แค่ข้อสังเกตจาก จขกท. คนเดียวนะ
ตะกี้พอดีพยาบาลจากโรงพยาบาลรัฐกึ่งเอกชน โทรมา เรื่องที่จะขอ re-fill ยาทางไปรษณีย์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด
ตอนแรกคุณพยาบาลก็ถามว่า ยาอะไร ตัวเดิมใช่มั้ย ขอกี่เดือน
เราก็บอกชื่อยา และจำนวนเดือนที่จะขอ (ซื้อ)
พอไป ๆ มา ๆ คุณพยาบาลก็ถามว่าแล้วมีสิทธิเท่าไหร่ เบิกอะไร เบิกประกันได้เท่าไหร่
เราก็บอกไปว่า มีประกันของบริษัท... แบบ OPD เบิกได้ครั้งละ 2000 บาทค่ะ
พยาบาลก็ถามว่า แล้วปกติได้ยากี่เม็ด พยาบาลก็พูดว่า "ถามด้วยความเป็นห่วงนะคะ กลัวจะไม่อยู่ในวงเงิน"
เราก็อึ้งเล็กน้อย บอกปกติได้ เดือนละ 7 เม็ด 6 เดือนก็ 7*6 = 42 เม็ดค่ะ ปกติค่ายาอยู่ที่ราว ๆ 900 บาท ค่าหมอด้วย 500 บาท ก็จะ 1400 บาท ก็ยังอยู่ในประกันนะคะ ที่ผ่านมาไม่เคยเกินวงเงิน 2000 บาทเลย ยกเว้นถ้าที่นี่จะคิดค่าหมอกับค่ายา สูงขึ้นราว ๆ อีก 50% ก็อาจจะไม่พอ แล้วเราถามกลับไปว่าค่าหมอกับค่ายา ณ ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่
พยาบาลก็ทำงง ๆ ไป แล้วบอกว่าจะขอไปคุยกับเภสัชว่า 1 กล่องมีกี่เม็ด และราคายาเท่าไหร่ แต่จะคิดค่าหมอแน่นอน (ก็ไม่หาข้อมูลมาให้ดีก่อนเนอะ)
*****************************************************************************************
แต่สงสัยว่าเดี๋ยวนี้ โรงพยาบาลอะไรก็คิด เรื่องเงินเรื่องทองก่อนนะคะ
ไม่ได้เป็นห่วงอาการ ว่าจะมียาพอกินมั้ย ควรจะจ่ายให้กี่เดือนดี แต่"เป็นห่วง"ว่าวงเงินประกันจะพอให้เบิกมั้ยยยย (ท่าทางคงจะกลับไปคำนวณให้อยู่ในงบ 2000 บาท ให้เป๊ะ ๆ หรือเปล่า อันนี้คิดในใจนะ) ซาบซึ้งจริง ๆ ค่ะ
-------
ปล. ทำไม จขกท. ถึงคิดว่า โรงพยาบาลชอบคิดค่ารักษาให้อยู่ในวงเงินประกัน
เพราะเคยมีปีก่อน ๆ ที่ จขกท. มีประกัน OPD วงเงิน 4000 บาท ไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยโรคหวัดธรรมดา หมอก็ดูวงเงินบัตรประกัน แล้วก็ค่อยจ่ายยานะ
และเป็นไปตามคาด คือ
ค่าหมอ+ค่ายา รวมกันอยู่ประมาณ 3,9xx บาท (ตอนนั้น ก็สงสัย อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น) ดีนะที่มีประกัน
แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว จากที่ดูข่าวโควิด
รู้เลย ว่าโรงพยาบาลจะดูก่อนว่าเรามีสิทธิอะไร แล้วรักษาตามสิทธิเรา พยายามไม่ให้เกินงบ เพราะไม่อยากคิดตังกับลูกค้า (ไม่รู้ว่าลูกค้ามีตังพอจ่ายมั้ย) คิดตังกับสิทธิต่าง ๆ น่าจะง่ายกว่า
และถ้าจริง ๆ ราคาเกินมา 100-200 บาท แต่สมเหตุสมผลกับการรักษาโรค คุณภาพการบริการ คุณภาพการรักษา เราก็ยินดีจ่ายส่วนเกินให้นะ
แต่โรงพยาบาลคงคิดอีกแบบนึง คือ จะคิดว่าบีบค่ารักษาให้อยู่ในสิทธิที่คน ๆ นี้มียังไงง่ายกว่า เหอะ ๆ
ถ้าสิทธิรักษาไม่ค่อยดี คุณจะอยู่ priority หลัง ๆ เลย (อันนี้ว่ากันตามจริงนะ อย่าดราม่า)
เพราะฉะนั้น ใครพอบริหารจัดการได้ ก็ควรซื้อประกันสุขภาพไว้ ยามเข้าโรงพยาบาลละ จำเป็นทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เค้าจะถามคุณก่อนการรักษาใด ๆ เลย
--------
แล้วเพื่อน ๆ ละคะ เคยมีประสบการณ์แบบนี้ เวลาไปโรงพยาบาล โดนถามเรื่องสิทธิก่อนเลยว่า วงเงินเท่าไหร่
หรือไปเจอค่ารักษา ที่อยู่ในวงเงินพอดีเป๊ะ กันบ้างไหมคะ มาแชร์กัน
เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลรัฐกึ่งเอกชน อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมดแล้วเหรอคะ
ตะกี้พอดีพยาบาลจากโรงพยาบาลรัฐกึ่งเอกชน โทรมา เรื่องที่จะขอ re-fill ยาทางไปรษณีย์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด
ตอนแรกคุณพยาบาลก็ถามว่า ยาอะไร ตัวเดิมใช่มั้ย ขอกี่เดือน
เราก็บอกชื่อยา และจำนวนเดือนที่จะขอ (ซื้อ)
พอไป ๆ มา ๆ คุณพยาบาลก็ถามว่าแล้วมีสิทธิเท่าไหร่ เบิกอะไร เบิกประกันได้เท่าไหร่
เราก็บอกไปว่า มีประกันของบริษัท... แบบ OPD เบิกได้ครั้งละ 2000 บาทค่ะ
พยาบาลก็ถามว่า แล้วปกติได้ยากี่เม็ด พยาบาลก็พูดว่า "ถามด้วยความเป็นห่วงนะคะ กลัวจะไม่อยู่ในวงเงิน"
เราก็อึ้งเล็กน้อย บอกปกติได้ เดือนละ 7 เม็ด 6 เดือนก็ 7*6 = 42 เม็ดค่ะ ปกติค่ายาอยู่ที่ราว ๆ 900 บาท ค่าหมอด้วย 500 บาท ก็จะ 1400 บาท ก็ยังอยู่ในประกันนะคะ ที่ผ่านมาไม่เคยเกินวงเงิน 2000 บาทเลย ยกเว้นถ้าที่นี่จะคิดค่าหมอกับค่ายา สูงขึ้นราว ๆ อีก 50% ก็อาจจะไม่พอ แล้วเราถามกลับไปว่าค่าหมอกับค่ายา ณ ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่
พยาบาลก็ทำงง ๆ ไป แล้วบอกว่าจะขอไปคุยกับเภสัชว่า 1 กล่องมีกี่เม็ด และราคายาเท่าไหร่ แต่จะคิดค่าหมอแน่นอน (ก็ไม่หาข้อมูลมาให้ดีก่อนเนอะ)
*****************************************************************************************
แต่สงสัยว่าเดี๋ยวนี้ โรงพยาบาลอะไรก็คิด เรื่องเงินเรื่องทองก่อนนะคะ
ไม่ได้เป็นห่วงอาการ ว่าจะมียาพอกินมั้ย ควรจะจ่ายให้กี่เดือนดี แต่"เป็นห่วง"ว่าวงเงินประกันจะพอให้เบิกมั้ยยยย (ท่าทางคงจะกลับไปคำนวณให้อยู่ในงบ 2000 บาท ให้เป๊ะ ๆ หรือเปล่า อันนี้คิดในใจนะ) ซาบซึ้งจริง ๆ ค่ะ
-------
ปล. ทำไม จขกท. ถึงคิดว่า โรงพยาบาลชอบคิดค่ารักษาให้อยู่ในวงเงินประกัน
เพราะเคยมีปีก่อน ๆ ที่ จขกท. มีประกัน OPD วงเงิน 4000 บาท ไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยโรคหวัดธรรมดา หมอก็ดูวงเงินบัตรประกัน แล้วก็ค่อยจ่ายยานะ
และเป็นไปตามคาด คือ
ค่าหมอ+ค่ายา รวมกันอยู่ประมาณ 3,9xx บาท (ตอนนั้น ก็สงสัย อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น) ดีนะที่มีประกัน
แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว จากที่ดูข่าวโควิด
รู้เลย ว่าโรงพยาบาลจะดูก่อนว่าเรามีสิทธิอะไร แล้วรักษาตามสิทธิเรา พยายามไม่ให้เกินงบ เพราะไม่อยากคิดตังกับลูกค้า (ไม่รู้ว่าลูกค้ามีตังพอจ่ายมั้ย) คิดตังกับสิทธิต่าง ๆ น่าจะง่ายกว่า
และถ้าจริง ๆ ราคาเกินมา 100-200 บาท แต่สมเหตุสมผลกับการรักษาโรค คุณภาพการบริการ คุณภาพการรักษา เราก็ยินดีจ่ายส่วนเกินให้นะ
แต่โรงพยาบาลคงคิดอีกแบบนึง คือ จะคิดว่าบีบค่ารักษาให้อยู่ในสิทธิที่คน ๆ นี้มียังไงง่ายกว่า เหอะ ๆ
ถ้าสิทธิรักษาไม่ค่อยดี คุณจะอยู่ priority หลัง ๆ เลย (อันนี้ว่ากันตามจริงนะ อย่าดราม่า)
เพราะฉะนั้น ใครพอบริหารจัดการได้ ก็ควรซื้อประกันสุขภาพไว้ ยามเข้าโรงพยาบาลละ จำเป็นทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เค้าจะถามคุณก่อนการรักษาใด ๆ เลย
--------
แล้วเพื่อน ๆ ละคะ เคยมีประสบการณ์แบบนี้ เวลาไปโรงพยาบาล โดนถามเรื่องสิทธิก่อนเลยว่า วงเงินเท่าไหร่
หรือไปเจอค่ารักษา ที่อยู่ในวงเงินพอดีเป๊ะ กันบ้างไหมคะ มาแชร์กัน