ขณะนี้ covid ระบาดมากในเมืองไทย
มีการติดเชื้อวันละ 15,000 ถึง 16,000 คน
เราจะป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างไร
1.เราไม่ทราบว่าใครกำลังติดเชื้อโควิดอยู่
เพราะ 80% ของผู้ป่วย covid ระยะแรกจะยังไม่มีอาการไข้ แต่สามารถแพร่เชื้อได้โดยการไอจาม
การติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งต่างๆติดมือมาเข้าจมูกหรือปากพบน้อยมากๆ
2.การไอและจามแต่ละครั้งจะมีละอองฝอย เป็นdroplets spreading พุ่งออกไปได้ไกล 2-6 เมตร
(การแพร่เชื้อแบบ aerosol หรือairborne spreading มักไม่พบในบ้าน
แต่การไอจามอาจไปได้ไกลกว่า 2 ถึง 6 เมตรถ้าไออยู่เหนือลมหรือหน้าแอร์ หรืออยู่ในสถานที่ในห้องแคบ)
3.ละอองฝอยใหญ่ๆ มักจะตกสู่พื้น เชื้อมักจะตายเมื่อแห้ง
ส่วนละอองฝอยขนาด 100 ไมครอนจะติดอยู่ที่เยื่อบุจมูกและคอ
ส่วนละอองฝอยเล็กขนาด 10 ไมครอนที่อาจมีเชื้อ covid19 ขนาด 2.5 nm จะเข้าไปในปอดได้
4.ในช่วง 1 เดือนที่มีการระบาดมากที่ผ่านมานี้
คนที่อยู่บ้านเดียวกันมักไม่ค่อยใส่หน้ากาก
เมื่อมีคนติดเชื้อมาจากที่ทำงาน เมื่อกลับเข้ามาบ้านไอจามออกมาโดยไม่ใส่หน้ากาก ใส่หน้าคนในบ้านเช่นภรรยาลูก พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
ไอหนึ่งครั้งจะมีละอองฝอยเล็กๆที่มีเชื้อโควิด เข้าไปในปอดของผู้ถูกไอที่ไม่ใส่หน้ากากระยะ 2 เมตร ยกตัวอย่างง่ายๆประมาณ 5000 -10000 ตัวต่อครั้ง
ถ้ายังถูกไอใส่หน้าซัก 10 ครั้งก็ได้เชื้อcovidประมาณ 50,000 ถึงแสนตัว
5.เมื่อเชื้อโควิดเข้าสู่ปอดก็จะไปติดเชื้อที่เซลล์ของปอดและแบ่งตัวในเซลล์ปอดซึ่งประมาณ 1-3วันก็จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เท่าถึงพันเท่า ออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อและตายออกมา
ทำให้เกิดการระคายเคืองอยากไอ จามออกมา
ถ้าไอเชื้อบางส่วนก็จะออกมาจากการไอ แพร่เชื้อให้คนอื่นต่อไป ในช่วงแรกอาจยังไม่มีไข้
ซึ่งการไอออกไป อาจจะลดปริมาณเชื้อในปอดลงไปได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ตามเชื้อที่อยู่ในปอดก็จะมียังมีอยู่มากที่จะกลับเข้าไปในเซลล์ปอดข้างเคียง เกิดการติดเชื้อซ้ำเข้าไปใหม่และขยายพันธุ์เพิ่มไปเรื่อยๆ
คนภูมิต้านทานต่ำ เช่นคนสูงอายุ อ้วน มีโรคประจำตัว
อาจเกิดปอดอักเสบรุนแรงทำให้ต้องให้ออกซิเจนหรือต้องใส่ท่อเข้าหลอดลมต่อเครื่องช่วยหายใจหรือรุนแรงมากจนถึงตายได้
การป้องกัน
1.ต้องพยายามไม่ให้ได้รับเชื้อ หรือรับเชื้อให้น้อยที่สุดโดยการใส่หน้ากาก100% เมื่ออยู่กับผู้อื่นในบ้าน
2.เมื่อจะกินหรือดื่มที่ต้องถอดหน้ากาก อาจต้องกินแยกจากคนอื่น
3.ถ้าสามารถแยกห้องนอนได้ก็จะดี
หรือถ้ามีที่จำกัดพยายามให้คนที่ไอจามใส่หน้ากากตอนนอนหรือแยกไปนอนคนละห้องกับคนปกติ
3.บังคับให้ทุกคนที่ไอหรือจามต้องใช้มือปิดปากปิดจมูก 100% ไม่ว่าจะกำลังใส่หน้ากากหรือไม่
เพราะถ้าผู้ป่วยใส่หน้ากากไอจาม และปิดปากและจมูก
จะมีเชื้อออกมาน้อยมากๆ
และคนทั่วไปถ้าใส่หน้ากากป้องกันไว้ ก็อาจจะรับเชื้อเข้าปอดน้อยมากๆ
และถ้าได้รับเชื้อที่น้อยๆ ก็จะไม่ทำให้เกิดโรค
แต่อาจจะทำให้เกิดภูมิต้านทานเกิดขึ้น
4.ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีน
ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดไหน
ถ้าได้ครบ2โด๊ส
จะป้องกันการป่วยรุนแรงและตายได้
ซึ่งจะขอกล่าวเรื่องการฉีดวัคซีน แต่ละประเภทในภายหลังอีกครั้งครับ
นพ.สุทธิศักดิ์ วุฒิพันธ์เรืองชัย 28กค.2564
หรือรอดูในfacebook หมอหูคอจมูก
#COVID19ครับ
จะป้องกันโควิดในครอบครัวอย่างไร
มีการติดเชื้อวันละ 15,000 ถึง 16,000 คน
เราจะป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างไร
1.เราไม่ทราบว่าใครกำลังติดเชื้อโควิดอยู่
เพราะ 80% ของผู้ป่วย covid ระยะแรกจะยังไม่มีอาการไข้ แต่สามารถแพร่เชื้อได้โดยการไอจาม
การติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งต่างๆติดมือมาเข้าจมูกหรือปากพบน้อยมากๆ
2.การไอและจามแต่ละครั้งจะมีละอองฝอย เป็นdroplets spreading พุ่งออกไปได้ไกล 2-6 เมตร
(การแพร่เชื้อแบบ aerosol หรือairborne spreading มักไม่พบในบ้าน
แต่การไอจามอาจไปได้ไกลกว่า 2 ถึง 6 เมตรถ้าไออยู่เหนือลมหรือหน้าแอร์ หรืออยู่ในสถานที่ในห้องแคบ)
3.ละอองฝอยใหญ่ๆ มักจะตกสู่พื้น เชื้อมักจะตายเมื่อแห้ง
ส่วนละอองฝอยขนาด 100 ไมครอนจะติดอยู่ที่เยื่อบุจมูกและคอ
ส่วนละอองฝอยเล็กขนาด 10 ไมครอนที่อาจมีเชื้อ covid19 ขนาด 2.5 nm จะเข้าไปในปอดได้
4.ในช่วง 1 เดือนที่มีการระบาดมากที่ผ่านมานี้
คนที่อยู่บ้านเดียวกันมักไม่ค่อยใส่หน้ากาก
เมื่อมีคนติดเชื้อมาจากที่ทำงาน เมื่อกลับเข้ามาบ้านไอจามออกมาโดยไม่ใส่หน้ากาก ใส่หน้าคนในบ้านเช่นภรรยาลูก พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
ไอหนึ่งครั้งจะมีละอองฝอยเล็กๆที่มีเชื้อโควิด เข้าไปในปอดของผู้ถูกไอที่ไม่ใส่หน้ากากระยะ 2 เมตร ยกตัวอย่างง่ายๆประมาณ 5000 -10000 ตัวต่อครั้ง
ถ้ายังถูกไอใส่หน้าซัก 10 ครั้งก็ได้เชื้อcovidประมาณ 50,000 ถึงแสนตัว
5.เมื่อเชื้อโควิดเข้าสู่ปอดก็จะไปติดเชื้อที่เซลล์ของปอดและแบ่งตัวในเซลล์ปอดซึ่งประมาณ 1-3วันก็จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เท่าถึงพันเท่า ออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อและตายออกมา
ทำให้เกิดการระคายเคืองอยากไอ จามออกมา
ถ้าไอเชื้อบางส่วนก็จะออกมาจากการไอ แพร่เชื้อให้คนอื่นต่อไป ในช่วงแรกอาจยังไม่มีไข้
ซึ่งการไอออกไป อาจจะลดปริมาณเชื้อในปอดลงไปได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ตามเชื้อที่อยู่ในปอดก็จะมียังมีอยู่มากที่จะกลับเข้าไปในเซลล์ปอดข้างเคียง เกิดการติดเชื้อซ้ำเข้าไปใหม่และขยายพันธุ์เพิ่มไปเรื่อยๆ
คนภูมิต้านทานต่ำ เช่นคนสูงอายุ อ้วน มีโรคประจำตัว
อาจเกิดปอดอักเสบรุนแรงทำให้ต้องให้ออกซิเจนหรือต้องใส่ท่อเข้าหลอดลมต่อเครื่องช่วยหายใจหรือรุนแรงมากจนถึงตายได้
การป้องกัน
1.ต้องพยายามไม่ให้ได้รับเชื้อ หรือรับเชื้อให้น้อยที่สุดโดยการใส่หน้ากาก100% เมื่ออยู่กับผู้อื่นในบ้าน
2.เมื่อจะกินหรือดื่มที่ต้องถอดหน้ากาก อาจต้องกินแยกจากคนอื่น
3.ถ้าสามารถแยกห้องนอนได้ก็จะดี
หรือถ้ามีที่จำกัดพยายามให้คนที่ไอจามใส่หน้ากากตอนนอนหรือแยกไปนอนคนละห้องกับคนปกติ
3.บังคับให้ทุกคนที่ไอหรือจามต้องใช้มือปิดปากปิดจมูก 100% ไม่ว่าจะกำลังใส่หน้ากากหรือไม่
เพราะถ้าผู้ป่วยใส่หน้ากากไอจาม และปิดปากและจมูก
จะมีเชื้อออกมาน้อยมากๆ
และคนทั่วไปถ้าใส่หน้ากากป้องกันไว้ ก็อาจจะรับเชื้อเข้าปอดน้อยมากๆ
และถ้าได้รับเชื้อที่น้อยๆ ก็จะไม่ทำให้เกิดโรค
แต่อาจจะทำให้เกิดภูมิต้านทานเกิดขึ้น
4.ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีน
ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดไหน
ถ้าได้ครบ2โด๊ส
จะป้องกันการป่วยรุนแรงและตายได้
ซึ่งจะขอกล่าวเรื่องการฉีดวัคซีน แต่ละประเภทในภายหลังอีกครั้งครับ
นพ.สุทธิศักดิ์ วุฒิพันธ์เรืองชัย 28กค.2564
หรือรอดูในfacebook หมอหูคอจมูก
#COVID19ครับ