ทำอะไรที่มันเป็นแบบเดิม ผลลัพธ์มันก็จะเหมือนเดิมหรือคล้าย ๆ 
ของเดิม ....
ลองคิดถึงความจริงของ Pareto Principle ซึ่งใช้ได้ผลดีกับปรากฏการณ์
ทางสังคม
จำนวนการแพร่ระบาด 80% มาจากพื้นที่ 20% ของประเทศ ....
ดังนั้นหลักการง่าย ๆ ถ้าเราจำกัดการแพร่ระบาดในพื้นที่ 20% 
นี้ได้  เราก็จะลดการแพร่ระบาดลงไป  80%
แต่ไม่ใช่แค่ด้วยวิธีล๊อคดาวน์นะครับ ... อันนี้ไม่น่าจะใช่แกนหลัก
อาจจะเป็นมาตรการเสริม  มีหรือไม่มีก็ได้ ถ้าเราสามารถทำตามหลัก
ของ Pareto ได้
วัคซีนครับ ได้มากี่โดสทุ่มฉีดไปเลยที่กรุงเทพก่อนเลยครับ
ทั้งคนที่มีภูมิลำเนา หรืออาศัย/ทำงาน  จะให้ได้ 70% หรือทั้งหมด
ก็แล้วแต่พิจารณาครับ
ใช้เวลาไม่น่าเกิน 1-2 เดือน ถ้ามีวัคซีนเพียงพอ  เมื่อเราปิดจ็อบ
กทม. ได้  ภาพรวมของทั้งประเทศก็จะดีขึ้นอย่างทันตาเห็น
พูดไปอย่างนี้ อาจจะผิดหลักสิทธิมนุษยชน เสรีติ๊ปไตหรือเปล่า
ไม่รู้นะ ...
แต่ผมคิดง่าย ๆ ว่าคนกรุงเทพ 1 คน ที่เดินทางไปทั่วเขตพระนคร
ต้องทำงาน กิน ใช้ ขนส่งสาธารณะ  contact กับคนอื่น ๆ อีกมากมาย
จะมีโอกาสแพร่เชื้อได้มากขนาดไหนตอนติดโควิด ...
กลับกันคน ตจว. หรือชนบทที่ ไม่ค่อยได้เดินทาง พบปะผู้คน
หรือ contact ใครโอกาสแพร่เชื้อไปให้คนอื่นก็จะน้อยกว่า
ไม่ได้คิดจะแบ่งแยกชนชั้น หรืออคติกับใคร จริง ๆ แล้วผมคิดด้วย
ซ้ำว่า รบ. ทั้งหมดในไทยที่ผ่านมา กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น
น้อยเกินไป ปัญหามันก็เลยมากระจุกตัวอยู่ที่เมืองใหญ่
หากจะมีคนเคยเสนอ  หรือ รบ. เคยรับฟัง
แต่ทำไม่ได้ ผมก็เข้าใจเหตุผลดีครับ  เพราะทุกพรรคการเมือง
ไม่สามารถไปอธิบายและทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ตัวเองพอใจได้
.... อาจจะเข้าใจ แต่ไม่พอใจ
กระทู้นี้จึงอาจจะเป็นแค่ การบ่นรำลึกความหลังเล่าสู่กัน
ฟังเฉย ๆ ใน ห้วงที่เวลาที่เริ่มจะเบื่อสถานการณ์โควิดนี้เต็มทน .

ป. และ ล. ... ขออนุญาตพณฯท่าน แอดมินนะครับ
พอดีมู้เดิมโดนเล่นซ่อนหา ผมยื่นอุทธรณ์ไปตามระเบียบแล้ว
แต่ท่านไม่พิจารณาสักที ขอตั้งเป็นมู้ใหม่ในเว็บเก่านะครับ