วันนั้น...เมื่อฉันถูกบอกรัก ตอน 1

กระทู้สนทนา
เปิดเทอมแรกที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยปี 1  จะรู้สึกตื่นเต้น  เพราะเพื่อนมาจากต่างโรงเรียน ต่างจังหวัด  และมาจากทั่วทุกภาคของประเทศ  มากหน้าหลายตา  จะสนุกดี  คนวัยนี้เป็นวัยที่กำลังใฝ่หาความฝัน  ก้าวต่อไปอย่างลองผิดลองถูก  ความฝันที่วาดเอาไว้  จะไปได้ไกลตามที่ฝันเอาไว้ได้หรือเปล่า  ยังไม่มีใครคาดเดาได้  ขึ้นอยู่กับว่าทำอะไรดีที่สุดหรือยัง ณ เวลานั้น

            “ยังไม่ได้ไปไหนมาไหนเลย  ความฝันกลางอากาศที่วาดเอาไว้ก็จะพังลงซะแล้วฉัน”

            “ วิชาแรกที่ตั้งใจจะลงทะเบียนเป็นวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน”

            ฉันกะจะลงทะเบียนเรียนกับครูไทย  แต่ไม่ทันคนอื่น  เลยต้องได้ลงกับครูฝรั่ง

           “จะไหวไหมเนี่ย  ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรงซะด้วย” ฉันบ่นกับตัวเองอย่างรู้สึกท้อแท้มาก
ฉันเป็นเด็กนักเรียนม. ปลายที่เรียนได้เกรดเฉลี่ย 2.55 คือพอจะถูไถไปกับเขาได้บ้าง  เรียนสายวิทย์คณิต  เรียนก็ไม่เท่าไหร่  กิจกรรมก็ไม่เท่าไหร่  เป็นแนวๆสายกลางๆมาทางล่าง ฮ่าๆๆ  แต่ก็มีใจสู้อยู่บ้าง  เพื่ออนาคต  แต่จะทำได้แค่ไหน  ต้องขึ้นกับสถานการณ์จะพาไป
           
           ชั่วโมงแรกที่เรียน  ภาษาอังกฤษพื้นฐาน  ฉันมัวแต่ไปหาซื้อดิกชันนารี  ที่ร้านหนังสือในสหกรณ์ของมหาวิทยาลัย  เพราะรู้ว่าอ่อนภาษาอังกฤษ  เลยเข้ามาเรียนช้าไป 10 นาที   

           ทุกคนในชั้นเรียนมองฉันเป็นตาเดียว  เมื่อฉันพูดขึ้นว่า

            “ ขออนุญาตเข้าชั้นเรียนค่ะ”  ครูฝรั่งหันมามอง  และพูดภาษาอังกฤษอะไรไม่รู้ฟังไม่ออก  เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง  ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
        
           มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง  กระซิบบอกเบาๆว่า  ให้พูดว่า “ May I come in”

          ฉันก็พูดตามที่เขาบอก  ครูฝรั่งก็ยิ้มและให้เข้ามาได้  ซึ่งปกติถ้าใครมาเร็วจะได้นั่งหลัง  ฉันมาช้าต้องไปนั่งหน้าสุด  คือไม่อยากจะคิดเลยว่า  จะเครียดแค่ไหน  ที่ต้องนั่งใกล้ครูฝรั่ง

         “ เธอเป็นไงมั้ง ไหวหรือเปล่า” เพื่อนคนที่ช่วยฉันในต้นชั่วโมง  กล่าวทักทาย

        “ เราก็ไม่อยากลงกับครูฝรั่งหรอก  แต่ลงทะเบียนไม่ทัน”  ฉันคุยกับเขาต่อเพราะเห็นเขาเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน  เผื่อเอาไว้ช่วยเหลือเวลาจำเป็น

         เขาแนะนำตัวเองเรียบร้อย  เขาบอกเขาชื่อธงไทย  บ้านอยู่เชียงใหม่นี่เอง  เขาคุยสุภาพ ถึงแม้หน้าตาจะแนวตัวประกอบซีรี่ย์จีน  แต่เขาเป็นคนมีน้ำใจดีงาม  ช่วยเหลือดี

         รุ่นพี่คณะบอกว่าวันเสาร์หน้าจะรับน้องคณะ  เพื่อจะได้รู้จักกันหมดทุกคน  และเพื่อความเข้มแข็งของคณะ  แค่ฟังก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว  เรื่องเรียนก็หนักเอาการ  ยังจะมารับน้องกันอีก  กิจกรรมของตัวเองก็มีเยอะอยู่แล้ว  บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์  เพราะต้องไปรับน้องอยู่แล้ว

         “รดา..เย็นนี้เพื่อนเราชวนไปกินเหล้ากัน  และจะไปเที่ยวดิสโก้เทคต่อ  มีเพื่อนหนุ่มๆที่รู้จักใหม่มาหลายคน  โสดก็รีบมาเลย”  เพื่อนจังหวัดชวนตั้งแต่ตอนกลางวัน

          กลุ่มเพื่อนนั่งรออยู่ใต้หอหญิง  อาบน้ำแต่งตัวกันซะสวยเลย  พร้อมลุยกันคืนนี้

         “ รดา..ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก  ไปอาบน้ำก่อนไป  เดี๋ยวเรารอกันได้  จะได้สบายตัว”

         “ เคๆ  รอแป๊บละกัน  พวกตะเองนั่งคุยกันไปก่อนละกัน” ฉันรีบขึ้นไปอาบน้ำทันที  เพราะไม่อยากให้เพื่อนรอนาน  ไม่ถึง 15 นาที  ฉันก็ลงมา  แต่งตัวสไตล์ฉันเอง

        “ โอ้ย..แต่งตัวแบบนี้ หนุ่มที่ไหนเขาจะมองหละ  หัดแต่งแนวหวานๆ ยั่วยวนหน่อยดิ” 

         จอย เพื่อนจังหวัดบ่นเมื่อเห็นฉันแต่งตัวไม่เตะตาหนุ่มๆเอาซะเลย

        “กางเกงวอร์ม  เสื้อยืด  รองเท้าแตะ นี่ง่ายเกินไปหรือเปล่าจ๊ะยายรดา”
       ปอมบ่นใส่หน้าฉัน สำหรับพวกเธอใส่เสื้อผ้าแนวสมัย  มีแอบแต่งหน้ากันบางๆด้วย

        “ เอาเถอะน่า  พวกหล่อนอยากสวย  ก็สวยกันให้ซะใจไปเลยดิ  เราเอาแค่เนี่ยพอหละ”
ฉันตอบกลับเบาๆ  แบบไม่ใส่ใจกับความงามอย่างพวกเธอ

        พอถึงร้านเหล้าในตัวเมือง  จอยกับปอมแนะนำเพื่อนใหม่คนละคณะให้รู้จัก  เป็นหนุ่มหน้าตาดี  รูปหล่อ  วันนี้มา 3 คน  

       “หวัดดีครับ  ยินดีที่รู้จักครับ”  พวกเขาทักทายฉัน  อย่างสุภาพ  แววตาเป็นมิตร

       “ หวัดดีจ้า  เรา..รดา  ยินดีรู้จักเช่นกัน”  ฉันตอบรับ  ท่าทางฉันอาจจะสะดุดตา  1 ใน 3 หนุ่ม  คือฉัน  จอย ปอม  และหนุ่มอีก 3 คน  ดูแล้ว  เพื่อนจอยกับปอม  คงจะชอบ 2 ใน 3 และที่เหลือ  ก็คงจะโยนมาให้ฉันว่างั้นเถอะ

         พอเริ่มกินข้าว ก็สั่งไวน์  มาจิบต่อ  พวกหล่อนก็เริ่มคุยกับหนุ่ม 2 ใน 3  ที่เหลือก็หันมาคุยกับฉัน  เขาคงเป็นคนที่โสด  แล้วจอยกับปอม  ก็พามาแนะนำให้ฉัน

         “ไปต่อที่เทคกันเถอะ  ผมอยากออกกำลังกายครับ”  หนุ่มที่เหลือพูดและมองมาที่ฉัน

         ซึ่งปกติฉันเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว  มีแต่ยิ้มๆ  หัวเราะ  พูดตลกบ้าง  แต่ไม่พร่ำพรรณนา  ฟังเยอะกว่าพูด  แต่ก็คุยกับพวกเขาได้
         “ไปๆ เราก็อยากสนุก  จะดิ้นให้มันส์ไปเลย” จอยพูดอย่างคึกคะนอง

         พอเข้าไปในดิสโก้เทค  กลิ่นควันบุหรี่  ไฟกระพริบ  ดูแล้วน่าเวียนหัวจริง  แต่จังหวะของเพลงทำให้ฉันใจคึกคัก  เพราะฉันชอบดนตรีและจังหวะอยู่แล้ว  ดีกว่านั่งเฉยๆ  ไปปล่อยอารมณ์ให้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่เร้าใจดีกว่า

        “รดาชอบเต้นหรือครับ  ผมเต้นได้ไม่นาน  เหนื่อยครับ  ผมขอพักนะครับ”  หนุ่มที่เหลือขอนั่งพักเพราะเขาออกมาเต้นกับฉันได้ชั่วโมงกว่า  เริ่มเหนื่อย  ฉันเต้นต่อไป  มีความสุขกับจังหวะเพลงที่สนุกสนาน  3 ชั่วโมงเต้นในดิสโก้เทค

        เช้ามาวิชาแรกอังกฤษพื้นฐานอีกหละ  

       “ตายแล้ว  การบ้านไม่ได้เปิดอ่านเลย  เพราะเมื่อคืนไปสนุกสนานมา” ฉันนึกในใจวันนี้จะโดนหรือเปล่า  ครูฝรั่งของฉัน

       “ May I come in”  วันนี้ฉันก็พูดอีกเหมือนเดิม  เข้าช้าไป 5 นาทีเพราะเมื่อคืนเต้นมากเหนื่อย  หลับเพลินไปหน่อย  

        ครูฝรั่งมอง  และเชิญให้ฉันไปนั่งด้านหน้าเหมือนเดิม

        พอเริ่มบทเรียน  ครูฝรั่งก็พูดแต่ภาษาอังกฤษตลอด  ฉันฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง  คือคนที่ลงทะเบียนเรียนในชั้นนี้ส่วนใหญ่จะฟังภาษาอังกฤษได้  เขาจึงมาลงเรียนกัน  แต่ฉันบังเอิญหลุดมาลงกับพวกเขา  เป็นความซวยของฉันจริงๆ เพราะครูฝรั่งพูดไทยไม่ได้  แง  แง..

       “ ชิดรดา”  ครูฝรั่งเรียกชื่อฉัน  ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะการบ้านไม่ได้ทำมาเลย  ฉันนั่งเงียบอยู่พัก  ธงไทยยื่นการบ้านที่เขาทำแล้วมาให้ฉัน  

       “เอาของผมไปตอบบนกระดานนะ”  ฉันรีบเนียน  เอาคำตอบของธงไทยไปตอบบนกระดาน  ใจก็กลัวครูฝรั่งเห็น  แต่ก็ยังดีที่มีคำตอบเขียน  
       พอหมดคาบเรียน  ธงไทยเข้ามาหา  และตักเตือนฉันด้วยความหวังดี

      “ ชั้นเรียนนี้มีแต่คนเก่งๆนะ  ถ้าเธอยังขี้เกียจแบบนี้ระวังติดไม่ผ่าน”

       “ เคๆ ขอบคุณมากนะ  เราจะพยายามละกัน” ฉันตอบเขาไปอย่างนั้น  ก็ไม่รู้จะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า  เพราะฉันเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง  พอถูไถไปวันๆ

       “วันเสาร์นี้ต้องไปรับน้องคณะด้วยนะ  อย่าลืมมาให้ทันเขาขึ้นรถบัสด้วย”  ธงไทยเตือนความจำ  เพราะบางวิชาจะไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน  

       “ เคๆ  ขอบคุณมาก วันเสาร์เจอกันที่สนามบาส  หน้าหอ 2 หญิง”

       “รดา..ศุกร์นี้  กลุ่มเดิมเขาชวนอีกหละ  แต่แค่ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน  หนุ่มคนนั้น  เขาสนใจเธอนะ”  จอยโทรบอกตั้งแต่ตอนเช้า  เพราะเธอเองก็คงอยากเจอหนุ่มของเธอเหมือนกัน

       “เคๆ  แต่ไม่กลับดึกนะ  เพราะวันเสาร์จะไปรับน้องที่ห้วยแก้ว”  ฉันรีบบอกไป  เพราะกลัวจะสายแล้วไม่ทันขึ้นรถบัสไปกับเขา

        “หวัดดีครับ  รดา..วันนี้เธอดูสดชื่นกว่าครั้งก่อนนะ”  หนุ่มคนนั้น  รีบทักทาย  อย่างสนิทสนม  มองเสื้อผ้าที่ฉันใส่ไป  แล้วยิ้มออกมา

        “ บอกตรงๆเลยสไตล์การแต่งตัวของรดา  ผมชอบครับ  ง่ายๆสบายๆ” หนุ่มพูดเอาใจฉัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่