ว่าด้วยเรื่องของพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างห้องนอน ที่นอกเหนือจากการตกแต่ง และเลือกเฟอร์นิเจอร์เพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนกลายเป็นห้องนอนที่น่าอยู่ และผ่อนคลายแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่
HomeGuru หยิบยกมาฝากในวันนี้คือ แก้นอนไม่หลับ ด้วยการเลือกเครื่องนอน อย่างหมอนหนุน ผ้านวม แผ่นรองนอน (Topper) และที่นอน ที่มีดีไซน์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชัน เพื่อช่วยให้การนอนหลับสนิทตลอดคืนครับ
เลือกไอเท็มเครื่องนอนอย่างไร ช่วยให้หลับสนิท
ชุดเครื่องนอนไม่ว่าจะเป็น หมอนหนุน ผ้านวม แผ่นรองนอน (Topper) สิ่งสำคัญที่ทุกๆ บ้าน ควรคำนึงถึงคือ เนื้อผ้ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เพราะเครื่องนอนเป็นไอเท็มที่สัมผัสกับผิวกาย และ ผิวหน้าของทุกคนในครอบครัวโดยตรง โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก และผู้สูงวัยที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หากเกิดการระคายเคืองจะส่งผลต่อการนอนหลับ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ครับ ดังนั้นจึงต้องคัดสรรเครื่องนอนที่มีกระบวนการผลิต และการออกแบบที่ละเอียดอ่อน รวมถึงผ่านการรับรอง หรือ Certificate จากหลากหลายสถาบันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัว
5 ไอเท็ม แก้นอนไม่หลับ ในห้องนอนที่ต้องใส่ใจเลือก
1. ที่นอน Mattress
การเลือกที่นอน 1 หลัง มีผลต่อสุขภาพของคนในบ้าน หากเลือกที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระของผู้นอนแต่ละคน อาจส่งผลต่ออาการปวดหลัง ปวดคอ และทำให้นอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนได้เลยครับ โดยทั่วไปการเลือกที่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น ด้านความรู้สึกชอบ ไม่ชอบของผู้นอน ฟังก์ชั่นตอบรับกับสรีระ รวมถึงโครงสร้าง วัสดุในการผลิต และ แก้นอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลให้ที่นอนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น
ที่นอนยางพารา
จุดเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง ยุบตัวยาก จึงช่วยรองรับสรีระและบรรเทาอาการปวดหลังของผู้นอนได้ดี รวมถึงเป็นที่นอนที่ไม่สะสมฝุ่นและความชื้น ที่นอนยางพารา มี 2 ประเภทให้เลือกคือ ที่นอนที่ทำจากยางพาราแท้ 100% และที่นอนยางพาราอัด โดย ที่นอนยางพาราอัดจะมีความแน่นและแข็งมากกว่าที่นอนที่ทำจากยางพาราแท้ แต่จะรองรับสรีระของผู้นอนได้ไม่ดีเท่า เพราะด้วยกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันครับ หรือหากบ้านไหนมีผู้สูงวัยอาศัยอยู่ด้วย การเลือกใช้ที่นอนปรับระดับ ที่ผลิตจากยางพาราธรรมชาติ ก็สามารถช่วยรองรับสรีระร่างกายของผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดีเช่นกันครับ
ที่นอนสปริง
เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนบนที่นอนที่นุ่ม และเด้ง เพราะเป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ตัวสปริงมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ สปริงแบบออฟเซ็ท (offset Spring) สปริงแบบบอนแนลล์ (Bonnel Spring) และสปริงแบบพ็อกเก็ต (Pocket Spring) ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันแต่แนะนำให้เลือกสปริงที่สามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีเพื่อช่วย แก้นอนไม่หลับ ให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนครับ ข้อควรระวังของที่นอนสปริงคือ หากใช้เป็นระยะเวลานานตัวสปริงอาจจะเสื่อม หรือล้ม ทำให้ระหว่างการนอนเกิดเสียงรบกวนได้ครับ
ที่นอนเมมโมรี่โฟม
เป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นสูง ยุบตัวตามน้ำหนักและสรีระของผู้นอน จึงทำให้รองรับสรีระ และกระจายแรงกดทับของผู้นอนได้เป็นอย่างดี แต่เวลานอนจะรู้สึกร้อน เนื่องจากที่นอนเมมโมรี่โฟมไม่มีรูระบายอากาศ
ที่นอนฟองน้ำอัด
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบนอนที่นอนนิ่ม ซึ่งตัวที่นอนมีความแน่นทำให้ที่นอนเกิดการยุบตัวน้อย มีความยืดหยุ่นต่ำ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เปียกน้ำ เพราะด้วยวัสดุในการผลิตอย่างฟองน้ำ ที่ดูดซึมน้ำไว อาจทำให้เกิดความชื้นได้ครับ
" การเลือกที่นอน ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ให้เลือกที่นอนที่ผลิตจากวัสดุ
และโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน คุ้มค่ากับการใช้งานในระยะยาว และเหมาะสมกับสรีระของผู้นอนครับ "
2. หมอนหนุน Pillow
หมอนเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ช่วย แก้นอนไม่หลับ ให้นอนหลับพักผ่อนได้ยาวนาน และสนิทตลอดทั้งคืน เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เวลานอนราวๆ 6 – 8 ชั่วโมง หากเลือกหมอนไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในการนอน อาจส่งผลต่อปัญหาเรื่องสุขภาพ ปวดต้นคอ ภูมิแพ้ หรือเป็นหวัดได้เช่นกันครับ ซึ่งปัจจุบันหมอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ หมอนสุขภาพ ที่มีให้เลือกหลากหลายตามวัสดุในการผลิต และตามอาการของผู้นอน เช่น หมอนขนเป็ด ขนห่าน , หมอนชาโคล , หมอนยางพารา , หมอนสำหรับเด็ก และหมอนเมมโมรี่โฟม ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญในการเลือกหมอนที่ดีคือ เลือกหมอนที่ถูกสุขลักษณะอนามัย และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายครับ
3. แผ่นรองนอน (Topper)
“ท็อปเปอร์ – Topper” หรือ “แผ่นรองนอน” อีกหนึ่งตัวช่วย แก้นอนไม่หลับ ที่ทำให้นอนหลับได้เต็มอิ่มตลอดทั้งคืน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของหลายๆ บ้านครับ เช่น ท็อปเปอร์ฟองน้ำ ท็อปเปอร์ยางพารา ท็อปเปอร์ใยมะพร้าว ท็อปเปอร์ขนสัตว์ และท็อปเปอร์ที่ทำจากเส้นใยต่างๆ เพราะคุณสมบัติของท็อปเปอร์ไม่เพียงแต่ให้ความนุ่มสบายมากขึ้นระหว่างการนอน แต่ยังช่วยลดแรงกดทับบริเวณหลัง และกระจายน้ำหนักของร่างกายได้ดี แถมช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลัง ไม่ว่าจะนอนในท่าใดก็ตามครับ
ประกอบกับฟังก์ชั่นของแผ่นรองนอนที่นำมาวางเสริมบนที่นอน จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของที่นอนได้มากขึ้น เพราะที่นอนไม่ยุบตัวระหว่างการนอนมากนัก จึงทำให้ไม่เสื่อมสภาพไว แถมยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองให้กับที่นอนได้เป็นอย่างดี และยังทำความสะอาด เคลื่อนย้ายได้สะดวกอีกด้วย
4. ผ้าห่ม Blanket
การสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย หรือทำให้อุณหภูมิของร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสมขณะนอนหลับ และช่วย แก้นอนไม่หลับ ด้วยการเลือกผ้าห่มที่เหมาะกับแต่ละคนนั้น จะช่วยให้นอนหลับสนิท และสบายยิ่งขึ้น เพราะไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวจนเกินไป ซึ่งผ้าห่มมีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุในการผลิต และความชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น
ผ้าห่มนาโน
ด้วยเนื้อผ้าที่ละเอียด เนียน และไม่เป็นขุย น้ำหนักเบา จึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี
ผ้าห่มนวม
เป็นที่นิยมใช้ของหลายๆ บ้าน เพราะจะมาคู่กับผ้าปูที่นอน และปลอกหมอน เป็นผ้าห่มที่ให้ความอบอุ่นได้ดีในช่วงหน้าหนาว แม้จะมีน้ำหนักเบาก็ตาม ส่วนใหญ่ทำจากใยสังเคราะห์ครับ
ผ้าห่มไฟฟ้า
ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยตัว หรือหลังของผู้นอน และเหมาะสำหรับผู้สูงวัย เด็ก หรือคุณแม่หลังคลอด ซึ่งให้ความอบอุ่นกับร่างกายในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะร้อนเกินไประหว่างการนอนหลับ
5. ผ้าคลุมเตียง Bed cover
อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนน่าพักผ่อน และช่วยป้องกันสิ่งสกปรก ไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และเศษฝุ่นละอองต่างๆ ที่มองไม่เห็นนั้นคือ การเลือกใช้ผ้าคลุมเตียง หรือ Bedspread ปูทับบนเตียงนอนหลังจากเก็บที่นอนเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ผ้าคลุมเตียงจะเป็นผ้าชั้นเดียว จึงง่ายต่อการทำความสะอาด โดยทั่วไปควรนำมาสะบัดไล่ฝุ่นละอองอยู่สม่ำเสมอประมาณ 2 – 3 วันครั้งครับ และเมื่อต้องการใช้เตียงนอนเพื่อพักผ่อนแนะนำให้เก็บผ้าคลุมเตียง ไม่ควรนำมาห่มแทนผ้านวม
" ผ้าคลุมเตียงมีให้เลือกใช้หลากหลายตามขนาดของเตียง ตั้งแต่ 3 ฟุต ไปจนถึง 6 ฟุต
และสามารถเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยครับ "
องค์ประกอบหลักที่ช่วยให้การนอนหลับถูกสุขลักษณะ หลับสบายตลอดทั้งคืน และ แก้นอนไม่หลับ ห่างไกลปัญหาสุขภาพนั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ง่าย และใกล้ตัวมากครับ เพียงแค่ทุกๆ บ้านต้องให้ความใส่ใจ และเลือกสรรเครื่องนอนที่ถูกต้องตามสรีระ และความเหมาะสมของแต่ละคนในครอบครัว ตามที่ HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้น แต่ทั้งนี้แม้ว่าจะเลือกที่นอน หมอนหนุน ผ้าห่ม ดีอย่างไรแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือ อย่าลืมจัดสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้สะอาด สวยงาม และน่าอยู่เสมอด้วยนะครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
รวม Top Item ในห้องนอน แก้นอนไม่หลับ
ว่าด้วยเรื่องของพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างห้องนอน ที่นอกเหนือจากการตกแต่ง และเลือกเฟอร์นิเจอร์เพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนกลายเป็นห้องนอนที่น่าอยู่ และผ่อนคลายแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่ HomeGuru หยิบยกมาฝากในวันนี้คือ แก้นอนไม่หลับ ด้วยการเลือกเครื่องนอน อย่างหมอนหนุน ผ้านวม แผ่นรองนอน (Topper) และที่นอน ที่มีดีไซน์ ฟีเจอร์ และฟังก์ชัน เพื่อช่วยให้การนอนหลับสนิทตลอดคืนครับ
เลือกไอเท็มเครื่องนอนอย่างไร ช่วยให้หลับสนิท
ชุดเครื่องนอนไม่ว่าจะเป็น หมอนหนุน ผ้านวม แผ่นรองนอน (Topper) สิ่งสำคัญที่ทุกๆ บ้าน ควรคำนึงถึงคือ เนื้อผ้ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เพราะเครื่องนอนเป็นไอเท็มที่สัมผัสกับผิวกาย และ ผิวหน้าของทุกคนในครอบครัวโดยตรง โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก และผู้สูงวัยที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หากเกิดการระคายเคืองจะส่งผลต่อการนอนหลับ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ครับ ดังนั้นจึงต้องคัดสรรเครื่องนอนที่มีกระบวนการผลิต และการออกแบบที่ละเอียดอ่อน รวมถึงผ่านการรับรอง หรือ Certificate จากหลากหลายสถาบันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าปลอดภัยกับทุกคนในครอบครัว
5 ไอเท็ม แก้นอนไม่หลับ ในห้องนอนที่ต้องใส่ใจเลือก
1. ที่นอน Mattress
การเลือกที่นอน 1 หลัง มีผลต่อสุขภาพของคนในบ้าน หากเลือกที่นอนไม่เหมาะสมกับสรีระของผู้นอนแต่ละคน อาจส่งผลต่ออาการปวดหลัง ปวดคอ และทำให้นอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืนได้เลยครับ โดยทั่วไปการเลือกที่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น ด้านความรู้สึกชอบ ไม่ชอบของผู้นอน ฟังก์ชั่นตอบรับกับสรีระ รวมถึงโครงสร้าง วัสดุในการผลิต และ แก้นอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลให้ที่นอนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น
ที่นอนยางพารา
จุดเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง ยุบตัวยาก จึงช่วยรองรับสรีระและบรรเทาอาการปวดหลังของผู้นอนได้ดี รวมถึงเป็นที่นอนที่ไม่สะสมฝุ่นและความชื้น ที่นอนยางพารา มี 2 ประเภทให้เลือกคือ ที่นอนที่ทำจากยางพาราแท้ 100% และที่นอนยางพาราอัด โดย ที่นอนยางพาราอัดจะมีความแน่นและแข็งมากกว่าที่นอนที่ทำจากยางพาราแท้ แต่จะรองรับสรีระของผู้นอนได้ไม่ดีเท่า เพราะด้วยกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันครับ หรือหากบ้านไหนมีผู้สูงวัยอาศัยอยู่ด้วย การเลือกใช้ที่นอนปรับระดับ ที่ผลิตจากยางพาราธรรมชาติ ก็สามารถช่วยรองรับสรีระร่างกายของผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดีเช่นกันครับ
ที่นอนสปริง
เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนบนที่นอนที่นุ่ม และเด้ง เพราะเป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ตัวสปริงมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ สปริงแบบออฟเซ็ท (offset Spring) สปริงแบบบอนแนลล์ (Bonnel Spring) และสปริงแบบพ็อกเก็ต (Pocket Spring) ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันแต่แนะนำให้เลือกสปริงที่สามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีเพื่อช่วย แก้นอนไม่หลับ ให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนครับ ข้อควรระวังของที่นอนสปริงคือ หากใช้เป็นระยะเวลานานตัวสปริงอาจจะเสื่อม หรือล้ม ทำให้ระหว่างการนอนเกิดเสียงรบกวนได้ครับ
ที่นอนเมมโมรี่โฟม
เป็นที่นอนที่มีความยืดหยุ่นสูง ยุบตัวตามน้ำหนักและสรีระของผู้นอน จึงทำให้รองรับสรีระ และกระจายแรงกดทับของผู้นอนได้เป็นอย่างดี แต่เวลานอนจะรู้สึกร้อน เนื่องจากที่นอนเมมโมรี่โฟมไม่มีรูระบายอากาศ
ที่นอนฟองน้ำอัด
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบนอนที่นอนนิ่ม ซึ่งตัวที่นอนมีความแน่นทำให้ที่นอนเกิดการยุบตัวน้อย มีความยืดหยุ่นต่ำ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เปียกน้ำ เพราะด้วยวัสดุในการผลิตอย่างฟองน้ำ ที่ดูดซึมน้ำไว อาจทำให้เกิดความชื้นได้ครับ
หมอนเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ช่วย แก้นอนไม่หลับ ให้นอนหลับพักผ่อนได้ยาวนาน และสนิทตลอดทั้งคืน เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เวลานอนราวๆ 6 – 8 ชั่วโมง หากเลือกหมอนไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในการนอน อาจส่งผลต่อปัญหาเรื่องสุขภาพ ปวดต้นคอ ภูมิแพ้ หรือเป็นหวัดได้เช่นกันครับ ซึ่งปัจจุบันหมอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ หมอนสุขภาพ ที่มีให้เลือกหลากหลายตามวัสดุในการผลิต และตามอาการของผู้นอน เช่น หมอนขนเป็ด ขนห่าน , หมอนชาโคล , หมอนยางพารา , หมอนสำหรับเด็ก และหมอนเมมโมรี่โฟม ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญในการเลือกหมอนที่ดีคือ เลือกหมอนที่ถูกสุขลักษณะอนามัย และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายครับ
“ท็อปเปอร์ – Topper” หรือ “แผ่นรองนอน” อีกหนึ่งตัวช่วย แก้นอนไม่หลับ ที่ทำให้นอนหลับได้เต็มอิ่มตลอดทั้งคืน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของหลายๆ บ้านครับ เช่น ท็อปเปอร์ฟองน้ำ ท็อปเปอร์ยางพารา ท็อปเปอร์ใยมะพร้าว ท็อปเปอร์ขนสัตว์ และท็อปเปอร์ที่ทำจากเส้นใยต่างๆ เพราะคุณสมบัติของท็อปเปอร์ไม่เพียงแต่ให้ความนุ่มสบายมากขึ้นระหว่างการนอน แต่ยังช่วยลดแรงกดทับบริเวณหลัง และกระจายน้ำหนักของร่างกายได้ดี แถมช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลัง ไม่ว่าจะนอนในท่าใดก็ตามครับ
การสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย หรือทำให้อุณหภูมิของร่างกายอยู่ในระดับที่เหมาะสมขณะนอนหลับ และช่วย แก้นอนไม่หลับ ด้วยการเลือกผ้าห่มที่เหมาะกับแต่ละคนนั้น จะช่วยให้นอนหลับสนิท และสบายยิ่งขึ้น เพราะไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวจนเกินไป ซึ่งผ้าห่มมีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุในการผลิต และความชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น
ผ้าห่มนาโน
ด้วยเนื้อผ้าที่ละเอียด เนียน และไม่เป็นขุย น้ำหนักเบา จึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี
ผ้าห่มนวม
เป็นที่นิยมใช้ของหลายๆ บ้าน เพราะจะมาคู่กับผ้าปูที่นอน และปลอกหมอน เป็นผ้าห่มที่ให้ความอบอุ่นได้ดีในช่วงหน้าหนาว แม้จะมีน้ำหนักเบาก็ตาม ส่วนใหญ่ทำจากใยสังเคราะห์ครับ
ผ้าห่มไฟฟ้า
ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยตัว หรือหลังของผู้นอน และเหมาะสำหรับผู้สูงวัย เด็ก หรือคุณแม่หลังคลอด ซึ่งให้ความอบอุ่นกับร่างกายในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะร้อนเกินไประหว่างการนอนหลับ
5. ผ้าคลุมเตียง Bed cover
อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนน่าพักผ่อน และช่วยป้องกันสิ่งสกปรก ไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และเศษฝุ่นละอองต่างๆ ที่มองไม่เห็นนั้นคือ การเลือกใช้ผ้าคลุมเตียง หรือ Bedspread ปูทับบนเตียงนอนหลังจากเก็บที่นอนเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ผ้าคลุมเตียงจะเป็นผ้าชั้นเดียว จึงง่ายต่อการทำความสะอาด โดยทั่วไปควรนำมาสะบัดไล่ฝุ่นละอองอยู่สม่ำเสมอประมาณ 2 – 3 วันครั้งครับ และเมื่อต้องการใช้เตียงนอนเพื่อพักผ่อนแนะนำให้เก็บผ้าคลุมเตียง ไม่ควรนำมาห่มแทนผ้านวม
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE