มนาปทายี ลภเต มนาปํ
โย อุชุภูเตสุ ททาติ ฉนฺทสา
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ
นานปฺปการานิ จ ปจฺจยานิ
จตฺตญฺจ มุตฺตญฺจ อนุคฺค
ตํ
เขตฺตูปเม อรหนฺเต วิทิตฺวา
โส ทุจฺจชํ สปฺปุริโส จชิตฺวา
มนาปทายี ลภเต มนาปนฺติ ฯ
ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ใดย่อมให้เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน ข้าว น้ำ และปัจจัยมีประการต่างๆ ด้วยความพอใจ ในท่านผู้ประพฤติตรง สิ่งของที่ให้ไปแล้วนั้น ย่อมเป็นของที่บริจาคแล้ว สละแล้ว ไม่คิดเอาคืน ผู้นั้นเป็นสัปบุรุษทราบชัดว่า พระอรหันต์เปรียบด้วยนาบุญ บริจาคสิ่งที่บริจาคได้ยากแล้ว ชื่อว่าให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ดังนี้ ฯ
ขอผู้รู้ช่วยแปลบาลีบทนี้บรรทัดต่อบรรทัดให้ด้วยครับ
โย อุชุภูเตสุ ททาติ ฉนฺทสา
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ
นานปฺปการานิ จ ปจฺจยานิ
จตฺตญฺจ มุตฺตญฺจ อนุคฺคตํ
เขตฺตูปเม อรหนฺเต วิทิตฺวา
โส ทุจฺจชํ สปฺปุริโส จชิตฺวา
มนาปทายี ลภเต มนาปนฺติ ฯ
ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ใดย่อมให้เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน ข้าว น้ำ และปัจจัยมีประการต่างๆ ด้วยความพอใจ ในท่านผู้ประพฤติตรง สิ่งของที่ให้ไปแล้วนั้น ย่อมเป็นของที่บริจาคแล้ว สละแล้ว ไม่คิดเอาคืน ผู้นั้นเป็นสัปบุรุษทราบชัดว่า พระอรหันต์เปรียบด้วยนาบุญ บริจาคสิ่งที่บริจาคได้ยากแล้ว ชื่อว่าให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ดังนี้ ฯ