สุขภาพจิตคนไทยก็กำลังหนัก เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ควบคู่ไปด้วย นอกจากปัญหาโรค เศรษฐกิจ

ผมอยู่เชียงใหม่ เชียงใหม่เคยเจอสภาวะกึ่งล็อคดาวน์ เมื่อเดือนเมษา พฤษภา   แต่ตอนนี้ปรกติแล้ว  ผมยังจำความทรมานตอนนั้นได้เลยว่า อยู่แต่บ้าน แรกๆดูหนังซีรีส์ แต่พอดูทั้งวันเบื่อจนไม่รู้ทำอะไร  เข้าเล่นโซเซียลก็เจอแต่ข่าวดราม่ามากมาย เครียดเพิ่ม    อีเพื่อนบ้านข้างห้อง ก็ปากมากเสียงดังโวยวายกับลูกมันที่ไม่ได้ไปโรงเรียน ตัวเองไม่ได้ออกไปขายของ   เปิดมือถือดูคลิป Live สด ขายของแหกปากเสียงดังเป็นครอบครัว กลางวัน ยันเที่ยงคืนยังไม่นอน  (ผมอยู่คนเดียวไม่กล้ามีเรื่องได้แต่ยอม  ) 
  
  พอกลางวันไอ้เราจะออกไปข้างนอกเสพบรรยากาศก็ไม่มีที่ไหนเปิด ร้านไม่เปิดให้นั่ง คือตอนนั้นผมแทบจะประสาทกินจริงๆเลยนะ แบบ...ทรมานมาก    แต่พอกลางเดือน พฤษภาเป็นต้นมา เชียงใหม่คุมได้ จนถึงตอนนี้ ที่ต่างๆก็เปิดปรกติ ไม่นับผับบาร์  อีเพื่อนบ้านข้างห้องออกไปขายของข้างนอกตามที่เคยทำ  สุขภาพจิตผมดีขึ้นมากแทบจะปรกติ  
  

ทีนี้มานั่งคิด รู้สึกเห็นใจเป็นห่วง คนที่อยู่ กรุงเทพ ปริมณฑล จังหวัดสีแดงทั้งหลาย ที่ปิดกันมานานหลายเดือนมีแต่หนักลง  เปิดนิดๆหน่อยก็ปิด  สุขภาพจิตจะขนาดไหน เห็นใจนะ  คนรวยมีบ้านใหญ่ มีสระน้ำ มีสวน อาจจะพอทรมานนิดหน่อย    แต่คนธรรมดา ผมว่ามีแน่นอน   เวลาเห็นตามเฟชบุ๊ค คนไปเดินห้างกันเยอะ หรือไปทะเลกันเยอะ   เจอความเห็นคนส่วนใหญ่ด่ากัน โรคระบาดหนักทำไมไม่อยู่บ้าน อะไรต่างๆ   แต่ส่วนตัวผมเข้าใจคนพวกนั้นว่ะ ด้วยความที่เคยเป็นในช่วงสั้นๆ  คือการออกมาข้างนอก แม้แต่เดินห้าง หรือไปสถานที่ มันเสี่ยงโรคก็จริง แต่มันเพิ่มช่วยสุขภาพจิตจริงๆครับ ออกไปเห็นผู้คน เห็นสังคม เห็นบรรยากาศข้างนอก มันรีแลกซ์ช่วยจริงๆ   แต่ก็นั่นแหละโรคมันก็ไม่หายไปสักที  หมอก็ลำบากแทบตายเหนื่อยกว่าเราเยอะ  ก็เข้าใจตรงนี้อีกเช่นกัน      

  ผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นคนธรรมดานะ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องมีวิธีทำไง แต่อยากให้ทางการที่เกี่ยวข้องมีมาตรการดูตรงนี้   ผมรู้สึกเหมือนคนไทยกำลังป่วยจิตกันเยอะ ดูจากโซเซียลก็พอมองออก  พอไม่ได้ออกไปไหนความเครียดสะสมนานๆมันหนักหนาจริงๆ แล้วมันไม่รู้จะจบเมื่อไหร่  ล่าสุดเห็นข่าวอาจจะมีล็อคดาวน์เร็วๆนี้ด้วย  กรมสุขภาพจิตต้องทำงานเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ  เท่าที่ผมเห็นเหมือนยังทำงานเชิงรับ ลักษณะให้คนมีปัญหาไปติดต่อเอง  แต่ตอนนี้มันวงกว้างเจอกันทุกระดับ ถ้าไม่เชิงรุกกลัวว่าแม้อนาคตโรคจะคุมได้ แต่สุขภาพจิตคนจะกลับมายาก อาจจะเป็นปัญหาสังคมได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่