ้มให้และตะโกนทักทายเล็ดลอดผ่านรั้วบ้านมา "วันนี้ไปสมัครเรียนเหรอเนส ไปโรงเรียนไหนละ"
"ไปโรงเรียนใกล้ ๆ บ้านนี่แหละยาย โรงเรียนประจำอำเภอเรานี่แหละ" เธอตะโกนตอบกลับไปเช่นกัน ไม่ได้เสียงดังมากเพราะบ้านอยู่ติดกันอยู่แล้ว
"ดีแล้วลูกไปเรียนไกล ๆ ตื่นเช้าอีก” ย่าของบูมตอบ พาน้องเบสออกมารอรถรับส่งนักเรียนที่หน้าบ้าน รถรับส่งมาพอดีคนขับรถเดินลงมาเปิดประตูให้น้องเบสขึ้นไปนั่งประจำที่ จากนั้นคนขับรถก็เลื่อนประตูปิดอย่างมิดชิด
"ขับรถดี ๆ ละ" ย่าของบูมกำชับคนขับ
"ครับยาย ไปแล้วนะครับ" คนขับตอบพร้อมโค้งหัวให้เล็กน้อย ก่อนจะสตาร์ทออกรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของนักเรียนคนอื่น
เมื่อยายแต่งตัวเสร็จก็พาเนสออกมานั่งรอรถสองแถวเข้าในตัวอำเภอ สองยายหลานมาถึงโรงเรียนพร้อม ๆ กับนักเรียนหลายคน และ หลาย ๆ คนมองสองยายหลานอย่างสงสัย
ยายจันทร์มองหาคนที่จะช่วยเป็นธุระได้ขณะนั้นก็มองเห็นภารโรงกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงจูงมือเนสเดินเข้าไปหาเพื่อสอบถามว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง จะมาติดต่อให้หลานเข้าเรียนที่นี่
ระหว่างนั้นเนสก็คอยสังเกตสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน มันช่างร่มรื่นดีจริง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชั้นนำของอำเภอ ก็ยังดูด้อยกว่าโรงเรียนวัดที่ตนย้ายมา ยกเว้นความร่มรื่นของต้นไม้ต้องยกให้ที่นี่
ความเย็นสบาย ร่มเงาต้นไม้ทำให้หายใจได้ปลอดโปร่ง ไม่เหมือนโรงเรียนที่กรุงเทพ ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต หาความร่มรื่นร่มเงาแบบโรงเรียนนี้ไม่ได้เลย เนสชักเริ่มจะชอบที่นี้แล้วสิ
ยายจันทร์จูงมือเธอเดินตรงไปหาภารโรงวัยกลางคน ๆ นั้น เขากำลังลากสายยางรถน้ำต้นชาดัดอยู่ มันถูกตัดตกแต่งให้เป็นรูปสวยงาม
ภารโรงก็มองเห็นสองยายหลานที่กำลังเดินตรงมายังตนเองแล้วเหมือนกัน จึงวางสายยางไว้แล้วเดินไปปิดก๊อกน้ำ และ ดินวนกลับมาหาสองยายหลานอีก
"ยายมีอะไรให้ช่วยหรือครับ" เขาถาม เมื่อยายจันทร์กับเนสเดินมาถึงตนเองพอดี
"ยายจะพาหลานมาสมัครเรียนต่อ ม.2 น่ะพ่อหนุ่มรู้มั้ยต้องไปติดต่อใครอะไรยังไงบ้าง พอดีหลานยายมันย้ายมาจากกรุงเทพ" ยายจันทร์เล่าให้ภารโรงฟังคร่าว ๆ เผื่อช่วยอะไรได้บ้าง
"คุณยายเชิญห้องธุรการเลยครับ เดี๋ยวตามผมมาเลย" เขาแนะนำพร้อมผายมือไปทางห้องธุรการ อาคารนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอล ตรงข้ามกับเสาธง ซึ่งเป็นอาคารที่ยายกับหลานเดินผ่านมาเมื่อสักครู่
เขาก็นำสองยายหลานไปยังห้องธุรการ แต่ ครูเวรยังไม่มาตอนนี้ยังเช้าอยู่ นักเรียนก็มาไม่กี่คน ยังไม่ถึงเจ็ดโมงด้วยซ้ำ
"ห้องธุรการยังไม่เปิด ยายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ" เขาแนะนำต่อ พร้อมเอาผ้ามาเช็ดฝุ่นออกให้ ก่อนจะขอตัวไปทำงานของตนที่ทำค้างเอาไว้ต่อ
"ขอบคุณมาก ๆ หนุ่ม" ยายจันทร์ไม่ลืมที่จะขอบคุณเขา ไม่นานคุณครูก็มาถึงพร้อมจัดการธุระของยายจันทร์กับเนส
……………………………………….
เช้าวันจันทร์ที่โรงเรียนของบูมวุ่นวายมาก เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีจำนวนนักเรียนเยอะในชั่วโมงกิจกรรมหน้าเสาธง นักเรียนบางคนยกกระเป๋ายกสมุดและกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาบังแดดเอาไว้ แล้วแต่ใครมีอะไรที่พอจะบังแดดได้ก็ยกขึ้นมาบังหมด
ถ้าเป็นวันจันทร์นักเรียนทุกคนจะรู้ว่าต้องพกกระดาษสักแผ่นมาไว้บังแดด ครูต้องพบปะนานแน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่เคยผิดคาด
ชั่วโมงแรกของวันจันทร์ อาจารย์ก็ดันลาซะอย่างงั้น แต่ก็ยังมีครูวิชาอื่นมาดูแลแทน เดินมาบอกแค่ชั่วโมงนี้ให้นักเรียนอยู่กันเงียบ ๆ ครูรายวิชาลาป่วยมาสอนไม่ได้ อยู่กันเงียบ ๆ อย่าเสียงดัง ไม่อย่างนั้นผู้อำนวยการจะลงมาสอนเอง แล้วครูก็เดินจากไป ทิ้งให้นักเรียนทั้งห้องดีใจกระโดดโลดเต้นกันใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนทุกคนจะได้ทำอะไรเป็นการส่วนตัวบ้าง
หลายคนจับกลุ่มกันเม้าท์เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้บูมเดินไปนั่งใกล้ ๆ กับอาร์ เป็นภาพที่เพื่อน ๆ ในห้องเรียนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ครั้งนี้มีคู่รักเกิดใหม่หนึ่งคู่ เพื่อนจึงเทความสนใจไปให้คู่รักคู่นั้นมากกว่าที่จะมาสนใจพวกเขาสองคน