.
ไดอารี่ความคิดถึง
เช้าวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส ผิดแปลกไปกับเมื่อคืนที่ท้องฟ้าคึกคะนองเหลือเกิน เมื่อคืนฝนหนักมากเทกระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่ว อีกทั้งมีลมพัดกรรโชกแรงเกือบทำเอาหลังคาบ้านปลิวไปตามแรงลม ทั้งฟ้าร้องคำรามเสียงดังน่ากลัว เมื่อคืนมีพายุเข้า ทว่าทำไมตอนเช้ามันถึงได้แดดจ้าขนาดนี้ ท้องฟ้าอยู่สูงมากแตกต่างกับบรรยากาศเมื่อคืนลิบลับ
แสงแดดตอนสาย ๆ ร้อนไม่ใช่เล่น ขณะนี้บอสและนักเรียนทุกคนกำลังเข้าแถวหน้าเสาธงทำกิจกรรมในตอนเช้าก่อนเข้าเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียนกำลังให้โอวาทที่หน้าเสาธง รองผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้หญิง ชื่อรองกรองแก้ว พวกเธอเรียกติดปากว่า ‘ท่านรองกรอง’ สั้น ๆ
นักเรียนแต่ละคนใครพอมีอะไรพกติดตัวมาด้วยก็ยกขึ้นมากำบังแสงแดดเอาไว้ ใครไม่มีก็ใช้มือของตนเองนี่แหละยกขึ้นบังแทน ท่านรองก็พูดไป นักเรียนก็บังแดดไป พูดถึงเรื่องการประชุมผู้ปกครองในวันนี้
เมื่อวานทางโรงเรียนได้แจกเอกสารไปถึงผู้ปกครองของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 หรือชั้น ม.ต้นทั้งหมดให้มาประชุมในวันนี้ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สร้างความลำบากใจให้แก่นักเรียนบางคนไม่น้อย ไม่ใช่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ใครที่มีพี่น้องหลายคนเรียนโรงเรียนเดียวกันมันลำบากมาก ต้องใช้ผู้ปกครองร่วมกัน แล้วจะแยกร่างไปให้ทันได้อย่างไร ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งยอมเสียสละในหมู่พี่น้องอยู่ร่ำไป
สำหรับบ้านของเธอ มีพี่แป้งกับพี่บอลที่อยู่ช่วงชั้นเดียวกัน พี่ ๆ ทั้งสองคนอยู่ชั้น ม.3 ส่วนเธออยู่ชั้น ม.2 พี่ปาวกับพี่บอมอยู่ชั้น ม.ปลาย เมื่อคืนเธอบอกกึ่งบังคับให้ตามาเป็นผู้ปกครองให้ มาด้วยกันกับยายเลยทั้งสองคน เพราะไม่อยากเสียสละให้พี่ ๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องนั่งเหวอยู่คนเดียวในห้องท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่มีผู้ปกครองมากันครบ
“หื่อ อี่ตาบ่ต้องไปเลี้ยงงัวมื้ออื่น ไปเป็นผู้ปกครองอยู่โรงเรียนให้บอส” บอสเถียงให้ตาไปโรงเรียนให้ได้
“ฮ่วย… ไปไผสิเบิ่งงัวไว้ให้ ยายนั่นเด้” ตาปฏิเสธ ตอนเรียนประถมมีงานโรงเรียนอะไรตาจะเป็นคนออกงานเสมอ พอขึ้นมัธยมเปลี่ยนเป็นยายออกงานแทน ตอนประถมขนาดวันแม่บอสก็เอาตาไปกราบแทนยาย
“เอ้า ! อี่ยายกะเป็นผู้ปกครองให้พี่แป้งกับพี่บอลแล้วนั่นเด้ อี่ตากะเป็นของบอส ไปนั่งบ่มีผู้ปกครองมาบ่นั่งดิ๊อยากอายมู” ขมวดคิ้วหน้าบึ้งเถียงให้ตาไปงานประชุมผู้ปกครองให้ได้ในวันพรุ่งนี้
“มันสิยากหยังเดี๋ยวหนิ ! มืงกะไปบอกย่ามืงถะแหมะไปมื้ออื่น ไผสิเอางัวกินน้ำให้ตา ไปเมิดมื้อบ่แมนบ่” ยายเสนอทางออกให้ ไม่ได้ลืมย่าแต่ไม่อยากรบกวนต่างหาก แม้ขัดใจก็ต้องยอมทำตามเพราะหาใครไปแทนไม่ได้แล้วจริง ๆ ให้ย่ามาแทนก็ได้
ความจริงไม่อยากให้ย่าหรือให้ใครไปแทนเลย ไม่อยากรบกวน พอตกลงกันแบบนั้นจึงขอตัวเดินไปบอกย่าก่อน พรุ่งนี้ป้าต้อยก็ต้องมาเป็นผู้ปกครองให้พี่กอล์ฟเหมือนกัน ย่าจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางมาพร้อมกับป้าต้อยเลย
เมื่อคืนที่บ้านของเธอวุ่นวายมากกับเรื่องมาประชุมผู้ปกครองในวันนี้ กว่าจะตกลงกันได้ สรุปได้ป้าต้อยมาแทน ป้าต้อยมากับลุงบิน ลุงบินเป็นผู้ปกครองให้พี่กอล์ฟแทน ป้าต้อยมาเป็นผู้ปกครองให้เธอ ส่วนยายเป็นผู้ปกครองให้พี่แป้งกับพี่บอล ม.ปลายจะเป็นวันถัดไป
ขณะเข้าแถวฟังท่านรองพูดหน้าเสาธง ผู้ปกครองบางคนได้เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว บอสชะเง้อมองหายายกับลุงป้าจะมาถึงกันหรือยัง นัดให้มาแปดโมงครึ่งไม่เกินเก้าโมง ไม่รู้จะมาตอนไหน อย่าช้าเกินจนอาจารย์ประชุมก่อนแล้วกัน
และแล้วสายตาก็พลันมองไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของลุงบินขับเข้ามาจอดใต้ร่มประดู่ ณ ลานพระพุทธรูปข้าง ๆ กับเสาธงนั่นแหละ มียาย ป้าต้อย ยายสวยยายของนินนั่งมาด้วย บอสเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ สบายใจที่ตนเองมีผู้ปกครองกับเพื่อนแล้ว
ประธานโรงเรียนสั่งแยกแถว ให้นักเรียนทุกคนเดินไปเชิญผู้ปกครองของตนเองไปประชุมร่วมกันในหอประชุมเสียก่อน เพื่อไปพบปะกับท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะอาจารย์ทุกคน ทางสภานักเรียนได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ต้อนรับเรียบร้อย
บอสกับพี่ ๆ เดินมาหาผู้ปกครองของตนเอง พร้อมกับนินอีกคน บอสพาทุกคนเดินไปหอประชุม มีเก้าอี้จัดเตรียมให้นั่งพอกับจำนวนของผู้ปกครองและนักเรียนที่มาในวันนี้ นั่งคู่กันกับผู้ปกครองของใครของมันไปเลย เป็นชั้นเป็นห้องของใครของมัน เรียงกันมาตั้งแต่ชั้น ม.1 ห้อง 1 จนถึงชั้น ม.3 ห้องสุดท้าย
บอสนั่งคู่กับป้าต้อยในแถวห้องของตน ระหว่างรอผู้อำนวยการโรงเรียนมาถึง บรรยากาศเสียงดังไปด้วยการพูดคุยของผู้ปกครองที่มาในวันนี้ ส่วนมากจะรู้จักกันแม้อยู่คนละหมู่บ้านก็ตาม ผู้ปกครองบางคนก็ยังไม่มา มีเก้าอี้ว่างหลายตัวที่ยังไม่มีเจ้าของ นักเรียนบางคนก็ไปยืนรอผู้ปกครองหน้าหอประชุม เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวไปทั่วทั้งหอประชุมกันเลย
“อ่า… สวัสดีผู้ปกครองทุกคนที่มาแล้วนะครับ นักเรียนที่ผู้ปกครองยังไม่มาก็ขอให้เข้ามานั่งรอในหอประชุมก่อนครับ ไม่ต้องไปยืนรอหน้าประตูหรือด้านนอก เข้ามานั่งรอเลย เดี๋ยวท่านก็มา ได้บอกมั้ยว่าให้มากี่โมง” อาจารย์เรืองฤทธิ์อาจารย์พิธีกรพูดขึ้น สั่งให้นักเรียนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาในหอประชุม เพราะพิธีการจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมาถึงแล้ว
เมื่ออาจารย์เรืองฤทธิ์ประกาศบอก คนที่อยู่ด้านนอกก็พากันเข้ามา และมีผู้ปกครองทยอยกันมาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย จนพิธีการเริ่มขึ้น ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาพูดคุยพบปะกับผู้ปกครองแล้ว ขณะนั้นก็ยังมีเก้าอี้ว่างอยู่ ก็น่าจะมาในอีกไม่นาน มาไม่ทันช่วงนี้ก็ขอให้มาทันช่วงมูฟเข้าไปห้องใครห้องมันก็แล้วกัน
ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวปราศรัยบนเวทีกับผู้ปกครอง พูดเรื่องเรียน แผนการเรียนการสอน และปัญหาที่เกิดขึ้นของนักเรียน ทำให้ติด 0 ร. มส. ปัญหาพวกนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไร และแนวทางการแก้ไขจะแก้อย่างไร ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนได้อภิปรายเอาไว้
จากนั้นก็เป็นคิวของท่านรองผู้อำนวยการขึ้นมาปราศรัยอีกคน กินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายให้มูฟไปตามห้องของบุตรหลาน สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้น
“ปะป้าต้อยไปห้องบอสกัน ให้ลุงบินไปห้องพี่กอล์ฟโลด” บอสชวนป้าไปห้องเรียนของตน เพื่อน ๆ น่าจะพาผู้ปกครองไปกันหมดแล้ว “ดีนะที่พี่แป้งกับพี่บอลเรียนห้องเดียวกัน ไม่งั้นยายต้องแยกร่าง ฮา “ บอสแซวยายกับพี่ ๆ ก็แค่ประชุมผู้ปกครองไม่มีอะไรมากมาย ใครมาแทนก็ได้หมด พวกเธอยืนคุยกันมองผู้ปกครองของหลาย ๆ คนเดินเคียงคู่ไปกับบุตรหลาน ลึก ๆ มันก็แอบตื่นเต้นดี เหมือนงานมหกรรมอะไรสักอย่าง
บอสกับป้าต้อยลุงบินพี่ ๆ และยายยืนคุยกันที่รถของตนเอง หลังออกมาจากหอประชุม สักพักคุณครูก็ประกาศเสียงตามสายให้นักเรียนพร้อมผู้ปกครองเข้าไปประจำห้อง เพื่อทำการพบปะระหว่างผู้ปกครองกับครูที่ปรึกษา “ปะป้าต้อยครูประกาศเรียกละ”
“ปะซั่น ปะยายเฮา “ ป้าต้อยชวน เธอพร้อมป้าต้อยและนินกับยายสวยเดินไปด้วยกัน เพราะอยู่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ส่วนยายพี่บอลพี่แป้งและลุงบินกับพี่กอล์ฟเดินไปด้วยกันเพราะเรียนชั้นเดียวกัน แยกกันไปคนละทาง
ห้องเรียนของบอสชั้น ม.2/5 ถูกจัดเตรียมสถานที่ไว้รอผู้ปกครองอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา บางห้องก็จัดเตรียมแบบอลังการงานสร้างมาก เมื่อวานพวกเธอช่วยกันจัดเก้าอี้เรียงกันเป็นรูปวงกลมตามจำนวนผู้ปกครองที่จะมาในวันนี้ บนกระดานดำเขียนคำว่า ‘welcome ยินดีต้อนรับผู้ปกครองชั้น ม.2/5 ทุกคน’
บอสพาป้าต้อยเข้ามาในห้องเรียน คุณครูทศพลเป็นครูที่ปรึกษาประจำห้องของบอส “อาจารย์คะป้าหนูค่ะ “ บอสพาป้าต้อยมาแนะนำสวัสดีคุณครู บรรยากาศภายในห้องคึกคักมาก ผู้ปกครองของเพื่อน ๆ บางคนภายในห้องก็รู้จักกัน คนบ้านเดียวกันก็คุยกันเพลิน ป้าต้อยยังรู้จักกับแม่ของดำรงค์ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้านกัน
“ครับ ๆ เชิญนั่งครับ เอ้านึกว่าสุนิสาพาคุณแม่มาซะอีก คุณป้าบ่ เชิญนั่งครับ โต๊ะตัวไหนว่างนั่งได้เลยครับ “ คุณครูทศพลผายมือเชิญป้าต้อยเข้าไปนั่งรอ เหลือผู้ปกครองประมาณห้าคนที่ยังมาไม่ถึง
บอสพาป้าต้อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ว่าง ข้าง ๆ ข้าง ๆ กับผู้ปกครองของโสรญา ป้าต้อยกับทักทายอย่างเป็นกันเอง ทุกคนมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ลูกสนิทใคร ผู้ปกครองก็เหมือนจะสนิทไปด้วย ป้าต้อยนั่งลงบนเก้าอี้ส่วนบอสนั่งที่พื้น นักเรียนทุกคนนั่งลงที่พื้นตรงกับผู้ปกครองของตนเอง
“เฮ้ย… เหลือผู้ปกครองของใครยังไม่มา โทรตามแหมะ หรือไม่ว่างมาเหรอหรือยังไง” คุณครูทศพลถาม เป็นคุณครูที่ปรึกษาและเป็นครูสอนวิชาพละศึกษาด้วย “ วิษณุ บวร วัลลพ วัชรพล บักเจตติน ผู้ปกครองมืงมาบ่หนิ” อาจารย์ทศพลเน้นไปที่เจตริน ชอบผันเป็นเจตตินทุกที เพื่อน ๆ ก็เรียกตามอาจารย์ตลอดมา
“มาอยู่ครับจารย์ ฟ้าวหลายเถาะ ถ่าจักคราวแน่แหมะ แป๊บนึงครับ” เจตรินตอบยิ้ม ๆ อาจารย์ทศพลยิ้มกลั้วหัวเราะ ชอบแกล้งเจตรินที่สุด เป็นคู่กัดประจำชั่วโมงเรียนกันเลยเวลามีเรียนพละ
“บ่ฟ้าวจังใดครับ สิเที่ยงแล้วครับหนิ เดี๋ยวผมสิประชุมบ่ทันครับหัวหน้า” คุณครูพูดประชดปนขำ เรียกเสียงหัวเราะให้พวกเธอเป็นอย่างดี
“ผู้ปกครองของวัชรพลครับ” พ่อของอนุชายกมือขึ้นบอกคุณครูทศพล “เป็นผู้ปกครองให้สองคนนี่ครับ ผู้นี่เป็นหลานนี่ลูกชาย” พอพูดคำว่าลูกชายก็ชี้มาที่อนุชา ไม่นานผู้ปกครองของเพื่อนที่เหลือก็มาถึง อาจารย์ทศพลก็เริ่มประชุมทันที
“อ่อ ครับ ๆ สบายเลยมืงวัชรพล บ่เอาแม่มาฟังวีรกรรมมืงแน่บ่ ฮา “ คุณครูพูดปนหัวเราะ พ่อของอนุชาก็หัวเราะด้วย ทุกคนในห้องต่างพากันยิ้มหัวเราะตาม
“กะหนิล่ะครับพ่อมัน เลี้ยงมาตะน้อย ๆ ซากัน” พ่อของอนุชาพูดมาแบบนี้คุณครูทศพลก็ไม่ถามต่อ
“สวัสดีผู้ปกครองทุกคนครับ ผมขออนุญาตเว้าลาวน้อครับ ผมกะคนบ้านเฮานี่ล่ะ เว้าลาวน้อจังฟังกันฮู้เรื่อง” คุณครูทศพลกล่าวทักทาย พวกเธอชอบย่อชื่อคุณครูเหลือแค่ชื่อทศเฉย ๆ เป็น ‘ครูทศ’ ไม่รู้ว่าชื่อเล่นของคุณครูชื่อทศจริงหรือเปล่า ผู้ปกครองเองก็พอรู้จัก เนื่องจากเป็นครูฝ่ายปกครองกับอาจารย์บรรจง
“เว้าโลดค่าครูทศ จังฟังกันฮู้เรื่องคือว่านั่นล่ะ” แม่ของดำรงค์ตอบ พวกเธอรวมทั้งผู้ปกครองคนอื่น ๆ พากันหัวเราะอีก ทุกนาทีมีแต่เสียงหัวเราะของกันและกัน สนุกสนานมาก ๆ รวมทั้งคุณครูทศพลก็ขำไปด้วย
วันนี้ดำรงค์พามาทั้งพ่อทั้งแม่กันเลย “อั่นดำรงค์เรียนหนังสือเป็นจังใดค่ะคุณครู ได้หนังสือนำมูบ่ “ แม่ของดำรงถามต่อ ทำเอาเจ้าตัวเขินหน้าแดง พวกเธอหันไปหัวเราะเพื่อนกันใหญ่ ดีนะที่ดำรงค์เป็นคนรักเรียนอยู่ไม่น้อย ไม่เกเรเหมือนเพื่อนผู้ชายคนอื่น ๆ
“กะดีอยู่ครับ ดำรงค์เรากะตั้งใจเรียนอยู่ ลูกศิษย์ผมซุคนล่ะครับตั้งใจเรียนกันเมิดยามเข้าเรียนเด้ ยกเว้นตะยามโดดเรียนล่ะครับ มันจังบ่ได้พากันตั้งใจ ฮา “ พอคุณครูพูดมาแบบนี้ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนต่างฮาไม่หวาดไม่ไหว “หยุดงานกันมาบ่ครับหนิหรือจังใด”
“บ่มีการมีงานทำหรอกค่ะครู เฮดไฮ่เฮดนาหากู้มันตัดอ้อยไปมื้อ ๆ หนิล่ะ บ่มีมื้อหยุดหรอก หยุดเอง” แม่ของสินจัยตอบ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ทำอาชีพแตกต่างกันมากนัก ดีหน่อยก็เป็นพ่อค้าแม่ค้า
คิดถึง 2 บทที่ 61
.
ไดอารี่ความคิดถึง
เช้าวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส ผิดแปลกไปกับเมื่อคืนที่ท้องฟ้าคึกคะนองเหลือเกิน เมื่อคืนฝนหนักมากเทกระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่ว อีกทั้งมีลมพัดกรรโชกแรงเกือบทำเอาหลังคาบ้านปลิวไปตามแรงลม ทั้งฟ้าร้องคำรามเสียงดังน่ากลัว เมื่อคืนมีพายุเข้า ทว่าทำไมตอนเช้ามันถึงได้แดดจ้าขนาดนี้ ท้องฟ้าอยู่สูงมากแตกต่างกับบรรยากาศเมื่อคืนลิบลับ
แสงแดดตอนสาย ๆ ร้อนไม่ใช่เล่น ขณะนี้บอสและนักเรียนทุกคนกำลังเข้าแถวหน้าเสาธงทำกิจกรรมในตอนเช้าก่อนเข้าเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียนกำลังให้โอวาทที่หน้าเสาธง รองผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้หญิง ชื่อรองกรองแก้ว พวกเธอเรียกติดปากว่า ‘ท่านรองกรอง’ สั้น ๆ
นักเรียนแต่ละคนใครพอมีอะไรพกติดตัวมาด้วยก็ยกขึ้นมากำบังแสงแดดเอาไว้ ใครไม่มีก็ใช้มือของตนเองนี่แหละยกขึ้นบังแทน ท่านรองก็พูดไป นักเรียนก็บังแดดไป พูดถึงเรื่องการประชุมผู้ปกครองในวันนี้
เมื่อวานทางโรงเรียนได้แจกเอกสารไปถึงผู้ปกครองของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 หรือชั้น ม.ต้นทั้งหมดให้มาประชุมในวันนี้ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สร้างความลำบากใจให้แก่นักเรียนบางคนไม่น้อย ไม่ใช่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ใครที่มีพี่น้องหลายคนเรียนโรงเรียนเดียวกันมันลำบากมาก ต้องใช้ผู้ปกครองร่วมกัน แล้วจะแยกร่างไปให้ทันได้อย่างไร ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งยอมเสียสละในหมู่พี่น้องอยู่ร่ำไป
สำหรับบ้านของเธอ มีพี่แป้งกับพี่บอลที่อยู่ช่วงชั้นเดียวกัน พี่ ๆ ทั้งสองคนอยู่ชั้น ม.3 ส่วนเธออยู่ชั้น ม.2 พี่ปาวกับพี่บอมอยู่ชั้น ม.ปลาย เมื่อคืนเธอบอกกึ่งบังคับให้ตามาเป็นผู้ปกครองให้ มาด้วยกันกับยายเลยทั้งสองคน เพราะไม่อยากเสียสละให้พี่ ๆ ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องนั่งเหวอยู่คนเดียวในห้องท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่มีผู้ปกครองมากันครบ
“หื่อ อี่ตาบ่ต้องไปเลี้ยงงัวมื้ออื่น ไปเป็นผู้ปกครองอยู่โรงเรียนให้บอส” บอสเถียงให้ตาไปโรงเรียนให้ได้
“ฮ่วย… ไปไผสิเบิ่งงัวไว้ให้ ยายนั่นเด้” ตาปฏิเสธ ตอนเรียนประถมมีงานโรงเรียนอะไรตาจะเป็นคนออกงานเสมอ พอขึ้นมัธยมเปลี่ยนเป็นยายออกงานแทน ตอนประถมขนาดวันแม่บอสก็เอาตาไปกราบแทนยาย
“เอ้า ! อี่ยายกะเป็นผู้ปกครองให้พี่แป้งกับพี่บอลแล้วนั่นเด้ อี่ตากะเป็นของบอส ไปนั่งบ่มีผู้ปกครองมาบ่นั่งดิ๊อยากอายมู” ขมวดคิ้วหน้าบึ้งเถียงให้ตาไปงานประชุมผู้ปกครองให้ได้ในวันพรุ่งนี้
“มันสิยากหยังเดี๋ยวหนิ ! มืงกะไปบอกย่ามืงถะแหมะไปมื้ออื่น ไผสิเอางัวกินน้ำให้ตา ไปเมิดมื้อบ่แมนบ่” ยายเสนอทางออกให้ ไม่ได้ลืมย่าแต่ไม่อยากรบกวนต่างหาก แม้ขัดใจก็ต้องยอมทำตามเพราะหาใครไปแทนไม่ได้แล้วจริง ๆ ให้ย่ามาแทนก็ได้
ความจริงไม่อยากให้ย่าหรือให้ใครไปแทนเลย ไม่อยากรบกวน พอตกลงกันแบบนั้นจึงขอตัวเดินไปบอกย่าก่อน พรุ่งนี้ป้าต้อยก็ต้องมาเป็นผู้ปกครองให้พี่กอล์ฟเหมือนกัน ย่าจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางมาพร้อมกับป้าต้อยเลย
เมื่อคืนที่บ้านของเธอวุ่นวายมากกับเรื่องมาประชุมผู้ปกครองในวันนี้ กว่าจะตกลงกันได้ สรุปได้ป้าต้อยมาแทน ป้าต้อยมากับลุงบิน ลุงบินเป็นผู้ปกครองให้พี่กอล์ฟแทน ป้าต้อยมาเป็นผู้ปกครองให้เธอ ส่วนยายเป็นผู้ปกครองให้พี่แป้งกับพี่บอล ม.ปลายจะเป็นวันถัดไป
ขณะเข้าแถวฟังท่านรองพูดหน้าเสาธง ผู้ปกครองบางคนได้เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว บอสชะเง้อมองหายายกับลุงป้าจะมาถึงกันหรือยัง นัดให้มาแปดโมงครึ่งไม่เกินเก้าโมง ไม่รู้จะมาตอนไหน อย่าช้าเกินจนอาจารย์ประชุมก่อนแล้วกัน
และแล้วสายตาก็พลันมองไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของลุงบินขับเข้ามาจอดใต้ร่มประดู่ ณ ลานพระพุทธรูปข้าง ๆ กับเสาธงนั่นแหละ มียาย ป้าต้อย ยายสวยยายของนินนั่งมาด้วย บอสเผยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ สบายใจที่ตนเองมีผู้ปกครองกับเพื่อนแล้ว
ประธานโรงเรียนสั่งแยกแถว ให้นักเรียนทุกคนเดินไปเชิญผู้ปกครองของตนเองไปประชุมร่วมกันในหอประชุมเสียก่อน เพื่อไปพบปะกับท่านผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะอาจารย์ทุกคน ทางสภานักเรียนได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ต้อนรับเรียบร้อย
บอสกับพี่ ๆ เดินมาหาผู้ปกครองของตนเอง พร้อมกับนินอีกคน บอสพาทุกคนเดินไปหอประชุม มีเก้าอี้จัดเตรียมให้นั่งพอกับจำนวนของผู้ปกครองและนักเรียนที่มาในวันนี้ นั่งคู่กันกับผู้ปกครองของใครของมันไปเลย เป็นชั้นเป็นห้องของใครของมัน เรียงกันมาตั้งแต่ชั้น ม.1 ห้อง 1 จนถึงชั้น ม.3 ห้องสุดท้าย
บอสนั่งคู่กับป้าต้อยในแถวห้องของตน ระหว่างรอผู้อำนวยการโรงเรียนมาถึง บรรยากาศเสียงดังไปด้วยการพูดคุยของผู้ปกครองที่มาในวันนี้ ส่วนมากจะรู้จักกันแม้อยู่คนละหมู่บ้านก็ตาม ผู้ปกครองบางคนก็ยังไม่มา มีเก้าอี้ว่างหลายตัวที่ยังไม่มีเจ้าของ นักเรียนบางคนก็ไปยืนรอผู้ปกครองหน้าหอประชุม เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวไปทั่วทั้งหอประชุมกันเลย
“อ่า… สวัสดีผู้ปกครองทุกคนที่มาแล้วนะครับ นักเรียนที่ผู้ปกครองยังไม่มาก็ขอให้เข้ามานั่งรอในหอประชุมก่อนครับ ไม่ต้องไปยืนรอหน้าประตูหรือด้านนอก เข้ามานั่งรอเลย เดี๋ยวท่านก็มา ได้บอกมั้ยว่าให้มากี่โมง” อาจารย์เรืองฤทธิ์อาจารย์พิธีกรพูดขึ้น สั่งให้นักเรียนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาในหอประชุม เพราะพิธีการจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมาถึงแล้ว
เมื่ออาจารย์เรืองฤทธิ์ประกาศบอก คนที่อยู่ด้านนอกก็พากันเข้ามา และมีผู้ปกครองทยอยกันมาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย จนพิธีการเริ่มขึ้น ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาพูดคุยพบปะกับผู้ปกครองแล้ว ขณะนั้นก็ยังมีเก้าอี้ว่างอยู่ ก็น่าจะมาในอีกไม่นาน มาไม่ทันช่วงนี้ก็ขอให้มาทันช่วงมูฟเข้าไปห้องใครห้องมันก็แล้วกัน
ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวปราศรัยบนเวทีกับผู้ปกครอง พูดเรื่องเรียน แผนการเรียนการสอน และปัญหาที่เกิดขึ้นของนักเรียน ทำให้ติด 0 ร. มส. ปัญหาพวกนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไร และแนวทางการแก้ไขจะแก้อย่างไร ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนได้อภิปรายเอาไว้
จากนั้นก็เป็นคิวของท่านรองผู้อำนวยการขึ้นมาปราศรัยอีกคน กินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายให้มูฟไปตามห้องของบุตรหลาน สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้น
“ปะป้าต้อยไปห้องบอสกัน ให้ลุงบินไปห้องพี่กอล์ฟโลด” บอสชวนป้าไปห้องเรียนของตน เพื่อน ๆ น่าจะพาผู้ปกครองไปกันหมดแล้ว “ดีนะที่พี่แป้งกับพี่บอลเรียนห้องเดียวกัน ไม่งั้นยายต้องแยกร่าง ฮา “ บอสแซวยายกับพี่ ๆ ก็แค่ประชุมผู้ปกครองไม่มีอะไรมากมาย ใครมาแทนก็ได้หมด พวกเธอยืนคุยกันมองผู้ปกครองของหลาย ๆ คนเดินเคียงคู่ไปกับบุตรหลาน ลึก ๆ มันก็แอบตื่นเต้นดี เหมือนงานมหกรรมอะไรสักอย่าง
บอสกับป้าต้อยลุงบินพี่ ๆ และยายยืนคุยกันที่รถของตนเอง หลังออกมาจากหอประชุม สักพักคุณครูก็ประกาศเสียงตามสายให้นักเรียนพร้อมผู้ปกครองเข้าไปประจำห้อง เพื่อทำการพบปะระหว่างผู้ปกครองกับครูที่ปรึกษา “ปะป้าต้อยครูประกาศเรียกละ”
“ปะซั่น ปะยายเฮา “ ป้าต้อยชวน เธอพร้อมป้าต้อยและนินกับยายสวยเดินไปด้วยกัน เพราะอยู่ตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน ส่วนยายพี่บอลพี่แป้งและลุงบินกับพี่กอล์ฟเดินไปด้วยกันเพราะเรียนชั้นเดียวกัน แยกกันไปคนละทาง
ห้องเรียนของบอสชั้น ม.2/5 ถูกจัดเตรียมสถานที่ไว้รอผู้ปกครองอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา บางห้องก็จัดเตรียมแบบอลังการงานสร้างมาก เมื่อวานพวกเธอช่วยกันจัดเก้าอี้เรียงกันเป็นรูปวงกลมตามจำนวนผู้ปกครองที่จะมาในวันนี้ บนกระดานดำเขียนคำว่า ‘welcome ยินดีต้อนรับผู้ปกครองชั้น ม.2/5 ทุกคน’
บอสพาป้าต้อยเข้ามาในห้องเรียน คุณครูทศพลเป็นครูที่ปรึกษาประจำห้องของบอส “อาจารย์คะป้าหนูค่ะ “ บอสพาป้าต้อยมาแนะนำสวัสดีคุณครู บรรยากาศภายในห้องคึกคักมาก ผู้ปกครองของเพื่อน ๆ บางคนภายในห้องก็รู้จักกัน คนบ้านเดียวกันก็คุยกันเพลิน ป้าต้อยยังรู้จักกับแม่ของดำรงค์ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้านกัน
“ครับ ๆ เชิญนั่งครับ เอ้านึกว่าสุนิสาพาคุณแม่มาซะอีก คุณป้าบ่ เชิญนั่งครับ โต๊ะตัวไหนว่างนั่งได้เลยครับ “ คุณครูทศพลผายมือเชิญป้าต้อยเข้าไปนั่งรอ เหลือผู้ปกครองประมาณห้าคนที่ยังมาไม่ถึง
บอสพาป้าต้อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ว่าง ข้าง ๆ ข้าง ๆ กับผู้ปกครองของโสรญา ป้าต้อยกับทักทายอย่างเป็นกันเอง ทุกคนมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ลูกสนิทใคร ผู้ปกครองก็เหมือนจะสนิทไปด้วย ป้าต้อยนั่งลงบนเก้าอี้ส่วนบอสนั่งที่พื้น นักเรียนทุกคนนั่งลงที่พื้นตรงกับผู้ปกครองของตนเอง
“เฮ้ย… เหลือผู้ปกครองของใครยังไม่มา โทรตามแหมะ หรือไม่ว่างมาเหรอหรือยังไง” คุณครูทศพลถาม เป็นคุณครูที่ปรึกษาและเป็นครูสอนวิชาพละศึกษาด้วย “ วิษณุ บวร วัลลพ วัชรพล บักเจตติน ผู้ปกครองมืงมาบ่หนิ” อาจารย์ทศพลเน้นไปที่เจตริน ชอบผันเป็นเจตตินทุกที เพื่อน ๆ ก็เรียกตามอาจารย์ตลอดมา
“มาอยู่ครับจารย์ ฟ้าวหลายเถาะ ถ่าจักคราวแน่แหมะ แป๊บนึงครับ” เจตรินตอบยิ้ม ๆ อาจารย์ทศพลยิ้มกลั้วหัวเราะ ชอบแกล้งเจตรินที่สุด เป็นคู่กัดประจำชั่วโมงเรียนกันเลยเวลามีเรียนพละ
“บ่ฟ้าวจังใดครับ สิเที่ยงแล้วครับหนิ เดี๋ยวผมสิประชุมบ่ทันครับหัวหน้า” คุณครูพูดประชดปนขำ เรียกเสียงหัวเราะให้พวกเธอเป็นอย่างดี
“ผู้ปกครองของวัชรพลครับ” พ่อของอนุชายกมือขึ้นบอกคุณครูทศพล “เป็นผู้ปกครองให้สองคนนี่ครับ ผู้นี่เป็นหลานนี่ลูกชาย” พอพูดคำว่าลูกชายก็ชี้มาที่อนุชา ไม่นานผู้ปกครองของเพื่อนที่เหลือก็มาถึง อาจารย์ทศพลก็เริ่มประชุมทันที
“อ่อ ครับ ๆ สบายเลยมืงวัชรพล บ่เอาแม่มาฟังวีรกรรมมืงแน่บ่ ฮา “ คุณครูพูดปนหัวเราะ พ่อของอนุชาก็หัวเราะด้วย ทุกคนในห้องต่างพากันยิ้มหัวเราะตาม
“กะหนิล่ะครับพ่อมัน เลี้ยงมาตะน้อย ๆ ซากัน” พ่อของอนุชาพูดมาแบบนี้คุณครูทศพลก็ไม่ถามต่อ
“สวัสดีผู้ปกครองทุกคนครับ ผมขออนุญาตเว้าลาวน้อครับ ผมกะคนบ้านเฮานี่ล่ะ เว้าลาวน้อจังฟังกันฮู้เรื่อง” คุณครูทศพลกล่าวทักทาย พวกเธอชอบย่อชื่อคุณครูเหลือแค่ชื่อทศเฉย ๆ เป็น ‘ครูทศ’ ไม่รู้ว่าชื่อเล่นของคุณครูชื่อทศจริงหรือเปล่า ผู้ปกครองเองก็พอรู้จัก เนื่องจากเป็นครูฝ่ายปกครองกับอาจารย์บรรจง
“เว้าโลดค่าครูทศ จังฟังกันฮู้เรื่องคือว่านั่นล่ะ” แม่ของดำรงค์ตอบ พวกเธอรวมทั้งผู้ปกครองคนอื่น ๆ พากันหัวเราะอีก ทุกนาทีมีแต่เสียงหัวเราะของกันและกัน สนุกสนานมาก ๆ รวมทั้งคุณครูทศพลก็ขำไปด้วย
วันนี้ดำรงค์พามาทั้งพ่อทั้งแม่กันเลย “อั่นดำรงค์เรียนหนังสือเป็นจังใดค่ะคุณครู ได้หนังสือนำมูบ่ “ แม่ของดำรงถามต่อ ทำเอาเจ้าตัวเขินหน้าแดง พวกเธอหันไปหัวเราะเพื่อนกันใหญ่ ดีนะที่ดำรงค์เป็นคนรักเรียนอยู่ไม่น้อย ไม่เกเรเหมือนเพื่อนผู้ชายคนอื่น ๆ
“กะดีอยู่ครับ ดำรงค์เรากะตั้งใจเรียนอยู่ ลูกศิษย์ผมซุคนล่ะครับตั้งใจเรียนกันเมิดยามเข้าเรียนเด้ ยกเว้นตะยามโดดเรียนล่ะครับ มันจังบ่ได้พากันตั้งใจ ฮา “ พอคุณครูพูดมาแบบนี้ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนต่างฮาไม่หวาดไม่ไหว “หยุดงานกันมาบ่ครับหนิหรือจังใด”
“บ่มีการมีงานทำหรอกค่ะครู เฮดไฮ่เฮดนาหากู้มันตัดอ้อยไปมื้อ ๆ หนิล่ะ บ่มีมื้อหยุดหรอก หยุดเอง” แม่ของสินจัยตอบ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ทำอาชีพแตกต่างกันมากนัก ดีหน่อยก็เป็นพ่อค้าแม่ค้า