"ภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติไม่ได้เกิดขึ้นมาจากวัคซีน" สมัยก่อนไม่มีวัคซีนแต่มนุษย์ก็รอดจากไวรัสได้จนถึงวันนี้

รู้ได้ยังไงว่าวัคซีนมันไม่ได้เร่งให้ไวรัสที่ระบาดอยู่มันกลายพันธุ์ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และเล็ดรอดภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ดีขึ้น? ต่อให้ผลิตออกมาเป็นรุ่นไหน เจนไหนหรือผลิตออกมาตอบสนองกับไวรัสได้เร็วขนาดไหน แต่ไม่เกินหกเดือนก็ต้องผลิตวัคซีนตัวใหม่ เพราะรองรับสายพันธุ์ใหม่ที่มันระบาดเพราะวัคซีนตัวเดิมมันเอาไม่อยู่ใช่หรือไม่? แต่ถ้าทุกคนร่วมกันทำสิ่งที่ง่ายกว่า ที่ทุกคนทำได้เลยโดยไม่ต้องพึงพาหรือรอคอยวัคซีน เช่นการเว้นระยะห่างและรักษาความสะอาด กักตัวอยู่บ้าน ใส่หน้ากากทุกครั้งทุกที่ ย่อมเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและลดการกระจายของเชื้อได้ ถ้าคนไม่ติดเชื้อกัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนครับ ทำไมต้องทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก? ฝากไว้ให้พิจารณาดูครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
ทุกอย่างใช้ควบคู่กันก็โอเคนะ (ไม่ได้เรียงตามลำดับความสำคัญก่อนหลังนะ)
- วัคซีน
- ยา
- สมุนไพร
- มาตรการป้องกัน
- มาตรการเยียวยา
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันส่วนตัว
- ลดความเครียด

ร่างกายคนเราเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาดีมากนะ มันสามารถสร้างภูมิขจัดเชื้อโรคได้  แต่ขณะเดียวกันพระเจ้าก็ให้สติปัญญามนุษย์ในการสร้างยา และวัคซีนด้วย ก็ควรใช้ให้คุ้มและบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดจริงไหม

อีกอย่างที่สำคัญคือการที่เราต้อง up ระบบภูมิคุ้มกันในตัวให้พร้อมสู้อยู่เสมอ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินวิตามิน จากในผักผลไม้ก็ได้ ออกกำลังกาย และลดความเครียด พวกเหล้ายาสิ่งเสพติดนี่ควรงด ไม่ใช่เอะอะนัดเพื่อนพาที่ (party) งดๆ บ้างก็ได้ช่วงนี้ และลดความเครียด ความเครียดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร รัฐต้องช่วยลดความเครียดประชาชนด้วยการเยียวยาและมีมาตรการช่วยเหลือ (บางคนเครียดมากเป็นพิเศษวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน) เราทุกคนก็ต้องช่วยกันในสิ่งที่ตนเองทำได้ เป็นกำลังใจให้เหล่าบุคลากรด่านหน้าทุกท่านด้วยจ้า ที่พวกท่านจะได้พักผ่อนและหายเหนื่อยโดยไว รวมถึงผู้ป่วยทุกคนด้วย โดยเฉพาะผู้รอเตียงขอให้เข้าสู่ระบบการรักษาโดยไว ผู้ที่ต้องการการเยียวยาและความช่วยเหลือก็ขอให้ได้รับทุกคน หวังว่าเราจะผ่านมันไปได้โดยเร็ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
จขกท. คุณเอาประเด็น "ภูมิคุ้มกันหมู่" เขียนแบบให้คนเข้าใจผิดขึ้นต้น ขึ้นตั้งแต่หัวกระทู้ แล้วเขียนย้ำต่ออีกหลายบรรทัด ว่าไม่เห็นต้องรอวัคซีน ออกมาขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้
เพราะคนอ่านเริ่มต้น สรุปข้อความไปแล้ว ว่าสิ่งที่คุณบอกคุณบอกไม่ต้องรอวัคซีน แค่อยู่กับบ้านกักตัวเว้นระยะ ก็เกิดภูมิคุ้มกันหมู่???

คุณลองอ่านที่คนอื่นตอบ ทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกัน ว่าคุณมีจุดประสงค์ว่าเพิกเฉยวัคซีน เพราะบอกชัดว่าเดี๋ยวก็มนุษย์รอดตาย วัคซีนออกมากี่รุ่นก็เท่านั้นหละ ไปช่วยอะไรได้ อยู่กับบ้านแล้วแก้ปัญหาของประเทศตอนนี้ได้

ผมไม่ห่วงท่านที่มาตอบราว 20 กว่าคนในนี้นี่หรอก แน่นอนว่าคนที่เข้ามาตอบ ไม่ใช่คนที่เห็นด้วย และคิดว่าเข้าใจ

แต่เป็นเรื่องอันตราย ถ้ามีจะมีคนมาอ่านอีกมาก เข้าใจผิดแบบคุณ ว่า "ภูมิคุ้มกันหมู่เกิดได้เอง" เพราะตอนนี้ มีคนส่วนหนึ่งปฎิเสธวัคซีนอยู่
และคนส่วนหนึ่งในนั้น ก็เป็นกลุ่มเสี่ยง แล้วพาคนที่เหลือต้องเสี่ยงไปด้วย ทำหมอทำงานหนัก เพราะไม่ฟังคำพูด "เว้นระยะห่าง" อะไร ที่รณรงค์กันหรอก ดูอย่างสวมหน้ากาก มีคนที่ไม่ยอมรับจนเห็นคนป่วยเยอะ ตายเยอะ ถึงได้เริ่มเชื่อ


ผมมาเสียเวลาตอบหลายรอบแบบนี้ เพราะเห็นถึงอันตรายตรงนี้ ว่าคุณเล่นขึ้นต้นในสิ่งที่คุณไม่รู้
คนอื่นทักท้วง ว่าเข้าใจผิด ยังไม่เข้าใจ ไม่แก้ไขอีก
สิ่งที่เขียนต่อ ๆๆๆๆ ท่องว่ากักตัว เว้นระยะ ในนี้ ไม่มีใครไม่เห็นด้วย เพราะคนอื่นได้ยินมาหมดแล้ว

แต่ไม่เห็นด้วย ในสิ่งที่คุณเขียนชี้นำ ว่าวัคซีนไม่ต้องสนใจมาก แก้ปัญหาชาติได้ขณะนี้
ประเด็นหลักของกระทู้ "ภูมิคุ้มกันหมู่เกิดเองได้" "วัคซีนไม่ต้องสนใจ" เป็นเรื่องชี้นำผิดพลาด


ความคิดเห็นที่ 10
"ภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติไม่ได้เกิดขึ้นมาจากวัคซีน"

แต่จขกท. ไม่ได้เขียนให้จบ (ด้วยความไม่รู้ หรือว่า รู้แต่ไม่เขียน?)

"ต้องให้คนที่อยากมีภูมิ ติดไวรัส แล้วไม่ตาย
คนรอดคือ ร่างกายสร้างภูมิในระดับทนทาน
คนที่ร่างกายไม่เจ๋งพอ สร้างภูมิคุ้มกันแย่ ไม่พอต้านทานได้ ก็ตาย ๆ ไปซะ
ผลคือไวรัสจะเหลือน้อย หรือในที่สุดไม่เหลือเลย เพราะแพร่ไป ก็ไปเจอกำแพง ส่วนที่ทะลุกำแพงได้ ก็ม่องเท่งไปหาท่านยม เกลื่อนเมืองไปหมดแล้ว"


ไม่ติดไวรัส ไม่สามารถสร้างภูมิคัมกันได้เองนะครับ
ไม่งั้นมันคือไสยศาสตร์แล้ว  อยู่ ๆ สร้างภูมิคุ้มกันได้เอง เหมือนมีเวทมนตร์ดลบันดาล
ความคิดเห็นที่ 8
ลองดูไข้หวัดสเปน กว่าจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ที่ว่า คือติดเชื้อห้าร้อยล้านคนทั่วโลก เสียชีวิตประมาณ 50-100 ล้านคน

      ยังไง มีวัคซีนให้ฉีด ย่อมดีกว่า ปล่อยให้ติดกันเยอะๆ เพื่อให้เกิด herd immunity ที่ว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่