หากพูดถึงเมืองอุดัยปูร์ (Udaipur) เพื่อนๆ อาจจะสงสัยนั่นคือเมืองไหนกัน อยู่ส่วนไหนขออินเดีย แต่หากเพื่อนๆตามข่าวดังที่เศรษฐีอินเดียจัดงานแต่งสุดอลังการทุ่มงบมากว่า 100 ล้าน USD โดยจ้าง Beyonce มาจัดคอนเสิร์ตส่วนตัวในงานแต่งงาน ช่วงเดือนปลายปี 2018 งานแต่งานสุดหรูนั่นจัดขึ้นที่นี่เลยคะ นั่นทำให้ต่อมเผือกของแอร์ทำงานในช่วงนั้นว่าเอ๊ะ ที่ที่มหาเศรษฐีจัดงานแต่มันจะวิเศษขนาดไหนเหรอ ทำไมเลือกที่นี่? ก็เลยเห็นว่าที่นี่มักเป็นตัวเลือกต้นๆ ในการจัดงานเพราะบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก แถมที่จัดงานแต่งงาน เราจะเรียกโรงแรมไม่ได้ เราต้องเรียกวัง แถมวังตั้งอยู่ท่ามกลางสายน้ำ ยิ่งพระอาทิตย์ตกดินเค้าว่าจะสุดแสนโรแมนติก
การเดินทางในทริปของแอร์จะเริ่มจากเมือง Jaipur แล้วก็เดินทางมาเรื่อยๆ โดยเมืองนี้จะเป็นเมืองสุดท้ายก่อนจะตีรถกลับยาว เพื่อขึ้นเครื่องบินที่สนามบินที่เมือง Jaipur ตอนค่ำๆ ค่ะ
 
การเดินทาง 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2563
Day 1 : Bangkok – Jaipur กว่าจะถึงก็ปาเข้าไป 22.30 น. แล้วคะ
Day 2 : Jaipur
Day 3 : Jaipur
Day 4 : Jaipur – Jodhpur
Day 5 : Jodhpur
Day 6 : Jodhpur – Udaipur
Day 7 : Udaipur
Day 8 : Udaipur – Jaipur เครื่องออกช่วง 23.00 น.
แอร์จะอยู่ที่ Jaipur มาแล้ว 3 คืน (รวมถึงวันที่เดินทางมาถึงด้วยนะคะ) และ Jodhpur 2 คืน ตลอดการอยู่ที่อินเดียแอร์เดินทางด้วยรถยนต์พร้อมคนขับตลอดทริปนี้ค่ะ ซึ่งวันนี้เป็นที่เราอยู่อินเดียเป็นวันที่ 6 แล้ว ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเพิ่งอ่านกระทู้นี้ สามารถหาอ่านข้อมูลเมือง Jaipur และ Jodhpurได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้จ้า
Jaipur : https://ppantip.com/topic/40121158
Jodhpur : https://ppantip.com/topic/40759657
 
วันที่ 6 : Jodhpur – Udaipur
แผนเที่ยว: Toorji Ka Jhalra Bavdi (Jodhpur) & Lake Pichola (Udaipur)
แผนกิน: ตอนเที่ยงทานร้านอะไรก็ได้ระหว่างทาง ตอนเย็นว่าจะหาอาหารแบบ street food ทาน
 
วันนี้จะ check out ออกจากโรงแรมที่ Jodhpur เร็วหน่อยคะ สัก 09.00 โมงก็ออกกันแล้ว นัดแนะกับคนขับให้มารับที่นอกตัวเมืองเก่า โดยคณะเราก็จะเรียนรถตุ๊กๆ ตามเคยคะ วันนี้ตอนเช้าเราแวะไปถ่ายรูปเล่นตรงบริเวณแหล่งเก็บน้ำขั้นบันไดประจำเมือง แล้วค่อยมาทานข้าวเช้าที่โรงแรม อำลาเมืองนี้สู่เมือง Udaipur ซึ่งเดินทาง 5-6 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาทานเข้าเที่ยง ทางค่อนข้างขรุขระดังนั้นจึงขับเร็วไม่ค่อยได้เลยคะ
หลังจากที่มีประสบการณ์ในการที่ให้คนขับช่วยหาที่ทานข้าวแล้ว มักเป็นร้านที่รับทัวร์ ดังนั้นราคา และรสชาติอาหาร ไม่ค่อยสมเหตุสมผลกันเลย มาครั้งนี้เราเลยตัดสินใจที่จะลองหาร้านอาหารกลางวันด้วยตัวเอง วิธีการเลือกคือลองดูจากใน Google map แล้งก็ดูรูปร้านให้ดูสะอาด ดูหน้าตาอาหาร อะไรประมาณนี้คะ และที่สำคัญต้องอยู่ระหว่างทางด้วย จะได้ไม่เสียเวลา 
เมื่อรถเราเลี้ยวเข้ามาร้ายอาหาร ก็เหมือนว่าจะเป็นรถคันแรกที่เข้ามา มีแอบเสียวๆ อยู่ว่าจะกินได้มั้ย แต่ไหน ๆ ก็เข้ามาแล้ว ยังไงก็ต้องลองดู

หลังจากที่เราเริ่มสั่งอาหาร ก็เริ่มมีคนเข้ามาทานมากขึ้นโดยเค้าจะเดินมาทานกันคะ ไม่ก็ขี่มอเตอร์ไซด์ คาดว่าอยู่แถวๆนั้น อาหารรสชาติดี ราคาคือถูกมาก จำได้ว่าประมาณไม่กี่ร้อยบาท กินกัน 5 คนรวมคนขับรถด้วย ถือว่าประสบความสำเร็จ Mushroom Biryani ที่นี่รสชาติตราตรึง ไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่เลย สาบานได้
เมื่อทานเสร็จแล้วเค้าก็จะมีเมล็ดอะไรสักอย่าง และน้ำตาลเอาไว้ช่วยย่อย และคาดว่าดับกลิ่นปากคะ เจ้าของใจดีพาเราไปดูต้นของเมล็ดที่เราทานด้วยคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Biryani เป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในตะวันออกกลางรวมทั้งชาวมุสลิมในประเทศต่างๆ ต้นกำเนิดของข้าวหมกมาจากอินเดียซึ่งรับวัฒนธรรมการปรุงข้าวหมกจากเปอร์เซีย และได้พัฒนามาเป็นบิรยานีในปัจจุบัน 
ส่วนผสมที่มักจะใส่ก็จะมีเครื่องเทศอินเดียหลากหลายชนิด, ข้าว และเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่นเนื้อไก่, เนื้อวัว, เนื้อแพะ, เนื้อแกะ, กุ้ง หรือปลา และบางครั้งก็อาจจะมีใส่ไข่และ/หรือ ผักต่างๆ
เพิ่มเติม: https://en.wikipedia.org/wiki/Biryani