ในดีนั้นมีดีในไม่ดีนั้นก็มีดีเช่นกัน


                ตั้งแต่อัลลอฮฺได้เลือกศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของพระองค์มุสลิมก็ได้พบกับบททดสอบจากพระองค์มากมายในอดีต จนกระทั่งปัจจุบันมุสลิมก็ได้ประสบกับบททดสอบอันใหญ่ยิ่งอีกหนึ่งประการ คือ บททดสอบของผู้ที่เกลียดชังอิสลาม(ปลอม) และเกลียดชังอิสลามอย่างแท้จริง 
                 ในสถานการณ์ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักกลุ่มหัวรุนแรงก่อการร้ายสร้างความเดือดร้อนและความหวาดกลัวไปทั่วสารทิศ นั่นคือกลุ่ม ISIS ผู้ซึ่งอ้างความเป็นธรรมในการก่อสงครามหรืออ้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ไม่ได้มีการยอมรับจากบรรดาผู้รู้(ปราชญ์)หรือมีหลักฐานศาสนารับรองแต่ประการใด ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำของกลุ่มนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหลักศาสนาหรือหลักการทำสงครามที่ถูกต้อง 
                  หากมีผู้ใดถามว่าการกระทำของ ISIS นั้นเป็นสิ่งที่ศาสนาอิสลามได้สอนหรือไม่ เราในฐานะมุสลิมก็ต้องตอบว่าไม่อย่างแน่นอน แต่หากถามว่าเขา ISIS ยังเป็นมุสลิมหรือเป็นมุสลิมหรือไม่ หากไม่มีหลักฐานชัดแจ้งรองรับว่าเขาได้ทำการปฏิเสธศาสนาในหลักความเชื่อก็ต้องบอกว่าเขาเป็นมุสลิม แต่เป็นมุสลิมที่ชั่ว เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นมุนาฟิก(หน้าไหว้หลังหลอก) อ้างว่าเป็นมุสลิมในเบื้องหน้าและเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาในเบื้องหลัง
                   การก่อการร้ายของ ISIS ทำให้ภาพลักษณ์ของมุสลิมแย่ลงเรื่อยๆตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 ทำให้มุสลิมทั่วโลกต้องพยายามเผยแพร่คำสอนที่ถูกต้องและพยายามสร้างความเข้าใจต่อต่างศาสนิก ใครจะเชื่อสิ่งที่ ISIS เป็นสิ่งีท่ไม่ดีแน่นอนในสายตาทุกศาสนา แต่มันก็ยังพ่วงสิ่งที่ดีมาด้วย แม้ศาสนาอิสลามโดนโจมตีทำให้ผู้คนสนใจในหลักคำสอนอิสลามที่ถูกต้องและต้องการความชัดเจน มีไม่น้อยเลยที่ได้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เพราะสนใจในการกระทำของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นมุสลิมมาทำลายอิสลามจากภายในสู่ภายนอก ตัวอย่างเช่น 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                   สิ่งเหล่านี้เป็นความโปรดปราณของอัลลอฮฺอย่างนึงที่สอดแทรกมาในสิ่งที่ไม่ดี หนึ่งในบททดสอบที่เราทุกคนต่างประสบนั่นก็คือ การที่เรารังเกียจหรือไม่ชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่บางครั้งเราก็ต้องอดทนฝืนมัน ยอมรับและมอบหมายแต่อัลลอฮฺ ไม่ทำตัวเป็นคนประเภทโทษฟ้าดิน ดั่งที่อัลลอฮฺได้ครัสไว้ความว่า
وَعَسَى أَنْ تَكْرَهُوا شَيْئًا وَهُوَ خَيْرٌ لَكُمْ وَعَسَى أَنْ تُحِبُّوا شَيْئًا وَهُوَ شَرٌّ لَكُمْ وَاللَّهُ يَعْلَمُ وَأَنْتُمْ لَا تَعْلَمُونَ 
"และอาจเป็นไปได้ว่า การที่พวกเจ้าเกลียดสิ่งหนึ่งทั้งๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งดีแก่พวกเจ้า
และก็อาจเป็นไปได้ว่าการที่พวกเจ้าชอบสิ่งหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นเป็นสิ่งเลวร้ายแก่พวกเจ้า และอัลลอฮ์นั้นทรงรู้ดี แต่พวกเจ้าไม่รู้" 
(ส่วนหนึ่งจากซูเราะห์อัลบากอเราะห์ อายะห์ที่ 216 )

และในอีกบทหนึ่ง

فَعَسَىٰ أَن تَكْرَهُوا شَيْئًا وَيَجْعَلَ اللَّهُ فِيهِ خَيْرًا كَثِيرًا 
ก็อาจเป็นไปได้ว่า การที่พวกเจ้าเกลียดสิ่งหนึ่งขณะเดียวกันอัลลอฮฺก็ทรงให้มีในสิ่งนั้น ซึ่งความดีอันมากมาย
(หรือส่วนหนึ่งในซูเราะห์อันนิซาอฺอายะห์ที่ 19)

อายะห์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เตือนใจมุสลิมในสิ่งที่ต้องประสบในชีวิตสอนให้มุสลิมได้ใช้ปัญญามองสิ่งต่างๆในทุกแง่มุมสิ่งที่ใครหลายคนหรือมุสลิมมองว่าไม่ดีในขณะนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่ดีไปเสียหมด จงอย่าหมดหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺเมื่อท่านทั้งหลายได้ประสบกับบทสอบที่โดนการทั่วหน้าหรือบททดสอบที่ท่านต้องประสบโดยลำพัง ท่านทั้งหลายจงคำนึงถึงความโปรดปราณของอัลลอฮฺและแน่นอนพระองค์จะมอบซึ่งที่ดีกว่าแก่ท่านทั้งหลาย ขอให้มุสลิมยืดหยัดในการรักษาศาสนาของอัลลอฮฺและทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนาของอัลลอฮฺในทางที่ถูกต้องครับ 
- บทความต่อไปนี้มาจากทางเจ้าของกระทู้ได้คัดลอกมาจากเว็บไซค์ซึ่งผมมองว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต้องขอบคุณผู้แปลและเรียบเรียงเนื้อหาด้วยประการทั้งปวง 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

      ขอยกตัวอย่างจากบรรพชนยุคสลัฟเกี่ยวกับเรื่องราวหนึ่ง โดยเรื่องนี้ท่าน ฮาฟิศ อิบนุ อะซากิร รอฮิมะฮุ้ลลอฮ ได้อ้างอิงไว้ในหนังสือ "ตารีค ดิมัชกฺ" เล่ม 28 หน้าที่ 307-308 และท่านเชค อับดุลลอฮอัลบุคอรีย์ ฮะฟิเศาะฮุ้ลลอฮ ได้สรุปมาว่า :
     "ได้มีแม่ทัพคนหนึ่งตกลงมาจากหลังคา แล้วขาทั้งสองข้างของเขาจึงได้หักไป ท่านอิหม่ามอบูกิลาบะห์ (ตาบีอีนเป็นลูกศิษย์ศอฮาบะห์)ได้มาเยี่ยมเขาแล้วกล่าวกับเขาว่า : หวังว่าในสิ่งนี้จะเป็นเรื่องดีสำหรับท่านนะ
     เขา(แม่ทัพขาหักคนนั้น)จึงกล่าวขึ้นว่า : โอ้ท่าน อบูกิลาบะห์เอ๋ย มันจะมีความดีอะไรในการที่ขาของฉันทั้งสองข้างหักอีกหรือ ?
     ท่านจึงกล่าวกับเขาว่า : สิ่งที่อัลลอฮทรงปกปิดเอาไว้สำหรับตัวท่าน(ที่ท่านไม่รู้)มีมากมายยิ่งกว่าอีกนะ
     หลังจากนั้น กองทัพได้ถูกเตรียมขึ้นเพื่อทำสงครามกับท่านฮูเซ็น บิน อาลี รอดิยั้ลลอฮุอันฮุมา โดยผู้ปกครองได้ส่งเขา(แม่ทัพที่ขาหักคนนั้น)ไปหาท่านฮุเซ็น โดยใช้ให้เขาออกไปทำสงครามกับท่าน แล้วผู้ส่งสารก็ได้มาหาท่านโดยนำเรื่องนี้มา(คือ คำสั่งผู้ปกครองเพื่อมาบอกเขา) และเขา(แม่ทัพขาหักคนนั้น)ได้กล่าวขออภัยแก่ผู้ส่งสารว่า : ท่านเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันแล้วสินะ แล้วเขา(แม่ทัพขาหัก)ก็ได้แก้ต่างกับเขา(ไปเช่นนั้น)
     หลังจากนั้น แม่ทัพคนนั้นก็ได้กล่าวว่า : ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาแก่ท่านอบูกิลาบะห์ แท้จริงมันช่างเป็นสิ่งที่ดีงามสำหรับฉันในการที่ขาของฉันได้หักไป อัลฮัมดุลิ้ลละห์ ที่พระองค์ได้ทรงทำให้ข้าพระองค์รอดพ้นจาก(การมีมลทิน)จากเลือดของบุตรชายของลูกสาวท่านร่อซู้ลลุ้ลลอฮศอลลั้ลลอฮุลัยฮิวะซั้ลลัม"
 
(อุศูลุสซุนนะห์ ลิ้ลอิมาม อบูบักรอัลฮุมัยดี่ วะมอะฮูตะมามุ้ลมินนะฮฺ ฟีชัรฮฺ อุศูลิสซุนนะห์ หน้าที่ 42)
 
          เราจะเห็นได้ว่าถ้าแม่ทัพคนนั้นขาไม่หักก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เขาอาจจะถูกใช้ให้ไปฆ่าท่านฮูเซ็นรอดิยั้ลลอฮุอันฮุ ก็เป็นได้ แต่อัลลอฮ์   ทรงทำให้เขารอดพ้นจากสิ่งดังกล่าวด้วยกับการทำให้ขาหักแทน และแม่ทัพคนดังกล่าวก็ยอมรับในภายหลังถึงฮิกมะฮฺที่อยู่เบื้องหลังในการที่เขาขาหัก และนี่เองก็เป็นตัวอย่างให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนว่าบางครั้งสิ่งที่เราไม่ชอบมัน ไม่อยากให้มันประสบกับเรา อัลลอฮ์   อาจจะทำให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเราในอนาคตก็เป็นได้ ขอเพียงเราเชื่อมั่น อดทน มีความยำเกรงในอัลลอฮ์   ยอมรับในการกำหนดของพระองค์และมอบหมายต่อพระองค์ แน่นอนพระองค์จะทรงให้ทางออกแก่เราโดยที่เราอาจจะคาดไม่ถึงก็เป็นได้
ดังที่พระองค์ตรัสว่า : 
‏‏وَمَن يَتَّقِ اللَّهَ يَجْعَل لَّهُ مَخْرَجًا 
"และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขา" 
(ซูเราะห์ อัตตอลา อายะห์ ที่ 2)
 
ดังนั้นแล้วเมื่อเราเจอบททดสอบของอัลลอฮ์   ควรทำอย่างไร ?
 
          ท่านอิหม่ามอิบนุ้ลก็อยยิมได้กล่าวว่า ”จงอดทนต่อบททดสอบต่างๆนั้น หลังจากนั้นจงมีความพึงพอใจต่อมัน ซึ่งมันคือสิ่งที่สูงส่งกว่าการอดทน หลังจากนั้นจงขอบคุณ ซึ่งมันคือสิ่งที่สูงส่งกว่าความพึงพอใจ" 
(“อัลฟะวาอิด" ดารุ้ลกุตุบ อัลอิ้ลมี่ยะห์ เบรุต หน้าที่ 112-113)
 
          ท่านเชค บินบาซ รอฮิมะฮุ้ลลอฮ ได้อธิบายถึงเรื่องนี้อีกว่า "และขณะเมื่อเกิดภัยบะลาอฺ(บททดสอบ) มีอยู่สามเรื่องด้วยกัน(ที่ควรปฏิบัติ)
1. การอดทน มันคือสิ่งที่เป็นวายิบ
2. การพึงพอใจ(ต่อบททดสอบอันนั้น)ถือเป็นซุนนะห์และ
3. การขอบคุณต่ออัลลอฮ(ในบททดสอบนั้นๆ) คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุด " 
(“มัจมูอฺ อัลฟะตาวา วะมะกอลาต มุตะเนาวิอะห์" 13 หน้าที่ 413)
 
          ขออัลลอฮ์   ทรงช่วยเหลือผู้ที่กำลังถูกบททดสอบต่างๆไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามและขอให้อดทน พอใจ และขอบคุณต่ออัลลอฮ์   ในบททดสอบนั้นๆ และพระองค์จะทรงทดแทนสิ่งที่ดีกว่าให้ อินชาอัลลอฮ์

ป.ล.ลำบากนิดนึงเหมือนจะบัคพิมพ์ติดตัวทึบทั้งนั้นเลยทำให้อ่านยาก ขออภัยครับจะพยายามแก้ไข
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่