เอามาลงให้อ่านอีกค่ะ ยังมีความสุขดีอยู่
………………………………………………………………………
สัปดาห์นี้เธอคิดว่าจะขอแม่ค้างที่หอพักกับสองฝาแฝด มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ถึงอย่างไรก็จะต้องอ้อนแม่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกผิดกับบางคนมากแน่นอน…
วันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์ หลังเลิกเรียนแสงระวีขอแม่ค้างกับสองฝาแฝดที่หอพัก เพราะมีสิ่งที่อยากทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนพิเศษ แสงระวีกล้าเรียกหนึ่งว่าความรักหรือคนรักได้เต็มปาก เมื่อถึงวันสำคัญก็อยากทำอะไร ๆ ที่พิเศษให้บ้าง เหมือนคนรักคนอื่นเขาทำกัน
ไม่มีของขวัญให้จัดงานเล็ก ๆ ให้ก็ยังดี ตามแบบฉบับของพวกเธอ แค่อยากอยู่ด้วยกัน อยากใช้เวลาด้วยกันในวันสำคัญของกันและกันเท่านั้น
วันนี้เธอจัดงานวันเกิดเล็ก ๆ ย้อนหลังให้กับหนึ่ง วันเกิดจริง ๆ คือเมื่อวานนี้ทว่าไม่มีโอกาสได้เซอร์ไพรส์เลย พวกเธอตกลงกันแล้วว่าวันศุกร์ค่อยจัดวันเกิดย้อนหลังให้
สถานที่จัดปาร์ตี้คือหอพักของสองฝาแฝด เธออยากนำเค้กมาให้หนึ่งเป่า ปีนี้เป็นปีแรกตั้งแต่คบกันมาที่เธอจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กัน
“แม่ว่าไงวี” หนึ่งถาม เย็นวันศุกร์พวกเธอรอเลิกเรียนอย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอคอยฟังเธอกับแม่คุยกัน คอยลุ้นไปด้วย ถามขึ้นเมื่อเธอวางสายกับแม่แล้ว
แสงระวียิ้ม ใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความดีใจ “แม่ตกลง เย้ ! ฮา” พูดกลั้วหัวเราะกับหนึ่งด้วยความดีใจ ฉีกยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า คืนนี้แหละจะได้สนุกกัน “แต่ว่าพรุ่งนี้เช้าต้องรีบกลับนะ แม่บอก” แสงระวีเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากระโปรงนักเรียน ใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาด้วยความดีใจ
“เย้ ! เดี๋ยวพรุ่งนี้หนึ่งไปส่งเอง” หนึ่งเองก็ดีใจไม่แพ้เธอ นึกว่าแม่ของเธอจะไม่อนุญาตเสียแล้ว คอยลุ้นเอาใจช่วยไปด้วย
ระหว่างรอเสียงออดสุดท้าย เธอนึกถึงภาพงานเลี้ยงในคืนนี้ นึกถึงภาพตอนตนเองนำเค้กให้หนึ่งเป่า นึกถึงรูปร่างหน้าตาของเค้กที่สั่ง และนึกถึงกิริยาท่าทางของหนึ่งขณะที่ตนเองถือเค้กมาเซอร์ไพรส์จะเป็นอย่างไร เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบรรยากาศของค่ำคืนนี้
สำหรับครอบครัวของเขา เมื่อคืนพ่อกับแม่จัดงานวันเกิดและมอบของขวัญให้แล้ว งานเล็ก ๆ ฉลองแค่คนในครอบครัว ส่วนวันนี้เป็นวันฉลองกับเพื่อนและคนที่เขารัก
ระหว่างนั้นทุกคนวางแผนกันว่าคืนนี้จะทานอะไรกันดี ทำการเขียนรายการเมนูจดใส่กระดาษไว้ คนที่รับอาสาทำหน้าที่หาซื้อวัตถุดิบคือเธอกับหนึ่งเอง พวกเธอรับอาสาในส่วนหน้าที่ตรงนี้ เพราะหนึ่งเป็นเจ้าของงานจึงอาสาเองเกือบทั้งหมด
เมื่อไหร่จะถึงเวลาเลิกเรียน ทุกคนใจจดใจจ่อต่องานเลี้ยงคืนนี้มาก ถ้าไม่ติดว่าเจนและเจลขับรถมอเตอร์ไซค์มาเรียน ป่านนี้คงแอบโดดหนีเรียนชั่วโมงสุดท้ายกลับไปนานแล้ว
“เจนพี่มอสจะมามั้ยคืนนี้” หนึ่งถามเจน เขาอยากให้พี่มอสมาร่วมงานด้วย จะได้สนุกไปด้วยกัน คนกันเองทั้งนั้น “เจลชวนแฮ็กเกอร์ยัง ไม่ใช่กลับบ้านไปแล้วเหรอ ต้องมานะไม่มาไม่ได้ บอกเลยว่าหนึ่งชวน” หนึ่งหันไปพูดกับเจลอีกคน
“พี่มอสกำลังมา” เจนหันมาตอบหนึ่งขณะเปิดอ่านไลน์พี่มอส ได้ความว่ากำลังเดินทางมาที่หอพัก อีกไม่นานคงถึง “แฮ็กเกอร์ล่ะ มามั้ยเจล” เจนหันไปถามผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของตนอีกคน ปาร์ตี้คืนนี้อยากให้แก๊งมาครบกันทุกคนจะได้สนุก
“มา ! กูบอกมันแล้ว” เจลชำเลืองมองพี่สาวและตอบไป ขณะเปิดข้อความของแฮ็กเกอร์อ่านเช่นกัน
“ดีมาก ! เดี๋ยวกูกับวีจะเป็นคนจัดการเองเรื่องของกินอ่ะ จัดเต็มคะรับผม ! ใครต้องการอะไรเพิ่มบอกนะจะได้หาซื้อมาทีเดียว เมนูที่จะทำมีแค่นี้ใช่มั้ย จะทำอะไรเพิ่มมั้ยหรือพอแค่นี้” เขาถามเพื่อน ๆ ปาร์ตี้เล็ก ๆ คืนนี้อยากให้เกิดความสุขมากที่สุด
“ไม่มีแอลกอฮอล์นะ” แสงระวีพูดพร้อมปรายตามองหนึ่ง ค่อนขอดบังคับด้วยสายตาไม่อยากให้มีเหล้าหรือเบียร์ในคืนนี้ “เคมั้ย !” ถามเน้นย้ำอีกรอบ
“ซวยเลย” หนึ่งพูดออกมาลอย ๆ ทำหน้าทะเล้นพร้อมฉีกยิ้มให้เธอ ทุกคนอมยิ้มให้กับคำสั่งห้ามเด็ดขาดของเธอ ถึงอย่างไรก็มีแน่นอนไม่มีใครฟังหรอก “เฮ้ยไม่ได้ดิวี” เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “มี ! ไม่มีไม่ได้แฮ็กกับพี่มอสก็มา ไอ้เก้าด้วยอีก”
“ก็วีบอกว่าคนอื่นกินได้ หนึ่งห้ามกิน”
“อ้าวซะงั้น ! วันเดียวไม่ได้เหรอตัวเอง” หลับตาปริบ ๆ อ้อนเธอย่างตลก ไม่สนใจเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยกันสักนิด ทว่าโดนเธอกลอกตามองบนเข้าให้ อย่างไรเสียเขาก็ต้องดื่มล่ะงานนี้
ในที่สุดเสียงออดสุดท้ายก็ดังขึ้น ทุกคนทยอยกันกลับบ้าน สองฝาแฝดและเธอนั่งรถซ้อนสามกันไป ลัดเลาะเข้าซอยนั้นออกซอยนี้เพื่อไปยังหอพัก หนีตำรวจตั้งด่าน กันไว้ดีกว่าแก้ ปกติเวลาเลิกเรียนแบบนี้จะไม่ค่อยมีด่าน แต่ควรป้องกันไว้ก่อนยิ่งซ้อนสามคนไม่ควรออกไปถนนหลักให้ล่อหูล่อตาตำรวจ
มีเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ขับตามพวกเธอมาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเหตุการณ์ขับรถหนีด่าน สองสามร้อยก็เป็นเงินจำนวนเยอะมากสำหรับนักเรียนแบบพวกเธอ ไม่ใช่แค่ไม่มีใบขับขี่ หมวกกันน็อกก็ไม่มี
หอพักของสองฝาแฝดอยู่ใกล้กับสถานีวิทยุกระจายเสียงของจังหวัด อยู่หลังโรงเรียนนี่เอง นักเรียนที่นี่ชอบเรียกซอยนี้ว่าซอยวิทยุ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าซอยทุ่งมน มีหอพักเยอะแยะเป็นเคหะเฉพาะให้นักเรียนเช่า
หอพักของสองฝาแฝดและแฮ็กเกอร์อยู่ตรงข้ามกัน ไปมาหาสู่กันได้ เป็นหอรวม สามคนพี่น้องขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าหอ วันนี้ในโรงรถแลดูบางตาเพราะทุกคนกลับบ้านกันหมด มีบ้างที่ไม่ได้กลับอยู่สองสามคัน รวมพวกเธอด้วย
เลิกเรียนหนึ่งขอตัวกลับไปที่บ้านก่อน แล้วจะกลับมาสมทบทีหลัง นัดพวกเธอไว้ไม่เกินชั่วโมง หนึ่งกลับไปขอพ่อกับแม่อีกรอบเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง พวกเธอสามคนพี่น้องเดินขึ้นห้องไปรอหนึ่ง
ไม่นานหนึ่งก็กลับมา โทรตามให้เธอลงมา ตนเองรออยู่ที่หน้าหอพักแล้ว เธอรีบเดินลงมาเห็นหนึ่งนั่งรอที่รถมอเตอร์ไซค์ พอเห็นหน้ากันก็อดยิ้มไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอด ทั้งที่เจอกันทุกวันมันก็ยังรู้สึกเขินอยู่ดี
“ยิ้มอะไร !” หนึ่งถามทันทีที่แสงระวีเดินมาถึง จ้องมองใบหน้ากลมมนได้รูปนั้นด้วยรอยยิ้ม
“ยิ้มอะไรเล่า เปล่าสักหน่อย !” แสงระวีปฏิเสธ ทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มอยู่ หนึ่งก็ไม่รบเร้าเพราะรู้อยู่แก่ใจ ตนเองก็เขินนิด ๆ อยู่เหมือนกัน
เธอนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กับหนึ่งไปยังตลาด เป็นตลาดสดตอนเย็น ระหว่างทางหนึ่งขับช้า ๆ ตามไหล่ทางไปเรื่อย ๆ จับมือของเธอมากอดไว้ที่เอวของตนเอง เธอพยายามจะปล่อยมือออกหนึ่งก็จับมากอดไว้อีก เป็นแบบนี้ตลอดทาง จนในที่สุดก็ยอมกอดเอวหนึ่งเอาไว้ แอบยิ้มเขินอยู่ด้านหลัง
“อย่าปล่อยได้มั้ยอ่ะ กอดไว้แบบนั้นล่ะ เนี่ยเดี๋ยวขากลับก็ไม่ได้กอดแล้ว ต้องถือของพะรุงพะรังอีก” หนึ่งพูดขณะขับรถมุ่งหน้าไปยังตลาด ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้า หากเลยตลาดไปก็จะเป็นหมู่บ้านของตน
“ก็วีไม่เคยอ่ะ วี… วีอาย “ พูดกลั้วยิ้ม เขินอยู่คนเดียว ไม่รู้เลยว่าหนึ่งก็แอบยิ้มอยู่
“ไม่เคยก็หัดไว้ไง เดี๋ยวก็ชิน ถ้างั้นต้องให้วีนั่งรถกับหนึ่งบ่อย ๆ แล้วล่ะ” เขาพูดปะทะลมกลับมา ค่อย ๆ ขับรถไปเรื่อย ๆ แบบไม่รีบร้อน อยากนั่งรถแบบนี้กับเธอนาน ๆ
“ได้ไง ! ก็ต้องกลับบ้านอยู่ดีเวลาเลิกเรียน หนึ่งจะไปส่งวีกลับบ้านเหรอ”
“ก็ได้นะ ! ฮา กล้าปะละ “ เขาพูดกลั้วหัวเราะ
“บ้า !” ตอบไปและอมยิ้มไปด้วย พร้อมกระชับอ้อมกอดเข้าไปอีก ทั้งสองคนคุยกันระหว่างนั่งรถไปตลาด
เพราะตลาดอยู่ใกล้ ๆ บ้านของตน จึงคิดแผนจะพาเธอไปบ้าน แค่ให้รอหน้าบ้านไม่ได้จะพาเธอเข้าไปในบ้านแน่นอน
“หนึ่ง ! ไม่ต้องพาวีขับผ่านบ้านหนึ่งนะ วีอาย “ ทักท้วงหนึ่งเมื่อรู้สึกว่าเส้นทางมันแปลก ๆ ไม่ใช่เส้นทางมาตลาด “แล้วนี่จะขับไปไหน ทำไมมาทางนี้อ่ะ ทำไมไม่ผ่านหน้าห้างนี่ขับมาไกลแล้วนะ ใจจริงไม่พาไปแยกบายพาสหรือเข้าหลังโรงเรียนเซนต์ยอเเซฟและก็จอดหน้าบ้านหนึ่งเลยล่ะ ถ้าจะทำขนาดนี้” แสงระวีพูดประชด
“รู้ทันอีกและ” หนึ่งเลี้ยวรถกลับทันทีเมื่อสัมผัสได้กับความไม่พอใจของแฟนสาว กำลังจะพาเธอขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ ขับผ่านบ้านตัวเอง ที่จริงทางมาตลาดจากหอพักสองฝาแฝดใกล้นิดเดียว แต่หนึ่งอยากพาขับอ้อมมาอีกเส้นทาง อยากพาขับรถเล่นเท่านั้น
เส้นทางที่หนึ่งพาขับมาเป็นเส้นทางเชื่อมตัดมาบ้านของหนึ่ง เธอรู้สึกไม่ชอบใจมาก แทนที่จะรีบซื้อและรีบกลับ เพื่อน ๆ รออยู่ที่หอ นี่ดันมาเล่นอะไรก็ไม่รู้เสียเวลา และ เป็นการทำให้เธอเสียความรู้สึกชนิดที่บอกไม่ถูกเช่นกัน
“จะพาวีไปใช่มั้ยล่ะ ! ว่าแล้วทำไมมาทางนี้ทั้งที่ตลาดอยู่แค่นี้เอง” แสงระวีพูดประชด โกรธที่หนึ่งคิดจะทำแบบนี้ สีหน้าบึ้งตึงนั่งเงียบไม่คุยด้วย แถมยังขยับถอยออกห่างจากที่นั่งติดกัน
“เฮ้ย ! ขอโทษ ! ขยับเข้ามา วีขยับเข้ามาใกล้ ๆ หนึ่งเหมือนเดิม หนึ่งขอโทษ วันเกิดหนึ่งนะไม่งอนดิ” เขาพยายามยิ้มให้เธอ อ้างวันเกิดเพื่อกลบเกลื่อนความผิด หัวเราะให้กับท่าทางงอนของเธอ และ ที่สำคัญไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอโกรธเลย
“ก็หนึ่งทำแบบนี้ทำไมอ่ะ วีไม่ชอบ” แสงระวีพูดเรียบ ๆ บ่งบอกว่ากำลังโกรธในสิ่งที่เขาทำ มือยังกอดอกตนเองไม่ยอมกอดเอวของเขา ยังนั่งห่าง ๆ ไม่ยอมขยับถอยลงไปนั่งชิดกัน
ในที่สุดเมื่อเธอไม่ยอมขยับมานั่งชิด ๆ กัน หนึ่งจึงจอดรถพร้อมเอื้อมมือไปด้านหลังดันเธอเข้ามานั่งชิด ๆ ตน เธอขยับลงมาชิดตัวหนึ่งตามแรงดันและกอดเอาไว้
“เค้าขอโทษ” หันไปพูดขอโทษ มือยังไม่ยอมปล่อยจากเอวของแสงระวี จนกว่าจะหายโกรธถึงจะยอมปล่อยและขับรถไปต่อ “วีไม่หายโกรธหนึ่งก็ไม่ไปต่อ ถ้าขับรถไปต่อวีก็ขยับนั่งห่างหนึ่งอ่ะ ขยับไปจะตกรถอยู่แล้ว หนึ่งขอโทษนะ ๆ ไม่หายโกรธไม่ไปต่อจริงด้วย จอดอยู่ตรงนี้แหละ” พูดออดอ้อนพร้อมขู่ไปในตัว
ขณะนี้ก็มีรถวิ่งสวนไปมาไม่ขาดระยะ บ้างก็หันมามอง บ้างก็ไม่สนใจ ทว่ามันทำให้แสงระวีอายอยู่ไม่น้อยที่ถูกคนขับรถผ่านไปผ่านมาหันมอง
“วียังไม่พร้อมไปบ้านหนึ่งแล้วทำไมหนึ่งทำแบบนี้ล่ะ หนึ่งสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกก่อน” ยอมพูดกับเขาเพราะอยากไปจากตรงนี้เร็ว ๆ
“ครับสัญญา” หนึ่งพูดพร้อมยกมือชูสามนิ้วขึ้นมาให้เธอเห็น “หายโกรธเค้านะ ก็แค่อยากแกล้งเฉย ๆ ขี้งอนไปได้ และก็เลิกกอดอกได้แล้ว กอดเค้าเหมือนเดิมเลย”
“ไม่ต้องมาพูดเลย ! รีบไปเถอะเดี๋ยวอี่แฝดรอนาน ขี้เกียจฟังมันบ่น พี่มอสไม่ใช่มาถึงแล้วเหรอ” แสงระวีหายโกรธ ไม่อยากเอาเรื่องในตอนนี้ อยากทำให้หนึ่งมีความสุขในวันวันเกิดมากกว่า
เมื่อง้อแสงระวีสำเร็จหนึ่งรีบขับมอเตอร์ไซค์ไปยังตลาดที่ว่า หนึ่งกับแสงระวีรีบเลือกซื้อกุ้ง หมู ผัก ที่ต้องการอย่างเร็ว ไม่มีต่อรองราคาใด ๆ เพราะเสียเวลามากแล้ว รีบซื้อรีบกลับ กลัวเพื่อน ๆ รอนาน
เมื่อซื้อของครบทุกอย่างทั้งสองคนรีบขับรถกลับมาหอพักของสองฝาแฝดทันที ไม่นานก็ถึงเพราะตลาดกับหอพักอยู่ไม่ไกลกัน ที่ใช้เวลานานเป็นเพราะหนึ่งขับรถเล่นเตลิดไปไกลเอง
แสงระวี….บทที่ 16 (รีไรท์)
เอามาลงให้อ่านอีกค่ะ ยังมีความสุขดีอยู่
………………………………………………………………………
สัปดาห์นี้เธอคิดว่าจะขอแม่ค้างที่หอพักกับสองฝาแฝด มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ถึงอย่างไรก็จะต้องอ้อนแม่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกผิดกับบางคนมากแน่นอน…
วันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์ หลังเลิกเรียนแสงระวีขอแม่ค้างกับสองฝาแฝดที่หอพัก เพราะมีสิ่งที่อยากทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนพิเศษ แสงระวีกล้าเรียกหนึ่งว่าความรักหรือคนรักได้เต็มปาก เมื่อถึงวันสำคัญก็อยากทำอะไร ๆ ที่พิเศษให้บ้าง เหมือนคนรักคนอื่นเขาทำกัน
ไม่มีของขวัญให้จัดงานเล็ก ๆ ให้ก็ยังดี ตามแบบฉบับของพวกเธอ แค่อยากอยู่ด้วยกัน อยากใช้เวลาด้วยกันในวันสำคัญของกันและกันเท่านั้น
วันนี้เธอจัดงานวันเกิดเล็ก ๆ ย้อนหลังให้กับหนึ่ง วันเกิดจริง ๆ คือเมื่อวานนี้ทว่าไม่มีโอกาสได้เซอร์ไพรส์เลย พวกเธอตกลงกันแล้วว่าวันศุกร์ค่อยจัดวันเกิดย้อนหลังให้
สถานที่จัดปาร์ตี้คือหอพักของสองฝาแฝด เธออยากนำเค้กมาให้หนึ่งเป่า ปีนี้เป็นปีแรกตั้งแต่คบกันมาที่เธอจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กัน
“แม่ว่าไงวี” หนึ่งถาม เย็นวันศุกร์พวกเธอรอเลิกเรียนอย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอคอยฟังเธอกับแม่คุยกัน คอยลุ้นไปด้วย ถามขึ้นเมื่อเธอวางสายกับแม่แล้ว
แสงระวียิ้ม ใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความดีใจ “แม่ตกลง เย้ ! ฮา” พูดกลั้วหัวเราะกับหนึ่งด้วยความดีใจ ฉีกยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า คืนนี้แหละจะได้สนุกกัน “แต่ว่าพรุ่งนี้เช้าต้องรีบกลับนะ แม่บอก” แสงระวีเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากระโปรงนักเรียน ใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาด้วยความดีใจ
“เย้ ! เดี๋ยวพรุ่งนี้หนึ่งไปส่งเอง” หนึ่งเองก็ดีใจไม่แพ้เธอ นึกว่าแม่ของเธอจะไม่อนุญาตเสียแล้ว คอยลุ้นเอาใจช่วยไปด้วย
ระหว่างรอเสียงออดสุดท้าย เธอนึกถึงภาพงานเลี้ยงในคืนนี้ นึกถึงภาพตอนตนเองนำเค้กให้หนึ่งเป่า นึกถึงรูปร่างหน้าตาของเค้กที่สั่ง และนึกถึงกิริยาท่าทางของหนึ่งขณะที่ตนเองถือเค้กมาเซอร์ไพรส์จะเป็นอย่างไร เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบรรยากาศของค่ำคืนนี้
สำหรับครอบครัวของเขา เมื่อคืนพ่อกับแม่จัดงานวันเกิดและมอบของขวัญให้แล้ว งานเล็ก ๆ ฉลองแค่คนในครอบครัว ส่วนวันนี้เป็นวันฉลองกับเพื่อนและคนที่เขารัก
ระหว่างนั้นทุกคนวางแผนกันว่าคืนนี้จะทานอะไรกันดี ทำการเขียนรายการเมนูจดใส่กระดาษไว้ คนที่รับอาสาทำหน้าที่หาซื้อวัตถุดิบคือเธอกับหนึ่งเอง พวกเธอรับอาสาในส่วนหน้าที่ตรงนี้ เพราะหนึ่งเป็นเจ้าของงานจึงอาสาเองเกือบทั้งหมด
เมื่อไหร่จะถึงเวลาเลิกเรียน ทุกคนใจจดใจจ่อต่องานเลี้ยงคืนนี้มาก ถ้าไม่ติดว่าเจนและเจลขับรถมอเตอร์ไซค์มาเรียน ป่านนี้คงแอบโดดหนีเรียนชั่วโมงสุดท้ายกลับไปนานแล้ว
“เจนพี่มอสจะมามั้ยคืนนี้” หนึ่งถามเจน เขาอยากให้พี่มอสมาร่วมงานด้วย จะได้สนุกไปด้วยกัน คนกันเองทั้งนั้น “เจลชวนแฮ็กเกอร์ยัง ไม่ใช่กลับบ้านไปแล้วเหรอ ต้องมานะไม่มาไม่ได้ บอกเลยว่าหนึ่งชวน” หนึ่งหันไปพูดกับเจลอีกคน
“พี่มอสกำลังมา” เจนหันมาตอบหนึ่งขณะเปิดอ่านไลน์พี่มอส ได้ความว่ากำลังเดินทางมาที่หอพัก อีกไม่นานคงถึง “แฮ็กเกอร์ล่ะ มามั้ยเจล” เจนหันไปถามผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของตนอีกคน ปาร์ตี้คืนนี้อยากให้แก๊งมาครบกันทุกคนจะได้สนุก
“มา ! กูบอกมันแล้ว” เจลชำเลืองมองพี่สาวและตอบไป ขณะเปิดข้อความของแฮ็กเกอร์อ่านเช่นกัน
“ดีมาก ! เดี๋ยวกูกับวีจะเป็นคนจัดการเองเรื่องของกินอ่ะ จัดเต็มคะรับผม ! ใครต้องการอะไรเพิ่มบอกนะจะได้หาซื้อมาทีเดียว เมนูที่จะทำมีแค่นี้ใช่มั้ย จะทำอะไรเพิ่มมั้ยหรือพอแค่นี้” เขาถามเพื่อน ๆ ปาร์ตี้เล็ก ๆ คืนนี้อยากให้เกิดความสุขมากที่สุด
“ไม่มีแอลกอฮอล์นะ” แสงระวีพูดพร้อมปรายตามองหนึ่ง ค่อนขอดบังคับด้วยสายตาไม่อยากให้มีเหล้าหรือเบียร์ในคืนนี้ “เคมั้ย !” ถามเน้นย้ำอีกรอบ
“ซวยเลย” หนึ่งพูดออกมาลอย ๆ ทำหน้าทะเล้นพร้อมฉีกยิ้มให้เธอ ทุกคนอมยิ้มให้กับคำสั่งห้ามเด็ดขาดของเธอ ถึงอย่างไรก็มีแน่นอนไม่มีใครฟังหรอก “เฮ้ยไม่ได้ดิวี” เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “มี ! ไม่มีไม่ได้แฮ็กกับพี่มอสก็มา ไอ้เก้าด้วยอีก”
“ก็วีบอกว่าคนอื่นกินได้ หนึ่งห้ามกิน”
“อ้าวซะงั้น ! วันเดียวไม่ได้เหรอตัวเอง” หลับตาปริบ ๆ อ้อนเธอย่างตลก ไม่สนใจเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยกันสักนิด ทว่าโดนเธอกลอกตามองบนเข้าให้ อย่างไรเสียเขาก็ต้องดื่มล่ะงานนี้
ในที่สุดเสียงออดสุดท้ายก็ดังขึ้น ทุกคนทยอยกันกลับบ้าน สองฝาแฝดและเธอนั่งรถซ้อนสามกันไป ลัดเลาะเข้าซอยนั้นออกซอยนี้เพื่อไปยังหอพัก หนีตำรวจตั้งด่าน กันไว้ดีกว่าแก้ ปกติเวลาเลิกเรียนแบบนี้จะไม่ค่อยมีด่าน แต่ควรป้องกันไว้ก่อนยิ่งซ้อนสามคนไม่ควรออกไปถนนหลักให้ล่อหูล่อตาตำรวจ
มีเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ขับตามพวกเธอมาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเหตุการณ์ขับรถหนีด่าน สองสามร้อยก็เป็นเงินจำนวนเยอะมากสำหรับนักเรียนแบบพวกเธอ ไม่ใช่แค่ไม่มีใบขับขี่ หมวกกันน็อกก็ไม่มี
หอพักของสองฝาแฝดอยู่ใกล้กับสถานีวิทยุกระจายเสียงของจังหวัด อยู่หลังโรงเรียนนี่เอง นักเรียนที่นี่ชอบเรียกซอยนี้ว่าซอยวิทยุ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าซอยทุ่งมน มีหอพักเยอะแยะเป็นเคหะเฉพาะให้นักเรียนเช่า
หอพักของสองฝาแฝดและแฮ็กเกอร์อยู่ตรงข้ามกัน ไปมาหาสู่กันได้ เป็นหอรวม สามคนพี่น้องขับมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าหอ วันนี้ในโรงรถแลดูบางตาเพราะทุกคนกลับบ้านกันหมด มีบ้างที่ไม่ได้กลับอยู่สองสามคัน รวมพวกเธอด้วย
เลิกเรียนหนึ่งขอตัวกลับไปที่บ้านก่อน แล้วจะกลับมาสมทบทีหลัง นัดพวกเธอไว้ไม่เกินชั่วโมง หนึ่งกลับไปขอพ่อกับแม่อีกรอบเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง พวกเธอสามคนพี่น้องเดินขึ้นห้องไปรอหนึ่ง
ไม่นานหนึ่งก็กลับมา โทรตามให้เธอลงมา ตนเองรออยู่ที่หน้าหอพักแล้ว เธอรีบเดินลงมาเห็นหนึ่งนั่งรอที่รถมอเตอร์ไซค์ พอเห็นหน้ากันก็อดยิ้มไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอด ทั้งที่เจอกันทุกวันมันก็ยังรู้สึกเขินอยู่ดี
“ยิ้มอะไร !” หนึ่งถามทันทีที่แสงระวีเดินมาถึง จ้องมองใบหน้ากลมมนได้รูปนั้นด้วยรอยยิ้ม
“ยิ้มอะไรเล่า เปล่าสักหน่อย !” แสงระวีปฏิเสธ ทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มอยู่ หนึ่งก็ไม่รบเร้าเพราะรู้อยู่แก่ใจ ตนเองก็เขินนิด ๆ อยู่เหมือนกัน
เธอนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กับหนึ่งไปยังตลาด เป็นตลาดสดตอนเย็น ระหว่างทางหนึ่งขับช้า ๆ ตามไหล่ทางไปเรื่อย ๆ จับมือของเธอมากอดไว้ที่เอวของตนเอง เธอพยายามจะปล่อยมือออกหนึ่งก็จับมากอดไว้อีก เป็นแบบนี้ตลอดทาง จนในที่สุดก็ยอมกอดเอวหนึ่งเอาไว้ แอบยิ้มเขินอยู่ด้านหลัง
“อย่าปล่อยได้มั้ยอ่ะ กอดไว้แบบนั้นล่ะ เนี่ยเดี๋ยวขากลับก็ไม่ได้กอดแล้ว ต้องถือของพะรุงพะรังอีก” หนึ่งพูดขณะขับรถมุ่งหน้าไปยังตลาด ซึ่งอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้า หากเลยตลาดไปก็จะเป็นหมู่บ้านของตน
“ก็วีไม่เคยอ่ะ วี… วีอาย “ พูดกลั้วยิ้ม เขินอยู่คนเดียว ไม่รู้เลยว่าหนึ่งก็แอบยิ้มอยู่
“ไม่เคยก็หัดไว้ไง เดี๋ยวก็ชิน ถ้างั้นต้องให้วีนั่งรถกับหนึ่งบ่อย ๆ แล้วล่ะ” เขาพูดปะทะลมกลับมา ค่อย ๆ ขับรถไปเรื่อย ๆ แบบไม่รีบร้อน อยากนั่งรถแบบนี้กับเธอนาน ๆ
“ได้ไง ! ก็ต้องกลับบ้านอยู่ดีเวลาเลิกเรียน หนึ่งจะไปส่งวีกลับบ้านเหรอ”
“ก็ได้นะ ! ฮา กล้าปะละ “ เขาพูดกลั้วหัวเราะ
“บ้า !” ตอบไปและอมยิ้มไปด้วย พร้อมกระชับอ้อมกอดเข้าไปอีก ทั้งสองคนคุยกันระหว่างนั่งรถไปตลาด
เพราะตลาดอยู่ใกล้ ๆ บ้านของตน จึงคิดแผนจะพาเธอไปบ้าน แค่ให้รอหน้าบ้านไม่ได้จะพาเธอเข้าไปในบ้านแน่นอน
“หนึ่ง ! ไม่ต้องพาวีขับผ่านบ้านหนึ่งนะ วีอาย “ ทักท้วงหนึ่งเมื่อรู้สึกว่าเส้นทางมันแปลก ๆ ไม่ใช่เส้นทางมาตลาด “แล้วนี่จะขับไปไหน ทำไมมาทางนี้อ่ะ ทำไมไม่ผ่านหน้าห้างนี่ขับมาไกลแล้วนะ ใจจริงไม่พาไปแยกบายพาสหรือเข้าหลังโรงเรียนเซนต์ยอเเซฟและก็จอดหน้าบ้านหนึ่งเลยล่ะ ถ้าจะทำขนาดนี้” แสงระวีพูดประชด
“รู้ทันอีกและ” หนึ่งเลี้ยวรถกลับทันทีเมื่อสัมผัสได้กับความไม่พอใจของแฟนสาว กำลังจะพาเธอขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ ขับผ่านบ้านตัวเอง ที่จริงทางมาตลาดจากหอพักสองฝาแฝดใกล้นิดเดียว แต่หนึ่งอยากพาขับอ้อมมาอีกเส้นทาง อยากพาขับรถเล่นเท่านั้น
เส้นทางที่หนึ่งพาขับมาเป็นเส้นทางเชื่อมตัดมาบ้านของหนึ่ง เธอรู้สึกไม่ชอบใจมาก แทนที่จะรีบซื้อและรีบกลับ เพื่อน ๆ รออยู่ที่หอ นี่ดันมาเล่นอะไรก็ไม่รู้เสียเวลา และ เป็นการทำให้เธอเสียความรู้สึกชนิดที่บอกไม่ถูกเช่นกัน
“จะพาวีไปใช่มั้ยล่ะ ! ว่าแล้วทำไมมาทางนี้ทั้งที่ตลาดอยู่แค่นี้เอง” แสงระวีพูดประชด โกรธที่หนึ่งคิดจะทำแบบนี้ สีหน้าบึ้งตึงนั่งเงียบไม่คุยด้วย แถมยังขยับถอยออกห่างจากที่นั่งติดกัน
“เฮ้ย ! ขอโทษ ! ขยับเข้ามา วีขยับเข้ามาใกล้ ๆ หนึ่งเหมือนเดิม หนึ่งขอโทษ วันเกิดหนึ่งนะไม่งอนดิ” เขาพยายามยิ้มให้เธอ อ้างวันเกิดเพื่อกลบเกลื่อนความผิด หัวเราะให้กับท่าทางงอนของเธอ และ ที่สำคัญไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอโกรธเลย
“ก็หนึ่งทำแบบนี้ทำไมอ่ะ วีไม่ชอบ” แสงระวีพูดเรียบ ๆ บ่งบอกว่ากำลังโกรธในสิ่งที่เขาทำ มือยังกอดอกตนเองไม่ยอมกอดเอวของเขา ยังนั่งห่าง ๆ ไม่ยอมขยับถอยลงไปนั่งชิดกัน
ในที่สุดเมื่อเธอไม่ยอมขยับมานั่งชิด ๆ กัน หนึ่งจึงจอดรถพร้อมเอื้อมมือไปด้านหลังดันเธอเข้ามานั่งชิด ๆ ตน เธอขยับลงมาชิดตัวหนึ่งตามแรงดันและกอดเอาไว้
“เค้าขอโทษ” หันไปพูดขอโทษ มือยังไม่ยอมปล่อยจากเอวของแสงระวี จนกว่าจะหายโกรธถึงจะยอมปล่อยและขับรถไปต่อ “วีไม่หายโกรธหนึ่งก็ไม่ไปต่อ ถ้าขับรถไปต่อวีก็ขยับนั่งห่างหนึ่งอ่ะ ขยับไปจะตกรถอยู่แล้ว หนึ่งขอโทษนะ ๆ ไม่หายโกรธไม่ไปต่อจริงด้วย จอดอยู่ตรงนี้แหละ” พูดออดอ้อนพร้อมขู่ไปในตัว
ขณะนี้ก็มีรถวิ่งสวนไปมาไม่ขาดระยะ บ้างก็หันมามอง บ้างก็ไม่สนใจ ทว่ามันทำให้แสงระวีอายอยู่ไม่น้อยที่ถูกคนขับรถผ่านไปผ่านมาหันมอง
“วียังไม่พร้อมไปบ้านหนึ่งแล้วทำไมหนึ่งทำแบบนี้ล่ะ หนึ่งสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกก่อน” ยอมพูดกับเขาเพราะอยากไปจากตรงนี้เร็ว ๆ
“ครับสัญญา” หนึ่งพูดพร้อมยกมือชูสามนิ้วขึ้นมาให้เธอเห็น “หายโกรธเค้านะ ก็แค่อยากแกล้งเฉย ๆ ขี้งอนไปได้ และก็เลิกกอดอกได้แล้ว กอดเค้าเหมือนเดิมเลย”
“ไม่ต้องมาพูดเลย ! รีบไปเถอะเดี๋ยวอี่แฝดรอนาน ขี้เกียจฟังมันบ่น พี่มอสไม่ใช่มาถึงแล้วเหรอ” แสงระวีหายโกรธ ไม่อยากเอาเรื่องในตอนนี้ อยากทำให้หนึ่งมีความสุขในวันวันเกิดมากกว่า
เมื่อง้อแสงระวีสำเร็จหนึ่งรีบขับมอเตอร์ไซค์ไปยังตลาดที่ว่า หนึ่งกับแสงระวีรีบเลือกซื้อกุ้ง หมู ผัก ที่ต้องการอย่างเร็ว ไม่มีต่อรองราคาใด ๆ เพราะเสียเวลามากแล้ว รีบซื้อรีบกลับ กลัวเพื่อน ๆ รอนาน
เมื่อซื้อของครบทุกอย่างทั้งสองคนรีบขับรถกลับมาหอพักของสองฝาแฝดทันที ไม่นานก็ถึงเพราะตลาดกับหอพักอยู่ไม่ไกลกัน ที่ใช้เวลานานเป็นเพราะหนึ่งขับรถเล่นเตลิดไปไกลเอง