พอดีผมติดตามเพจของเทเลกราฟ สื่ออังกฤษไว้ครับ วันก่อนมันเด้งขึ้นมาให้อ่าน คือ ผมก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ กระแดะเรื่องภาษาอะไรหรอกครับ แค่เอาไว้อัพเดทอยากรู้ว่าฝั่งตะวันตกเขาคุยเรื่องวัคซีนอะไรยังไงบ้าง
ผมก็ไล่อ่านๆ ดู คือ เค้าก็พาดหัวข่าวผมแปลแบบงูๆ ปลาๆ นะครับ เค้าบอกประมาณว่า "มีแผนจะฉีดไฟเซอร์กระตุ้น มันจำเป็นหรือไม่"
ผมก็ไล่ๆ อ่านแปลๆ ดีความดู ตอนนี้สายพันธ์ุเดลต้าน่าจะโหดสุดนะตอนนี้อ่ะครับ แล้วอังกฤษเค้ามีแผนที่จะฉีดกระตุ้นเพิ่มอีก ทางเพจเทเรกราฟเค้าก็กางประสิทธิภาพให้ดูเลยครับ ว่าที่อังกฤษฉีดตัวไหนบ้าง
ผมเข้าไปดูแล้วทึ่งเลยครับ อังกฤษฉีดวัคซีนหลากหลายยี่ห้อมาก
มี Pfizer, AstraZeneca, Valneva, GlaxoSmithKline, NovaVax, CureVac, Janssen และ Moderna
หลายๆ ตัวนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ 5555 รู้จักแต่ Pfizer, AstraZeneca, Moderna และ NovaVax ก็เพิ่งมีข่าวในไทย แต่ตัวอื่นนี่ไม่รู้จักสักตัว 5555
ที่อังกฤษเท่าที่ดูรูปในข่าวเค้าน่าจัดสรรไปแต่ละที่ในประเทศตามความเหมาะสม ตามกลุ่มอายุ ตามพื้นที่ คงน่าจะประมาณนั้นครับ
ผมไล่อ่านมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหมือนตัว AstraZeneca เค้ากำลังพัฒนาต่อเวอร์ชั่นใหม่เพื่อต้านตัวเดลต้า
เค้าเอามาเทียบประสิทธิให้ดูด้วยครับ ทั้ง Pfizer, AstraZeneca, Moderna และเค้าบอกว่า โมเดอร์น่าผลลัพท์ประสิทธิภาพออกมาเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วน โมเดอร์น่า เท่าที่อ่านเค้าบอกว่าค่อนข้างจะป้องกันคลอบคลุมได้หลายสายพันธ์ุ ใช้ศัพท์ว่า “multivalent” vaccine.
เค้ามาเทียบประสิทธิภาพให้ดูครับ
เข็มแรก
Pfizer, AstraZeneca ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 33% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 55%
เข็มสอง
Pfizer ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 88% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 93%
AstraZeneca ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 60% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 66%
ผมไล่อ่านลงมาเรื่อยๆ เค้าก็ควอทความเห็นบรรดานักวิทยาศาสตร์ และศาสตราจารย์เฉพาะทางหลายท่าน เค้ามาออกความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยประมาณว่า พวกประเทศร่ำรวยพวกแกอย่าเพิ่งเห็นแก่ตัว ควรแจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้ไปให้กับคนหลายพันล้านคนทั่วโลกที่ยังเข้าไม่ถึง อย่างน้อยให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงเข็มแรกก่อน อารมณ์ประมาณว่าพวกแกฉีดไปแล้วครบสองเข็ม ทั้งในอังกฤษและอเมริกา การกระตุ้นยังไม่จำเป็นตอนนี้
ตอนนี้ต้องรีบกระจายวัคซีนคุณภาพไปให้ทั่วโลกก่อน อะไรประมาณนั้นครับ
นักวิทยาศาตร์บางท่านแกก็มาให้ความเห็นว่า พวกประเทศร่ำรวยพวกแกฉีดเอาตัวรอดคนเดียว แล้วไม่กระจายให้ทั่วถึงนานาประเทศ สุดท้ายก็จะคุมไม่อยู่ อยู่ดี เพราะประเทศที่ไม่เข้าถึงวัคซีนจะกลายเป็นแหล่งเพราะเชื้อสายพันธ์ใหม่ๆที่พัฒนาและรุนแรงกว่าเดิม วัคซีนก็จะพัฒนาไม่ทัน
คือเท่าที่ผมตีความประมาณนั้นอ่ะครับ
บางท่านก็ตั้งข้อสงสัยเรื่องวิทยาศาตร์กับเรื่องศีลธรรม คือ ในข่าวใช่ศัพย์ว่า morally corrupt กับพวกประเทศร่ำรวย เหมือนเบรกไว้ก่อนว่ายังไม่จำเป็น พวกแกได้ฉีดไปแล้วให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดให้เขาก่อน
ประโยคย่อหน้าสุดท้าย ศาสตราจารย์ท่านนึงเค้ากล่าวว่า ก็คงมีแต่ประเทศร่ำรวยนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว แล้วมันก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หนังสืออาชญากรรม เค้าใช้คำว่า "History books will document this as a crime"
ประมาณนั้นอ่ะครับ ผมตีความผิดพลาดตรงไหนแก้หรือเสริมได้นะครับ ผมตีความคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
ลองไปอ่านต้นฉบับได้ครับ ตามลิ้งค์เว็บไซต์ของสื่ออังกฤษครับ ใครที่เก่งภาษาอังกฤษอาจจะอ่านเข้าใจมากกว่าผม
https://www.telegraph.co.uk/global-health/science-and-disease/pfizer-outlines-covid-19-booster-jab-plan-necessary/
อังกฤษจะฉีดไฟเซอร์เข็ม 3 กันเดลต้า นักวิทย์หลายคนไม่เห็นด้วยบอกว่าประเทศร่ำรวยอย่าเพิ่งเห็นแก่ตัว แจกให้ทั่วโลกก่อน
ผมก็ไล่อ่านๆ ดู คือ เค้าก็พาดหัวข่าวผมแปลแบบงูๆ ปลาๆ นะครับ เค้าบอกประมาณว่า "มีแผนจะฉีดไฟเซอร์กระตุ้น มันจำเป็นหรือไม่"
ผมก็ไล่ๆ อ่านแปลๆ ดีความดู ตอนนี้สายพันธ์ุเดลต้าน่าจะโหดสุดนะตอนนี้อ่ะครับ แล้วอังกฤษเค้ามีแผนที่จะฉีดกระตุ้นเพิ่มอีก ทางเพจเทเรกราฟเค้าก็กางประสิทธิภาพให้ดูเลยครับ ว่าที่อังกฤษฉีดตัวไหนบ้าง
ผมเข้าไปดูแล้วทึ่งเลยครับ อังกฤษฉีดวัคซีนหลากหลายยี่ห้อมาก
มี Pfizer, AstraZeneca, Valneva, GlaxoSmithKline, NovaVax, CureVac, Janssen และ Moderna
หลายๆ ตัวนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ 5555 รู้จักแต่ Pfizer, AstraZeneca, Moderna และ NovaVax ก็เพิ่งมีข่าวในไทย แต่ตัวอื่นนี่ไม่รู้จักสักตัว 5555
ที่อังกฤษเท่าที่ดูรูปในข่าวเค้าน่าจัดสรรไปแต่ละที่ในประเทศตามความเหมาะสม ตามกลุ่มอายุ ตามพื้นที่ คงน่าจะประมาณนั้นครับ
ผมไล่อ่านมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหมือนตัว AstraZeneca เค้ากำลังพัฒนาต่อเวอร์ชั่นใหม่เพื่อต้านตัวเดลต้า
เค้าเอามาเทียบประสิทธิให้ดูด้วยครับ ทั้ง Pfizer, AstraZeneca, Moderna และเค้าบอกว่า โมเดอร์น่าผลลัพท์ประสิทธิภาพออกมาเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วน โมเดอร์น่า เท่าที่อ่านเค้าบอกว่าค่อนข้างจะป้องกันคลอบคลุมได้หลายสายพันธ์ุ ใช้ศัพท์ว่า “multivalent” vaccine.
เค้ามาเทียบประสิทธิภาพให้ดูครับ
เข็มแรก
Pfizer, AstraZeneca ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 33% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 55%
เข็มสอง
Pfizer ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 88% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 93%
AstraZeneca ป้องกันสายพันธ์ุอินเดียได้ 60% และ ป้องกันสายพันธ์ุอังกฤษได้ 66%
ผมไล่อ่านลงมาเรื่อยๆ เค้าก็ควอทความเห็นบรรดานักวิทยาศาสตร์ และศาสตราจารย์เฉพาะทางหลายท่าน เค้ามาออกความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยประมาณว่า พวกประเทศร่ำรวยพวกแกอย่าเพิ่งเห็นแก่ตัว ควรแจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้ไปให้กับคนหลายพันล้านคนทั่วโลกที่ยังเข้าไม่ถึง อย่างน้อยให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงเข็มแรกก่อน อารมณ์ประมาณว่าพวกแกฉีดไปแล้วครบสองเข็ม ทั้งในอังกฤษและอเมริกา การกระตุ้นยังไม่จำเป็นตอนนี้
ตอนนี้ต้องรีบกระจายวัคซีนคุณภาพไปให้ทั่วโลกก่อน อะไรประมาณนั้นครับ
นักวิทยาศาตร์บางท่านแกก็มาให้ความเห็นว่า พวกประเทศร่ำรวยพวกแกฉีดเอาตัวรอดคนเดียว แล้วไม่กระจายให้ทั่วถึงนานาประเทศ สุดท้ายก็จะคุมไม่อยู่ อยู่ดี เพราะประเทศที่ไม่เข้าถึงวัคซีนจะกลายเป็นแหล่งเพราะเชื้อสายพันธ์ใหม่ๆที่พัฒนาและรุนแรงกว่าเดิม วัคซีนก็จะพัฒนาไม่ทัน
คือเท่าที่ผมตีความประมาณนั้นอ่ะครับ
บางท่านก็ตั้งข้อสงสัยเรื่องวิทยาศาตร์กับเรื่องศีลธรรม คือ ในข่าวใช่ศัพย์ว่า morally corrupt กับพวกประเทศร่ำรวย เหมือนเบรกไว้ก่อนว่ายังไม่จำเป็น พวกแกได้ฉีดไปแล้วให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดให้เขาก่อน
ประโยคย่อหน้าสุดท้าย ศาสตราจารย์ท่านนึงเค้ากล่าวว่า ก็คงมีแต่ประเทศร่ำรวยนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว แล้วมันก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หนังสืออาชญากรรม เค้าใช้คำว่า "History books will document this as a crime"
ประมาณนั้นอ่ะครับ ผมตีความผิดพลาดตรงไหนแก้หรือเสริมได้นะครับ ผมตีความคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ
ลองไปอ่านต้นฉบับได้ครับ ตามลิ้งค์เว็บไซต์ของสื่ออังกฤษครับ ใครที่เก่งภาษาอังกฤษอาจจะอ่านเข้าใจมากกว่าผม
https://www.telegraph.co.uk/global-health/science-and-disease/pfizer-outlines-covid-19-booster-jab-plan-necessary/