อยากจะมาถ่ายทอดความรักที่เกิดขึ้นกับตัวเองมันไม่สามารถ เลือกวัน เวลา สถานที่หรือเหตุผลที่จะเกิดขึ้นได้ เเต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นรักเเท้ที่มาเกิดขึ้นมาในผับ ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่โตมาจากสลัมเเต่เป็นเม็ดผลตัวอย่างที่ดีในสังคม จึงขอมาเล่า คอมเม้นกันได้ค่า
เรื่อง The reckless love heppened in the club(รักเเท้อันบ้าบิ่นที่เกิดขึ้นในผับ)
เราเป็นผู้หญิงสายปาร์ตี้ในผับย่านดังในกรุงเทพเนี้ยเเหละ อาทิตย์นึงต้องมีออกน้อยๆ3-4วันอะ ก็เที่ยวมาอย่างเงี้ยจนอยุ่ปี4 ไฟนอลก็เที่ยว มิดเทอมก็เที่ยว ชอบเที่ยวกับเพื่อนคนสองคนพอ มาเยอะผู้ชายไม่กล้าเข้าหานั้นประเด็นหลัก ประเด็นรองคืออยากมาเต้นนั้น เหล้ายังไม่มาเราก็เต้น จนโต๊ะข้างๆ งง อีนี่ไปโดนไรมา โดยส่วนตัวเเล้วเราชอบผู้ชายเกาหลีสายกิมจิถ้าผู้ชายไม่หล่อมายืนใกล้ๆ กูดึงหน้าใส่ด้วยอะ (อุ้ยขออภัยอินเนอร์มันเเรง) ถ้ามาชนเเก้วด้วยไม่หล่อก็ยืนกอดอก ใส่ค่ะ หยายคายเน๊อะ เอาหล่ะนั้นพอเเค่เผลินๆเเค่เเนะนำคาเเรคเตอร์ตัวเรา เรื่องที่จะมาเล่า คร่าวๆก่อนนะ เราไม่คิดว่าเราจะพบรักเเท้กับเเฟรเราคนปัจจุบัน มันอาจจะเกิดขึ้นกับหลายคู่หรือเป็นเรื่องธรรมดา เเต่สำหรับเรามันไม่ธรรมดาที่จะเกิดขึ้น เค้าไม่ใช่คนเเรกที่เข้ามาคุยกับเรา เเต่เค้าคือคนที่เราอยากมาเขียนเรื่องของเรากับเค้าให้อ่านถ้าไม่พิเศษจริง พีคกว่านั้นหลังความรักเกิดขึ้นเเล้ว เพลย์เกิร์ลอย่างเรายังต้องยืนงง จะเอายังไงกับมันดี ไหนๆก็อ่านมาขนาดนี้เเล้ว ต่อเลยละกัน
........
ต่อค่ะ เราพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย 30%อะ วันนั้นจำได้เลยว่าวันเสาร์มั้ง หรืออาทิตย์เนี้ยเเหละ ได้มุมดีได้ทางคนเดินผ่านเเบบไม่เบียด ผับนี้ค่อยข้างเเพงนะชาวต่างชาติเเถบเอเชียเยอะ กิมจิ เราไม่ค่อยชอบสปาเก็ตตี้555555 ละเราออกไปดึกเเล้วห้าทุ่มได้มั้ง วันนั้นเราอย่างฮอตไม่ได้เเต่งตัวโป้นะ เสื้อเเขนยาวสีดำปิดคอกระโปรงเลยเข่าบานๆ ฮอตมากผู้ชายกิมจิเดินเข้ามาไม่ต่ำกว่า5-6คน ละมันมีคนที่เราเล็งอยุ่เราเห็น หง่อวววว มันเเอบอยุ่ข้างเสา คิดในใจโดนกูเเน่ๆ ก็เเอบมองเขาเป็นพักๆ ละไม่เข้ามาสักที นี่ก็เต้นไปเหอะ จนเนี้ยเเหละพระเอกของเรื่องมาตอนนี้เเหละ นึกว่าทัวร์จีนลง เขาเดินเรียงเเถวกระดานเรียงหนึ่งถือเบียร์ขวดเดียว ที่สำคัญเขามองเรามองเเบบสตั้นด้วยนะ เรากล้าสาบานว่าเขาสตั้น*ถ้าเขาได้อ่านเรื่องนี้หรือมันดังไปในโลกโชเซลห้ามพูดว่าไม่จริง อันนี้ฝากถึงพระเอกเรื่องนี้* เเล้วก็ยิ้มให้เราคือในกลุ่มเขาหน้าตาดีที่สุดละ ตาไวเราเป็นคนเรดาร์เเรง ในใจเราคิดอย่านะอย่าเข้ามานะไอสึด เดี๋ยวคนข้างเสากูหาย เหมือนสั่งได้อะ เเล้วเขาก็เดินวนไป เอ่อโล่งเห้ยไอข้างเสายังอยุ่ ............
ผับก็ใกล้จะปิดละ ปรากฏว่าพระเอกหน้าทัวร์จีนมันเดินวนกลับมาอีกครั้งจะบ้าตายหนุ่มข้างเสาก็ไม่กล้ามาสักที คราวนี้เราเหล่มองหนุ่มข้างเสาหาย หงุดหงิด!!อะจะเอายังไงกะกูไอหนุ่มทัวร์จีนรอบนี้มาคนเดียวเเกงค์ทัวร์หายเเละเเล้วเขาก็เดินตรงเข้ามาถามเราว่า what your name? เราตอบไปว่า dont touch my body เทห์ปะหล่ะ ป่าวจะโชว์ความฮอตหนุ่มข้างเสา เผื่อเค้าเเอบมองอยุ่มุมอื่น เเล้วหนุ่มหน้าทัวร์จีนก็ชูมือขึ้นประหนึ่งว่าเออเราไม่ได้จับอะไรเธอนะ เหมือนเสียความมั่นใจไปละอะก็ไม่กล้าพูดไรกับเรา เรารู้สึกสงสารเเต่อีกใจก็อยากให้รีบไป ประโยคเเรกที่เราพูดกับเค้าคือ can u speak english? เค้าอึ้งๆละบอกว่า yes คิดในใจพูดได้นิดหน่อยเเน่ๆ เราอยากให้เค้าเดินจากไปเลยขอไลน์ไว้เเล้วพูดว่า i will text to u later เค้าก็โอเคเเล้วเดินจากไป ตี1ครึ่งละผับปิดตีสองเราก็รอเพื่อนมาโต๊ะเเละเดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างเดินกลับมาจากห้องน้ำไอหนุ่มหน้าจีนทักไลน์มา พูดว่า i saw u just now. เราก็ทำเป็นไม่เห็นละก็เดินกลับโต๊ะอย่างไว555 พอมาถึงโต๊ะหนุ่มข้างเสาก็เดินเข้ามาขอไลน์หุ้ยยย ซารางเฮ หล่อมากกกกกก เเล้วเขาก็เดินทางไป เราก็เชคบินตีสองละควรกลับ เพื่อนเราบอกยืนนี่ก่อนนะเดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน รออย่างนานไม่มาสักที ทิ้งกูเเน่เพื่อนทิ้งกูเเน่ๆ สิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างยืนรอเพื่อนคนเดียว ไอหนุ่มหน้าทัวร์จีนเดินมาที่โต๊ะเรา เราก็ยิ้มให้ ประเด็นคือเราเกิดสะอึกกระทันหัน สะอึกเเบบเสียงดังมาก จนหนุ่มหน้าทัวร์จีนถาม u need some water?
เขินอะเราฝากเหล้าเเล้ว มิกซอะไรก็หมด เราก็เลยพยักหน้าเเล้วเค้าก็เดินไปซื้อน้ำมาให้หนึ่งขวด พอเราดื่มจนหายสะอึก
เพื่อนกฌไม่มาสักทีเราเลยถามเขาว่า what your name? เย้ ทุกคนจะรู้ชื่อพระเอกเรื่องนี้ละนะ
's name Jeremy (เจรามี่) ชื่อจำยากเนอะ เขาสุภาพนะรู้สึกดี เเละนังเพื่อนตัวดีทักมาว่านางอยุ่หน้าร้าน "ละบอกกุว่าให้รอที่โต๊ะ!!!" เราเลย เชบาย กับเจรามี่ เเยกกัน คราวนี้ก็ออกไปตามหาเพื่อน หาไม่เจอโทรไม่รับกลัวมันเป็นอะไรจนเหนื่อย คิดว่ามันโตละคงดูเเลตัวเองได้ เพราะมันไม่ได้เมาเดินอยุ่รอบร้านเหล้าไม่กิน เลยตัดสินใจไปเรียกเเท้กชี่ หวัดดีครับ ชี่มั้ยครับ ไปไหนครับ พวกห่านี่มิเตอร์มันกดละบ้านมันไหม้มั้ง เราเลยยืนรอเเท็กชี่คันที่กดมิเตอร์ ระหว่างยืนรอ เจรามี่ทักมา เราเลยบอกว่าเราหาเพื่ิอนไม่เจอละก็ถ่ายรูปให้เค้าดูว่าอยุ่ตรงไหน เจรามีนบอกว่า อยุ่ตรงนั่นเเหละอย่าไปไหนผมจะเดินไปหา ระหว่างรอเราก็คิดเอ้ะะะะะกูไม่ได้ชอบเค้าหนิหว่าเอะหรือชอบว่ะ เเล้วเจรามีนก็เดินมาถึง รอยยิ้มเค้าช่างอบอุ่นถามเราว่าไหนมั้ย จากที่จะกลับละอยากรู้จักต่อ เราเลยลากเขาไปนั่งดื่มต่อ เห้ยพีคในพีค นี่กูไปกินต่อกับไอหน้าทัวร์จีนหว่ะ ก็เขินๆ มาคุยกันต่อเขาเป็นคมาเลเซีย พูดภาษาจีน เรียนอยุ่ที่ออสเตรเลียตอนนี้อยุ่ปี3 มาเที่ยวไทยเพราะปิดเทอม มากับเพื่อน7คนรวมเค้าด้วย ว่างๆรับเเปลทรานเสลด อังกฤษเป็นจีน จะบ้าตาย เหมือนประโยคที่เราถามไปว่า can u speak english? มันตบหน้าเราดังเผี้ยะ จนในที่สุดก็ถึงร้านเบียร์ที่จะมากินต่อกัน สั่งเบียร ไปทาวน์นึง กุ้งเผาชุดนึง กินเบียร์ได้สองเเก้วเจรามี่เมา ไออ่อนเอ้ย คุยกันสนุกถูกคอ เจรามี่โทรหาเพื่อนประมานว่ามาดื่มเบียร์ต่อกับหญิง เจรามี่ถามเราว่าเพื่อนตามาได้มั้ย เราบอกได้ค่ะ เเน่นอน คิดในใจเรียกกองทับสินะ พอเขาเมาได้ที่เราตักน้ำจิ้มชีฟู้ดมาซ้อนนึง เเล้วบอกว่า this is my heart so u wanna eat ? หมดซ้อนเจ้าค่ะ เอ่อน่ารักเวย เห้ยน่าร๊ากก..... ยังไม่จบนะนี่เเค่เริ่มต้น ตอนต่อไปคือ เราตื่นขึ้นมาในห้องที่มีผู้ชาย7คน พีคในพีคคือตามเค้าไปที่มาเลเซีย
ใครเคยเจอนักเเท้ในผับบ้าง
เรื่อง The reckless love heppened in the club(รักเเท้อันบ้าบิ่นที่เกิดขึ้นในผับ)
เราเป็นผู้หญิงสายปาร์ตี้ในผับย่านดังในกรุงเทพเนี้ยเเหละ อาทิตย์นึงต้องมีออกน้อยๆ3-4วันอะ ก็เที่ยวมาอย่างเงี้ยจนอยุ่ปี4 ไฟนอลก็เที่ยว มิดเทอมก็เที่ยว ชอบเที่ยวกับเพื่อนคนสองคนพอ มาเยอะผู้ชายไม่กล้าเข้าหานั้นประเด็นหลัก ประเด็นรองคืออยากมาเต้นนั้น เหล้ายังไม่มาเราก็เต้น จนโต๊ะข้างๆ งง อีนี่ไปโดนไรมา โดยส่วนตัวเเล้วเราชอบผู้ชายเกาหลีสายกิมจิถ้าผู้ชายไม่หล่อมายืนใกล้ๆ กูดึงหน้าใส่ด้วยอะ (อุ้ยขออภัยอินเนอร์มันเเรง) ถ้ามาชนเเก้วด้วยไม่หล่อก็ยืนกอดอก ใส่ค่ะ หยายคายเน๊อะ เอาหล่ะนั้นพอเเค่เผลินๆเเค่เเนะนำคาเเรคเตอร์ตัวเรา เรื่องที่จะมาเล่า คร่าวๆก่อนนะ เราไม่คิดว่าเราจะพบรักเเท้กับเเฟรเราคนปัจจุบัน มันอาจจะเกิดขึ้นกับหลายคู่หรือเป็นเรื่องธรรมดา เเต่สำหรับเรามันไม่ธรรมดาที่จะเกิดขึ้น เค้าไม่ใช่คนเเรกที่เข้ามาคุยกับเรา เเต่เค้าคือคนที่เราอยากมาเขียนเรื่องของเรากับเค้าให้อ่านถ้าไม่พิเศษจริง พีคกว่านั้นหลังความรักเกิดขึ้นเเล้ว เพลย์เกิร์ลอย่างเรายังต้องยืนงง จะเอายังไงกับมันดี ไหนๆก็อ่านมาขนาดนี้เเล้ว ต่อเลยละกัน
........
ต่อค่ะ เราพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย 30%อะ วันนั้นจำได้เลยว่าวันเสาร์มั้ง หรืออาทิตย์เนี้ยเเหละ ได้มุมดีได้ทางคนเดินผ่านเเบบไม่เบียด ผับนี้ค่อยข้างเเพงนะชาวต่างชาติเเถบเอเชียเยอะ กิมจิ เราไม่ค่อยชอบสปาเก็ตตี้555555 ละเราออกไปดึกเเล้วห้าทุ่มได้มั้ง วันนั้นเราอย่างฮอตไม่ได้เเต่งตัวโป้นะ เสื้อเเขนยาวสีดำปิดคอกระโปรงเลยเข่าบานๆ ฮอตมากผู้ชายกิมจิเดินเข้ามาไม่ต่ำกว่า5-6คน ละมันมีคนที่เราเล็งอยุ่เราเห็น หง่อวววว มันเเอบอยุ่ข้างเสา คิดในใจโดนกูเเน่ๆ ก็เเอบมองเขาเป็นพักๆ ละไม่เข้ามาสักที นี่ก็เต้นไปเหอะ จนเนี้ยเเหละพระเอกของเรื่องมาตอนนี้เเหละ นึกว่าทัวร์จีนลง เขาเดินเรียงเเถวกระดานเรียงหนึ่งถือเบียร์ขวดเดียว ที่สำคัญเขามองเรามองเเบบสตั้นด้วยนะ เรากล้าสาบานว่าเขาสตั้น*ถ้าเขาได้อ่านเรื่องนี้หรือมันดังไปในโลกโชเซลห้ามพูดว่าไม่จริง อันนี้ฝากถึงพระเอกเรื่องนี้* เเล้วก็ยิ้มให้เราคือในกลุ่มเขาหน้าตาดีที่สุดละ ตาไวเราเป็นคนเรดาร์เเรง ในใจเราคิดอย่านะอย่าเข้ามานะไอสึด เดี๋ยวคนข้างเสากูหาย เหมือนสั่งได้อะ เเล้วเขาก็เดินวนไป เอ่อโล่งเห้ยไอข้างเสายังอยุ่ ............
ผับก็ใกล้จะปิดละ ปรากฏว่าพระเอกหน้าทัวร์จีนมันเดินวนกลับมาอีกครั้งจะบ้าตายหนุ่มข้างเสาก็ไม่กล้ามาสักที คราวนี้เราเหล่มองหนุ่มข้างเสาหาย หงุดหงิด!!อะจะเอายังไงกะกูไอหนุ่มทัวร์จีนรอบนี้มาคนเดียวเเกงค์ทัวร์หายเเละเเล้วเขาก็เดินตรงเข้ามาถามเราว่า what your name? เราตอบไปว่า dont touch my body เทห์ปะหล่ะ ป่าวจะโชว์ความฮอตหนุ่มข้างเสา เผื่อเค้าเเอบมองอยุ่มุมอื่น เเล้วหนุ่มหน้าทัวร์จีนก็ชูมือขึ้นประหนึ่งว่าเออเราไม่ได้จับอะไรเธอนะ เหมือนเสียความมั่นใจไปละอะก็ไม่กล้าพูดไรกับเรา เรารู้สึกสงสารเเต่อีกใจก็อยากให้รีบไป ประโยคเเรกที่เราพูดกับเค้าคือ can u speak english? เค้าอึ้งๆละบอกว่า yes คิดในใจพูดได้นิดหน่อยเเน่ๆ เราอยากให้เค้าเดินจากไปเลยขอไลน์ไว้เเล้วพูดว่า i will text to u later เค้าก็โอเคเเล้วเดินจากไป ตี1ครึ่งละผับปิดตีสองเราก็รอเพื่อนมาโต๊ะเเละเดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างเดินกลับมาจากห้องน้ำไอหนุ่มหน้าจีนทักไลน์มา พูดว่า i saw u just now. เราก็ทำเป็นไม่เห็นละก็เดินกลับโต๊ะอย่างไว555 พอมาถึงโต๊ะหนุ่มข้างเสาก็เดินเข้ามาขอไลน์หุ้ยยย ซารางเฮ หล่อมากกกกกก เเล้วเขาก็เดินทางไป เราก็เชคบินตีสองละควรกลับ เพื่อนเราบอกยืนนี่ก่อนนะเดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน รออย่างนานไม่มาสักที ทิ้งกูเเน่เพื่อนทิ้งกูเเน่ๆ สิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างยืนรอเพื่อนคนเดียว ไอหนุ่มหน้าทัวร์จีนเดินมาที่โต๊ะเรา เราก็ยิ้มให้ ประเด็นคือเราเกิดสะอึกกระทันหัน สะอึกเเบบเสียงดังมาก จนหนุ่มหน้าทัวร์จีนถาม u need some water?
เขินอะเราฝากเหล้าเเล้ว มิกซอะไรก็หมด เราก็เลยพยักหน้าเเล้วเค้าก็เดินไปซื้อน้ำมาให้หนึ่งขวด พอเราดื่มจนหายสะอึก เพื่อนกฌไม่มาสักทีเราเลยถามเขาว่า what your name? เย้ ทุกคนจะรู้ชื่อพระเอกเรื่องนี้ละนะ 's name Jeremy (เจรามี่) ชื่อจำยากเนอะ เขาสุภาพนะรู้สึกดี เเละนังเพื่อนตัวดีทักมาว่านางอยุ่หน้าร้าน "ละบอกกุว่าให้รอที่โต๊ะ!!!" เราเลย เชบาย กับเจรามี่ เเยกกัน คราวนี้ก็ออกไปตามหาเพื่อน หาไม่เจอโทรไม่รับกลัวมันเป็นอะไรจนเหนื่อย คิดว่ามันโตละคงดูเเลตัวเองได้ เพราะมันไม่ได้เมาเดินอยุ่รอบร้านเหล้าไม่กิน เลยตัดสินใจไปเรียกเเท้กชี่ หวัดดีครับ ชี่มั้ยครับ ไปไหนครับ พวกห่านี่มิเตอร์มันกดละบ้านมันไหม้มั้ง เราเลยยืนรอเเท็กชี่คันที่กดมิเตอร์ ระหว่างยืนรอ เจรามี่ทักมา เราเลยบอกว่าเราหาเพื่ิอนไม่เจอละก็ถ่ายรูปให้เค้าดูว่าอยุ่ตรงไหน เจรามีนบอกว่า อยุ่ตรงนั่นเเหละอย่าไปไหนผมจะเดินไปหา ระหว่างรอเราก็คิดเอ้ะะะะะกูไม่ได้ชอบเค้าหนิหว่าเอะหรือชอบว่ะ เเล้วเจรามีนก็เดินมาถึง รอยยิ้มเค้าช่างอบอุ่นถามเราว่าไหนมั้ย จากที่จะกลับละอยากรู้จักต่อ เราเลยลากเขาไปนั่งดื่มต่อ เห้ยพีคในพีค นี่กูไปกินต่อกับไอหน้าทัวร์จีนหว่ะ ก็เขินๆ มาคุยกันต่อเขาเป็นคมาเลเซีย พูดภาษาจีน เรียนอยุ่ที่ออสเตรเลียตอนนี้อยุ่ปี3 มาเที่ยวไทยเพราะปิดเทอม มากับเพื่อน7คนรวมเค้าด้วย ว่างๆรับเเปลทรานเสลด อังกฤษเป็นจีน จะบ้าตาย เหมือนประโยคที่เราถามไปว่า can u speak english? มันตบหน้าเราดังเผี้ยะ จนในที่สุดก็ถึงร้านเบียร์ที่จะมากินต่อกัน สั่งเบียร ไปทาวน์นึง กุ้งเผาชุดนึง กินเบียร์ได้สองเเก้วเจรามี่เมา ไออ่อนเอ้ย คุยกันสนุกถูกคอ เจรามี่โทรหาเพื่อนประมานว่ามาดื่มเบียร์ต่อกับหญิง เจรามี่ถามเราว่าเพื่อนตามาได้มั้ย เราบอกได้ค่ะ เเน่นอน คิดในใจเรียกกองทับสินะ พอเขาเมาได้ที่เราตักน้ำจิ้มชีฟู้ดมาซ้อนนึง เเล้วบอกว่า this is my heart so u wanna eat ? หมดซ้อนเจ้าค่ะ เอ่อน่ารักเวย เห้ยน่าร๊ากก..... ยังไม่จบนะนี่เเค่เริ่มต้น ตอนต่อไปคือ เราตื่นขึ้นมาในห้องที่มีผู้ชาย7คน พีคในพีคคือตามเค้าไปที่มาเลเซีย