เขาไม่รู้เลยว่า...
อาหารราคาแพงเลิศรสหลายอย่าง วางบนโต๊ะสวยในห้องอาหารหรู กำลังร้อนได้ที่ บางคนบอกว่าอาหารประเภทร้อน ต้องกินขณะกำลังร้อน จึงจะได้อรรถรสแห่งความอร่อย แต่ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง ที่นั่งเผชิญหน้ากันคนละฟากโต๊ะ ท่าทางจะอารมณ์ร้อนแรงกว่าอาหาร
อาจเป็น ‘คู่รัก’ ซึ่งอาจจะกำลังกลายเป็น ว่าที่อดีตคู่รัก เพราะพวกเขากำลังเข้าโค้งสุดท้าย แห่งความแตกแยก จะว่าไป ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เพราะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว ไปด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องแยกทางกัน ก็เท่านั้น ดีกว่าปล่อยให้คาราคาซัง ทรมานกันทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อสายใยยังคงเหลือ ก็ต้องยื้อยุดฉุดรั้งไว้ก่อน เพราะยังไม่บรรลุอะไรสักอย่าง
“คุณทำเกินไปแล้ว ไม่ไว้หน้าผมเลย”
ชายหนุ่มคำรามด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดเดือดร้อนระเบิด สลัดมาดนักธุรกิจหนุ่ม ผู้สุขุมเยือกเย็นในเวทีสงครามการเงิน และการงานไปจนหมดสิ้น วันนี้มาในมาดคนเดือด การดื่มเหล้าเดินเครื่องเร็วกว่าปกติเท่าตัว จนหูตาลายไปหมด เริ่มเห็นช้างตัวเท่าแมว แต่ยังไม่ถึงจุดระเบิด เมื่อทำอะไรไม่ได้มากก็ต้องดื่มดับอารมณ์
“คุณมันวุ่นวายกับผมมากเกินไป แล้วไม่ไว้หน้าผมเลย รู้ไหมว่าผมอับอายเพื่อนฝูงขนาดไหน จู่ ๆ ไปต่อว่าผมท่ามกลางเพื่อนฝูง มันเสียหน้าครับเสียหน้า”
พูดจบเขาก็ยกแก้วเหล้าขี้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว บริกรสาวสวยรีบเดินมาหยิบแก้วไป ชงเหล้าให้ทันทีเพราะรู้ว่าถ้าชักช้า อาจจะได้ค่าทิปน้อยลงกว่าควรจะเป็น แม้ในยามอารมณ์โกรธชายหนุ่มยังอุตส่าห์ปรับสภาพจิตใจฉับพลัน หันไปยิ้มอย่างมีชั้นเชิง กับบริกรสาวหุ่นดีแวบหนึ่งอย่างน่าตบให้ฟันหัก ก่อนหันมาระเบิดอารมณ์ต่อไป
“วันก่อนก็อีกแล้ว ผมผิดนัดคุณแค่เป็นครั้งที่ห้าของเดือนเท่านั้น คุณก็โวยวายต่อว่าเสียงลั่น จนผมอายผู้คน อายซ้ำอายซาก แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แล้วสาวคนที่คุณเห็นวันนั้น ก็เป็นลูกค้า บางทีต้องไปคุยกันในร้านหรู ๆ หน่อยก็เพื่อผลทางธุรกิจ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย”
“ฉันไม่ได้โง่นะคุณ...” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แววตาดุเดือดแบบร้อนลึกเอาเรื่องทีเดียว สีหน้าท่าทางแบบนี้ละ คือคนที่พร้อมจะทลายโลกได้ทุกเมื่อ
“ลูกค้าอะไรจับมือถือแขนหัวร่อต่อกระซิก ยังกับคู่รักเอี่ยมอ่องหวานแหวว ดีว่าเพื่อนฉันโทรมาบอก เลยเห็นกับตา พอจะโทรถาม คุณก็ปิดมือถือ แบบนี้มันส่อเจตนาชั่วร้ายชัด ๆ”
เธอจี้จุดได้ตรงประเด็นทั้งหมด และการจงใจปิดมือถือ ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นการอำพรางร่องรอยของตัวเอง ไม่ให้ใครบางคนรู้ว่า เขาอยู่พิกัดใดบนพื้นโลก มันเป็นเรื่องของความปลอดภัย
“คุณมันคิดมาก บางทีผมก็ต้องปิดมือถือ เพราะจะเป็นการรบกวนการประชุม คุณก็น่าจะรู้ เธอเป็นลูกค้าพิเศษ เพราะเคยเรียนห้องเดียวกันสมัยอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนเก่ามาเจอกัน มันก็ต้องดีใจทักทายกันเป็นธรรมดา”
“เพื่อนเก่าร่วมเตียงเดียวกันนะสิ ทำไมคุณต้องโกหกหน้าด้าน ๆ แบบนี้ เรามาเลิกกันดีกว่า…หรือว่าอยากจะรับลูกตะกั่วร้อน ๆ เป็นอาหารเสริม”
“นี่คุณ...” ชายหนุ่มกำมือแน่น สายตาเขียวปั๊ด “มันจะมากไปแล้วนะ เรื่องอะไรมาขู่ผมแบบนี้ มันข้อหาเจตนาฆาตกรรม หรือคุกคามชีวิตและความปลอดภัยนะคุณ อยากติดคุกก็เอาสิครับ”
“คิดเหรอว่า ฉันจะลงมือเอง” หญิงสาวยิ้มเยือกเย็น “ฉันคงไม่ได้โง่ขนาดนั้น ทุกวันนี้ การหามือปืนสักคนยิงใครสักคน ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีเงิน คุณก็รู้”
“คุณคิดจะฆ่าผม เพียงเพราะผมคุยกับลูกค้า ผิดนัดไม่กี่สิบครั้ง นี่นะ” ชายหนุ่มแผดเสียงจนโต๊ะด้านข้างหันมามอง
“เท่านี้ก็เกินพอแล้วค่ะ”
“คุณมันอำมหิตที่สุด”
“ของที่สุดเลยค่ะ” เสียงของหญิงสาวราบเรียบ แต่ฟังความหมายแล้วชวนนลุก
ชายหนุ่มขบกรามกรอด ยกมือขึ้นดูนาฬิกา ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อซึม ทั้งที่เครื่องปรับอากาศทำงานจนห้องเย็นฉ่ำ เขารู้ว่าแฟนสาวเป็นลูกสาวบุคคลมีอิทธิพลร่ำรวยคนหนึ่ง เธอไม่ได้ขู่เขาแบบล้อเล่นแน่
“โธ่โว้ย.....ผมจะเข้าห้องน้ำ” เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนเดินตรงไปห้องน้ำด้านหลังอย่างหงุดหงิด เพราะเถียงไม่ทัน
ใช่....ต้องเข้าห้องน้ำตั้งหลักก่อน แฟนสาวของเขาคนนี้นอกจากจะสวย หุ่นดีแล้ว ยังฉลาดเป็นกรด ภายใต้สายตาเฉียบคมดุเข้มนั้น ทำให้เขาเหงื่อแตกทุกครั้งที่เขาแอบทำผิด ผู้หญิงบ้าอะไร โกหกเท่าไรก็ไม่ยอมเชื่อ แบบนี้มันนางมารร้ายชัด ๆ เขาคำรามในใจ
ขณะยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ เห็นภาพของตัวเอง สะท้อนเป็นภาพชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดี แต่ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าแดงก่ำฉ่ำได้ที่ เพราะฤทธิ์เหล้าค่อนขวด และการตะลุยดื่มแบบหูดับตับไหม้
“หล่อเหมือนกันนะเรา” เขาเอียงหน้าไปมาพิจารณาความหล่อของตัวเอง ช่วยไม่ได้... คนเกิดมาหล่อ จะให้ทำอย่างไร ผิดหรือที่เกิดมาหน้าตาดีเกินกว่าเหตุ ขนาดเมายังหล่อลากไส้ ย่อมมีสาว ๆ มาติดพันบ้างละ
เพียงแต่วันนี้ ความหล่อกระทบกระเทือนไปบ้าง เพราะปัญหาสำคัญ
เขาต้องดื่มให้หนัก เพื่อเป็นการย้อมใจและกลบเกลื่อน เขามีความเชื่อว่า ผู้หญิงส่วนมากพอเห็นคนรักเมามาย จะต้องใจอ่อนลงไปไม่มากก็น้อยตาม สุภาษิตอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา แม้ฟังดูจะไม่เข้าท่านักก็ตาม
มองหน้าตนเองในกระจก แล้วถามตนเองในกระจกด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด สมองเมา ๆ ทำงานอย่างหนัก
“แกจะเอาไง ไอ้หล่อ.....เดี๋ยวเธอคนนั้นก็มาที่นี่แล้ว”
วันนี้มันวันนรกแตกจริง ๆ เขาทะลึ่งนัดหญิงสาวอีกคนมาที่ร้านนี้ เขามาก่อนเวลานัดประมาณเกือบชั่วโมงแต่ไม่นึกว่าแฟนสาวจะสะกดรอยตามมาถึงที่นี่ได้ และนี่ก็ใกล้เวลานัดแล้ว โอกาสรถไฟจะชนกันประลัยกัลป์มีสูง
“โทรไปหาแม่สาวคนนั้นสิ ว่าถึงไหนแล้ว”
เงาในกระจกตอบมา เขาพยักหน้าหงึกหงักให้กับตัวเองอย่างพอใจ ชายหนุ่มอีกคนซึ่งยืนประจัญหน้ากับโถปัสสาวะอยู่ด้านหลัง หันมองอย่างไม่เข้าใจ แล้วส่ายหน้า คงคิดในใจว่า แบบนี้คงไม่ใช่แค่บ้าก็เมา แต่เป็นทั้งเมาทั้งบ้า
ผลของการเจรจากับสาวเจ้าไม่ได้ผล ทำให้เขาเหงื่อแตกคาห้องน้ำ หล่อนกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แบบนี้มันวันสิ้นโลกชัด ๆ จะต้องทำอะไรสักอย่าง รถไฟสองขบวนจะชนกันไม่ได้ เพราะสองขบวนนี้ไม่ใช่รถไฟธรรมดา แต่เป็นรถไฟบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ทั้งคู่
ชายหนุ่มวิ่งขาขวิดพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำ เกือบจะชนกับสาวเสิร์ฟคนหนึ่ง ดีว่าเธอเบี่ยงตัวหลบทันอย่างสวยงามพลิ้วไหวดั่งสายน้ำแบบเจนจัดงานภัตตาคาร เพราะรู้นิสัยลูกค้าขี้เมาดี พอหลบก็หลบ ไม่ให้เปลืองตัว ชายหนุ่มมองไปมา จะต้องลากแฟนสาวออกจากพื้นที่วินาศมหาภัยโดยเร็วที่สุด นั่น...เธอยังนั่งจิบเหล้าอย่างใจเย็น ไม่รู้สึกรู้สมกับภัยพิบัติทางอารมณ์ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นถึงเลยสักนิด เดินรวบรวมความกล้าหาญ เดินดุ่มเข้าหาทันที
พอถึงตัวก็กระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น พลางตะคอกเสียงลั่นอย่างร้อนรน
“คุณต้องกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวนี้ มีอะไรค่อยพูดค่อยทะเลาะกันวันหลัง วันนี้ผมไม่ว่าง มีธุระด่วน กลับไปก่อน เดี๋ยวผมจ่ายเงินเอง”
“มันเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวโวยวายเสียงดังไม่แพ้กัน พยายามขืนตัวไว้เต็มที่ เป็นแบบนี้ละที่เขาไม่ชอบ ผู้หญิงอะไรไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงให้เขาเลย ทำไมจะต้องมารักกับคนแบบนี้นะ หาความอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ได้ แต่ทำไงได้ เพราะรักเข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะรักแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมีคนอื่นกี่คนก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าขาดเธอไม่ได้ คิดแล้วน่าชื่นชมกับคุณธรรมของตัวเองจริงเหลือเกิน
“ผมบอกว่าให้กลับไปก่อนได้ยินไหม..ขอร้องละ ไหว้ละ...วันนี้วันเดียว วันที่เหลือผมจะยอมคุณทุกอย่าง”
ขณะที่กำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่นั่นเอง ฟ้าก็ผ่าครืนลงมาเต็มหัว
“เปรี้ยง...!”
เสียงดังราวฟ้าผ่า สะท้านสะเทือนในความรู้สึก เขาไม่รู้เลยว่าสายฟ้าแห่งความพิโรธกะทันหัน ความจริงเป็นขวดเหล้าที่เหลือเหล้าอยู่เกือบเต็มขวด ฟาดลงมาแบบเต็มแรง เศษแก้วเศษเหล้ากระเด็นเซ็นซ่านไปทั่ว เลือดสีแดงกระจายไปทั่ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของผู้คนในภัตตาคาร ชายหนุ่มผู้น่าสงสารและน่าซ้ำเติมทรุดลงนอนฝันหวานกับพื้น เลือดไหลออกมาจากกกหูปนเปกับธารน้ำเหล้า
เขาไม่รู้เลยว่าคนที่ตีหัวเขาเป็น ชายหนุ่มที่เดินตามหลังออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังอธิบายถึงความชอบธรรม และความเป็นธรรมในการใช้วิชาขวดสุราปลิดวิญญาณ
“ผมไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไร สังหรณ์ใจตั้งแต่ในห้องน้ำแล้ว เห็นเขายืนพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ดูสิ..อยู่ดี ๆ ก็มาฉุดแฟนผมต่อหน้าต่อตา แบบนี้ ใครจะทนไหว”
เขาไม่รู้เลยว่า เขามาผิดโต๊ะ....ความเมาทำให้ตาลาย ผู้หญิงโต๊ะนี้ บังเอิญสวมเสื้อผ้าสีสันคล้ายกับชุดคนรักของเขาเท่านั้น อารมณ์ร้อนผสานความเมาจนตาลาย ทำให้ไม่ทันได้สังเกตมองให้ถนัดชัดตา ทะลึ่งไปยื้อยุดฉุดแขนแฟนชาวบ้าน
และที่น่าเจ็บใจที่สุด..เขาไม่รู้เลยว่าความจริงแล้ว ตัวเองไม่จำเป็นต้องกระทำการอันนำไปสู่ภัยพิบัติแบบนี้เลย เพราะหญิงสาวอีกคนที่เขานัดมาเปลี่ยนใจกลางอากาศ เธอไม่ได้มาตามนัด
เท่านั้นยังไม่พอ เขาไม่รู้เลยว่าแฟนสาวของเขา ได้ออกจากร้าน ตั้งแต่ช่วงที่เขาลุกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำแล้ว รถไฟมหาวินาศทั้งสองขบวนสับรางหลบกันเอง แบบไม่ตั้งใจ
เจ็บนี้อีกนาน....
THE END.
เขาไม่รู้เลยว่า...
เขาไม่รู้เลยว่า...
อาหารราคาแพงเลิศรสหลายอย่าง วางบนโต๊ะสวยในห้องอาหารหรู กำลังร้อนได้ที่ บางคนบอกว่าอาหารประเภทร้อน ต้องกินขณะกำลังร้อน จึงจะได้อรรถรสแห่งความอร่อย แต่ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง ที่นั่งเผชิญหน้ากันคนละฟากโต๊ะ ท่าทางจะอารมณ์ร้อนแรงกว่าอาหาร
อาจเป็น ‘คู่รัก’ ซึ่งอาจจะกำลังกลายเป็น ว่าที่อดีตคู่รัก เพราะพวกเขากำลังเข้าโค้งสุดท้าย แห่งความแตกแยก จะว่าไป ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เพราะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว ไปด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องแยกทางกัน ก็เท่านั้น ดีกว่าปล่อยให้คาราคาซัง ทรมานกันทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อสายใยยังคงเหลือ ก็ต้องยื้อยุดฉุดรั้งไว้ก่อน เพราะยังไม่บรรลุอะไรสักอย่าง
“คุณทำเกินไปแล้ว ไม่ไว้หน้าผมเลย”
ชายหนุ่มคำรามด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดเดือดร้อนระเบิด สลัดมาดนักธุรกิจหนุ่ม ผู้สุขุมเยือกเย็นในเวทีสงครามการเงิน และการงานไปจนหมดสิ้น วันนี้มาในมาดคนเดือด การดื่มเหล้าเดินเครื่องเร็วกว่าปกติเท่าตัว จนหูตาลายไปหมด เริ่มเห็นช้างตัวเท่าแมว แต่ยังไม่ถึงจุดระเบิด เมื่อทำอะไรไม่ได้มากก็ต้องดื่มดับอารมณ์
“คุณมันวุ่นวายกับผมมากเกินไป แล้วไม่ไว้หน้าผมเลย รู้ไหมว่าผมอับอายเพื่อนฝูงขนาดไหน จู่ ๆ ไปต่อว่าผมท่ามกลางเพื่อนฝูง มันเสียหน้าครับเสียหน้า”
พูดจบเขาก็ยกแก้วเหล้าขี้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว บริกรสาวสวยรีบเดินมาหยิบแก้วไป ชงเหล้าให้ทันทีเพราะรู้ว่าถ้าชักช้า อาจจะได้ค่าทิปน้อยลงกว่าควรจะเป็น แม้ในยามอารมณ์โกรธชายหนุ่มยังอุตส่าห์ปรับสภาพจิตใจฉับพลัน หันไปยิ้มอย่างมีชั้นเชิง กับบริกรสาวหุ่นดีแวบหนึ่งอย่างน่าตบให้ฟันหัก ก่อนหันมาระเบิดอารมณ์ต่อไป
“วันก่อนก็อีกแล้ว ผมผิดนัดคุณแค่เป็นครั้งที่ห้าของเดือนเท่านั้น คุณก็โวยวายต่อว่าเสียงลั่น จนผมอายผู้คน อายซ้ำอายซาก แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน แล้วสาวคนที่คุณเห็นวันนั้น ก็เป็นลูกค้า บางทีต้องไปคุยกันในร้านหรู ๆ หน่อยก็เพื่อผลทางธุรกิจ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย”
“ฉันไม่ได้โง่นะคุณ...” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แววตาดุเดือดแบบร้อนลึกเอาเรื่องทีเดียว สีหน้าท่าทางแบบนี้ละ คือคนที่พร้อมจะทลายโลกได้ทุกเมื่อ
“ลูกค้าอะไรจับมือถือแขนหัวร่อต่อกระซิก ยังกับคู่รักเอี่ยมอ่องหวานแหวว ดีว่าเพื่อนฉันโทรมาบอก เลยเห็นกับตา พอจะโทรถาม คุณก็ปิดมือถือ แบบนี้มันส่อเจตนาชั่วร้ายชัด ๆ”
เธอจี้จุดได้ตรงประเด็นทั้งหมด และการจงใจปิดมือถือ ก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นการอำพรางร่องรอยของตัวเอง ไม่ให้ใครบางคนรู้ว่า เขาอยู่พิกัดใดบนพื้นโลก มันเป็นเรื่องของความปลอดภัย
“คุณมันคิดมาก บางทีผมก็ต้องปิดมือถือ เพราะจะเป็นการรบกวนการประชุม คุณก็น่าจะรู้ เธอเป็นลูกค้าพิเศษ เพราะเคยเรียนห้องเดียวกันสมัยอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนเก่ามาเจอกัน มันก็ต้องดีใจทักทายกันเป็นธรรมดา”
“เพื่อนเก่าร่วมเตียงเดียวกันนะสิ ทำไมคุณต้องโกหกหน้าด้าน ๆ แบบนี้ เรามาเลิกกันดีกว่า…หรือว่าอยากจะรับลูกตะกั่วร้อน ๆ เป็นอาหารเสริม”
“นี่คุณ...” ชายหนุ่มกำมือแน่น สายตาเขียวปั๊ด “มันจะมากไปแล้วนะ เรื่องอะไรมาขู่ผมแบบนี้ มันข้อหาเจตนาฆาตกรรม หรือคุกคามชีวิตและความปลอดภัยนะคุณ อยากติดคุกก็เอาสิครับ”
“คิดเหรอว่า ฉันจะลงมือเอง” หญิงสาวยิ้มเยือกเย็น “ฉันคงไม่ได้โง่ขนาดนั้น ทุกวันนี้ การหามือปืนสักคนยิงใครสักคน ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีเงิน คุณก็รู้”
“คุณคิดจะฆ่าผม เพียงเพราะผมคุยกับลูกค้า ผิดนัดไม่กี่สิบครั้ง นี่นะ” ชายหนุ่มแผดเสียงจนโต๊ะด้านข้างหันมามอง
“เท่านี้ก็เกินพอแล้วค่ะ”
“คุณมันอำมหิตที่สุด”
“ของที่สุดเลยค่ะ” เสียงของหญิงสาวราบเรียบ แต่ฟังความหมายแล้วชวนนลุก
ชายหนุ่มขบกรามกรอด ยกมือขึ้นดูนาฬิกา ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อซึม ทั้งที่เครื่องปรับอากาศทำงานจนห้องเย็นฉ่ำ เขารู้ว่าแฟนสาวเป็นลูกสาวบุคคลมีอิทธิพลร่ำรวยคนหนึ่ง เธอไม่ได้ขู่เขาแบบล้อเล่นแน่
“โธ่โว้ย.....ผมจะเข้าห้องน้ำ” เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนเดินตรงไปห้องน้ำด้านหลังอย่างหงุดหงิด เพราะเถียงไม่ทัน
ใช่....ต้องเข้าห้องน้ำตั้งหลักก่อน แฟนสาวของเขาคนนี้นอกจากจะสวย หุ่นดีแล้ว ยังฉลาดเป็นกรด ภายใต้สายตาเฉียบคมดุเข้มนั้น ทำให้เขาเหงื่อแตกทุกครั้งที่เขาแอบทำผิด ผู้หญิงบ้าอะไร โกหกเท่าไรก็ไม่ยอมเชื่อ แบบนี้มันนางมารร้ายชัด ๆ เขาคำรามในใจ
ขณะยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ เห็นภาพของตัวเอง สะท้อนเป็นภาพชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดี แต่ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าแดงก่ำฉ่ำได้ที่ เพราะฤทธิ์เหล้าค่อนขวด และการตะลุยดื่มแบบหูดับตับไหม้
“หล่อเหมือนกันนะเรา” เขาเอียงหน้าไปมาพิจารณาความหล่อของตัวเอง ช่วยไม่ได้... คนเกิดมาหล่อ จะให้ทำอย่างไร ผิดหรือที่เกิดมาหน้าตาดีเกินกว่าเหตุ ขนาดเมายังหล่อลากไส้ ย่อมมีสาว ๆ มาติดพันบ้างละ
เพียงแต่วันนี้ ความหล่อกระทบกระเทือนไปบ้าง เพราะปัญหาสำคัญ
เขาต้องดื่มให้หนัก เพื่อเป็นการย้อมใจและกลบเกลื่อน เขามีความเชื่อว่า ผู้หญิงส่วนมากพอเห็นคนรักเมามาย จะต้องใจอ่อนลงไปไม่มากก็น้อยตาม สุภาษิตอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา แม้ฟังดูจะไม่เข้าท่านักก็ตาม
มองหน้าตนเองในกระจก แล้วถามตนเองในกระจกด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด สมองเมา ๆ ทำงานอย่างหนัก
“แกจะเอาไง ไอ้หล่อ.....เดี๋ยวเธอคนนั้นก็มาที่นี่แล้ว”
วันนี้มันวันนรกแตกจริง ๆ เขาทะลึ่งนัดหญิงสาวอีกคนมาที่ร้านนี้ เขามาก่อนเวลานัดประมาณเกือบชั่วโมงแต่ไม่นึกว่าแฟนสาวจะสะกดรอยตามมาถึงที่นี่ได้ และนี่ก็ใกล้เวลานัดแล้ว โอกาสรถไฟจะชนกันประลัยกัลป์มีสูง
“โทรไปหาแม่สาวคนนั้นสิ ว่าถึงไหนแล้ว”
เงาในกระจกตอบมา เขาพยักหน้าหงึกหงักให้กับตัวเองอย่างพอใจ ชายหนุ่มอีกคนซึ่งยืนประจัญหน้ากับโถปัสสาวะอยู่ด้านหลัง หันมองอย่างไม่เข้าใจ แล้วส่ายหน้า คงคิดในใจว่า แบบนี้คงไม่ใช่แค่บ้าก็เมา แต่เป็นทั้งเมาทั้งบ้า
ผลของการเจรจากับสาวเจ้าไม่ได้ผล ทำให้เขาเหงื่อแตกคาห้องน้ำ หล่อนกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แบบนี้มันวันสิ้นโลกชัด ๆ จะต้องทำอะไรสักอย่าง รถไฟสองขบวนจะชนกันไม่ได้ เพราะสองขบวนนี้ไม่ใช่รถไฟธรรมดา แต่เป็นรถไฟบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ทั้งคู่
ชายหนุ่มวิ่งขาขวิดพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำ เกือบจะชนกับสาวเสิร์ฟคนหนึ่ง ดีว่าเธอเบี่ยงตัวหลบทันอย่างสวยงามพลิ้วไหวดั่งสายน้ำแบบเจนจัดงานภัตตาคาร เพราะรู้นิสัยลูกค้าขี้เมาดี พอหลบก็หลบ ไม่ให้เปลืองตัว ชายหนุ่มมองไปมา จะต้องลากแฟนสาวออกจากพื้นที่วินาศมหาภัยโดยเร็วที่สุด นั่น...เธอยังนั่งจิบเหล้าอย่างใจเย็น ไม่รู้สึกรู้สมกับภัยพิบัติทางอารมณ์ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นถึงเลยสักนิด เดินรวบรวมความกล้าหาญ เดินดุ่มเข้าหาทันที
พอถึงตัวก็กระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น พลางตะคอกเสียงลั่นอย่างร้อนรน
“คุณต้องกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวนี้ มีอะไรค่อยพูดค่อยทะเลาะกันวันหลัง วันนี้ผมไม่ว่าง มีธุระด่วน กลับไปก่อน เดี๋ยวผมจ่ายเงินเอง”
“มันเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวโวยวายเสียงดังไม่แพ้กัน พยายามขืนตัวไว้เต็มที่ เป็นแบบนี้ละที่เขาไม่ชอบ ผู้หญิงอะไรไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงให้เขาเลย ทำไมจะต้องมารักกับคนแบบนี้นะ หาความอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไปก็ไม่ได้ แต่ทำไงได้ เพราะรักเข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะรักแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมีคนอื่นกี่คนก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าขาดเธอไม่ได้ คิดแล้วน่าชื่นชมกับคุณธรรมของตัวเองจริงเหลือเกิน
“ผมบอกว่าให้กลับไปก่อนได้ยินไหม..ขอร้องละ ไหว้ละ...วันนี้วันเดียว วันที่เหลือผมจะยอมคุณทุกอย่าง”
ขณะที่กำลังฉุดกระชากลากถูกันอยู่นั่นเอง ฟ้าก็ผ่าครืนลงมาเต็มหัว
“เปรี้ยง...!”
เสียงดังราวฟ้าผ่า สะท้านสะเทือนในความรู้สึก เขาไม่รู้เลยว่าสายฟ้าแห่งความพิโรธกะทันหัน ความจริงเป็นขวดเหล้าที่เหลือเหล้าอยู่เกือบเต็มขวด ฟาดลงมาแบบเต็มแรง เศษแก้วเศษเหล้ากระเด็นเซ็นซ่านไปทั่ว เลือดสีแดงกระจายไปทั่ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของผู้คนในภัตตาคาร ชายหนุ่มผู้น่าสงสารและน่าซ้ำเติมทรุดลงนอนฝันหวานกับพื้น เลือดไหลออกมาจากกกหูปนเปกับธารน้ำเหล้า
เขาไม่รู้เลยว่าคนที่ตีหัวเขาเป็น ชายหนุ่มที่เดินตามหลังออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้กำลังอธิบายถึงความชอบธรรม และความเป็นธรรมในการใช้วิชาขวดสุราปลิดวิญญาณ
“ผมไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไร สังหรณ์ใจตั้งแต่ในห้องน้ำแล้ว เห็นเขายืนพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ดูสิ..อยู่ดี ๆ ก็มาฉุดแฟนผมต่อหน้าต่อตา แบบนี้ ใครจะทนไหว”
เขาไม่รู้เลยว่า เขามาผิดโต๊ะ....ความเมาทำให้ตาลาย ผู้หญิงโต๊ะนี้ บังเอิญสวมเสื้อผ้าสีสันคล้ายกับชุดคนรักของเขาเท่านั้น อารมณ์ร้อนผสานความเมาจนตาลาย ทำให้ไม่ทันได้สังเกตมองให้ถนัดชัดตา ทะลึ่งไปยื้อยุดฉุดแขนแฟนชาวบ้าน
และที่น่าเจ็บใจที่สุด..เขาไม่รู้เลยว่าความจริงแล้ว ตัวเองไม่จำเป็นต้องกระทำการอันนำไปสู่ภัยพิบัติแบบนี้เลย เพราะหญิงสาวอีกคนที่เขานัดมาเปลี่ยนใจกลางอากาศ เธอไม่ได้มาตามนัด
เท่านั้นยังไม่พอ เขาไม่รู้เลยว่าแฟนสาวของเขา ได้ออกจากร้าน ตั้งแต่ช่วงที่เขาลุกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำแล้ว รถไฟมหาวินาศทั้งสองขบวนสับรางหลบกันเอง แบบไม่ตั้งใจ
เจ็บนี้อีกนาน....
THE END.