คนที่ซื้อบ้านเกินตัวนี่เค้าคิดอะไรอยู่คะ

เพื่อนรุ่นน้อง เป็นคนตจว. ภาคกลางค่ะ อยู่กะแม่ และน้องสาว เป็นบ้านเช่าที่สมุทรปราการ
ทีนี้น้องอยากมีบ้านที่กรุงเทพ ปริมณฑล เลยออกไปซื้อบ้านร่วมกับแฟนเค้า 

เหลือเพื่อนรุ่นน้องที่อยู่กะแม่เค้าสองคน 
ทีนี้เค้าเป็นคนที่ออกค่าใช้จ่าย จ่ายเงินให้แม่ซื้อข้าวของเข้าบ้าน แต่พอมาปีนี้ แม่เค้า เขียม ลง ทุกอย่าง อะไรที่ควรซื้อก็ไม่ซื้อ ทั้งที่เพื่อนรุ่นน้องจ่ายเงินให้แม่ซื้อของทุกอย่าง ของแพงขึ้นนั่นส่วนนึง เพราะก็เพิ่มเงินให้แม่ไปแล้วตลอด แต่ทีนี้ การกระทำแม่เค้า มันเขียม เกินไป 

น้องเลยไปซักไซร้ไร่เรียงกะแม่เค้า ได้ความว่าแม่เค้า โอน เงิน ส่วนนั้นไปให้น้องสาวเค้าที่ไปซื้อบ้านกับแฟนสองคนนั่น ไว้ใช่จ่ายในแต่ละเดือนค่ะ 

ซึ่งเค้าซื้อกันตั้งแต่ปี 64 พอทีนี้ ดอกเบี้ยเริ่มแพงขึ้น ค่าส่วนกลาง ภาษี ฯลฯ เค้าซื้อบ้านหลังละ หกล้าน แต่เงินเดือนน้องเค้าแค่สองหมื่นปลายๆ บวกกะเงินเดือนแฟนเค้าสามหมื่นนิดๆ (ผ่อนเดือนเท่าไหร่แบงค์ปล่อยกู้ยังไงอันนี้ดิชั้นไม่ทราบนะคะ) 

เพื่อนรุ่นน้องคนนี้มาบ่นให้ดิชั้นฟังค่ะ ว่าน้องสาวเค้ากะแฟน ก็หน้าใหญ่ ซื้อบ้านเกินตัว แถมอยู่ชานเมืองเส้นเดินทางไกล เพราะเห็นเป็นบ้านเดี่ยว แล้วทีนี้ผ่อนมาแค่สามปี คือ ดร็อปทุกอย่าง ในคุณภาพชีวิต อาหารการกินเสื้อผ้าหน้าผม จนแม่ต้องแอบโอนเงินที่เค้าให้แม่ไว้ซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน ไปให้น้องเค้าที่ผ่อนบ้านนั่นไว้ใช้จ่ายค่ะ 

เราแนะนำว่า ทำไมไม่บอกน้องสาวซื้อบ้านกลางๆ พออยู่ได้กันแต่แรก แล้วทำงานเป็นพนง. ออฟฟิศธรรมดา กินเงินเดือนทั้งคู่ เกิดอนาคตบ. อันนั้นขึ้นมา จะไหวเหรอ เพราะตอนนี้ก็ลากเลือดกันแล้ว เพื่อนรุ่นน้องบอกน้องเค้าเป็นประเภทน้อยหน้าใครไม่ได้มาแต่เด็ก บวกได้ผู้ชายเป็นแฟนนิสัยเหมือนๆ กัน ทำให้เป็นงี้ขึ้นดังกล่าว มาปีนี้ แฟนผู้ชายเค้าถอยรถเก๋งคันใหม่ แต่น้องบอกคันเก่าเค้าก็ยังใช้ได้ไม่ได้เก่าอะไรด้วย น้องคนรู้จักเลยถามไปเค้าบอกน้อยหน้าเพื่อนไม่ได้ เพื่อนออกใหม่กันเยอะ  

ส่วนตัวเพื่อนรุ่นน้องที่มาปรึกษาดิชั้น โสด ค่ะ แต่มีบ้านที่ตจว. (หัวเมืองภาคกลางตอนบน) เค้าเลยไม่คิดซื้อบ้านเหมือนน้องสาวเค้า ตั้งใจจะไปใช้ชีวิตวัยเกษียณเค้าที่นั่น 

แต่ใยน้องสาวเค้ากะแฟนนี่ก็เกินตัวเกินค่ะ

ที่ดิชั้นไล่อ่านทั้งตามข่าวตามเพจตามเฟส ประเภทซื้อบ้านเกินตัวแบบนี้ คงมีบ้างมั๊งคะ เพราะหลักๆ เห็นแต่ข่าวดอกเบี้ยแพงเกิน

ปล. เพื่อนรุ่นน้อง เป็นคนสั่งให้ตั้งกะทู้เองค่ะ 
ถ้าแทงใจดำใคร ขออภัยด้วยนะคะ 

___เห็นคนที่บอก อย่า ส.ในกลุ่มกะทู้เด็ดพันทิป
ดิชั้นคลิกโปรไฟล์ดู ก็..นะ.. 🤭 ไม่พูดดีกว่าค่ะ___
ดูจาก คนอ่านไม่เกินแปดบรรทัดนะคะ มิน่า... 

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02V3ii5shXjLgwybJXd4xcTZtrJPfdhPWRyY7TBoNFn1R6ueuRa96jC1oq6WV4ntSTl&id=100057112314243&mibextid=Nif5oz 

เพื่อนกะเพื่อนเนาะ ไม่ชอบก็ผ่านค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 34
ไม่ได้มองระยะยาวครับ

คนบางคนเค้าไม่มองอนาคตจริงๆ
เงินเดือนสองคน+โอที​ ได้เจ็ดหมื่น
คิดว่าผ่อนบ้านสามหมื่นไหว
ผ่อนรถอีกหมื่นห้าน่าจะได้
ไม่มองค่าใช้จ่ายจิปาถะ​เลย

รู้แค่ว่าต้องหาเงิน​ แต่ไม่วางแผน​ เป็นงี้กันเยอะด้วยนะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
แนะนำให้เปิดบัญชี ตัดค่าน้ำค่าไฟให้แม่เลยค่ะ โทรศัพท์ก็กดจ่ายให้จากแอพ
ของสั่งช้อปปี้หรือพวกโลตัสไปส่ง
ให้เงินติดตัวน้อยลงค่ะ เจ็บป่วยให้เป็นครั้ง ๆ
คุยกับน้องไม่ได้ผลหรอกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 11
คนจะมีอยู่ 3 ประเภท
- มองโลกในแง่ดีเกินความเป็นจริง
- มองโลกในแง่ลบเกินความเป็นจริง (เราน่าจะโดนข้อนี้ เลยไม่กล้าเป็นหนี้ซะที ซื้อสดทุกอย่าง 555)
- มองโลกตามความเป็นจริง

คนที่มองโลกในแง่ดี เค้าจะไม่ได้คิดเผื่อเลยว่าอนาคตจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นมั้ย แต่จะคิดในแง่ดีสุดๆ ว่า เดี๋ยวก็เงินเดือนขึ้น เดี๋ยวเงินเดือนขึ้นก็สบาย อดทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวมีหนี้ก็มีแรงฮึดเอง หาเงินได้เยอะขึ้นเอง กู้ไปก่อน (เคยเห็นคนพิมพ์แบบนี้จริงๆ ในพันทิป)

ในขณะที่คนแบบเรา จะคิดแต่ กลัวจะตกงาน กลัวโดนไล่ออก กลัวมีเหตุไม่คาดคิดให้ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ต้องเก็บออม ต้องกระจายความเสี่ยง แผนสำรอง A B C D E เต็มไปหมด 555 ซึ่งมันก็ไม่ดีหรอก บางทีก็คิดว่าตัวเองก็ปสด.เกิน ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง นอกจากพวกหุ้นกับกองทุนที่ยอมขาดทุนได้บ้าง นอกนั้นก็แทบไม่ชอบความเสี่ยงอะไรเลย

ทางสายกลางน่าจะดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่