คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 67
บ้านถ้าจะซื้อแล้วยังไม่ตอบโจทย์คุณทุกอย่าง แนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อครับ ไม่ต้องกลัวโปรจะหมด เพราะถ้าคุณซื้อบ้านแล้วมีภาระมากกว่าความสุข ก็ไร้ประโยชน์
เงินเก็บเยอะอยากจขกท ผมแนะนำว่าคุณควรจะศึกษาจริงจังเรื่องการลงทุนก่อนเลย มันจะทำให้เรื่องการซื้อบ้านในอนาคตของคุณง่ายขึ้นด้วย เพราะที่จริงแล้ว ลงทุนโดยเฉลี่ยควรจะโตได้ประมาณ 7-8% ต่อปี ถ้าคุณลงทุนเป็น จะทำให้คุณกู้เงินซื้อบ้านเอาง่ายกว่าเพราะดอกเบี้ยถูกกว่าเงินที่กำไรจากการลงทุน แล้วคุณจะมีความคล่องตัวของเงินสูงขึ้นอีกเยอะ
ลองค่อยๆทยอยลงทุนอะไรหลายๆอย่าง เริ่มจากจำนวนเงินน้อยๆ จะได้ไม่กลัวเสียมาก คุณจะได้ค่อยๆคุ้นเคยกับการลงทุน อย่างน้อยนี่คือประสบการณ์ผมเอง
หรือ ลองหาจ้าง financial advisor (ไม่รู้ที่ไทยเรียกอะไรกัน) หาชื่อเสียงดีๆที่มีประวัติดี ให้เขาช่วยเอาเงินไปกระจายลงทุนให้ อย่างน้อยๆ เขาลงทุนให้ก็ดีกว่าที่คุณเก็บเงินฝากไว้เฉยๆแน่ๆ แต่ก็ระวังไว้คือการลงทุนมันต้องดูระยะยาว คิดไว้เลยว่าเงินมันจะมีขึ้นลงได้ เพราะงั้นเงินควรจะเป็นแนวลงทุนระยะยาวไว้
ส่วนเรื่องบ้าน แนะนำว่าไม่น่าจะอยู่ห่างจากที่ทำงานมากเกินไป เพราะคุณจะลำบากเอง ถ้าหาบ้านใกล้ตัวเมืองไม่ได้ บางทีลองเปิดใจหาซื้อคอนโดที่ใหญ่ขึ้นแทน หรือบางทีซื้อแบบสองห้องติดกันไปเลย (ไม่รู้เวิร์คไหม) ถ้าคุณซื้อบ้านแล้วอยู่ไม่ได้ทุกวัน อย่าซื้อ บ้านควรจะอยู่ได้ทุกวันอย่างมีความสุขครับ (นอกจากคุณรวยมาก สามารถซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศได้ จ้างคนดูแลได้ก็ว่าไปอย่าง)
หรือไม่ก็ดูบ้านไปเรื่อยๆนี่แหละครับ จนกว่าจะเจอโอกาส บางทีตอนนี้ไม่มีบ้านในฝัน แต่ในอนาคตอาจจะมีบ้านใหม่โผล่ขึ้นมาที่สนองความต้องการทุกอย่างได้ก็ได้ ก็ให้รีบคว้า จังหวะนี้ก็เตรียมแผนการดีๆว่าถ้ามีบ้านในฝันมาแล้วจะทำอย่างไรบ้าง จะได้มาแล้วคว้าได้เลยทันที
เงินเก็บเยอะอยากจขกท ผมแนะนำว่าคุณควรจะศึกษาจริงจังเรื่องการลงทุนก่อนเลย มันจะทำให้เรื่องการซื้อบ้านในอนาคตของคุณง่ายขึ้นด้วย เพราะที่จริงแล้ว ลงทุนโดยเฉลี่ยควรจะโตได้ประมาณ 7-8% ต่อปี ถ้าคุณลงทุนเป็น จะทำให้คุณกู้เงินซื้อบ้านเอาง่ายกว่าเพราะดอกเบี้ยถูกกว่าเงินที่กำไรจากการลงทุน แล้วคุณจะมีความคล่องตัวของเงินสูงขึ้นอีกเยอะ
ลองค่อยๆทยอยลงทุนอะไรหลายๆอย่าง เริ่มจากจำนวนเงินน้อยๆ จะได้ไม่กลัวเสียมาก คุณจะได้ค่อยๆคุ้นเคยกับการลงทุน อย่างน้อยนี่คือประสบการณ์ผมเอง
หรือ ลองหาจ้าง financial advisor (ไม่รู้ที่ไทยเรียกอะไรกัน) หาชื่อเสียงดีๆที่มีประวัติดี ให้เขาช่วยเอาเงินไปกระจายลงทุนให้ อย่างน้อยๆ เขาลงทุนให้ก็ดีกว่าที่คุณเก็บเงินฝากไว้เฉยๆแน่ๆ แต่ก็ระวังไว้คือการลงทุนมันต้องดูระยะยาว คิดไว้เลยว่าเงินมันจะมีขึ้นลงได้ เพราะงั้นเงินควรจะเป็นแนวลงทุนระยะยาวไว้
ส่วนเรื่องบ้าน แนะนำว่าไม่น่าจะอยู่ห่างจากที่ทำงานมากเกินไป เพราะคุณจะลำบากเอง ถ้าหาบ้านใกล้ตัวเมืองไม่ได้ บางทีลองเปิดใจหาซื้อคอนโดที่ใหญ่ขึ้นแทน หรือบางทีซื้อแบบสองห้องติดกันไปเลย (ไม่รู้เวิร์คไหม) ถ้าคุณซื้อบ้านแล้วอยู่ไม่ได้ทุกวัน อย่าซื้อ บ้านควรจะอยู่ได้ทุกวันอย่างมีความสุขครับ (นอกจากคุณรวยมาก สามารถซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศได้ จ้างคนดูแลได้ก็ว่าไปอย่าง)
หรือไม่ก็ดูบ้านไปเรื่อยๆนี่แหละครับ จนกว่าจะเจอโอกาส บางทีตอนนี้ไม่มีบ้านในฝัน แต่ในอนาคตอาจจะมีบ้านใหม่โผล่ขึ้นมาที่สนองความต้องการทุกอย่างได้ก็ได้ ก็ให้รีบคว้า จังหวะนี้ก็เตรียมแผนการดีๆว่าถ้ามีบ้านในฝันมาแล้วจะทำอย่างไรบ้าง จะได้มาแล้วคว้าได้เลยทันที
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
ความเห็นนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับเจ้าของกระทู้
แต่รู้สึกเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ผมเคยตั้งกระทู้จากยูสอื่น เรื่องลงทุน แล้วบอกตัวเงินเดือน
มีคนเข้ามาหาว่าแต่งเรื่อง โกหก เงินเดือนแค่นี้คิดเองไม่เป็น ทั้งใน facebook และใน pantip
คืออยากบอกว่าในสังคมการทำงานที่คนพวกนี้อาจไม่ได้อยู่ คนเงินเดือนหลายแสนบาทมันแทบจะปกติ (ไม่จำเป็นต้องแต่งเรื่อง)
ส่วนเรื่องแล้วเงินเดือนเยอะทำไมถึงเข้ามาถาม เหตุผลง่ายๆคือบางคนเขาไม่ได้เก่งทุกเรื่อง
เขาหาเงินเก่งอย่างเดียวแต่อาจใช้ความรู้เฉพาะด้านของเขานั้นๆ เขาถึงเข้ามาถาม (พวกเขาไม่ได้เก่งทุกเรื่อง)
แต่ก็ไม่วายที่จะโดนคนพวกนี้เข้ามาแซะ
อยากบอกกับคนที่มีความคิดพวกนี้ว่า อย่าเอาเงินเดือนตัวเอง เป็นบรรทัดฐานให้กับคนอื่น
อย่าเอาสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ หรือไม่เคยได้สัมผัสมาตัดสินคนอื่นเขา
หัดออกจากกะลาบ้าง
แต่รู้สึกเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ผมเคยตั้งกระทู้จากยูสอื่น เรื่องลงทุน แล้วบอกตัวเงินเดือน
มีคนเข้ามาหาว่าแต่งเรื่อง โกหก เงินเดือนแค่นี้คิดเองไม่เป็น ทั้งใน facebook และใน pantip
คืออยากบอกว่าในสังคมการทำงานที่คนพวกนี้อาจไม่ได้อยู่ คนเงินเดือนหลายแสนบาทมันแทบจะปกติ (ไม่จำเป็นต้องแต่งเรื่อง)
ส่วนเรื่องแล้วเงินเดือนเยอะทำไมถึงเข้ามาถาม เหตุผลง่ายๆคือบางคนเขาไม่ได้เก่งทุกเรื่อง
เขาหาเงินเก่งอย่างเดียวแต่อาจใช้ความรู้เฉพาะด้านของเขานั้นๆ เขาถึงเข้ามาถาม (พวกเขาไม่ได้เก่งทุกเรื่อง)
แต่ก็ไม่วายที่จะโดนคนพวกนี้เข้ามาแซะ
อยากบอกกับคนที่มีความคิดพวกนี้ว่า อย่าเอาเงินเดือนตัวเอง เป็นบรรทัดฐานให้กับคนอื่น
อย่าเอาสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ หรือไม่เคยได้สัมผัสมาตัดสินคนอื่นเขา
หัดออกจากกะลาบ้าง
biebie999 ถูกใจ, maxijojo123 ถูกใจ, hey_yapyap ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3829601 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3519339 ถูกใจ, พริกเผ็ดมาก ถูกใจ, รักจังเมืองไทย ถูกใจ, pinmoney ถูกใจ, ABACUB ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1230542 ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
มนุษย์เงินเดือนเงินเก็บสิบล้าน ซื้อบ้านหรือเก็บไว้ใช้หลังเกษียณดี