จริงๆเราก็เคยตั้งกระทู้เรื่องพนักงานใหม่แล้ว (ประมาณว่าเขามีพฤติกรรมที่ทำให้เราไม่ค่อยอยากสอนงานหรือคุยด้วย จากนั้นเราก็โดนคนอ่านถล่มด่าทั้งในกระทู้และในเฟส) แต่ที่ตั้งคราวนี้เป็นเรื่องที่จะเล่าถึงพฤติกรรมของพนักงานใหม่ ความรู้สึกของเราและหัวหน้า ที่ทำให้เกิดเรื่องตามหัวข้อกระทู้ (เผื่ออาจมีประโยชน์กับบางคนบ้าง)
พนักงานใหม่คนนี้ หัวหน้ารับมาช่วยงานเราและงานคนอื่นๆ (แต่เน้นช่วยงานเรามากกว่า) เขาเป็นผู้ชายอายุ 20 ปลายๆ วุฒิ ป.ตรี เคยทำงานที่อื่นมาก่อน ตอนหัวหน้าสัมภาษณ์งานเขา เขาดูดีมาก ความคิดและการพูดจาน่ารับเข้าทำงาน หัวหน้าจึงรับ เขาก็มานั่งทำงานอยู่ใกล้ๆกับเรา
ตอนที่เขามาทำงานแรกๆ เราก็พยายามทำตัวเป็นมิตร (ปกติเราจะเงียบๆ ไม่ค่อยอยากยุ่งกับใคร) เราพาเขาไปกินข้าว พาไปเดินเล่นรู้จักสถานที่ต่างๆ และก็สอนงาน แต่ช่วงหลังเราก็ไม่ได้ทำอีก เพราะโควิดระบาดหนัก เราก็ซื้อข้าวมากินในห้องทำงาน แล้วปล่อยให้เขาไปคนเดียว (หรือเขาอยากไปกับใครก็แล้วแต่เขา) แต่เราก็ยังพูดคุยและสอนงานเขาอยู่บ้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 เดือน เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่างในตัวพนักงานใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ทำให้เราผิดหวัง เราจึงไม่ค่อยคุยกับเขาอีก เขาเองก็ไม่ค่อยคุยกับเรา แต่ยังคุยกับคนอื่นๆได้ (ถ้าคุยกับเราก็จะสุภาพเป็นพิเศษ)
นี่คือพฤติกรรมการทำงานของพนักงานใหม่ ที่เรามองว่าไม่ค่อยเวิร์ก และเราเชื่อว่าหัวหน้าก็เห็นแบบเดียวกับเรา
- ยึดความคิดตัวเอง เราสอนงานเขา แล้วเขาชอบขอเปลี่ยนแปลงบางอย่างในเนื้องาน ซึ่งสิ่งนั้นเรากับหัวหน้าได้คิดกันมาดีแล้ว ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นก็น่าเปลี่ยนอยู่ แต่น้องเพิ่งมาทำงาน ยังไม่ทันได้รู้ระบบงาน แต่อยากเปลี่ยนแล้ว ไวไปไหม (อีกอย่างการทำงานในหน่วยงานรัฐ การจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้ทำง่ายๆ)
- (สืบเนื่องจากข้อบน) งานเรายังไม่เป็นระบบ 100% เพราะเป็นงานใหม่ของแผนก มีทั้งส่วนที่ถูกปรับจนนิ่งแล้ว และส่วนที่ยังต้องปรับแก้ไปมาไม่จบ ถ้าพนักงานใหม่อยากเปลี่ยนแปลงในส่วนหลัง หรือมีไอเดียมาปรับในส่วนที่ยังใช้งานไม่ได้ เราจะไม่ว่า แบบนี้เราถือว่าดี แต่นี่เขาอยากเปลี่ยนในส่วนที่นิ่งแล้ว และไม่ขอยุ่งกับส่วนที่ยังไม่นิ่ง (มีแต่คำพูดสวยๆว่าจะช่วย แต่สุดท้ายปล่อยให้เราทำ) แบบนี้เรามองว่าเรื่องมาก
- งานเราสอนคนอื่นยาก เพราะยังไม่เป็นระบบ 100% แต่เราก็พยายามสอนเขาเท่าที่จะสอนได้ เราเคยเขียน flow งานไว้ และบางอย่างมีระเบียบคู่มือให้อ่าน เราบอกให้เขาอ่าน แต่เขาไม่ยอมอ่าน ขนาดหัวหน้าบอกให้อ่าน ก็ยังไม่อ่าน แล้วพอหัวหน้าถามเรื่องงาน เขาก็ตอบแบบงงๆ และแถไปตามความคิดตัวเอง (เขาเป็นแบบนี้กับทุกงาน ไม่ใช่แค่งานเรา)
- เวลาเรา/คนอื่นสั่งงานเขา หรือแบ่งงานให้เขาทำ เขาจะชอบดองงานไว้ ไม่รีบทำ ต้องให้ย้ำหลายครั้ง และหลังๆต้องกำหนดเดดไลน์ให้ด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่ทำสักที (เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดอง ทั้งๆที่เขาก็ยังไม่ค่อยมีงาน) และที่แย่คือ เขาดองงานไว้จนลืมทำ ต้องมีคนตามจิกถึงจะนึกออก ซึ่งเราเบื่อมากกับการต้องพูดอะไรหลายๆครั้ง
- ความกระตือรือร้น ความใส่ใจงานของเขา โดยรวมเรายังรู้สึกว่ายังไม่โอเค (จากข้อบนก็บ่งบอกแล้ว) ปกติแผนกเราจะมีการประชุมอัปเดตงานรายสัปดาห์ และรายเดือน มีกำหนดวันแน่นอน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าก็จะบอก แต่ปรากฏว่าเขาไม่รู้เลยว่าต้องประชุมเมื่อไหร่ ต้องรอให้คนอื่นบอก เขาไม่ค่อยอ่านไลน์ และไม่เคยอ่านรายงานประชุมครั้งก่อนๆ ตอนประชุมเขาก็ไม่จดอะไรเลย พอหัวหน้าถามเขาว่าทำไมไม่จด เขาตอบว่าก็เราจดแล้ว - -
- คนอื่นพูดอะไรเขาไม่ค่อยเชื่อฟัง เราบอกเขาให้ทำแบบนึง แต่เขาไปทำอีกแบบนึง เพราะเขารู้สึกว่าความคิดตัวเองดีกว่าความคิดเรา (ซึ่งดีกว่าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) พอเราไม่ยอมให้เขาทำตามใจตัวเอง เขาก็แอบทำ เรามารู้ทีหลังก็รู้สึกไม่ค่อยโอเค หัวหน้าสอนงานเขาก็ไม่ค่อยเชื่อ พอสิ่งที่หัวหน้าบอกขัดกับความรู้สึกเขา เขาก็ไปถามคนอื่นๆอีก แล้วงานเขาก็ไม่เดินหน้า/เดินช้า (สุดท้ายต่อให้เขาไปถามคนอื่นอีกกี่คน แต่ก็ต้องทำตามแนวทางของหัวหน้าอยู่ดี)
--------------------------------------------------------------
ขอเพิ่มเติมพฤติกรรมของเขาที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานบ้าง ซึ่งอาจไม่มีผลต่อการประเมินทดลองงาน แต่มีผลต่อความรู้สึกของคนอื่น
- เขาแอบไปสมัครงานใหม่ ในหน่วยงานที่ทำอยู่ แต่เป็นฝ่ายอื่น หัวหน้าเรารู้เข้าก็รู้สึกไม่โอเค เพราะพนักงานไม่มาคุยตรงๆว่ามีปัญหาอะไร และรู้สึกว่าถูกพนักงานมองเป็นแค่ทางผ่าน หัวหน้าพูดกับเราว่า ถ้าเขาไม่คิดจะอยู่นาน ก็ไม่อยากสอนหรือป้อนงานให้เยอะ กลัวโดนวางยาทีหลัง (แต่ตอนนี้ก็ยังให้งานเขาตามปกติ ถือว่าซื้อใจ แล้วรอดูกันต่อไป)
- เขาไม่ค่อยรู้จักเวล่ำเวลา ในเวลาทำงานชอบขอตัวไปหาหมอประกันสังคม ภายในเวลา 2 เดือน เขาไปหาหมอแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ครั้งนึงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมง บางทีเกือบครึ่งวัน เรารู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม คือมันต้องไปในเวลาก็จริง แต่ถ้าไปตอนพักเที่ยง หรือตอนเช้าตรู่ก่อนเวลาเข้างานก็ได้ อาจไม่ต้องเสียเวลาทำงาน หรืออาจเสียเวลาทำงานนิดหน่อย ไม่ดูเอาเปรียบคนอื่นเกินไป แต่ที่ทำงานเราหัวหน้าไม่ถือเรื่องนี้ เราก็เลยไม่ได้ว่าอะไรเขา
- เขาไม่ค่อยรู้กาลเทศะ อย่างเช่น เราอยู่ในห้องหัวหน้า กำลังคุยงานกัน แล้วจู่ๆ เขาก็ทะลึ่งเข้ามาในห้อง แล้วก็คุยงานกับหัวหน้าแทรกเราเฉยเลย ทีนี้เราก็ต้องรอเขาคุยกับหัวหน้าให้เสร็จ แล้วเราจึงค่อยคุยต่อ ไม่โอเคเลย แทนที่เขาจะรอให้เราคุยเสร็จก่อน
- เขาชอบพูดเรื่องใต้สะดือกับผู้หญิง ด้วยความที่พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เขาไม่ได้พูดกับเราหรอก (เพราะเราไม่ชอบพูดเรื่องนี้) แต่ที่เราไม่ชอบก็เพราะเขานั่งอยู่ใกล้เรา เวลาเขาพูดกับคนอื่นก็จะพูดเสียงดังอยู่ที่โต๊ะตัวเอง เราได้ยินเต็มๆ ก็เลยรำคาญ แต่เราว่าอะไรเขาไม่ได้ เพราะผู้หญิงในห้องก็พูดเรื่องใต้สะดือกับเขาเหมือนกัน
- เขาเป็นคนขี้งก แล้วยังขี้ยืมอีก ตอนมาทำงานวันแรกเขาขอยืมที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ของคนอื่น ปัจจุบันเขาชอบยืมแฟลชไดรฟ์ของเราไปเซฟงาน และก็ขอยืมของอย่างอื่นอีก ห้องเราไม่มีถังขยะให้พนักงานทุกคน ต้องหามาเอง (มีถังขยะส่วนรวม แต่ไม่มีให้ส่วนตัว) แต่เขาไม่คิดจะหามาเองเลย แล้วก็วางขยะไว้บนพื้น บางครั้งก็เอามาทิ้งในถังของเรา จนในที่สุดหัวหน้าก็ต้องเอาลังกระดาษมาให้เขาใส่ขยะแทน (วางบนพื้นมันสกปรก เดี๋ยวมีหนู แมลงสาบ แถมดูไม่ดีด้วย) เขาไม่เคยซื้อของกินหรืออะไรมาแบ่งปันคนอื่นเลย แต่เวลาคนอื่นซื้อของกินมาแล้วชวนเขากิน เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเลยเหมือนกัน
--------------------------------------------------------------
(มีต่อข้างล่าง)
พฤติกรรมของพนักงานใหม่ที่ทำงานกับเรา และผลการประเมินงานจากหัวหน้า (ที่ไม่ค่อยโอเคนัก)
พนักงานใหม่คนนี้ หัวหน้ารับมาช่วยงานเราและงานคนอื่นๆ (แต่เน้นช่วยงานเรามากกว่า) เขาเป็นผู้ชายอายุ 20 ปลายๆ วุฒิ ป.ตรี เคยทำงานที่อื่นมาก่อน ตอนหัวหน้าสัมภาษณ์งานเขา เขาดูดีมาก ความคิดและการพูดจาน่ารับเข้าทำงาน หัวหน้าจึงรับ เขาก็มานั่งทำงานอยู่ใกล้ๆกับเรา
ตอนที่เขามาทำงานแรกๆ เราก็พยายามทำตัวเป็นมิตร (ปกติเราจะเงียบๆ ไม่ค่อยอยากยุ่งกับใคร) เราพาเขาไปกินข้าว พาไปเดินเล่นรู้จักสถานที่ต่างๆ และก็สอนงาน แต่ช่วงหลังเราก็ไม่ได้ทำอีก เพราะโควิดระบาดหนัก เราก็ซื้อข้าวมากินในห้องทำงาน แล้วปล่อยให้เขาไปคนเดียว (หรือเขาอยากไปกับใครก็แล้วแต่เขา) แต่เราก็ยังพูดคุยและสอนงานเขาอยู่บ้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 เดือน เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่างในตัวพนักงานใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่ทำให้เราผิดหวัง เราจึงไม่ค่อยคุยกับเขาอีก เขาเองก็ไม่ค่อยคุยกับเรา แต่ยังคุยกับคนอื่นๆได้ (ถ้าคุยกับเราก็จะสุภาพเป็นพิเศษ)
นี่คือพฤติกรรมการทำงานของพนักงานใหม่ ที่เรามองว่าไม่ค่อยเวิร์ก และเราเชื่อว่าหัวหน้าก็เห็นแบบเดียวกับเรา
- ยึดความคิดตัวเอง เราสอนงานเขา แล้วเขาชอบขอเปลี่ยนแปลงบางอย่างในเนื้องาน ซึ่งสิ่งนั้นเรากับหัวหน้าได้คิดกันมาดีแล้ว ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นก็น่าเปลี่ยนอยู่ แต่น้องเพิ่งมาทำงาน ยังไม่ทันได้รู้ระบบงาน แต่อยากเปลี่ยนแล้ว ไวไปไหม (อีกอย่างการทำงานในหน่วยงานรัฐ การจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้ทำง่ายๆ)
- (สืบเนื่องจากข้อบน) งานเรายังไม่เป็นระบบ 100% เพราะเป็นงานใหม่ของแผนก มีทั้งส่วนที่ถูกปรับจนนิ่งแล้ว และส่วนที่ยังต้องปรับแก้ไปมาไม่จบ ถ้าพนักงานใหม่อยากเปลี่ยนแปลงในส่วนหลัง หรือมีไอเดียมาปรับในส่วนที่ยังใช้งานไม่ได้ เราจะไม่ว่า แบบนี้เราถือว่าดี แต่นี่เขาอยากเปลี่ยนในส่วนที่นิ่งแล้ว และไม่ขอยุ่งกับส่วนที่ยังไม่นิ่ง (มีแต่คำพูดสวยๆว่าจะช่วย แต่สุดท้ายปล่อยให้เราทำ) แบบนี้เรามองว่าเรื่องมาก
- งานเราสอนคนอื่นยาก เพราะยังไม่เป็นระบบ 100% แต่เราก็พยายามสอนเขาเท่าที่จะสอนได้ เราเคยเขียน flow งานไว้ และบางอย่างมีระเบียบคู่มือให้อ่าน เราบอกให้เขาอ่าน แต่เขาไม่ยอมอ่าน ขนาดหัวหน้าบอกให้อ่าน ก็ยังไม่อ่าน แล้วพอหัวหน้าถามเรื่องงาน เขาก็ตอบแบบงงๆ และแถไปตามความคิดตัวเอง (เขาเป็นแบบนี้กับทุกงาน ไม่ใช่แค่งานเรา)
- เวลาเรา/คนอื่นสั่งงานเขา หรือแบ่งงานให้เขาทำ เขาจะชอบดองงานไว้ ไม่รีบทำ ต้องให้ย้ำหลายครั้ง และหลังๆต้องกำหนดเดดไลน์ให้ด้วย ไม่งั้นเขาก็ไม่ทำสักที (เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดอง ทั้งๆที่เขาก็ยังไม่ค่อยมีงาน) และที่แย่คือ เขาดองงานไว้จนลืมทำ ต้องมีคนตามจิกถึงจะนึกออก ซึ่งเราเบื่อมากกับการต้องพูดอะไรหลายๆครั้ง
- ความกระตือรือร้น ความใส่ใจงานของเขา โดยรวมเรายังรู้สึกว่ายังไม่โอเค (จากข้อบนก็บ่งบอกแล้ว) ปกติแผนกเราจะมีการประชุมอัปเดตงานรายสัปดาห์ และรายเดือน มีกำหนดวันแน่นอน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าก็จะบอก แต่ปรากฏว่าเขาไม่รู้เลยว่าต้องประชุมเมื่อไหร่ ต้องรอให้คนอื่นบอก เขาไม่ค่อยอ่านไลน์ และไม่เคยอ่านรายงานประชุมครั้งก่อนๆ ตอนประชุมเขาก็ไม่จดอะไรเลย พอหัวหน้าถามเขาว่าทำไมไม่จด เขาตอบว่าก็เราจดแล้ว - -
- คนอื่นพูดอะไรเขาไม่ค่อยเชื่อฟัง เราบอกเขาให้ทำแบบนึง แต่เขาไปทำอีกแบบนึง เพราะเขารู้สึกว่าความคิดตัวเองดีกว่าความคิดเรา (ซึ่งดีกว่าจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) พอเราไม่ยอมให้เขาทำตามใจตัวเอง เขาก็แอบทำ เรามารู้ทีหลังก็รู้สึกไม่ค่อยโอเค หัวหน้าสอนงานเขาก็ไม่ค่อยเชื่อ พอสิ่งที่หัวหน้าบอกขัดกับความรู้สึกเขา เขาก็ไปถามคนอื่นๆอีก แล้วงานเขาก็ไม่เดินหน้า/เดินช้า (สุดท้ายต่อให้เขาไปถามคนอื่นอีกกี่คน แต่ก็ต้องทำตามแนวทางของหัวหน้าอยู่ดี)
--------------------------------------------------------------
ขอเพิ่มเติมพฤติกรรมของเขาที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานบ้าง ซึ่งอาจไม่มีผลต่อการประเมินทดลองงาน แต่มีผลต่อความรู้สึกของคนอื่น
- เขาแอบไปสมัครงานใหม่ ในหน่วยงานที่ทำอยู่ แต่เป็นฝ่ายอื่น หัวหน้าเรารู้เข้าก็รู้สึกไม่โอเค เพราะพนักงานไม่มาคุยตรงๆว่ามีปัญหาอะไร และรู้สึกว่าถูกพนักงานมองเป็นแค่ทางผ่าน หัวหน้าพูดกับเราว่า ถ้าเขาไม่คิดจะอยู่นาน ก็ไม่อยากสอนหรือป้อนงานให้เยอะ กลัวโดนวางยาทีหลัง (แต่ตอนนี้ก็ยังให้งานเขาตามปกติ ถือว่าซื้อใจ แล้วรอดูกันต่อไป)
- เขาไม่ค่อยรู้จักเวล่ำเวลา ในเวลาทำงานชอบขอตัวไปหาหมอประกันสังคม ภายในเวลา 2 เดือน เขาไปหาหมอแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ครั้งนึงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมง บางทีเกือบครึ่งวัน เรารู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม คือมันต้องไปในเวลาก็จริง แต่ถ้าไปตอนพักเที่ยง หรือตอนเช้าตรู่ก่อนเวลาเข้างานก็ได้ อาจไม่ต้องเสียเวลาทำงาน หรืออาจเสียเวลาทำงานนิดหน่อย ไม่ดูเอาเปรียบคนอื่นเกินไป แต่ที่ทำงานเราหัวหน้าไม่ถือเรื่องนี้ เราก็เลยไม่ได้ว่าอะไรเขา
- เขาไม่ค่อยรู้กาลเทศะ อย่างเช่น เราอยู่ในห้องหัวหน้า กำลังคุยงานกัน แล้วจู่ๆ เขาก็ทะลึ่งเข้ามาในห้อง แล้วก็คุยงานกับหัวหน้าแทรกเราเฉยเลย ทีนี้เราก็ต้องรอเขาคุยกับหัวหน้าให้เสร็จ แล้วเราจึงค่อยคุยต่อ ไม่โอเคเลย แทนที่เขาจะรอให้เราคุยเสร็จก่อน
- เขาชอบพูดเรื่องใต้สะดือกับผู้หญิง ด้วยความที่พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เขาไม่ได้พูดกับเราหรอก (เพราะเราไม่ชอบพูดเรื่องนี้) แต่ที่เราไม่ชอบก็เพราะเขานั่งอยู่ใกล้เรา เวลาเขาพูดกับคนอื่นก็จะพูดเสียงดังอยู่ที่โต๊ะตัวเอง เราได้ยินเต็มๆ ก็เลยรำคาญ แต่เราว่าอะไรเขาไม่ได้ เพราะผู้หญิงในห้องก็พูดเรื่องใต้สะดือกับเขาเหมือนกัน
- เขาเป็นคนขี้งก แล้วยังขี้ยืมอีก ตอนมาทำงานวันแรกเขาขอยืมที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ของคนอื่น ปัจจุบันเขาชอบยืมแฟลชไดรฟ์ของเราไปเซฟงาน และก็ขอยืมของอย่างอื่นอีก ห้องเราไม่มีถังขยะให้พนักงานทุกคน ต้องหามาเอง (มีถังขยะส่วนรวม แต่ไม่มีให้ส่วนตัว) แต่เขาไม่คิดจะหามาเองเลย แล้วก็วางขยะไว้บนพื้น บางครั้งก็เอามาทิ้งในถังของเรา จนในที่สุดหัวหน้าก็ต้องเอาลังกระดาษมาให้เขาใส่ขยะแทน (วางบนพื้นมันสกปรก เดี๋ยวมีหนู แมลงสาบ แถมดูไม่ดีด้วย) เขาไม่เคยซื้อของกินหรืออะไรมาแบ่งปันคนอื่นเลย แต่เวลาคนอื่นซื้อของกินมาแล้วชวนเขากิน เขาก็ไม่เคยปฏิเสธเลยเหมือนกัน
--------------------------------------------------------------
(มีต่อข้างล่าง)