เปิดเทอมแรกที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยปี 1 จะรู้สึกตื่นเต้น เพราะเพื่อนมาจากต่างโรงเรียน ต่างจังหวัด และมาจากทั่วทุกภาคของประเทศ มากหน้าหลายตา จะสนุกดี คนวัยนี้เป็นวัยที่กำลังใฝ่หาความฝัน ก้าวต่อไปอย่างลองผิดลองถูก ความฝันที่วาดเอาไว้ จะไปได้ไกลตามที่ฝันเอาไว้ได้หรือเปล่า ยังไม่มีใครคาดเดาได้ ขึ้นอยู่กับว่าทำอะไรดีที่สุดหรือยัง ณ เวลานั้น
“ยังไม่ได้ไปไหนมาไหนเลย ความฝันกลางอากาศที่วาดเอาไว้ก็จะพังลงซะแล้วฉัน”
“ วิชาแรกที่ตั้งใจจะลงทะเบียนเป็นวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน”
ฉันกะจะลงทะเบียนเรียนกับครูไทย แต่ไม่ทันคนอื่น เลยต้องได้ลงกับครูฝรั่ง
“จะไหวไหมเนี่ย ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรงซะด้วย” ฉันบ่นกับตัวเองอย่างรู้สึกท้อแท้มาก
ฉันเป็นเด็กนักเรียนม. ปลายที่เรียนได้เกรดเฉลี่ย 2.55 คือพอจะถูไถไปกับเขาได้บ้าง เรียนสายวิทย์คณิต เรียนก็ไม่เท่าไหร่ กิจกรรมก็ไม่เท่าไหร่ เป็นแนวๆสายกลางๆมาทางล่าง ฮ่าๆๆ แต่ก็มีใจสู้อยู่บ้าง เพื่ออนาคต แต่จะทำได้แค่ไหน ต้องขึ้นกับสถานการณ์จะพาไป
ชั่วโมงแรกที่เรียน ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฉันมัวแต่ไปหาซื้อดิกชันนารี ที่ร้านหนังสือในสหกรณ์ของมหาวิทยาลัย เพราะรู้ว่าอ่อนภาษาอังกฤษ เลยเข้ามาเรียนช้าไป 10 นาที
ทุกคนในชั้นเรียนมองฉันเป็นตาเดียว เมื่อฉันพูดขึ้นว่า
“ ขออนุญาตเข้าชั้นเรียนค่ะ” ครูฝรั่งหันมามอง และพูดภาษาอังกฤษอะไรไม่รู้ฟังไม่ออก เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง กระซิบบอกเบาๆว่า ให้พูดว่า “ May I come in”
ฉันก็พูดตามที่เขาบอก ครูฝรั่งก็ยิ้มและให้เข้ามาได้ ซึ่งปกติถ้าใครมาเร็วจะได้นั่งหลัง ฉันมาช้าต้องไปนั่งหน้าสุด คือไม่อยากจะคิดเลยว่า จะเครียดแค่ไหน ที่ต้องนั่งใกล้ครูฝรั่ง
“ เธอเป็นไงมั้ง ไหวหรือเปล่า” เพื่อนคนที่ช่วยฉันในต้นชั่วโมง กล่าวทักทาย
“ เราก็ไม่อยากลงกับครูฝรั่งหรอก แต่ลงทะเบียนไม่ทัน” ฉันคุยกับเขาต่อเพราะเห็นเขาเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน เผื่อเอาไว้ช่วยเหลือเวลาจำเป็น
เขาแนะนำตัวเองเรียบร้อย เขาบอกเขาชื่อธงไทย บ้านอยู่เชียงใหม่นี่เอง เขาคุยสุภาพ ถึงแม้หน้าตาจะแนวตัวประกอบซีรี่ย์จีน แต่เขาเป็นคนมีน้ำใจดีงาม ช่วยเหลือดี
รุ่นพี่คณะบอกว่าวันเสาร์หน้าจะรับน้องคณะ เพื่อจะได้รู้จักกันหมดทุกคน และเพื่อความเข้มแข็งของคณะ แค่ฟังก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว เรื่องเรียนก็หนักเอาการ ยังจะมารับน้องกันอีก กิจกรรมของตัวเองก็มีเยอะอยู่แล้ว บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะต้องไปรับน้องอยู่แล้ว
“รดา..เย็นนี้เพื่อนเราชวนไปกินเหล้ากัน และจะไปเที่ยวดิสโก้เทคต่อ มีเพื่อนหนุ่มๆที่รู้จักใหม่มาหลายคน โสดก็รีบมาเลย” เพื่อนจังหวัดชวนตั้งแต่ตอนกลางวัน
กลุ่มเพื่อนนั่งรออยู่ใต้หอหญิง อาบน้ำแต่งตัวกันซะสวยเลย พร้อมลุยกันคืนนี้
“ รดา..ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ไปอาบน้ำก่อนไป เดี๋ยวเรารอกันได้ จะได้สบายตัว”
“ เคๆ รอแป๊บละกัน พวกตะเองนั่งคุยกันไปก่อนละกัน” ฉันรีบขึ้นไปอาบน้ำทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนรอนาน ไม่ถึง 15 นาที ฉันก็ลงมา แต่งตัวสไตล์ฉันเอง
“ โอ้ย..แต่งตัวแบบนี้ หนุ่มที่ไหนเขาจะมองหละ หัดแต่งแนวหวานๆ ยั่วยวนหน่อยดิ”
จอย เพื่อนจังหวัดบ่นเมื่อเห็นฉันแต่งตัวไม่เตะตาหนุ่มๆเอาซะเลย
“กางเกงวอร์ม เสื้อยืด รองเท้าแตะ นี่ง่ายเกินไปหรือเปล่าจ๊ะยายรดา”
ปอมบ่นใส่หน้าฉัน สำหรับพวกเธอใส่เสื้อผ้าแนวสมัย มีแอบแต่งหน้ากันบางๆด้วย
“ เอาเถอะน่า พวกหล่อนอยากสวย ก็สวยกันให้ซะใจไปเลยดิ เราเอาแค่เนี่ยพอหละ”
ฉันตอบกลับเบาๆ แบบไม่ใส่ใจกับความงามอย่างพวกเธอ
พอถึงร้านเหล้าในตัวเมือง จอยกับปอมแนะนำเพื่อนใหม่คนละคณะให้รู้จัก เป็นหนุ่มหน้าตาดี รูปหล่อ วันนี้มา 3 คน
“หวัดดีครับ ยินดีที่รู้จักครับ” พวกเขาทักทายฉัน อย่างสุภาพ แววตาเป็นมิตร
“ หวัดดีจ้า เรา..รดา ยินดีรู้จักเช่นกัน” ฉันตอบรับ ท่าทางฉันอาจจะสะดุดตา 1 ใน 3 หนุ่ม คือฉัน จอย ปอม และหนุ่มอีก 3 คน ดูแล้ว เพื่อนจอยกับปอม คงจะชอบ 2 ใน 3 และที่เหลือ ก็คงจะโยนมาให้ฉันว่างั้นเถอะ
พอเริ่มกินข้าว ก็สั่งไวน์ มาจิบต่อ พวกหล่อนก็เริ่มคุยกับหนุ่ม 2 ใน 3 ที่เหลือก็หันมาคุยกับฉัน เขาคงเป็นคนที่โสด แล้วจอยกับปอม ก็พามาแนะนำให้ฉัน
“ไปต่อที่เทคกันเถอะ ผมอยากออกกำลังกายครับ” หนุ่มที่เหลือพูดและมองมาที่ฉัน
ซึ่งปกติฉันเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว มีแต่ยิ้มๆ หัวเราะ พูดตลกบ้าง แต่ไม่พร่ำพรรณนา ฟังเยอะกว่าพูด แต่ก็คุยกับพวกเขาได้
“ไปๆ เราก็อยากสนุก จะดิ้นให้มันส์ไปเลย” จอยพูดอย่างคึกคะนอง
พอเข้าไปในดิสโก้เทค กลิ่นควันบุหรี่ ไฟกระพริบ ดูแล้วน่าเวียนหัวจริง แต่จังหวะของเพลงทำให้ฉันใจคึกคัก เพราะฉันชอบดนตรีและจังหวะอยู่แล้ว ดีกว่านั่งเฉยๆ ไปปล่อยอารมณ์ให้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่เร้าใจดีกว่า
“รดาชอบเต้นหรือครับ ผมเต้นได้ไม่นาน เหนื่อยครับ ผมขอพักนะครับ” หนุ่มที่เหลือขอนั่งพักเพราะเขาออกมาเต้นกับฉันได้ชั่วโมงกว่า เริ่มเหนื่อย ฉันเต้นต่อไป มีความสุขกับจังหวะเพลงที่สนุกสนาน 3 ชั่วโมงเต้นในดิสโก้เทค
เช้ามาวิชาแรกอังกฤษพื้นฐานอีกหละ
“ตายแล้ว การบ้านไม่ได้เปิดอ่านเลย เพราะเมื่อคืนไปสนุกสนานมา” ฉันนึกในใจวันนี้จะโดนหรือเปล่า ครูฝรั่งของฉัน
“ May I come in” วันนี้ฉันก็พูดอีกเหมือนเดิม เข้าช้าไป 5 นาทีเพราะเมื่อคืนเต้นมากเหนื่อย หลับเพลินไปหน่อย
ครูฝรั่งมอง และเชิญให้ฉันไปนั่งด้านหน้าเหมือนเดิม
พอเริ่มบทเรียน ครูฝรั่งก็พูดแต่ภาษาอังกฤษตลอด ฉันฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง คือคนที่ลงทะเบียนเรียนในชั้นนี้ส่วนใหญ่จะฟังภาษาอังกฤษได้ เขาจึงมาลงเรียนกัน แต่ฉันบังเอิญหลุดมาลงกับพวกเขา เป็นความซวยของฉันจริงๆ เพราะครูฝรั่งพูดไทยไม่ได้ แง แง..
“ ชิดรดา” ครูฝรั่งเรียกชื่อฉัน ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะการบ้านไม่ได้ทำมาเลย ฉันนั่งเงียบอยู่พัก ธงไทยยื่นการบ้านที่เขาทำแล้วมาให้ฉัน
“เอาของผมไปตอบบนกระดานนะ” ฉันรีบเนียน เอาคำตอบของธงไทยไปตอบบนกระดาน ใจก็กลัวครูฝรั่งเห็น แต่ก็ยังดีที่มีคำตอบเขียน
พอหมดคาบเรียน ธงไทยเข้ามาหา และตักเตือนฉันด้วยความหวังดี
“ ชั้นเรียนนี้มีแต่คนเก่งๆนะ ถ้าเธอยังขี้เกียจแบบนี้ระวังติดไม่ผ่าน”
“ เคๆ ขอบคุณมากนะ เราจะพยายามละกัน” ฉันตอบเขาไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า เพราะฉันเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง พอถูไถไปวันๆ
“วันเสาร์นี้ต้องไปรับน้องคณะด้วยนะ อย่าลืมมาให้ทันเขาขึ้นรถบัสด้วย” ธงไทยเตือนความจำ เพราะบางวิชาจะไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน
“ เคๆ ขอบคุณมาก วันเสาร์เจอกันที่สนามบาส หน้าหอ 2 หญิง”
“รดา..ศุกร์นี้ กลุ่มเดิมเขาชวนอีกหละ แต่แค่ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน หนุ่มคนนั้น เขาสนใจเธอนะ” จอยโทรบอกตั้งแต่ตอนเช้า เพราะเธอเองก็คงอยากเจอหนุ่มของเธอเหมือนกัน
“เคๆ แต่ไม่กลับดึกนะ เพราะวันเสาร์จะไปรับน้องที่ห้วยแก้ว” ฉันรีบบอกไป เพราะกลัวจะสายแล้วไม่ทันขึ้นรถบัสไปกับเขา
“หวัดดีครับ รดา..วันนี้เธอดูสดชื่นกว่าครั้งก่อนนะ” หนุ่มคนนั้น รีบทักทาย อย่างสนิทสนม มองเสื้อผ้าที่ฉันใส่ไป แล้วยิ้มออกมา
“ บอกตรงๆเลยสไตล์การแต่งตัวของรดา ผมชอบครับ ง่ายๆสบายๆ” หนุ่มพูดเอาใจฉัน
วันนั้น...เมื่อฉันถูกบอกรัก ตอน 1
“ยังไม่ได้ไปไหนมาไหนเลย ความฝันกลางอากาศที่วาดเอาไว้ก็จะพังลงซะแล้วฉัน”
“ วิชาแรกที่ตั้งใจจะลงทะเบียนเป็นวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน”
ฉันกะจะลงทะเบียนเรียนกับครูไทย แต่ไม่ทันคนอื่น เลยต้องได้ลงกับครูฝรั่ง
“จะไหวไหมเนี่ย ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรงซะด้วย” ฉันบ่นกับตัวเองอย่างรู้สึกท้อแท้มาก
ฉันเป็นเด็กนักเรียนม. ปลายที่เรียนได้เกรดเฉลี่ย 2.55 คือพอจะถูไถไปกับเขาได้บ้าง เรียนสายวิทย์คณิต เรียนก็ไม่เท่าไหร่ กิจกรรมก็ไม่เท่าไหร่ เป็นแนวๆสายกลางๆมาทางล่าง ฮ่าๆๆ แต่ก็มีใจสู้อยู่บ้าง เพื่ออนาคต แต่จะทำได้แค่ไหน ต้องขึ้นกับสถานการณ์จะพาไป
ชั่วโมงแรกที่เรียน ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฉันมัวแต่ไปหาซื้อดิกชันนารี ที่ร้านหนังสือในสหกรณ์ของมหาวิทยาลัย เพราะรู้ว่าอ่อนภาษาอังกฤษ เลยเข้ามาเรียนช้าไป 10 นาที
ทุกคนในชั้นเรียนมองฉันเป็นตาเดียว เมื่อฉันพูดขึ้นว่า
“ ขออนุญาตเข้าชั้นเรียนค่ะ” ครูฝรั่งหันมามอง และพูดภาษาอังกฤษอะไรไม่รู้ฟังไม่ออก เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง กระซิบบอกเบาๆว่า ให้พูดว่า “ May I come in”
ฉันก็พูดตามที่เขาบอก ครูฝรั่งก็ยิ้มและให้เข้ามาได้ ซึ่งปกติถ้าใครมาเร็วจะได้นั่งหลัง ฉันมาช้าต้องไปนั่งหน้าสุด คือไม่อยากจะคิดเลยว่า จะเครียดแค่ไหน ที่ต้องนั่งใกล้ครูฝรั่ง
“ เธอเป็นไงมั้ง ไหวหรือเปล่า” เพื่อนคนที่ช่วยฉันในต้นชั่วโมง กล่าวทักทาย
“ เราก็ไม่อยากลงกับครูฝรั่งหรอก แต่ลงทะเบียนไม่ทัน” ฉันคุยกับเขาต่อเพราะเห็นเขาเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน เผื่อเอาไว้ช่วยเหลือเวลาจำเป็น
เขาแนะนำตัวเองเรียบร้อย เขาบอกเขาชื่อธงไทย บ้านอยู่เชียงใหม่นี่เอง เขาคุยสุภาพ ถึงแม้หน้าตาจะแนวตัวประกอบซีรี่ย์จีน แต่เขาเป็นคนมีน้ำใจดีงาม ช่วยเหลือดี
รุ่นพี่คณะบอกว่าวันเสาร์หน้าจะรับน้องคณะ เพื่อจะได้รู้จักกันหมดทุกคน และเพื่อความเข้มแข็งของคณะ แค่ฟังก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว เรื่องเรียนก็หนักเอาการ ยังจะมารับน้องกันอีก กิจกรรมของตัวเองก็มีเยอะอยู่แล้ว บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะต้องไปรับน้องอยู่แล้ว
“รดา..เย็นนี้เพื่อนเราชวนไปกินเหล้ากัน และจะไปเที่ยวดิสโก้เทคต่อ มีเพื่อนหนุ่มๆที่รู้จักใหม่มาหลายคน โสดก็รีบมาเลย” เพื่อนจังหวัดชวนตั้งแต่ตอนกลางวัน
กลุ่มเพื่อนนั่งรออยู่ใต้หอหญิง อาบน้ำแต่งตัวกันซะสวยเลย พร้อมลุยกันคืนนี้
“ รดา..ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ไปอาบน้ำก่อนไป เดี๋ยวเรารอกันได้ จะได้สบายตัว”
“ เคๆ รอแป๊บละกัน พวกตะเองนั่งคุยกันไปก่อนละกัน” ฉันรีบขึ้นไปอาบน้ำทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนรอนาน ไม่ถึง 15 นาที ฉันก็ลงมา แต่งตัวสไตล์ฉันเอง
“ โอ้ย..แต่งตัวแบบนี้ หนุ่มที่ไหนเขาจะมองหละ หัดแต่งแนวหวานๆ ยั่วยวนหน่อยดิ”
จอย เพื่อนจังหวัดบ่นเมื่อเห็นฉันแต่งตัวไม่เตะตาหนุ่มๆเอาซะเลย
“กางเกงวอร์ม เสื้อยืด รองเท้าแตะ นี่ง่ายเกินไปหรือเปล่าจ๊ะยายรดา”
ปอมบ่นใส่หน้าฉัน สำหรับพวกเธอใส่เสื้อผ้าแนวสมัย มีแอบแต่งหน้ากันบางๆด้วย
“ เอาเถอะน่า พวกหล่อนอยากสวย ก็สวยกันให้ซะใจไปเลยดิ เราเอาแค่เนี่ยพอหละ”
ฉันตอบกลับเบาๆ แบบไม่ใส่ใจกับความงามอย่างพวกเธอ
พอถึงร้านเหล้าในตัวเมือง จอยกับปอมแนะนำเพื่อนใหม่คนละคณะให้รู้จัก เป็นหนุ่มหน้าตาดี รูปหล่อ วันนี้มา 3 คน
“หวัดดีครับ ยินดีที่รู้จักครับ” พวกเขาทักทายฉัน อย่างสุภาพ แววตาเป็นมิตร
“ หวัดดีจ้า เรา..รดา ยินดีรู้จักเช่นกัน” ฉันตอบรับ ท่าทางฉันอาจจะสะดุดตา 1 ใน 3 หนุ่ม คือฉัน จอย ปอม และหนุ่มอีก 3 คน ดูแล้ว เพื่อนจอยกับปอม คงจะชอบ 2 ใน 3 และที่เหลือ ก็คงจะโยนมาให้ฉันว่างั้นเถอะ
พอเริ่มกินข้าว ก็สั่งไวน์ มาจิบต่อ พวกหล่อนก็เริ่มคุยกับหนุ่ม 2 ใน 3 ที่เหลือก็หันมาคุยกับฉัน เขาคงเป็นคนที่โสด แล้วจอยกับปอม ก็พามาแนะนำให้ฉัน
“ไปต่อที่เทคกันเถอะ ผมอยากออกกำลังกายครับ” หนุ่มที่เหลือพูดและมองมาที่ฉัน
ซึ่งปกติฉันเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว มีแต่ยิ้มๆ หัวเราะ พูดตลกบ้าง แต่ไม่พร่ำพรรณนา ฟังเยอะกว่าพูด แต่ก็คุยกับพวกเขาได้
“ไปๆ เราก็อยากสนุก จะดิ้นให้มันส์ไปเลย” จอยพูดอย่างคึกคะนอง
พอเข้าไปในดิสโก้เทค กลิ่นควันบุหรี่ ไฟกระพริบ ดูแล้วน่าเวียนหัวจริง แต่จังหวะของเพลงทำให้ฉันใจคึกคัก เพราะฉันชอบดนตรีและจังหวะอยู่แล้ว ดีกว่านั่งเฉยๆ ไปปล่อยอารมณ์ให้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่เร้าใจดีกว่า
“รดาชอบเต้นหรือครับ ผมเต้นได้ไม่นาน เหนื่อยครับ ผมขอพักนะครับ” หนุ่มที่เหลือขอนั่งพักเพราะเขาออกมาเต้นกับฉันได้ชั่วโมงกว่า เริ่มเหนื่อย ฉันเต้นต่อไป มีความสุขกับจังหวะเพลงที่สนุกสนาน 3 ชั่วโมงเต้นในดิสโก้เทค
เช้ามาวิชาแรกอังกฤษพื้นฐานอีกหละ
“ตายแล้ว การบ้านไม่ได้เปิดอ่านเลย เพราะเมื่อคืนไปสนุกสนานมา” ฉันนึกในใจวันนี้จะโดนหรือเปล่า ครูฝรั่งของฉัน
“ May I come in” วันนี้ฉันก็พูดอีกเหมือนเดิม เข้าช้าไป 5 นาทีเพราะเมื่อคืนเต้นมากเหนื่อย หลับเพลินไปหน่อย
ครูฝรั่งมอง และเชิญให้ฉันไปนั่งด้านหน้าเหมือนเดิม
พอเริ่มบทเรียน ครูฝรั่งก็พูดแต่ภาษาอังกฤษตลอด ฉันฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง คือคนที่ลงทะเบียนเรียนในชั้นนี้ส่วนใหญ่จะฟังภาษาอังกฤษได้ เขาจึงมาลงเรียนกัน แต่ฉันบังเอิญหลุดมาลงกับพวกเขา เป็นความซวยของฉันจริงๆ เพราะครูฝรั่งพูดไทยไม่ได้ แง แง..
“ ชิดรดา” ครูฝรั่งเรียกชื่อฉัน ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะการบ้านไม่ได้ทำมาเลย ฉันนั่งเงียบอยู่พัก ธงไทยยื่นการบ้านที่เขาทำแล้วมาให้ฉัน
“เอาของผมไปตอบบนกระดานนะ” ฉันรีบเนียน เอาคำตอบของธงไทยไปตอบบนกระดาน ใจก็กลัวครูฝรั่งเห็น แต่ก็ยังดีที่มีคำตอบเขียน
พอหมดคาบเรียน ธงไทยเข้ามาหา และตักเตือนฉันด้วยความหวังดี
“ ชั้นเรียนนี้มีแต่คนเก่งๆนะ ถ้าเธอยังขี้เกียจแบบนี้ระวังติดไม่ผ่าน”
“ เคๆ ขอบคุณมากนะ เราจะพยายามละกัน” ฉันตอบเขาไปอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า เพราะฉันเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง พอถูไถไปวันๆ
“วันเสาร์นี้ต้องไปรับน้องคณะด้วยนะ อย่าลืมมาให้ทันเขาขึ้นรถบัสด้วย” ธงไทยเตือนความจำ เพราะบางวิชาจะไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน
“ เคๆ ขอบคุณมาก วันเสาร์เจอกันที่สนามบาส หน้าหอ 2 หญิง”
“รดา..ศุกร์นี้ กลุ่มเดิมเขาชวนอีกหละ แต่แค่ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน หนุ่มคนนั้น เขาสนใจเธอนะ” จอยโทรบอกตั้งแต่ตอนเช้า เพราะเธอเองก็คงอยากเจอหนุ่มของเธอเหมือนกัน
“เคๆ แต่ไม่กลับดึกนะ เพราะวันเสาร์จะไปรับน้องที่ห้วยแก้ว” ฉันรีบบอกไป เพราะกลัวจะสายแล้วไม่ทันขึ้นรถบัสไปกับเขา
“หวัดดีครับ รดา..วันนี้เธอดูสดชื่นกว่าครั้งก่อนนะ” หนุ่มคนนั้น รีบทักทาย อย่างสนิทสนม มองเสื้อผ้าที่ฉันใส่ไป แล้วยิ้มออกมา
“ บอกตรงๆเลยสไตล์การแต่งตัวของรดา ผมชอบครับ ง่ายๆสบายๆ” หนุ่มพูดเอาใจฉัน