JJNY : รพ.ธรรมศาสตร์วุ่น!ที่เก็บศพไม่พอ│หมอบุญเผยข่าวดี│ดร.อนันต์แจงWHOไม่ได้ค้านฉีดสลับภายใต้การควบคุม│โรงแรมตายหมู่

รพ.ธรรมศาสตร์ วุ่น! ที่เก็บศพไม่พอ เตรียมเช่าตู้คอนเทนเนอร์รับมือ
https://www.dailynews.co.th/news/49065/
 
 
 
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เขียนถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลสนามที่เปิดมา 93 วัน ซึ่งพบว่ามีแพทย์ติดเชื้อและต้องกักตัวสลับกันทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้บุคลากรขาดแคลนและต้องทำงานอย่างหนัก และประเมินตัวเลขผู้ป่วยใหม่คงสูงขึ้นและน่าจะผ่านหลัก 10,000 ไป และตัวเลขผู้เสียชีวิตก็คงจะสูงตามไปด้วย
 
ตอนหนึ่งของโพสต์ระบุว่า เมื่อวานมีการส่งผู้ป่วยโควิดอาการหนักถึงขนาดต้อง CPR กันในห้องฉุกเฉินเข้ามาที่รพ.ถึงสี่ราย แต่เราสามารถปั๊มหัวใจจนมีสัญญาณชีพกลับคืนมา และส่งเข้ารักษาต่อใน ICU ได้เพียงสองรายเท่านั้น สถานการณ์ที่หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ คงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทั้งการที่ธรรมศาสตร์มีหน่วยนิติเวชที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ปทุมธานีและใกล้เคียงอยู่ แม้จะมีเคสผู้ป่วยเสียชีวิตที่บ้าน แต่ก็จะต้องถูกส่งมาตรวจชันสูตรที่นี่ด้วย จำนวนผู้เสียชีวิตที่มากขึ้นทำให้เราเริ่มมีปัญหากับความพอเพียงของสถานที่เก็บศพ วันนี้เราจึงได้เตรียมเช่าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มสำหรับการนี้อีกสองตู้แล้ว
 
อันที่จริงเรื่องทำนองนี้ไม่ควรจะบอกออกไปต่อสาธารณะ แต่การที่เราแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบก็เป็นความตั้งใจที่จะบอกเล่าความเป็นจริงที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ หรือที่จะต้องเผชิญต่อไปในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์หน้าให้ทุกๆฝ่ายทราบ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับระบบสาธารณสุขของเราในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึงนี้
 
แต่ที่นี่ เราก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอรับสถานการณ์ด้วยการเตรียมคอนเทนเนอร์เพิ่มไว้เท่านั้นหรอกนะ พวกเราที่นี่ขวนขวาย ขุดสนามเพลาะ ปรับปรุงค่ายคูประตูหอรบ เตรียมหาอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม และปรับกำลังรบกัน เพื่อเตรียมรบแตกหักครั้งสุดท้ายในสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ด้วยเหมือนกัน
 
วันนี้ พวกเราตัดสินใจสร้างห้อง negative pressure ขนาด 150 ตรม.ขึ้นที่ห้องฉุกเฉิน ER เพื่อรองรับ และกลั่นกรองผู้ป่วยฉุกเฉินที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อก่อนที่จะผ่านเข้าไปในรพ. การเพิ่มพื้นที่เฉพาะรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน PUI ได้ระดับสูงสุดถึง 15 คน พร้อมกันภายในห้องความดันลบในER นี้ น่าจะทำให้มาตรการป้องกันการติดเชื้อของเรามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น โดยเฉพาะภายใน ERซึ่งเป็นประตูเดียวที่จะผ่านเข้าสู่ทุกวอร์ดผู้ป่วยใน ของโรงพยาบาลได้
 
https://www.facebook.com/TUFHforCOVID19/posts/346273400349835
 

 
หมอบุญ เผยข่าวดี สั่งซื้อวัคซีน mRNA ถึง 20 ล้านโดส คาดเจรจาเสร็จสัปดาห์นี้
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6506603
 
หมอบุญ เผยข่าวดี สั่งซื้อวัคซีน mRNA ทั้งโนวาแวกซ์-ไบออนเทค ถึง 20 ล้านโดส คาดเจรจาเสร็จสัปดาห์นี้ แต่ต้องให้นายกฯเห็นชอบด้วย
 
หลังจากก่อนหน้านี้นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุเตรียมร่วมกับหน่วยงานรัฐ สั่งซื้อวัคซีนชนิด mRNA ของไบออนเทคของเยอรมัน และโนวาแวกซ์ ของสหรัฐอเมริกา โดยกำลังเร่งเจรจาคาดนำเข้ามาได้ในเดือนนี้ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
 
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 นพ.บุญ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตอนนี้กำลังเจรจาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้กระทรวงต่างประเทศช่วยประสานงาน โดยเหลืออีก 3-4 ขั้นตอน คาดจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
 
เรื่องการสั่งซื้อวัคซีน mRNA ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบด้วย ส่วนลักษณะการนำเข้าจะเหมือนกับวัคซีนซิโนฟาร์ม โดยขณะนี้บริษัทผู้ผลิตได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว สั่งซื้อวัคซีนไบออนเทคจำนวน 10 ล้านโดส และวัคซีนโนวาแวกซ์ 10 ล้านโดส รวม 20 ล้านโดส
 

 
ดร.อนันต์ แจง WHO ไม่ได้ค้านฉีดสลับเข็มภายใต้การควบคุมผู้เชี่ยวชาญ มีงานวิจัย
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6506621

จากกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีมติให้ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ได้ดีกว่าเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสในระดับที่สูงและเร็วมากยิ่งขึ้นนั้น

ต่อมา ดร. โสมยา สวามีนาธาน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ประจำองค์การอนามัยโลกเตือนว่า การสร้างภูมิคุ้มกันโดยจับคู่วัคซีนจากผู้ผลิตหลายรายมาผสมกัน ซึ่งหลายประเทศกำลังดำเนินการอยู่นั้น ถือเป็น “แนวโน้มที่อันตราย” เพราะยังมีข้อมูลการวิจัยว่าด้วยการฉีดวัคซีนแบบผสมสูตรอยู่น้อยมาก จนไม่อาจจะทราบได้ว่าจะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง
 
ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า 

ส่วนตัวไม่คิดว่า Dr. Swaminathan จาก WHO ค้านการใช้วัคซีนแบบสลับเข็ม แต่สิ่งที่ค้านคือคนไปขอฉีดแบบนั้นกันเอง คำว่า Public Health agencies (ซึ่งก็คือคณะกรรมการสาธารณสุข + ผู้เชี่ยวชาญ) can [decide] based on available data (บนข้อมูลที่มีในแต่ละประเทศ) ที่อยู่ใน ทวิตเตอร์ของเธอเองก็ชัดเจนอยู่ในตัวเองแล้ว
 
ความเห็นของนักวิชาการควรใช้สารตรงจากนักวิชาการครับ ถ้าผ่านการย่อยมาจากสื่อ สาระที่ได้อาจผิดเพี้ยน”

https://www.facebook.com/anan.jongkaewwattana/posts/4580204672019419
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่