A. ทุนจดทะเบียน              
              
(๑) ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และ ราคาพาร์ :              
           จำนวนหุ้น                 600.00  ล้านหน่วย    
           พาร์                              0.50   บาทต่อหุ้น    
(๒) IPO :                             150.00  ล้านหน่วย ราคา 6.90 บาท

B. เปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียน และ ราคาพาร์ เตรียมพร้อม ipo

(๓)   ผลประกอบประจำปี 2563  : 
      
       
       
       ผลประกอบการประจำปี 2563 (12 เดือน) กำไร 247.562 ล้านบาทของผู้ถือหุ้น หรือ กำไรสุทธิ 226.05 ต่อหุ้น หรือ  
       ถ้าเป็นไปเช่นนี้ ก่อน ipo ณ 31/12/2563 บริษัทมีจำนวนทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
       = 247.562/226.05 = 1.096 ตัวกลม 1.096 ล้านหุ้น ตัวกลมๆ 1.00 ล้านหุ้น
 
(๔) จำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ก่อน ipo
    
     
  
      ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 600.00 ล้านหุ้น หัก ipo 150.00 ล้านบาท ฉะนั้นจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนชำระแล้วก่อน ipo ต้อง
      = 600.00 - 150.00 = 450.00 ล้านหุ้น

(๕) จาก ข้อ (๔) สามารถพิสูจน์ได้จากประกาศผลประกอบ 1/2564
     
     
      
      ไตรมาส 1/2564 กำไร 29.470 ล้านบาท หารด้วย 450.00 ล้านหุ้น (ก่อน ipo) = 29.470/450.00 = 0.0654 บาทต่อหุ้น
      ถูกต้องตรงกับประกาศ จำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนได้เปลี่ยนแปลงจาก 1.00 ล้านหุ้น เป็น 450.00 ล้านหุ้นในไตรมาส 1/2564 ก่อน ipo

(๖) การเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เกิดขึ้นในไตรมาส 1/2564 ก่อน ipo พอสรุปได้
     
      ก.  ตามประกาศผลประกอบการปี 2563 ข้อ (๓) ซึ่งกำไร 226.05 บาทต่อหุ้น คำนวนดูแล้ว ในขณะนั้น 
          (i) จำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1.00 ล้านหุ้น; และ
          (ii) ราคาพาร์ 225.00 บาท ต่อหุ้น
     ข. ในไตรมาส 1/2564 ได้มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจาก 1.00 ล้านหหุ้น เป็น 450.00 ล้านหุ้น 
     ค. ต่อเนื่อง ข้อ ข. จำนวนหุ้น 450.00 ล้านหุ้น ณ ราคาพาร์ 0.50 จะเป็นจำนวนเงินทุนจดทะเบียนชำระแล้ว = 450.00*0.50 
         = 225.00 ล้านบาท นั้นก็คือจำนวนเงินทุนจดทะเบียนชำระแล้วก่อน ipo ซึ่งมีจำนวนหุ้น 1.00 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 225.00 บาทต่อหุ้น
     ง.  พอสรุป
                                                                         ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
                                                                    ราคาพาร์          จำนวนหุ้น (ล้านหุ้น)
          ณ 31/12/2564                                       225.00               1.00     ณ 31/12/2563
          ไตรมาส 1/2564 แตกพาร์เป็น                      0.50            450.00     เตรียมตัว ipo 
          ipo                                                          0.50            150.00     ในเดือน กรกฎาคม 2564
          หลัง ipo                                                   0.50             600.00     ณ ปัจจุบัน
      ง.  ผมไม่รู้ข้อเท็จจริง วิเคราะห์ตามข้อมูลที่มีให้ในเวป ตลท ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย  

C.  ผลประกอบการ

(๗) ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย 2/2563, 3/2563, 4/2563 & 1/2564 จะได้
      ผลประกอบการ 12 เดือน 2563 กำไร..................247.562 ล้านบาท
      หัก : ผลประกอบการ 1/2563............................-  7.803
      ผลประกอลการ 9 เดือนสุดท้าย 2563.................239.759
      บวก ผลประกอบการ 1/2564............................  29.470
      ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย.....................269.229 ล้านบาท

(๘)  กำไรต่อหุ้น = 269.229/600 = 0.4487 บาทต่อหุ้น

D.  PE

(๙) ipo ณ 6.90 บาท = PE 6.90/0.4487 = PE15.377

(๑๐) ณ PE40.00 = 17.948 บาท

(๑๑) จุดติด Cash เริ่ม >= 17.96 บาท

E.  มาตรการ Cash Balance

(๑๒)  ด้วยวันนี้ 2/8/2564 เป็นวันทำการที่สองของสัปดาห์ Turnover List (30/7/2564 - 5/8/2564) ซื้อขายไม่เต็มวันทำการสัปดาห์
        จึงได้รับผ่อนผันมาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ 3 หลักเกณฑ์ติด Cash ซึ่งจะมีผลบังคับเริ่มในสัปดาห์ Turnover List 
        (6/8 - 11/8/2564) ถึงเวลานั้นโอกาสติด Cash ต่อเมื่อราคาในกระดาน >=17.96 และ ปริมาณซื้อเพียงพอ 
        Turnover Ratio >=40.00%

F.  ข้อสังเกตุที่ต้องค้นหาข้อเท็จจริง WINDOW DRESSING ก่อน ipo หรือไม่

(๑๓)  ผลประกอบการปี 2562 มีกำไรเพียง 27.391 ล้านบาท ไม่มีข้อมูลผลประกอบการปีก่อนๆหน้า ไม่แล้วจเห็นระดับผลประกอบการ
         ดีกว่าหรือแย่กว่า 27.391 ล้านบาท ที่กำไรในปี 2562           

(๑๔)  ผลประกอบการทั้งปี 2563 กำไร 247.562 ล้านบาท สูงกว่าผลประกอบการทั้งปี 2562  ที่ 27.391 ล้านบาท ถึง 220.171 ล้านบาท
         หรือ 803.80% ถูกต้องครับ"แปดร้อยเปอร์เซ็นต์" ของกำไรทั้งปี 2562 ร้องได้คำเดียว "โอ้โห" อะไรขนาดนี้
         
(๑๕)  ทั้งปี 2563 กำไร 247.562 ล้านบาท จากจำนวนนี้ไตรมาส 1/2563 กำไรเพียง 7.803 ล้านบาท นั้นหมายถึง 9 เดือนสุดท้าย
         2563 (ไตรมาส 2/2563, 3/2563 & 4/2563) มีกำไรถึง = 247.562 - 7.803 = 239.759 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 1/2563
         ถึง  231.956 ล้านบาท หรือ 2,972.65% ร่วมๆ 3,000.00% ของกำไรในไตรมาส 1/2563 ที่ 7.803 บาท อดที่จะกังขา 
        ทองแท้ หรือ ชุบทอง รอ ipo ในปีต่อมา 2564 (ปีนี้)

(๑๖) ในปีนี้ 2564 ไตรมาส 1/2564 กำไรเพียง 29.470 ล้านบาท เพื่อรักษากำไรระดับเดียวกับ 2563 โดยไม่มี growth "0.00%" เก้าเดือนที่
        เหลือ (ไตรมาส 2/2564, 3/2564 & 4/2564) ต้องมีกำไรรวมกัน "247.562 - 29.470 = 218.092 ล้านบาท" เฉลี่ยไตรมาสละ 72.69 
        ล้านบาท หรือ 246.65% ของกำไรในไตรมาส 1/2564 ที่ 29.40 ทองแท้ผลประกอบการกำไรต้องไม่ยุบในปีนี้ 2564 

        ไม่แล้วไม่มีอะไรเสียที่จะจินตนาการมโนไตรมาส 2/2564, 3/2564 & 4/2564 จะกำไรรวมกันเท่าไร แล้ว จะเห็นภาพชัดเจน
         ราคาเหมาะสมในอนาคตตามมุมมองของเรา จักได้ไม่หลงกลหุ้น ipo

(๑๗)   เม่าน้อยๆย่างเราๆท่านๆไม่รู้อะไรเลย  ต้องค้นหาข้อมูลเท็จจริงสร้างความมั่นใจ จักได้หลีกเลี่ยงไม่ติดกับดักหุ้นใหม่ ipo 

G.  ท้ายสุด ผมไม่มี amr ไม่คิดที่จะเล่น ไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ไม่มีเจตนาใดๆนอกจากมาเล่าสู่ให้เม่าน้อยๆอย่างเราๆท่านๆได้รับรู้ 
     ถ้าความเห็นผมไปเหยียบตาปลา ไม่สบอารณ์ ขออภัยด้วย

ขอให้โชคดี รวยๆๆ
ด้วยความปรารถนาดี

ปล :  ด้วยอ่านหาข้อมูล คิดไป คำนวน และ พิมพ์ทันที ช่วยตรวจข้อผิดพลาดพร้อมน้อมรับข้อแนะนำสร้างสรรทุกประการ
        และ ขออภัยด้วย