JJNY : นพ.ธีระชี้ติดเชื้อไทยที่1อาเซียน│ชาวอ.บางบาลจมบาดาลนานกว่า2ด.│ชาวนาโคราชทุกข์หนัก│ศาลนัดสืบพยานมี.ค.65ปมเสียบบัตร

นพ.ธีระ ชี้ ผู้ติดเชื้อไทยที่ 1 อาเซียน เผยวิจัย ไฟเซอร์ 2 เข็มภูมิคุ้มกันสูง
https://www.nationtv.tv/news/378851918
 
 
นพ.ธีระ ชี้ ยอดผู้ติดเชื้อไทยยังนำอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เผย ผลวิจัยอังกฤษ คนที่ฉีดวัคซีน Pfizer/Biontech ทั้งสองเข็ม จะมีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดี้สูงกว่าการฉีดวัคซีน Astra

12 พฤศจิกายน 2564  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 481,138 คน ตายเพิ่ม 6,340 คน รวมแล้วติดไปรวม 252,603,965 คน เสียชีวิตรวม 5,094,691 คน
 
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด คือ เยอรมัน สหราชอาณาจักร รัสเซีย อเมริกา และตุรกี จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.61 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.33
 
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 68.25% ของทั้งโลก พอๆ กับจำนวนเสียชีวิตเพิ่ม คิดเป็น 61.68% ทั้งสองตัวชี้วัดนี้ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรป ครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก

…สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 7,496 คน สูงเป็นอันดับ 18 ของโลก หากรวม ATK อีก 3,152 คน จะขยับเป็นอันดับ 14 ของโลก และยอดที่รวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
 
…เยอรมันเป็นอย่างไร? ตอนนี้ติดเชื้อใหม่สูงขึ้นทะลุกว่า 50,000 คน ที่น่ากลัวคือสูงกว่าปลายปีที่แล้วถึง 2 เท่า คงต้องเอาใจช่วยให้ควบคุมได้โดยเร็ว
 
…เดนมาร์กและชิลีเป็นอย่างไร? ล่าสุดเดนมาร์กหลังเปิดเสรีตั้งแต่ต้นกันยายน ยอดติดเชื้อเพิ่มวันที่ 10 พฤศจิกายนมีสูงถึง 3,017 คน มากกว่ากลางกันยายนถึง 10 เท่า ส่วนชิลี หลังจากเพิ่มมาตรการควบคุมเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตัวเลขยังทรงตัวอยู่ระดับกว่า 2,000 คนต่อวัน
 
…ระดับภูมิคุ้มกันจากวัคซีน Pfizer/Biontech กับ Astrazeneca กับโอกาสติดเชื้อ Aldridge RW และทีมจาก University College of London ได้เผยแพร่งานวิจัยที่น่าสนใจมากใน medRxiv วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 
สาระสำคัญคือ คนที่มีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดี้ต่อโปรตีนส่วนหนามของไวรัส (Anti-S) ตั้งแต่ 500 U/ml ขึ้นไป (ตรวจโดยใช้ชุดตรวจของ Roche) จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อยกว่าคนที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำกว่า 500 U/ml ราว 40%
 
ทั้งนี้พบว่า คนที่ฉีดวัคซีน Pfizer/Biontech (BNT162b2) ทั้งสองเข็มนั้นจะมีระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดี้สูงกว่าการฉีดวัคซีน Astrazeneca (ChAdOx1)
 
โดยระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงตามเวลาที่ผ่านไป ทั้งนี้กลุ่มที่ฉีดวัคซีน ChAdOx1 จะลดลงต่ำกว่า 500 U/ml ในเวลา 96 วัน (3 เดือน) ส่วนกลุ่มที่ฉีด BNT162b2 จะใช้เวลา 257 วัน (8 เดือน)
 
นี่เป็นงานวิจัยที่อาจมีประโยชน์ในการนำไปพิจารณาช่วงเวลาที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก
 
อย่างไรก็ตาม ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั้นมีทั้งในน้ำเลือดคือแอนติบอดี้ และระดับเซลล์ ซึ่งยังไม่มีงานวิจัยที่ทำการประเมินครบถ้วนทุกอย่าง เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์กับระดับการป้องกันโรค แต่เชื่อว่าความรู้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ติดตามกันไป
 
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก อยู่ห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร จะลดอัตราติดเชื้อลงได้ 5 เท่า ด้วยรักและห่วงใย
 
อ้างอิง Aldridge RW et al. Waning of SARS-CoV-2 antibodies targeting the Spike protein in individuals post second dose of ChAdOx1 and BNT162b2 COVID-19 vaccines and risk of breakthrough infections: analysis of the Virus Watch community cohort. medRxiv. 5 November 2021
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223421999450656
 

 
ชาว อ.บางบาล จมบาดาลนานกว่า 2 เดือน น้ำยังสูง 1 เมตร ทำขี้โคลนถมบนถนนหนา 20 ซม.
https://www.matichon.co.th/region/news_3038077

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา หรือชุมขนหัวป่า-บ่อทราย ซึ่งหน้าหมู่บ้านเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา และ หลังหมู่บ้านเป็นบ่อทรายขนาดใหญ่ ถูกน้ำจากเจ้าพระยา ท่วมสูงนาน 2 เดือน วันนี้ระดับน้ำท่วมลดลงไปมากแล้ว ปัจจุบันระดับน้ำท่วมชุมชนยังสูงประมาณ 1 เมตร
 
แต่ถนนเส้นทางสายหลักของชุมชน ที่เป็นถนน ผิวถนนเริ่มจะโผล่พ้นน้ำท่วมแล้ว ชาวบ้านมีประสบการณ์ เพราะเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก จึงร่วมแรงกัน กำจัดขี้โคลนที่ตกค้างบนถนน ในขณะที่น้ำยังไม่แห้งสนิทไปจากผิวถนน พบว่าด้วยน้ำที่ท่วมนาน จึงมีขี้โคลนจำนวนมาก ความหนาของดินโคลนกว่า 15-20 ซม.อยู่บนผิวถนน
 
โดยชาวบ้านบอกว่า หากไม่กำจัดเอาออกในช่วงนี้ เมื่อน้ำแห้งลงไป จะเอาโคลนออกยากมาก
  


ชาวนาโคราชทุกข์หนัก! จ้างคนเกี่ยวข้าวน้ำท่วมไร่ละ 5 พัน ได้เมล็ดข้าวเปลือกเน่าเสียหายจำนวนมาก
https://ch3plus.com/news/category/265627

วันนี้ (12 พ.ย. 2564) ชาวนาในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมากำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก เนื่องจากพื้นที่ทำนาข้าวส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย อย่างเช่น เกษตรกรชาวนาในพื้นที่อำเภอพิมาย ขณะนี้ต้องว่าจ้างแรงงานเพื่อเร่งเกี่ยวข้าวที่จมน้ำใส่เรือท้องแบน แต่ผลผลิตข้าวที่ได้ก็กลับเน่าเสียหายไปมากกว่าครึ่ง

นางอัมพิกา ตุ้ยพิมาย อายุ 53 ปี ชาวนาในตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมาย เปิดเผยว่า ตนเองได้ลงทุนทำนาปลูกข้าวหอมมะลิ จำนวน 13 ไร่ ซึ่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานาข้าวถูกน้ำท่วม ทำให้รวงข้าวจมน้ำได้รับความเสียหาย ขณะที่เมล็ดข้าวเริ่มเน่า ตนจึงจำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยว่าจ้างแรงงานซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านประมาณ 9 คนมาช่วยเกี่ยวข้าว ในอัตราค่าจ้างวันละ 300 บาทต่อคน ให้ช่วยกันเกี่ยวข้าวใส่เรือท้องแบนนำขึ้นมาตากผึ่งแดดไว้ริมถนน

นางอัมพิกา บอกอีกว่า นาข้าว 1 ไร่ จะใช้ระยะเวลาในการเกี่ยวประมาณ 2 วัน เฉลี่ยไร่ละประมาณ 5,000 บาท อีกทั้งยังต้องจ่ายค่ารถบรรทุกข้าวไปสี 500 บาท และค่ารถนวดข้าวอีก 1,000 บาท แถมเมื่อเกษตรกรชาวนานำข้าวไปขายก็ยังต้องถูกโรงสีกดราคารับซื้อข้าวเปลือกเหลือเพียงกิโลกรัมละ 7 บาทเท่านั้น ส่งผลให้ต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น อยากให้ภาครัฐหาแนวทางช่วยเหลือชาวนาเป็นการเร่งด่วน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่