เลือกหมอนหนุนแบบไหนดี มาดูกัน!



หมอนเป็นของคู่กายของทุกคนที่ช่วยให้การพักผ่อนยาวนาน และหลับสบายในทุกๆ ค่ำคืนแล้ว และยังสามารถตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพ เช่น อาการปวดเมื่อยหลัง ปวดคอ ได้ดีอีกด้วย เช่น หมอนสุขภาพ หมอนแก้ปวดคอ หมอนแก้ปวดหลัง เป็นต้น แต่จะเลือกหมอนแบบไหนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการนอน และสรีระที่แตกต่างกันของคนในครอบครัว HomeGuru มีวิธีเลือกหมอนมาฝากครับ



วัสดุในการผลิตก็สำคัญ

วัสดุในการผลิตหมอนเป็นปัจจัยแรกที่ทุกบ้านต้องคำนึงถึง เพราะวัสดุที่แตกต่างกันย่อมส่งผลให้คุณสมบัติการใช้งานแตกต่างกันครับ โดยวัสดุส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ในการผลิตแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. วัสดุธรรมชาติ เช่น ขนนุ่มละเอียดของสัตว์ปีก อย่างขนเป็ด ขนห่าน หรือเส้นใยธรรมชาติ ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติจะมีข้อดีคือ จะไม่ค่อยมีไรฝุ่น สามารถพับ หรือจัดรูปง่าย รักษาความเย็น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหมอนที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ แต่บางบ้านก็ไม่นิยมใช้เนื่องจากมีราคาสูง แถมมีกลิ่น และไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ดังนั้นจึงต้องมองหาหมอนขนสัตว์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว โดยสังเกตที่ป้าย Allergy free หรือฉลากที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้



2. วัสดุสังเคราะห์ เช่นโฟม เส้นใยสังเคราะห์ ยางพารา โพลีคลัสเตอร์ ข้อดีของ หมอนสุขภาพ ที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ คือจะรักษารูปทรงและคืนตัวโดยการพองอากาศ ราคาไม่แพง ดูแลรักษาง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ราคาไม่แพง แต่จะมีอายุการใช้งานที่ไม่คงทนมากนัก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


5 ประเภทหมอนที่ควรมี

หมอนขนห่าน 
เป็นหมอนในกลุ่ม DOWN ALTERNATIVE ด้วยเทคโนโลยีและระบบนวัตกรรมสมัยใหม่ ทำให้สามารถนำเอาไฟเบอร์มาใช้ทดแทนวัสดุธรรมชาติอย่างขนห่าน หรือขนเป็ดในการผลิตหมอนได้ แต่คุณสมบัติยังคงให้สัมผัสที่นุ่มสบาย และผ่อนคลาย ทำให้ทุกอิริยาบถแห่งการพักผ่อนเทียบเท่าการนอนหมอนขนห่านอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงเป็น หมอนสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาคนที่เป็นภูมิแพ้ได้ดี แถมไม่มีกลิ่นรบกวนตลอดระยะเวลาการนอนหลับอีกด้วยครับ



หมอนชาร์โคล 
เป็น หมอนสุขภาพ ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุทางธรรมชาติ อย่างถ่านไม้ไผ่ ที่ผ่านการเผาไหม้ในอุณหภูมิมากกว่า 1000 องศา ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องกลิ่นอับชื้น เหมาะกับคนที่ขี้ร้อน และมีเหงื่อออกเยอะ เพราะมีคุณสมบัติช่วยคลายความร้อนขณะนอนหลับ ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย ช่วยดูดซับสารพิษ และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี



หมอนโพลีเอสเตอร์
มีให้เลือกใช้ตั้งแต่โพลีเอสเตอร์แบบทั่วไป ซึ่งจะมีความฟู และความนิ่มที่พอเหมาะ ส่วนระยะเวลาในการใช้งานจะสั้น หากมีการซัก 2-3 ครั้งความฟูของหมอนจะลดลงจนถึงแบนราบ และหมอนโพลีเอสเตอร์ชนิด Ball หรือหมอนใยบอล สามารถระบายอากาศได้ดี เพราะมีความยืดหยุ่นของตัวใยสูง และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโพลีเอสเตอร์แบบทั่วไป หรือใยสาง ซึ่งหมอนที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์จะมีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับบรรดาหมอนประเภทอื่นๆ ครับ



หมอนยางพารา 
เป็นหมอนที่เป็นที่นิยม เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและความหนาแน่นสูงมากกว่าหมอนทั่ว ๆ ไป แถมยังเป็นหมอนแก้ปวดคอ และหมอนแก้ปวดหลัง ที่สามารถรองรับน้ำหนักตั้งแต่ ศีรษะ คอ หลัง ไหล่ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีการออกแบบให้โค้งรับกับลักษณะการนอนในแต่ละแบบที่แตกต่างกัน จึงทำให้ไม่รู้สึกปวดเมื่อยระหว่างการนอนหลับ และบางรุ่นจะมีปุ่มรังไข่เพื่อช่วยนวดศีรษะ ทำให้หลับสนิทง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ



หมอนเมมโมรี่โฟม 
เป็นอีกหนึ่งวัสดุทางเลือกเพื่อใช้ทดแทนยางธรรมชาติ ยืดหยุ่นได้ดี สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงไปตามอุณหภูมิและแรงกดทับของศีรษะของแต่ละบุคคล เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนพลิกตัวบ่อยๆ และชอบหมอนที่มีความแน่น หมอนเมมโมรี่โฟม เป็น หมอนสุขภาพ ที่แก้ปัญหาปวดเมื่อย ปวดคอ นอนกรน และผู้พักฟื้นหลังผ่าตัดได้ดีครับ ทางการแพทย์จึงนิยมใช้หมอนประเภทนี้ แต่บางบ้านไม่นิยมใช้เนื่องจากการฟูคืนตัวกลับที่เดิมของหมอนค่อนข้างช้า ทำให้รู้สึกว่าหมอนเป็นหลุม หรือเป็นแอ่ง แถมหมอนที่ทำจากเมมโมรี่โฟมส่วนใหญ่ไม่มีรูระบายอากาศ ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นระหว่างการใช้งาน และมีราคาที่สูงครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


การเลือกหมอนเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องให้ความใส่ใจเพื่อไม่ให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนต่อปัญหาสุขภาพกายที่จะส่งผลรบกวนให้การนอนหลับไม่เต็มที่นะครับ เคล็ดลับที่ HomeGuru อยากแนะนำคือไม่จำเป็นต้องเลือกหมอนที่มีราคาสูง แต่ให้เลือกหมอนที่ทำให้การนอนเป็นธรรชาติรู้สึกสบายตัวที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม และใช้วัสดุผ้าหุ้มหมอนที่ป้องกันแบคทีเรีย ที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ห่างไกลปัญหาสุขภาพที่ทุกคนเป็นกังวลครับ


HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่